ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ จะเริ่มทำภารกิจปลดอาวุธเคมีของซีเรียในวันอังคารนี้ โดยจะมีการหารือกับรัฐบาลซีเรีย เรื่องการลงพื้นที่ตรวจสอบ และการทำลายอาวุธเคมีทั้งหมด ภายในกลางปี 2014...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวัน 30 ก.ย. ว่า ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติของ องค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) กำลังเตรียมการเพื่อเริ่มทำภารกิจปลดอาวุธเคมีของประเทศซีเรียในวันอังคารนี้ ขณะที่คณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเดินทางกลับมายังประเทศซีเรียอีกครั้งตั้งแต่เมื่อวันพุธ (25 ก.ย.) ได้ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการกล่าวหาว่าเกิดการใช้อาวุธเคมีไปแล้ว 7 จุด และเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบอีกหลายจุดในวันจันทร์ ท่ามกลางการปะทะระหว่างกองกำลังฝ่ายกบฏและรัฐบาล ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญจากโอพีซีดับเบิลยู เดินทางเข้าสู่ซีเรียซึ่งกำลังเกิดสงครามกลางเมืองแล้วเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อเริ่มทำภารกิจปลดอาวุธเคมีซีเรียในวันอังคารนี้ (1 ต.ค.) ตามการมอบหมายของยูเอ็น โดยจะมีการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของ ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เรื่องการลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งผลิตและคลังแสงอาวุธเคมีในซีเรีย และจะช่วยซีเรียในการทำลายขีดความสามารถในการผลิตอาวุธเคมีภายในวันที่ 1 พ.ย.
ขณะเดียวกัน คณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีของยูเอ็นจะลงพื้นที่ตรวจสอบ การใช้อาวุธเคมีในพื้นที่ที่ฝ่ายกบฏและฝ่ายรัฐบาลกล่าวอ้างเพิ่มเติมในวันจันทร์ และหวังจะทำรายงานสรุปผลการตรวจสอบให้เสร็จภายในเดือนต.ค. ท่ามกลางเหตุความไม่สงบในซีเรีย ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 12 คน หลังกองทัพรัฐบาลซีเรียโจมตีทางอากาศใส่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองรากา ที่กลุ่มกบฏยึดครองอยู่ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี
ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลซีเรียและกลุ่มกบฏ ต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าใช้อาวุธเคมี จนกระทั้งเกิดการใช้อาวุธเคมี โจมตีเขตชานกรุงดามัสกัสจนมีผู้เสียชีวิตนับพันคน เมื่อวันที่ 21 ส.ค. โดยสหรัฐกล่าวหารัฐบาลซีเรียว่าเป็นผู้อยู้เบื้องหลัง และพยายามาเรียกร้องให้นานาชาติใช้กำลังทหารกับซีเรียเพื่อลงโทษ ก่อนที่รัฐบาลอัสซาด จะยอมทำตามข้อตกลงระหว่างรัสเซีย ซึ่งกำหนดให้ซีเรียเปิดเผยข้อมูลอาวุธเคมีทั้งหมด, เข้าร่วมเป็นสมาชิกของโอพีซีดับเบิลยู และทำลายอาวุธเคมีทั้งหมดภายในกลางปี 2014 เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) สมาชิก 15 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ลงมติเห็นชอบข้อมติ 2118 รับรองแผนทำลายอาวุธเคมีซีเรีย ให้เป็นไปตามที่สหรัฐฯและรัสเซียตกลงกัน ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ และตกลงกันว่า ให้ใช้กฎบัตรสหประชาชาติมาตรา 7 ซึ่งอนุญาตให้ลงโทษอัตโนมัติ ทั้งคว่ำบาตรและใช้กำลังทหาร กรณีซีเรียไม่ปฏิบัติตามแผน แต่ต้องผ่านการลงมติกันอีกครั้งเสียก่อน