ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่อเกิดแห่งทุกข์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

กาละ ตอนที่ 9

.-“อานนท์มีคนเขาโทรมาทวงค่าซ่อมรถ ทำไมไม่ไปจ่ายเขาหละ โกงเขามันบาปนะ”

“เอาเข้าไป....รู้แล้วครับน้าแหวน”

นั่นคือเสียงของน้าแหวน แกก็คือแม่บ้านที่ บริษัท ก็ลองคิดดูแล้วกันนะครับว่าในบริษัท คงไม่มีใครที่ไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าเรื่องมาถึงหูน้าแหวนแล้วหละก็หายห่วงครับ ดังทุกเรื่อง...

เฮ้อ...ว่าแต่เอางานไปให้ ไอ้บ้าอำนาจมันก่อนดีกว่า

“หัวหน้าครับ...งานสรุปแล้วครับ เดี๋ยวผมให้ฝ่ายผลิตไปจัดการต่อนะครับ”

“อือ...ดีมาก เอานี่งานใหม่ของคุณพรุ่งนี้ไปหา คุณสถิตนะ เขาเป็นลูกค้าคนสำคัญของเราเลยนะ...แต่เขาค่อนข้างจะจู้จี้หน่อยนะ แต่ยังไงคุณก็ต้องไม่พลาดงานนี้ เพราะเขาจ่ายไม่อั้น”

“วางใจได้ครับหัวหน้า ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ”

ในใจ...ตูละเบื่อ ไอ้คุณลูกค้าที่มันเหมือนคนทั่วไปนี่มันไปตายที่ไหนหมดวะ...มีแต่ท่านเทพมาจุติทั้งนั้นเลย...เฮ้อ

หลังจากที่ผมจัดการเรื่องงานของ คุณสายสุณี จนเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้าน ซึ่งชีวิตผมมันก็วนเวียนอยู่แค่นี้เอง เช้ามาทำงาน ตอนเย็นก็กลับบ้าน ไม่เคยไปเที่ยวไหน ไม่ค่อยมีสังคมกับใคร

เพื่อนฝูงส่วนใหญ่ก็จะมีแฟนกันหมดแล้ว บางคนก็มีครอบครัวไปแล้ว บางคนก็เที่ยวทุกวัน

บางครั้งผมก็อยากไปเที่ยวใช้ชีวิตให้มันสนุก เหมือนกับคนอื่นๆที่เขาทำกัน แต่ ผมเคยชินกับการประหยัดมาตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ และค่าใช้จ่ายของผมมันก็ช่างมีปริมาณมากกว่ารายได้ของผมซะอีก

เย็นวันนี้ก็เหมือนเดิม ฝนตกอีกแล้ว รถที่มันเคยติดมันก็จะติดมากกว่าเดิม ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไม ฝนตกแล้วมันต้องติดมากขึ้น เฮ้อ...ตาลาย คล้ายจะเป็นลม หิวข้าวจังเลย เมื่อไหร่จะถึงบ้านโว้ย

2 ชั่วโมงผ่านไป... ถึงซะทีหลังจากนั่งน้ำลายยืดจนน้ำลายมันแทบจะท่วมรถ ต้องหาข้าวกินอย่างด่วน มือไม้เริ่มสั่น เดินแทบไม่ไหว เห็นหมากลายเป็นหมูไปแล้วตอนนี้

“ป้า...เอาราดหน้าหมู ไม่ใส่หมู 1 จานครับ...”

“นี่เอ็งจะสั่งให้มันเหมือนมนุษย์ คนอื่นเขาบ้างได้ไหมวะ”

“โธ่...ป้าผมเครียดมาทั้งวันแล้วขอคลายเครียดกับ ป้าหน่อยแล้วกัน...”

