ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่อเกิดแห่งทุกข์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

กาละ ตอนที่ 20

และแล้ว เวลาที่ผมต้องเลือกก็มาถึงแล้ว งานที่ผมกว่าจะมาถึงจุดนี้ และกำลังจะสูงขึ้น กับ ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด

“ถึงยังไง เงิน หรือ ทรัพย์สมบัติทุกอย่างของกาละ มันก็ไม่ได้ไปกับกาละอยู่แล้ว กาละขอมอบให้นนท์ทั้งหมดนะค่ะ”

“ผมไม่ขอรับได้ไหมครับ ผมขอแค่กาละเท่านั้นพอครับ”

“เราไปอยู่ที่ รีสอทร์ กันนะค่ะ”

“ครับ เราจะอยู่ด้วยกัน จะไม่ห่างจากกัน”

หลังจากเรา 2 คน ได้จัดงานศพแม่คุณกาละ จนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

ผมก็ไปลาออกจากงาน แล้วผมก็ไปลาป้าหยิก เพราะยังไงแกก็เปรียบเสมือนญาติคนเดียวของผม และเรา 2 คนก็มุ่งหน้าไปที่ รีสอทร์ ของพ่อกาละ...
เรา 2 คนไปอยู่ที่ รีสอทร์ ได้ 1 เดือน กาละก็เริ่มอาการแย่มากขึ้นทุกวัน

ช่วงเวลานั้นเองผมจึงถามเธอถึงผู้ชายที่ผมพบที่โรงพยาบาลตอนที่คุณแม่ท่านเสีย แต่คำตอบที่ผมได้ทำให้ผมยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก

เธอบอกผมว่าเธอเห็นคุณพ่อมาหาเธอ และมากอดเธอ มาปลอบใจไม่ให้เธอเสียใจ ในใจผมตอนนั้นผมไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอบอกแต่ มันก็แปลกตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไม่เคยพบผู้ชายคนนั้นอีกเลย

เวลาผ่านไป ร่วม 2 เดือน อาการเธอแย่จนถึงที่สุด เธอไม่ยอมไปหาหมอ เพราะหมอก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้

เวลาของเธอเริ่มนับถอยหลังลงเรื่อยๆ จากวัน เป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นนาที แล้วเธอก็จากผมไป โดยไม่มีวันที่จะได้พบกันอีก ผมได้แต่นั่งร้องให้อยู่คนเดียว

ผมจัดการงานศพเธอ โดยเพียงลำพัง แล้วผมก็กลับมาที่กรุงเทพ จัดการนำทรัพย์สมบัติของเธอทั้งหมด และของผม บริจาคให้กับมูลนิธิ ต่างๆ ทั่วประเทศ มีเก็บไว้เพียงแค่ส่วนเล็กน้อยเพื่อไว้ดำรงชีพเท่านั้น

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เดินทางกลับมาที่ รีสอทร์
ผมได้สร้างห้องเพิ่มภายในบริเวณของรีสอทร์ ประมาณ 4-5 ห้อง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเช่าพักอาศัย

เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่อง วิญญาณ หรือ การกลับชาติมาเกิด ไม่เคยเชื่อว่าสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า ผี จะมีอยู่จริงหรือไม่ และไม่เคยคิดว่า กาลเวลาของคนเรามันจะสามารถซ้อนกันได้หลายชั้น ในขณะเดียวกัน

แต่ ณ ขณะนี้ กาลเวลาที่เหลืออยู่ของผมมันได้หยุดลงแล้ว มันหยุดและหายไปพร้อมๆกับผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด แต่ผมยังจำคำสุดท้ายที่ เธอได้บอกกับผมก่อนที่เธอจะสิ้นลมว่า

“เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เราจะได้พบกัน”

ผมเชื่อว่าสิ่งที่เธอบอกกับผมมันจะต้องเป็นจริงสักวัน ผมเชื่อว่าสักวันเธอต้องกลับมาหาผม

