ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่อเกิดแห่งทุกข์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

กาละ ตอนที่ 17

เรา 2 คนใช้เวลาที่ร้านนี้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะทุกอย่างเหมือนมันจะลงตัว ไม่ยากนัก หลังจากนั้น ก็กำลังจะไปจองโรงแรม

แต่กาละ บอกว่า ไม่อยากจัดที่โรงแรม แต่เธออยากไปจัดที่ รีสอทร์ ของคุณพ่อเธอ ที่ จังหวัดทางภาคเหนือ

“ทำไมไม่จัดใน กรุงเทพหละครับ จะได้ไม่เหนื่อยนะครับ และก็สะดวกด้วย”

“นนท์ ตามใจกาละเถอะนะ กาละอยากไปจัดที่ รีสอทร์ มันดูเป็นธรรมชาติแล้วก็ เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างสงบๆ ไม่ดีเหรอค่ะ”

“ก็ได้ครับ ถ้าเป็นความสบายใจของกาละ งั้นเอาอย่างนี้ดีไหมครับ ไหนๆ อาทิตย์หน้าเราก็จะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันอยู่แล้ว เราก็ถือโอกาสไปที่ รีสอทร์นี้เลยดีไหมครับ”

“ก็ดีค่ะ งั้นเอาตามนี้แล้วกันนะ นนท์ช่างเป็นคนที่ดี กับกาละ จริงๆเลยนะ เย็นนี้ไปทานข้าวที่บ้านกาละ นะค่ะ”

“ได้ครับ...”
ในใจ...ของฟรี จะปฏิเสธได้ไง

ระหว่างทางที่กำลังขับไปบ้านกาละ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เธอดูแปลกๆ แล้วเธอก็พูดเสียงแผ่วๆออกมาว่า

“นนท์...จอดแวะปั้ม แปบค่ะ”

“กาละ ปวดชิ้งฉ่องเหรอ เดี๋ยวหาปั้มให้นะ”

ผมขับรถเข้ามาในปั้มแห่งหนึ่ง ยังไม่ทันจะจอดรถสนิทดีเลย กาละก็เปิดที่ล็อค และเปิดประตู รีบวิ่งไปในห้องน้ำอย่างเร็ว ผมตกใจกลัวเธอจะล้ม แต่อีกใจก็คิดว่าสงสัยจะปวดอึ อย่างแรง...!

หลังจากเวลาเดินผ่านไปไม่ถึง 10 นาที

เธอเดินกลับมาด้วยท่าทาง อิดโรย หน้าซีด เหมือนกับคนจะเป็นลมให้ได้ ผมเริ่มกังวลขึ้นมาแล้วว่าเธอเป็นอะไร

“กาละ เป็นอะไรรึเปล่าครับ ดูท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะครับ ไปหาหมอดีไหมครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ สงสัยอาหารเป็นพิษค่ะ รีบกลับบ้านกันเถอะค่ะ”

อาจเป็นไปได้ แต่ทำไมผ้าเช็ดหน้า มีลิ่มเลือดติดอยู่ หรืออาเจียนเป็นเลือดคงไม่มีอะไรมาก เพราะผมก็เคยอาหารเป็นพิษออกบ่อยไป

พอมาถึงที่บ้าน...กาละ เธอหลับมาตลอดทาง ปลุกเธอก็ไม่ลุกหลับสนิทแน่นิ่ง หายใจโรยระริน ผมทำอะไรไม่ถูก เลยลงไปเรียกคุณแม่ มาช่วยดู

“คุณแม่ครับ กาละไม่ค่อยสบายครับ หลับอยู่ในรถครับ ปลุกก็ไม่ตื่นครับ คุณแม่ช่วยไปดูหน่อยครับ”

ผมพูดแค่นี้ แต่ คุณแม่สีหน้าเปลี่ยนทันที ดูเครียดมาก และกระวนกระวาย ตาเริ่มแดง เหมือนกำลังจะร้องให้ มือไม้สั่น ทำไมดูเป็นเรื่องใหญ่โตเหลือเกิน อาจเป็นเพราะ แม่ลูกคู่นี้รักกันมากก็ได้


“นนท์ มาช่วยแม่ พาน้องไป โรงพยาบาลก่อนเร็ว”

“ครับๆๆ...”

