ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่อเกิดแห่งทุกข์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

กาละ ตอนที่ 7

มันเหมือนการนอนหลับโดยเราไม่รู้ว่ามันจะต้องตื่นเมื่อไร ภาพสุดท้ายที่ผมเห็น คือ ใบหน้าของกาละ ที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้นแต่น้อย นับตั้งแต่วันที่ผมได้พบเธอครั้งแรก

ผมยังไม่อยากจากโลกใบนี้ไปเลย ถึงแม้นผมจะไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว แต่ผมไม่อยากห่างจาก กาละไปใหน ความมรู้สึกมันเหมือนการอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีผู้ใดสนใจ การโดนทิ้งขว้าง ไม่สามารถจะคว้าสิ่งใดได้เลย

น้ำตาเริ่มใหลออกมาโดนไม่รู้ตัว มันคงถึงเวลาของผมแล้วหละ ที่ต้องไปจากสถานที่นี้ ผมถามกาละว่า

กาละ เราจะได้เจอกันอีกรึเปล่า

กาละ บอกกับผม ด้วยเสียงที่ปน กับ คราบน้ำตาของเธอ

ผัสสะ จะได้พบ กาละ อีกแน่ๆ แต่ความทรงจำของผัสสะ จะไม่สามารถอยู่คงสภาพแบบนี้ไปได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่าง เรา 2 คน มันจะค่อยๆจางหายไปจนหมดสิ้น

จะมีแต่ความรู้สึกที่คุ้นเคย และ ความต้องกันเท่านั้นที่จะ ทำให้เรา 2 คนได้พบเจอกัน จะเป็นการพบกันใน สภาวะมนุษย์ เช่นกัน

ผมบอกกับ กาละ เป็นคำสุดท้ายว่า

กาละ ผมขอเกิดมาเพื่อ กาละ ตลอดไป....นั่นคือคำสุดท้าย

เมื่อกาลเวลาผ่านไปตามความเหมาะสมของผล กรรม และ แรงอธิฐานก็เริ่มดำเนินชีวิตหนึ่งขึ้นมา....


เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเวลาเดิม 7 โมงเช้า ไม่อยากลุกขึ้นไปไหนเลย

โอ้...เตียงนอนที่แสนจะอบอุ่น มันถึงเวลาที่เราต้องจากกันแล้วเหรอนี่

แล้วเจ้าเตียงนอนที่แสนรักของผมมันก็ตะโกนเข้ามาในหัวของผมว่า “ลุกขึ้นไปทำงานได้แล้วไอ้ตัวขี้เกลียด“

ใจผมก็ถามตัวเองว่าทำไมชีวิตมันถึงน่าเบื่อเช่นนี้ หลังจากที่เจ้าเตียงทรยศมันพยายามไล่ผมอยู่หลายครั้ง

ผมก็ค่อยๆ เดินพยุงสังขารตัวเองไปชำระร่างกายที่มันไม่เคยมีความสะอาดแบบถาวรซักที หลังจากกำจัดเชื้อโรค และเจ้าตัวขี้เกลียดออกไปจากตัวแล้ว

เอะ...! ทำไมตัวเราถึงยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลยวะ ทำไม และ ทำไม หรือว่าเราเป็นโรคประสาทไปซะแล้ว ลองหลับตาดูซักพัก อาจเป็นแค่ความฝันก็ได้ หลังจากผมลืมตาขึ้นมา

อ้าวทำไม...! เรายังอาบน้ำอยู่เลย ผมชักเริ่มสับสนซะแล้ว ระหว่างความจริง กับความฝัน

เฮ้อ...ท่าจะบ้าไปซะแล้ว รีบไปทำงานอันแสนจะน่าเบื่อดีกว่า เพราะถ้าไปช้าก็คงต้องโดน สายตาอัน

เย็นชาผสมกับการดูถูก จากเหล่ามารร้ายที่คอยแต่จะจับผิดคนอื่น โดนลืมตัวไปว่าพวกเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเราเลย

ตั้งแต่ผมลืมตาดูโลกใบนี้อาหารเช้าสำหรับผมมัน ก็คืออาหารกลางวันของคนทั่วไป

ชีวิตผมไม่ได้เกิดมาอย่างสุขสบายไปซะทุกอย่าง เมื่อสมัยที่ผมยังเป็นเด็กๆ ผมก็ต้องทำงานแต่เช้ามืด จนถึงเวลาพระอาทิตย์อยู่ตรงกลางศีรษะ คือเวลาที่ผมจะได้มีโอกาสพักผ่อน

และรับประทานอาหารกับเขา เงินทุกบาททุกสตางค์มันช่างหามาได้ยากเย็นซะเหลือเกิน ผมเคยคิดเสมอว่าในชีวิตของคนเรานั้นเงิน คือสิ่งที่จะบันดาลทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ทั้งความสุข ความสบาย

วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ วันแรกของการทำงานที่แสนจะน่าเบื่อหน่าย เมื่อผมย่างก้าวเข้ามาใน ออฟฟิต

“อานนท์ (อานนท์ คือตัวผมเอง) คุณมาที่ห้องผมหน่อยสิ”

ในใจ...เสียง หัวหน้าของผมเอง มันไม่เคยคิดจะใช้งานคนอื่นบ้างหรือไงวะ เรียกแต่เราทั้งวัน

วันนี้เป็นวันซวยอะไรกันนะ ท่าไม่โดนด่า ก็คงให้ซองขาวหละมั้งนี่ ผมทำงานที่ บริษัท โฆษณาแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เมืองของท่านเทพทั้งหลาย ในตำแหน่ง Creative

แต่ตอนผมมาสมัคร ผมสมัครตำแหน่งพนักงานการตลาด แต่เนื่องจากทางบริษัท เพิ่งเปิดได้ไม่นานเพราะฉะนั้น จึงไม่ค่อยมีเงินจ้างพนักงานมากนัก ผมจึงเป็น Creative เพียงแต่ในนาม

แต่ความเป็นจริงแล้วมันใช้ผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะออกไปหาลูกค้า คิดงานโฆษณา เขียนสคริป กราฟฟิคดีไซค์ หรือแม้กระทั่งพนักงานแบกหามอุปกรณ์สารพัดที่มันจะใช้

แต่เพื่อเงินผมจึงต้องทน และก็ทน ไม่เช่นนั้นผมก็จะไม่มีเงินไปจ่ายค่าห้อง ค่าอาหาร และ ค่าผ่อนรถ ชีวิตมันช่างเศร้าหมองซะเหลือเกิน

ผมเดินตรงเข้าไปหาด้วยท่าทางนอบน้อม แต่ หัวหน้าของผม มันมองมาด้วยสายตาแข็งกร้าว กัดฟันเหมือนหมาบ้า หูตั้ง น้ำลายยืด และเห่าออกมาว่า

“คุณรู้มั้ยว่าาคุณทำอะไรลงไป”
ในใจ....แล้วตูจะรู้ไหมหละถ้าแกไม่บอก

“ไม่ทราบครับ หัวหน้ามีอะไรเหรอครับ”

“คุณไปทะเลาะกับ คุณสายสุณี มาใช่ไหม”

คำอธิบาย และ ในใจ....คุณสายสุณี ก็คือ ลูกค้าบรรดาศักดิ์ ที่ งี่เง่า และเปลี่ยนใจได้ทุกวินาที สรุปงานวันนี้ พรุ่งนี้มันก็ลืม

และก็ต้องให้ไปสรุปอีกเรื่อยๆจนกว่ามันจะจำได้ และที่สำคัญมันชอบโทรมาโวยวาย กับไอ้หัวหน้าบ้าอำนาจ จนบางครั้งผมคิดว่าไอ้คู่นี้มันเป็นโรคจิตรึเปล่าวะ

“ เอ๋อ...คือว่าจริงๆแล้วก็ไม่เชิงทะเลาะหรอกครับ แค่ไม่เข้าใจกันนิดหน่อยครับเจ้านาย”