และแล้ว เวลาก็ผ่านไป 20 ปี

ผมก็ยังรอคอยเธอ จนบางครั้งผมก็ชักเริ่ม ท้อใจแล้ว
จนมาวันหนึ่ง

“สวัสดีค่ะ คุณลุงมีห้องให้เช่ารึเปล่าค่ะ”

ผมมองหน้าเด็กสาวคนนี้ ผมก็รู้สึก และแน่ใจในทันทีว่าเธอคือกาละ ผมจำใบหน้าเธอได้ แม้นกระทั่งน้ำเสียง ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้นแต่น้อย

“หนูชื่ออะไรครับ”

“หนูชื่อ วารี ค่ะ แล้วคุณลุงมีห้องว่างรึเปล่าค่ะ”

“มีสิ...หนูอายุเท่าไหร่ครับ”

“20 ค่ะ คุณลุงถามทำไมเหรอค่ะ”

“อ๋อ...ก็แค่สอบถามเป็น ธรรมเนียม แล้วหนูมากับใครหละ”

“มากับเพื่อนค่ะ มากัน 6 คนค่ะ”

“งั้นไปพักที่ห้องใหญ่เลยดีไหม พักได้ 6 คนพอดี”

“ราคาเท่าไหร่ค่ะลุง อย่าคิดแพงนะ หนูยังไม่ได้ทำงาน ไม่ค่อยมีเงินค่ะ”

“ลุงไม่คิดเงินครับ เพราะที่รีสอทร์ แห่งนี้มันเคยเป็นของหนูมาก่อน”

“ลุงอำเล่นรึเปล่าค่ะ”

“ลุงพูดจริง หนูอยากจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้”

ผมไม่แปลกใจเลยที่เธอจะรู้สึกสงสัย ที่ผมพูดไปแบบนั้น แต่สิ่งที่ผมมองเห็นในดวงตาของเธอ ก็คือกาละนั่นเอง มันเป็นความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้

“งั้น หนูไม่เกรงใจนะค่ะ หนูขอพักที่นี่ 1 อาทิตย์นะค่ะ”

“ตามสบายนะครับ เพราะยังไงหนูก็ต้องมาที่นี่อยู่แล้ว”

“คุณลุงชอบพูดอะไรแปลกๆนะค่ะ แล้วคุณลุงอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอค่ะ”

“ครับ ลุงอยู่ที่นี่คนเดียว”

“แล้วรูปที่ติดบนผนังข้างห้องนี้เป็นรูป ภรรยาคุณลุงเหรอค่ะ”

“ใช่แล้วครับ เธอจากลุงไปได้ 20ปีแล้ว”

“หนูเสียใจด้วยนะค่ะ งั้นหนูขอไปพักผ่อนก่อนนะค่ะ นั่งรถมาทั้งคืนเลยค่ะ ง่วงนอนมากค่ะ”

“ครับ พักผ่อนตามสบายนะ มีอะไรก็เรียกลุงได้ตลอดเวลานะครับ”

คุณลุงคนนี้ทำไมถึงดูแปลกๆ คำพูดคำจาก็แปลกๆ แถมยังให้พักฟรีไม่คิดเงินด้วย สงสัยแกอายุมากเลยเพี้ยนๆ

แต่ทำไมเราถึงรู้สึกเหมือนเคยเจอแกมาก่อน แล้วเราเป็นเจ้าของ รีสอทร์แห่งนี้ได้ยังไงกันน้อ ก็ในเมื่อเราเพิ่งมาครั้งแรกเอง แต่รูปภรรยาคุณลุง ทำไมหน้าตาดูคล้ายเราเหมือนกัน อย่าไปคิดอะไรมากเลย ง่วงนอนแล้ว ไปนอนพักผ่อนก่อนดีกว่า

“เพื่อนๆได้ห้องแล้ว ไปนอนกันได้แล้ว”