ผมรู้สึกได้เลยว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

“น้อง หลับไปนานแล้วยัง นนท์”

“ก็ ครึ่งชั่วโมงได้ครับ คุณแม่ครับ กาละเป็นอะไรเหรอครับ”

“อย่าเพิ่งถามแม่ตอนนี้เลย ไปโรงพยาบาลก่อน”

“ครับๆ...”

เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอยากจะร้องให้ ผมคิดแต่ในใจว่าถ้ากาละ เป็นอะไรไปทุกอย่างที่ผมคิด ที่ผมฝันไว้ คนที่ผมรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่ด้วย กำลังจะเลื่อนลอยหายไปจากผม


ผมพยายามขับรถให้เร็วที่สุด มุ่งไปยังโรงพยาบาลตามที่คุณแม่บอกผม ในใจก็ภาวนาขอให้กาละ อย่าเป็นอะไรเลย ขับรถไปผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จนมาถึงที่โรงพยาบาล


“ขอ...เตียงผู้ป่วยหน่อยค่ะ”


เสียงคุณแม่ ตะโกนเสียงดังมากจนคนแถวนนั้นหันมามอง ด้วยความตกใจ


“นนท์ ไปจอดรถแล้ว โทรหาแม่นะ”

“ครับ...”

ผมรู้สึกว่าทำไมมันถึง ดูร้ายแรงขนาดนั้น แค่อาหารเป็นพิษ ตอนผมอาหารเป็นพิษผมยังนอนที่ห้อง แล้วก็แค่กินยา ยังไม่เคยไปหาหมอเลย แล้วมันก็หายไปเอง...

ผมรีบหาที่จอดรถอย่างเร็ว ใจก็กระวนกระวายว่า มันมีอะไรกันแน่ ผมจอดรถได้ก็รีบโทรไปหาคุณแม่ทันที


“คุณแม่เหรอครับ...ได้ครับ...ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ”

ตอนนี้กาละ เข้าไปที่ห้องฉุกเฉินแล้ว ผมวิ่งไป พร้อมกับน้ำตาที่มันจะไหลออกมาให้ได้เลย ผมบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง ต้องไม่ร้อง...ขาผมสั่น มันเดินไม่เป็นทางแล้ว

คนรอบข้างก็ยังคงหัวเราะ ยิ้ม พูดคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับผมทุกอย่างมันเริ่มจะหยุดนิ่ง ตัวผมเบา ใจผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนใจมันกำลังจะลอยออกไปจากร่างกายของผม ผมมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เห็นคุณแม่นั่งร้องไห้ ดูท่านเหมือนคนที่กำลังจะสิ้นลมหายใจไปตรงนั้น

“กาละ เป็นไงบ้างครับ”

“น้องเข้าไปในห้องแล้ว นนท์อย่าเพิ่งไปไหนนะ อยู่เป็นเพื่อนแม่ก่อนนะ”

“ครับ แต่ว่ากาละเป็นอะไรครับ ทำไมคุณแม่ดูกังวลมากขนาดนี้”

คุณแม่ยังร้องให้ไม่หยุด ดูท่านมีความกังวลกับอาการของ กาละมาก

“ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่เป็นห่วงมากไปหน่อย แม่รักกาละมาก แม่ไม่มีใครนอกจากกาละคนเดียว นนท์ต้องสัญญากับแม่นะว่าจะ คอยอยู่เคียงข้างกาละ ตลอดเวลาจะไม่ทอดทิ้งน้อง”

“ครับๆผมสัญญาครับ แม่วางใจได้ครับ”

ผมนั่ง อยู่กับคุณแม่ รออยู่เกือบ 3 ชั่วโมง ระหว่างที่รอ ผมอยากจะถามหลายเรื่องแต่ คิดอีกทีเห็น คุณแม่ยังร้องให้ เป็นพักๆ ผมก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี สงสัย ก็ สงสัย สงสาร ก็สงสาร เป็นห่วงกาละมากด้วย นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผมกันแน่

คุณหมอเดินออกมาจากห้อง หันมามองที่คุณแม่ สีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่ แล้วคุณหมอก็ส่ายหน้าเล็กน้อย และเดินเข้ามานั่งข้างๆคุณแม่เหมือนกับว่าคน สองคนนี้เคยได้พบกันมาก่อนหน้านี้แล้ว มันต้องมีอะไรที่ผมยังไม่รู้แน่ๆ ซักพักคุณหมอก็บอกกับคุณแม่ว่า

“คุณแม่ เชิญที่ห้องผมหน่อยครับ...”