และ ณ บัดนั้น หัวหน้าผมมันเริ่มเหมือนจะแปลงร่าง มือขยำขยี้กระดาษบนโต๊ะ กัดฟันจนฟันมันแทบจะกระเด็นออกมาจากปาก และเห่าออกมาอีกครั้งว่า

“คุณไปทะเลาะกับลูกค้ามา แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่รู้อีก วันนี้คุณไปขอโทษคุณสายสุณีซะ แล้วสรุปงานนี้ให้เรียบร้อยมันเสียเวลามามากแล้ว ไปได้แล้ว อ้อ...แล้วอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 ไม่อย่างนั้น คุณได้หางานใหม่แน่...”

มันมีลางบอกเหตุตั้งแต่เช้าแล้วว่าวันนี้จะซวย เบื่อจริงๆเลย ต้องแบกหน้าอันบอบบาง และหล่อเหลาของเราไปขอโทษ ยัยสายสุณี ลูกค้าเจ้าปัญหา ไม่รู้ผมไปทำเวรทำกรรมอะไรกับมันหนักหนาถึงได้จองเวรจองกรรมกับผมได้ตลอดเวลา

เอ..หรือว่าไปหางานใหม่เลยให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไป แต่ใครจะรับเราวะ ช่วงนี้งานก็หายาก น้องๆ จบใหม่ก็เดินหางานกันแทบจะขวิดกันตาย อย่าคิดมากเลยไปสรุปงานให้มันเสร็จๆไปดีกว่าจะได้จบๆไป

เมื่อมาถึง ออฟฟิต คุณสายสุณี

“สวัสดีครับคุณพี่ณี”
ในใจ...ฝืนไว้.. ยิ้มไว้.. คิดซะว่ามาคุยกับคนบ้าแล้วกัน

“ว่าไงหละโดนหัวหน้าไล่มาหาพี่หละสิ ...”
ในใจ...ก็เออ สิวะ ถ้าแกไม่ไปฟ้องไอ้บ้าอำนาจ แล้วฉันจะมายืนหัวโด่ตรงนี้เหรอวะ

“งานที่พี่ให้แก้ เธอแก้เสร็จแล้วยัง...”
ในใจ...มันยังมีหน้ามาบอกว่าแก้ อีก อย่างนี้มันเรียกว่าเริ่มทำใหม่เลยนะป้า

“อ๋อ...เรียบร้อยแล้วครับพี่ แหมพี่นี่มีหัว Creative จริงๆเลยนะ ขนาดผมเป็น Creative มาตั้งนานยังสู้พี่ไม่ได้เลยจริงๆ”
ในใจ...ชมมันเข้าไป ยายนี่มันบ้ายอ จริงๆแล้วอยากจะบอกมันว่า แกนี่เสี่ยวจริงๆเลยนะแบบห่าอะไรของแกวะเนี่ยเสีย look เราหมดเลย ไม่กล้าบอกใครเลยวะว่า คิดงานให้มัน

“จริงๆ แล้วพี่ก็แค่ปรับเปลี่ยนนิดเดียวเอง ยังไงก็ต้องพึ่งน้องนนท์ อยู่ดีนั่นแหละ”
ในใจ...ได้ผลเว้ย มันเริ่มเคลิ้มแล้ว นอกจากคิดแบบเสี่ยวๆ แล้ว ยังบ้ายออีกคนอะไรวะ

“แหม...พี่ก็พูดเกินไปผมไม่ได้ช่วยอะไรพี่เลยนะนี่”

“น้องนนท์ แล้วงานของพี่จะได้ดูของจริงเมื่อไหร่หละ”

“อือ...ก็คงประมาณ 4 วันครับพี่ เสร็จแล้วผมจะให้ มิสเตอร์แมสเอามาให้พี่นะครับ”

“ใครเหรอน้องนนท์ มิสเตอร์แมส...”
ในใจ...มันคงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ คนใหม่ล่าสุดมั้ง