“นี่แก แล้วค่าห้องเท่าไหร่กัน”
เสียงจากกลุ่มเพื่อน ถามด้วยความกังวลในค่าใช้จ่าย

“ลุงแกให้พักฟรีไม่คิดเงิน...หยุดเลยแก...ไม่ต้องถามต่อ ขอไปนอนก่อนแล้วจะเล่าให้ฟังนะ เพื่อนๆ”


ระหว่างที่ฉันนอนหลับไปนั้น ก็รู้สึกเหมือนกับความฝันว่า เห็นตัวเอง ยืนอยู่ในอุโมงค์ มืดสนิท ไม่มีแม้นแต่แสงไฟ ฉันพยายาม หาทางออกจากอุโมงค์แห่งนี้ให้ได้

เพราะรู้สึกอึดอัด และหายใจไม่ออก เดินคลำหาทางออกจนเหนื่อย แล้วก็มีแสงเล็กๆ ส่องมาด้านหน้า ฉันพยายามตามแสงไฟนั้นไป จนสุดปลายทาง ก็ได้พบเห็น ผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงทางออกของอุโมงค์

ฉันพยายามเดินไปหาเขาคนนั้น แต่ยิ่งเดินเข้าไปหา เขาก็ยิ่งเดินออกห่างไปทุกที ฉันจึงวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะตาม ผู้ชายคนนั้นให้ทัน แต่ไม่ว่าจะวิ่งเร็วขนาดไหนก็ไม่สามารถจะตามทัน แล้วฉันก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว...จึงล้มลงนั่ง

และเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจ จึงนอนราบไปกับพื้น ณ ตรงนั้น...สักพักนั้นเอง ผู้ชายคนนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าของฉัน แล้วยื่นมือออกมา แล้วบอกกับฉันว่า


“จับมือไว้นะ อย่าปล่อยมือนะ ถ้าปล่อยมือผมตอนนี้ เราจะไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันนะครับ”


“คุณเป็นใครค่ะ แล้วฉันอยู่ที่ไหนค่ะ ช่วยฉันออกไปที ฉันเหนื่อยมากค่ะ ช่วยด้วยค่ะ”


ในเวลานั้น ฉันรู้สึกเหนื่อยมากหายใจไม่ออก แต่ก็พยายามกุมมือผู้ชายคนนั้นไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่แล้วผู้ชายคนนั้นก็หายไปจากฉัน แล้วฉันก็ตกใจตื่นขึ้นมา ทั้งตัวมีแต่เหงื่อไหลออกมา รู้สึกเหนื่อยๆ หายใจไม่ทัน รู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงฝันแบบนี้บ่อยครั้งมากเลย มันจะเกิดเรื่องอะไรกับฉันกันแน่


เวลานี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ฉันรู้สึกหิวมาก จึงไปหาคุณลุงให้ช่วยหาอาหารให้ทานหน่อย เมื่อเดินมาถึง ก็มองเห็นคุณลุงนั่งมองที่รูปภรรยาของแก แล้วแกก็ยิ้ม สีหน้ามีความสุข และดีใจมากเหมือนกำลังจะได้พบใครบางคนที่ แกรอคอยมานาน

ฉันเดินตรงเข้าไปหาแก แต่เมื่อมองหน้าแกแล้ว มันก็มีภาพของผู้ชายคนที่ฉันฝันเห็นบ่อยๆ แวบเข้ามาในสมอง ทำให้ฉันรู้สึกปวดหัวมาก


ไอ้โรคปวดหัวฉันเป็นมาตั้งแต่เกิดมาแล้ว มันรักษาไม่หายซะที ไม่รู้มันเป็นอะไรของมัน ทั้งๆที่ วิวัฒนาการในยุคนี้แล้วมันน่าจะรักษาให้หายได้ ฉันเดินเข้าไปคุยกับคุณลุงว่า


“คุณลุงค่ะ หนูหิวแล้วค่ะ ไม่ทราบมีอะไรทานบ้างค่ะ”

“ลุงทำ ผัดมักกะโรนีกุ้ง ไว้ให้หนูแล้วครับ”