คำอธิบาย...นั่นคือป้าร้านขายข้าวครับ แกชื่อ ป้าหยิก แกคอยหาอาหารให้ผมกินมานานหลายปีแล้ว แกเคยถามผมว่าทำไมผมไม่หาเมียมาทำอาหารให้ซะที ผมก็บอกแกไปว่า หน้าตาแบบนี้ จนซะขนาดนี้ใครมันจะเอาหละป้า

ป้าแกบอกว่าผมคิดมากไป คนดีๆ ที่เขาไม่มองที่เงินก็มีเยอะแยะไป แต่...ไม่รู้คนไหนนี่สิปัญหา ผมเลยต้องให้ป้าแกเป็นเมียจำเป็นไปก่อน แต่ผมไม่ได้มีอะไรกับป้าแกนะครับ เพราะผมไม่ใช่นักเล่นของเก่า...!

และป้าแก หน้าตาหาความเป็นผู้หญิงยังหายากอยู่นะ เรื่องความสวยไม่ต้องพูดถึง ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม แฟนป้าแกจึงหนีไปหาเมียใหม่ แต่ถ้าเรื่องนิสัย ผมนับถือแกเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของผมเลย

“เฮ้อ...อิ่มซะไม่อยากจะลุกไปไหนเลย”

“เท่าไหร่ครับป้าหยิก หยอย”

“40 บาท ป้าชื่อหยิกเฉยๆ ไม่ต้องต่อเติม เดี๋ยวมันจะเพี้ยนมากไปกว่านี้”

“นี่ครับป้า”

ผมก็ยื่นแบงค์ 20 สองใบให้ป้า แล้วเปล่งวาจาอันสุภาพออกไปว่า

“ป้าที่เหลือผมทิปให้ป้านะ”

ผมเช่าอาศัยอยู่ ณ ที่ คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง บนใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้ เป็นคอนโดที่ไม่มีความหรูหราเอาซะเลย

ผู้คนจอแจทั้งวัน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเยอะครับพวกพม่า ไทยใหญ่ ไทยลื้อ ลาว เขมร เดินกันเพ่นพ่านเต็มไปหมด...

และแล้วผมก็มาถึงห้องอันสุดแสนจะอัปยศ อดสู ซะที แต่ก่อนจะเข้าห้องผมหันมาเห็นเด็กคนหนึ่ง

“เฮ้ย...ไอ้หนูเพิ่งมาอยู่ใหม่เหรอ...เฮ้ยๆ...หายไปไหนแล้ววะ ไวจริงๆเลย ลูกใครวะ พ่อ แม่ มันก็ไม่ดูลูกซะเลย ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นคนเดียว เดี๋ยวก็ตกลงไปม่องเท่งพอดี”

เข้าห้องไปอาบน้ำดีกว่า

อ้าว...บิลอะไรวะนี่ โอ้...พระ เจ้าเข้า ทำไมมันไม่สอดเข้าไปในห้องวะ เปิดซะหน้าห้องหลาเลย แค่ค้างค่าห้อง 2 เดือนเอง...!

เมื่อผมเปิดประตูห้องเข้ามาก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน

เฮ้ย...อะไรวะ นี่ห้องเราเหรอวะเนี่ย ขโมยเข้าห้องรึเปล่าวะเนี่ย ข้าวของทำไมมันเกลื่อนกลาด กระจัดกระจายแบบนี้วะ ไม่ได้แล้วทำไม มันถึงไม่มีความปลอดภัยในทรัพย์สินเลยวะ อย่างนี้ต้องโวย

“ฮาโหล...ยามเหรอ น้องเห็นใครเข้ามาในห้องพี่รึเปล่าครับ”

“แล้วพี่พักอยู่กับใครหละครับ”

“พักคนเดียว...”

“งั้นก็เห็นพี่คนเดียวแหละครับ”
ในใจ...เออ...ไม่น่าถามมันเลยจริงๆวะ วันนี้มันเป็นวันซวยแห่งชาติหรือไงวะนี่

“น้องนี่ช่วยพี่ได้มากจริงๆเลยนะ”
ในใจ...ขอให้มันเป็นยามไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

“ไม่เป็นไรครับพี่ มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผมอยู่แล้วครับ”
ในใจ...ขนาดประชดมัน มันยังไม่รู้สึกตัวอีก