“อ๋อ...คือแมสเซ็นเจอร์ ที่บริษัทครับ พอดีที่ออฟฟิศเขาเรียก มิสเตอร์แมส ผมก็เลยเรียกจนติดปากครับพี่”

“แหมเธอนี่ทำพี่ซะ งง เลย...”
ในใจ...อย่างแก เขาไม่ได้เรียกว่า งง ...เขาเรียกว่า โง่

“งั้น...วันนี้ผมไม่รบกวนพี่แล้วนะครับ”

“ขอบใจนะที่อุตสาห์ เร่งแก้งานให้”

“อ๋อ...ไม่เป็นไรครับพี่ ผมก็อยากให้พี่ได้ใช้งานได้ทันเวลาครับ”
ในใจ...ก็แกเล่นไปโวยวายกะไอ้บ้าอำนาจแล้วจะให้เรานั่งชมดาวอยู่รึไงวะ

“ลาแล้วครับพี่”

เฮ้อ...ค่อยหายใจโล่งคอหน่อย โคตรอึดอัดเลยวะ กลับไปสรุปงานกับไอ้บ้าอำนาจก่อนที่มันจะสำรอกอะไรออกมาอีก เมื่อผมขับรถออกมาจาก บริษัทลูกค้าเจ้าปัญหา

วันนี้ทำไมถนนมันโล่งอย่างนี้วะ งั้นขอลองเครื่องยนต์หน่อยแล้วกัน นานๆถนนมันจะโล่งแบบนี้ซะที

เอียดๆๆ...โครม เอาแล้วไงตู ไอ้คุณมอไซค์ดันขับตัดหน้า แล้วหนีเฉยเลย

“เฮ้ย...ขับรถยังไงวะ”

""""""ติดตามตอนต่อไปเน้อ""""""





 

Create Date : 04 ธันวาคม 2552
6 comments
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 1:15:27 น.
Counter : 333 Pageviews.

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณผัสสะ
ดำเนินเรื่องชะเดาไม่ถูกเลยนะค่ะ ชักจะงง ว่าต่อไปจะเป็นยังไง
แล้วเหตุการณ์ตอนกาละลงมาอยู่กับผัสสะช่วงหนึ่ง ลงมาเพื่ออะไร
ไม่เป็นไร....เดี๋ยวก็รู้เอง บอกมาก็ไม่หนุกสิ ใช่ม่ะ

ช่วงนี้้งานยุ่งใช่มั๊ยค่ะ
ไม่เป็นไรถ้ายุ่งก็ทำงานก่อน
อาทิตย์นี้ไม่อยู่สามวันไปเที่ยว
วันพ่อ...ไปทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อ
คุณผัสสะไปเที่ยวไหนหรือป่าวค่ะ....

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 4 ธันวาคม 2552 7:27:06 น.  

 



ไม่อยู่สามวันนะจ๊ะ
เจอกันวันจันทร์

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 5 ธันวาคม 2552 7:23:15 น.  

 

ขอบคุณนะที่ติดตาม...รู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาจะใหล

ขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขนะครับ...คุณนุ่ม

 

โดย: ผัสสะ 5 ธันวาคม 2552 10:28:47 น.  

 

 

โดย: redclick 5 ธันวาคม 2552 12:09:24 น.  

 

กลับมาแล้วน๊า.....

มาปูเสื่อนั่งรออ่านตอนต่อไป

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 7 ธันวาคม 2552 13:05:34 น.  

 

ทำยังกะหนังกางแปลงเลยนะ....

 

โดย: ผัสสะ 7 ธันวาคม 2552 21:51:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ผัสสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ่งที่รู้ รู้อะไร รู้ในสิ่งจริง หรือ สิ่งลวง หรือ ลวงในสิ่งจริง

คิด คิด ...คิด แล้ว จะ รู้ หรือ รู้ เพราะ ไม่คิด

".. ผัสสะ
Friends' blogs
[Add ผัสสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.