หลังการพบปะเจรจากันเมื่อ 20 พ.ค. ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงชมเชยประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำพม่าคนแรกที่เยือนทำเนียบขาวในรอบ 47 ปี ถัดจากนายพลเนวิน อดีตผู้นำรัฐบาลทหาร ซึ่งพบปะกับประธานาธิบดีลินดอน จอห์นสัน เมื่อปี 2505...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำโอบามาชื่นชมความพยายามของเต็ง เส่ง ในการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจว่านำพม่าสู่ทิศทางใหม่ สหรัฐฯพร้อมช่วยพม่าก้าวเดินสู่ทิศทางที่ถูกต้องแต่ยาวไกลและยากลำบากนี้ เขายังยอมรับว่าเต็ง เส่ง พยายามอย่างแท้จริงที่จะแก้ปัญหาความรุนแรงด้านเชื้อชาติอันซับซ้อนยาวนาน แต่วิตกกังวลสุดซึ้งในชะตากรรมของชาวมุสลิมโรฮิงญา หลังเกิดการปะทะระหว่างชาวมุสลิมในรัฐยะไข่และเมืองเมกติลาทางภาคกลาง พร้อมย้ำว่า ความรุนแรงซึ่งทำให้มีผู้พลัดถิ่นฐานบ้านช่องจำนวนมากต้องยุติ

โอบามายังเรียกชื่อประเทศพม่าว่า “เมียนมาร์” เป็นครั้งแรก จากเดิมว่า “พม่า” เพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารในอดีต ส่วนเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯใช้คำเรียกพม่าว่าเมียนมาร์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแสดงไมตรีจิตตอบแทนการปฏิรูป แต่นายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกรัฐฟลอริดา กล่าวหารัฐบาลโอบามาว่าตกรางวัลพม่าเร็วเกินไป ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าการปฏิรูปจะลงเอยอย่างไร

ด้านเต็ง เส่ง แถลงผ่านล่ามว่า พม่ามีความท้าทายมากมาย แต่เพื่อให้ประชาธิปไตยเบ่งบาน  พม่าต้องก้าวไปข้างหน้า ปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง ผู้นำพม่ายังกล่าวที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์ ในวอชิงตันว่า ช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายมักเต็มไปด้วยภยันตราย แต่ตนรู้จักประเทศชาติประชาชนดีว่าต้องการเห็นประชาธิปไตยฝังรากลึก พม่าต้องสร้างเอกภาพใหม่ที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมมากขึ้น การแบ่งแยกและความรุนแรงระหว่างเชื้อชาติ ศาสนาต้องยุติ ผู้กระทำความผิดทั้งหมดต้องถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม ขอให้นานาชาติสนับสนุนการปฏิรูปพม่าอย่างเต็มที่ เชื้อเชิญให้บริษัทอเมริกันไปลงทุนในพม่า โดยสัญญาว่าพม่าจะโปร่งใสและปกป้องคนงานมากขึ้น

วันเดียวกัน ศาลพม่าตัดสินจำคุกชายมุสลิม 7 คน เป็นเวลา 2 ปี ถึงตลอดชีวิต ในข้อหาสังหารพระสงฆ์รูปหนึ่งขณะเกิดความรุนแรงระหว่างชาวพุทธ-มุสลิม ที่เมืองเมกติลา เมื่อเดือน มี.ค. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 43 ราย พลัดถิ่นฐานกว่า 12,000 คน

อนึ่ง สหรัฐฯแถลงว่า โอบามาจะจัดประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำใหม่ของจีนเป็นครั้งแรกที่เขตแรนโช มิราจ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ใน 7-8 มิ.ย.นี้ คาดว่าประเด็นหารือรวมทั้งเรื่องซีเรีย เกาหลีเหนือ กรณีพิพาทในทะเลจีนใต้ และการจารกรรมข้อมูลทางคอมพิวเตอร์.