แล้วมันก็วางหูแบบไม่มีเยื่อใย เหมือนว่ามันจะรีบไปเฝ้าประตูอันเป็นที่รักของมัน....แต่เดี๋ยวก่อนนะประตูห้องเรามันก็ล็อคนี่หว่า รอยงัดมันก็ไม่มี หน้าต่างก็ปิดสนิท หรือว่าจะเป็นหนู ห้องเรามันสกปรกขนาดหนูมาอยู่เป็นเพื่อนเลยเหรอวะนี่

อาบน้ำแล้วไปนอนดีกว่า จะได้ไม่ต้องคิดมาก แต่วันนี้ก็มีเรื่องดีเหมือนกันนะนี่ ที่ได้พบเธอช่างน่ารักจริงๆเลย ถึงแม้จะ เขี้ยวสุดๆ และดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ เฮ้อ...อย่าไปคิดอะไรมากเลยใครมันจะมาสนใจเราวะ นอน นอน

เช้าวันใหม่มาถึง

ตี๊ดๆๆ (เสียงโทรศัพท์ รุ่นเก่าเก๋ากึ๊ก ของผมเอง ไม่มีกล้อง ไม่มีเอ็มพี 3 ไม่มีแม้นกระทั่งสี มันคือโทรศัพท์ล้วนๆ)

เฮ้อ...ใครมันโทรมาแต่เช้าเลยวะนี่

“สวัสดีครับใครครับ อ้าวคุณเองเหรอมีอะไรครับ
อะไรนะ...! วันนี้เหรอ ไม่ได้ครับวันนี้ผมนัดลูกค้าสำคัญเอาไว้ครับ
ไว้พรุ่งนี้ไม่ได้เหรอครับ ผมไปไม่ได้จริงๆครับ ไม่ใช่...ผมไม่ได้หนีหนี้คุณครับ

เอาอย่างนี้ก็แล้วกันครับ เย็นๆ แล้วกันครับ อือ...ผมไม่หนีไปไหนหรอกครับ จะให้ผมหนีไปไหนหละครับ คุณเล่นประจานผมไปทั่วราชอาณาจักร ครับๆ 6 โมงเย็น ก็ได้ครับ

อ๋อ...ได้ครับร้านอะไรนะ อ๋อ...รู้จักครับ สตาร์บัค เคยครับเคยกินกับเขาบ้างเหมือนกัน (เห็นเรามันจนมากเลยเหรอไงวะ ทำไมคนรวยมันชอบดูถูกคนจนจังวะ) อา อา ได้ครับ โอเคนะครับ”

ผมยิ้มหวานแล้วนึกในใจ... สงสัยจะตกหลุมรักเราซะแล้ว โทรมาแต่เช้าเลยวุ้ย หรือว่าโทรมาเพราะกลัวเราหนีค่าซ่อมรถวะ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซ่อมให้ เจ๊แกวะนี่

ไปทำงานก่อนดีกว่า วันนี้ต้องเจอ ลูกค้าระดับเทพซะด้วยสิ กลัวมันจะเสกให้เป็นหมาจริงๆเลย

“สวัสดีครับคุณสถิต ผมอานนท์ครับ ผมมาจากคุณมานิตย์ ครับ...”

อธิบาย...คุณมานิตย์ ก็คือ ไอ้บ้าอำนาจเองครับ มันคือ 2 ชื่อในร่างเดียวกัน

“ผมกำลังจะไปถึงที่ ออฟฟิต คุณสถิตแล้วครับ”

“ครับ ประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ...ขอบคุณครับ”

มันก็ไม่เห็นจะจู้จี้ตรงไหนเลยนี่หว่า หรือไอ้บ้าอำนาจมันจะหลอกให้เรากลัววะ และแล้วผมก็มาถึงตามเวลาที่คาดหมายไว้พอดี วันนี้ท่าจะโชคดี ผมรีบขึ้นลิฟท์ และเข้าไปสอบถามกับ โอเปอเรเตอร์หน้าหัก ว่า

“สวัสดีครับ มาพบ คุณสถิตครับ”

“นัดไว้รึเปล่าค่ะ”

“นัดไว้ครับ ผมชื่ออานนท์ครับ”

“นั่งรอสักครู่นะค่ะ”