สีหน้าหมอดูเครียด...และ เหมือนแก้ปัญหาอะไรบางอย่างไม่ตก

“นนท์ รอแม่ตรงนี้นะ แม่เข้าไปคุยกับ คุณหมอก่อน”

สอง คนเดินเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าไม่มีความสดชื่นเลย คุณหมอเอื้อมมือโอบกอดคุณแม่เบาๆ ผมได้ยินเสียงเบาๆที่คุณหมอบอกกับคุณแม่ว่า

“ไม่มีอะไรมาก อย่างคิดมาก”

หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง พยาบาลเข็นเตียงกาละ ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ผมเดินเข้าไปเห็นกาละ หน้าเธอซีดมาก มีผ้าพันที่ศีรษะ พร้อมสายยางที่มีเข็มแทงไปที่แขน จำนวนไม่น้อยไปกว่า 3 เส้น

ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้เป็นแค่อาหารเป็นพิษแน่นอน แต่เธอเป็นอะไร

ผมเดินตามเธอไปโดยไม่ทิ้งห่างจากสายตายของผมแม้แต่น้อย ถึงผมจะเพิ่งเจอกับเธอแค่ไม่กี่วัน แต่สิ่งที่ผมรู้สึกกับเธอ ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ เธอคือคนที่ผมรักมากที่สุด ผมไม่เคยรู้สึกอบอุ่นและมีค่าเท่านี้มาก่อนเลย จนได้มาพบกับเธอ

เมื่อมาถึงในห้องพักผู้ป่วยใน พยาบาลจัดการกับอุปกรณ์ต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกกันไปหมด ผมไม่กล้าถามพยาบาลว่ากาละ เป็นอะไร เพราะกลัวใจตัวเองจะรับไม่ได้ คิดว่าขอนั่งทำสติให้มันคงที่มากกว่านี้ซักหน่อย ระหว่างที่นั่งทำใจคุณแม่ก็เดินเข้ามาที่ห้องพัก ที่กาละนอนรักษาตัว ผมจะต้องถามให้รู้เรื่องให้ได้


“คุณแม่ครับ บอกผมมาเถอะครับว่า กาละเป็นอะไรกันแน่”

“นนท์ ต้องสัญญากับแม่ก่อนว่า ถ้าแม่บอกนนท์ไปแล้ว นนท์ยังต้องแต่งงาน และ รักกาละไปจนวันสิ้นลม ได้ไหม”

ผมเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี เหมือนผมยืนอยู่ในพื้นที่โล่งๆ เพียงลำพัง หันไปทางไหนก็ไม่มีใครแม้นแต่คนเดียว ไม่รู้จะเดินไปในทิศทางไหนดี

“ครับคุณแม่ผมสัญญา...”

....ติดตามต่อเน้อ......




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2552
2 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 16:33:44 น.
Counter : 281 Pageviews.

 

วันนี้ได้อ่านที่เดียวสามตอนรวด ดีจัง
เรื่องออกแนวจะเศร้าอีกแล้ว ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้ามั๊ยเนี้ย
เห็นแววรำไร.....สงสารกาละจัง
ชาตินี้อุตสาห์มาเจอกัน ให้เจอกันแค่ไม่กี่วันเอง
เศร้าจัง.......

คืนนี้ไปฉลองเหรอค่ะ สงสัยเหล้าเพียบ
ทานเหล้าป่าวเอ่ย......
ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 25 ธันวาคม 2552 16:00:45 น.  

 

อ้าว.....ยังไม่อัพอีกเหรอจ๊ะ

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 25 ธันวาคม 2552 21:19:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ผัสสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ่งที่รู้ รู้อะไร รู้ในสิ่งจริง หรือ สิ่งลวง หรือ ลวงในสิ่งจริง

คิด คิด ...คิด แล้ว จะ รู้ หรือ รู้ เพราะ ไม่คิด

".. ผัสสะ
Friends' blogs
[Add ผัสสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.