คุณลุงทำไมแกถึงรู้ว่าฉัน ชอบทานอาหารชนิดนี้มาก มันคงเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า แต่ทำไมเวลาฉันอยู่ใกล้ๆกับคุณลุงแล้ว มันรู้สึกอบอุ่น และบางครั้ง รู้สึกว่าคุ้นเคยกับแกมาก มันเหมือนกับว่าเคยพบกันมาก่อนแต่จำไม่ได้ว่าเคยพบที่ไหน

“คุณลุงทำเองเหรอค่ะ ดูน่าทานจังนะค่ะ”

“ครับลุงทำเองชอบรึเปล่าครับ แล้วเพื่อนๆไปไหนกันหมดหละ”

“ยังนอนไม่ตื่นเลยค่ะ สงสัยจะเพลียมาก”

“คุณลุงดูท่าทางจะรักภรรยามากนะค่ะ เห็นนั่งมองแต่รูปภรรยาตลอดเวลาเลย”

“ครับ ลุงรักภรรยามาก เธอจากลุงไปนานแล้ว เรา 2 คนรักกันมาก ก่อนเธอจะจากลุงไป เธอบอกกับลุงว่า เธอจะกลับมาหาลุง และตอนนี้เธอก็รักษาสัญญานั้นแล้ว”

“ยังไงค่ะคุณลุง”

“ลุงพูดไปหนูก็คงไม่เชื่อ แต่มันก็ไม่แปลกหรอกที่หนูจะไม่เชื่อ เพราะเมื่อก่อนลุงก็ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้ จนลุงได้มาเจอกับตัวเอง จึงเชื่อและจะเชื่อตลอดไป”

“คุณลุงเล่าให้หนูฟังได้ไหมค่ะว่าคุณลุง กับภรรยาสัญญาอะไรไว้ค่ะ”

****ติดตามตอนต่อไปนะครับ ช่วงนี้ อัพเร็วครับ เพราะ ใกล้ปีใหม่และ (เกี่ยวกันใหมนี่)****




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2552
4 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 17:32:27 น.
Counter : 357 Pageviews.

 

นั้นนะสิ ใกล้ปีใหม่แล้วเกี่ยวไรกับอัพบล๊อกน๊า
ขยันจริงๆด้วย...
ว่าแต่จะมีรอบมิดไนท์หรือป่าวหนอ

ตกลงว่าพลัดพรากจากกันมากี่ครั้งแล้วค่ะเนี้ย
เมื่อไหร่จะสมหวังซักกะทีน๊า

แล้วปีใหม่จะมีอะไรใหม่ๆมาฝากหรือป่าวค่ะ
ไปเที่ยวไหนหรือป่าวเอ่ย

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 27 ธันวาคม 2552 17:29:31 น.  

 

ปีใหม่นี้อยู่บ้านครับ ไม่ได้ไปใหนครับ เพราะไม่รู้จะไปกับใครครับ......ไปคนเดียวก็คงไม่สนุก และอีกอย่างคนน่าจะเยอะมากครับ

อยู่บ้านทุกปีครับ....

***สงสัยคงต้องประกาศรับสมัคร เนื่อคู่ แล้วมั้ง***

 

โดย: ผัสสะ 27 ธันวาคม 2552 17:40:17 น.  

 

ตามมาอ่าน ก็ใก้ลจบแล้ว ถ้าจบก่อนปีใหม่ จะได้มีเวลาอ่าน ก่อนกลับบ้าน


@ อ่อนนุช 21/1

 

โดย: OxyMan 27 ธันวาคม 2552 20:40:55 น.  

 



วันนี้จะได้อ่านตอนต่อไปป่าวน๊า.....

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 28 ธันวาคม 2552 7:40:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ผัสสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ่งที่รู้ รู้อะไร รู้ในสิ่งจริง หรือ สิ่งลวง หรือ ลวงในสิ่งจริง

คิด คิด ...คิด แล้ว จะ รู้ หรือ รู้ เพราะ ไม่คิด

".. ผัสสะ
Friends' blogs
[Add ผัสสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.