“เอ๋อ...นั่งตรงไหนครับไม่มีเก้าอี้ซักตัวครับ”

“งั้นก็ยืนรอแล้วกันค่ะ”

เออ...จริงๆ ถ้าผมไม่ถามก็คงมีค่าเท่ากัน...และแล้วก็ ยืนเป็นยามหน้า ออฟฟิตเลยเรา...เวลาเดินผ่านไป 1 ชั่วโมง ผ่านไปเร็วเหมือนจะโกหกคนอ่านยังไงไม่รู้ เอ... ทำไมมันให้เรารอนานจังวะ ไม่ได้กาลและต้องไปถามให้รู้เรื่อง

“คุณโอเปอเรเตอร์ครับ วันนี้ผมจะได้พบกับคุณสถิตไหมครับ”

“ตายจริง...! ดิฉันลืมไปบอกคุณสถิตค่ะ ขอโทษด้วยนะค่ะ วันนี้งานยุ่งมากเลยค่ะ”
ในใจ...อยากจะให้มันตายจริงๆ เหมือนกันวะ ให้เรายืนเป็นยามซะ 1 ชั่วโมง

“คุณอานนท์ เชิญค่ะ”

“ขอบคุณนะครับ”

ผมเคาะประตู 2 ครั้ง แล้วเดินเข้าไปพบคุณสถิต ผมก็สัมผัสได้เลยว่า หน้าตามันบอกบุญไม่รับเลยครับ สีหน้าของคุณสถิต เหมือนกับคนปวดขี้อย่างแรง แต่มีใครไม่รู้ดันไปขโมยส้วมมันไป

“สวัสดีครับคุณสถิต”

“ไหนคุณบอกว่าครึ่งชั่วโมง นี่มันชั่วโมงครึ่งแล้ว ใช้ไม่ได้เลย ผมไม่ได้มีเวลาให้คุณทั้งวันนะ ไหนเอางานมาเสนอสิ”

“เอ๋อ...คือจริงๆแล้วผม มาถึงตอน...”

ผมยังไม่ทันจะได้พูดให้จบ มันก็แทรกขึ้นมาทันที เหมือนกับว่ามันจะรีบไปหาส้วมที่ ใครก็ไม่รู้ดันขโมยมันไป

“อย่ามาแก้ตัว เอางานมาดูสิ”
ในใจ...มันคือลูกค้านรกดีๆนี่เอง

“คุณสถิตครับ เรายังไม่เคยคุยเรื่องรายระเอียดอะไรกันเลยนะครับ แล้วจะดูงานอะไรครับ”

“อ้าวเหรอ งั้นผมจะบอกคุณแล้วกันนะ คือผมจะให้คุณคิดงานโฆษณาสินค้าตัวใหม่ให้ผม คือมันเป็นน้ำหอมตัวใหม่ล่าสุดของเรา ซึ่งกำลังจะวางตลาดใน ปลายปีนี้
ผมอยากให้งานโฆษณาชิ้นนี้ สามารถทำให้คนดู พอดูโฆษณาตัวนี้แล้ว อยากรีบลุกขึ้น แล้ววิ่ง หรือกระโดดออกจากบ้านไปซื้อทันทีเลย ก็มีแค่นี้แหละคุณทำได้รึเปล่า”

“แค่นี้เองเหรอ...?”
ในใจ...มันเห็นเราเป็นเทพเจ้ามาจุติหรือไงวะ ใครมันจะคิดออกวะ

“คุณสถิต พอมีไกค์ไลน์ ตัวสินค้ารึเปล่าครับว่าจะเจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหน...หรืออะไรที่มันจะทำให้เราเข้าถึงตัวสินค้าได้มากที่สุดครับ เพื่อที่งานจะได้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดไงครับ”

“ไม่มี...ผมรู้แค่นี้ ถ้าคุณไม่เข้าใจ ผมจะหาเอเจนซี่ใหม่”

“อ๋อ...ไม่มีปัญหาครับ แค่นี้ก็ได้รับข้อมูลล้นหลามแล้วครับ...”
ในใจ...อยากจะบ้าตาย คนรวยนี่มันทำอะไรไม่เคยผิดเลยจริงๆวะ

“งั้นคุณก็กลับไปได้แล้ว ผมให้เวลา 1 อาทิตย์”

“ครับ...รับรองต้องถูกใจแน่นอนครับ ขอบคุณมากนะครับที่ให้โอกาส บริษัทเราได้รับใช้ ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ สวัสดีครับ”

มันบอกแค่นี้แล้วเราจะทำไงดีวะนี่ อ๋อ...คิดออกแล้ว เราต้องหาข้อมูลจาก พนักงานที่ดูแลตัวสินค้านี้ เรานี่มันฉลาดหลักแหลมจริงๆเลย เริ่มจาก โอเปอเรเตอร์ หน้าหักก่อนแล้วกัน

“คุณโอเปอเรเตอร์ครับ แผนกสินค้า อยู่ตรงไหนครับ พอดีคุณสถิตให้ผมไปรับข้อมูลครับ”

“ตรงไปนะค่ะ แล้วก็เลี้ยวซ้าย ถ้าเห็นคนหน้าดีๆ ก็คนนั้นหละค่ะ”

“ครับ...ขอบคุณนะครับ”

หายากเหมือนกันนะนี่ เพราะตั้งแต่ตอนที่ยืนรอ 1 ชั่วโมงยังไม่เห็นใครหน้าตาดีเลยซักคน ผมเดินตรงมา แล้วเลี้ยวซ้าย

โอ้แม่เจ้า...ทำไมมันถึง ขี้เหล่กันทั้งแผนกเลยวะ เออ..แต่ว่าสาวคนนั้นดูดีกว่าทุกคน ดูท่าทางแล้วจะขี้เหล่น้อยที่สุดในบริเวณนี้แล้ว

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าดูแลเรื่อง สินค้าน้ำหอมตัวใหม่รึเปล่าครับ”

“ใช่ค่ะ...”

“โอ้...แจ๊คพอตแตก รวยเป็นล้าน อ๋อ...คือผมจะมาขอสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าหน่อยครับ คือผมมาจาก บริษัทโฆษณา ที่มารับงานชิ้นนี้ครับ พอดีคุณสถิตให้ผมมารับข้อมูลครับ” (มั่วเลยเรา)

“อ๋อ...ค่ะแต่นี่จะพักเที่ยงแล้วค่ะ ต้องไปทานข้าวแล้วค่ะ ไว้ตอนบ่ายดีกว่านะค่ะ”

“งั้น...ถ้าไม่เป็นการรบกวนผมไปทานข้าวด้วยนะครับจะได้คุยกันไป ทานกันไปดีไหมครับ”

“ไม่ได้ค่ะ พอดีนัดแฟนไว้ค่ะ เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิด ยิ่งขี้หึงด้วย”
ในใจ...โอ้โห...ขนาดแกยังมีแฟนเลยเหรอวะ โม้เปล่าเนี่ย

“งั้นผมจะเข้ามาใหม่ตอนบ่ายโมงตรงก็แล้วกันครับ ไปหาอะไรกินบ้างก็ดี”

เมื่อผมเดินออกมาจาก ออฟฟิตลูกค้า ก็มองไปรอบๆตัว และพบว่าอาคาร ออฟฟิตที่นี่ทำไมมันมีแต่พวกขี้เหล่มารวมตัวกันเต็มไปหมดเลยวะ ช่างไม่เจริญหูเจริญตาเอาซะเลย แล้วเราจะไปหาอะไรกินดีวะนี่ ลองถามคนแถวนี้ดูน่าจะได้อะไรมาบ้าง

“ขอโทษครับพี่...ไม่ทราบว่าที่นี่มีโรงอาหารรึเปล่าครับ แบบอาหารไม่แพง หรือประเภทสวัสดิการก็ได้ครับ”

“ก็มีอยู่ชั้น 5 เห็นพวกจนๆ มันชอบไปกินกันลองไปดูแล้วกัน”
ในใจ...อยากจะร้องให้หวะ ทำไมมันช่างดูถูกกันจังวะ แต่เรามันก็จนจริงๆนี่หว่า ชั้น 5 ๆๆ ต้องซื้อคูปองด้วยเหรอวะนี่ ...

“ซื้อคูปอง 50 บาทครับ”

กินอะไรดีวะนี่ ร้านไหนมันให้เยอะที่สุดวะ นั่นไงเจอและ

ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที ทั้งอาหาร และคูปองก็ หายวับไปกับตา

เฮ้อ...อิ่ม และถูกมันช่างเข้ากับ คอนเซ็ปของเราจริงๆเลย ยังมีเวลาเหลือไปเดินเหล่หญิงดีกว่า รับอาหารกายแล้ว ก็ต้องไปหาอาหารใจบ้าง

หลังจากเดินเหล่ ไปได้ไม่นาน ก็ถึงเวลาบ่ายโมงตรง ถึงเวลาต้องลงไป อเวจี ไปหาเหล่าบรรดาผีสาวแล้ว…แต่ คิดๆไป ขนาดขี้เหล่ๆ ทำไมยังมีแฟนได้ไงวะ มันไม่ยุติธรรมเลยนี่หว่า เราหน้าตาออกจะหล่อซะขนาดนี้ทำไมไม่มีกับเขาบ้างวะ

ขณะที่เดินไป บ่นไปอยู่ก็เหลือบตาไปเห็นฝูงคนมาออกันเต็มบริเวณหน้าลิฟท์ จนคิดว่ามีนักร้อง หรือดาราดังมาถ่ายหนัง เมื่อแหวกฝูงชนเข้าไปได้

โอ้โห...! ที่นี่มันไม่เคยขึ้นลิฟท์กันหรือไงวะ แย่งกันยังกับในลิฟท์มันมีทอง ไอ้เรามันก็สุภาพบุรุษซะด้วยสิ เลยต้องให้บรรดาผีสาวเข้าไปก่อน

ยืนเป็นสุภาพบุรุษมาก็จะครึ่งชั่วโมงแล้ว สงสัยต้องเอาสุภาพบุรุษกองไว้แปบนึงก่อน เอาวะ ถ้าลิฟท์ตัวนี้มาขอแย่งสู้กับบรรดาผีสาวดูวะ ดูสิว่าคนกะผีใครจะแน่กว่ากัน

แฮะๆๆ...เหนื่อยหวะ กว่าจะเข้ามาได้เกือบสูญพันธ์ ใครมันกระแทกลูกตุ้มเราวะ กรรมเวรจริงๆเลย เบียดสู้ไม่ได้เล่นชกใต้เข็มขัดได้ไงวะ...จุกเลย
ถึงซะที อ้าวเฮ้ย...

***ติดตามตอนต่อไปนะครับ***




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2552
2 comments
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 22:24:53 น.
Counter : 367 Pageviews.

 

มาส่งความสุขตอนเช้าค่ะ..........



สนุกสิ....สนุกมาก จิงคนสวยเขาไม่โกหกหรอก อิอิ
ปกติจะชอบอ่าน อะไรที่สนุก ตลก อ่านแล้วอารมฌ์ดี
เรื่องเศร้าอ่านมากไม่ไหว เครียด.......

สนุกดี เข้าใจใส่อารมฌ์ขัน
อ่านได้เพลิน นึกภาพหนุ่มอานนท์ได้เลย
จะติดตามตอนต่อไปนะค่ะ.....

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 9 ธันวาคม 2552 8:00:48 น.  

 

สวัสดีวันพระ และวันหยุดค่ะ
มีความสุขเยอะๆนะค่ะ



วันนี้หยุดหรือเปล่าค่ะ.....
ถ้าหยุด.....ก็อย่าลืมขยัน นะค่ะ
มีแฟนๆ รออ่านอยู่เน้อ

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 10 ธันวาคม 2552 7:28:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ผัสสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ่งที่รู้ รู้อะไร รู้ในสิ่งจริง หรือ สิ่งลวง หรือ ลวงในสิ่งจริง

คิด คิด ...คิด แล้ว จะ รู้ หรือ รู้ เพราะ ไม่คิด

".. ผัสสะ
Friends' blogs
[Add ผัสสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.