องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ออกหมายจับ ซาแมนธา ลิวธ์เวท ฉายา แม่ม่ายขาว ตามคำขอของเคนยา ที่สงสัยว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีกราดยิงภายห้างสรรพสินค้าในกรุงไนโรบี...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่า องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โปล) ออกหมายจับนาง ซาแมนธา ลิวธ์เวท หญิงชาวอังกฤษวัย 29 ปี เจ้าของฉายา 'แม่ม่ายขาว' เป็นภรรยาม่ายของ 1 ใน 4 มือระเบิดพลีชีพที่เข้าจู่โจมลอนดอนเมื่อวันที่ 7 กค. ปี 2005 เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อโลก

เมื่อวันพฤหัสบดี อินเตอร์โปล ได้ส่งประกาศระดับสีแดง (red notice) แก่ ประเทศสมาชิกทั้ง 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อให้ช่วยกันค้นหา, ระบุรูปพรรณ และระบุที่อยู่ของนางลิวธ์เวท รวมถึงจับกุมเพื่อรอการส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นไปตามคำร้องของตำรวจเคนยา ซึ่งเชื่อว่า หญิงคนนี้ มีส่วนเกียวข้อกับเหตุโจมตีและจับตัวประกันที่ห้างสรรพสินค้า 'เวสต์เกท มอลล์' ในกรุงไนโรบีเป็นเวลา 4 วันเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้รอดชีวิตคนหนึ่งระบุว่า เห็นผู้หญิงผิวขาวอยู่ในกลุ่มผู้โจมตีด้วย

ทั้งนี้ ซาแมนธา ลิวธ์เวท เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจเคนยามานานหลายปี หลังจากเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อการร้าย ที่จุดท่องเที่ยวสำคัญในเคนยาในปี 2011 ทำให้ลิวธิเวทต้องหลบหนีตั้งแต่นั้นมา และได้ฉายา แม่ม่ายขาว เนื่องจาก เจอร์เมน ลินเซย์ สามีของเธอร่วมกับพวกก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2005 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 56 ราย อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีคดีใด ที่เจ้าหน้าที่สามารถหาหลักฐานเพียงพอจะเอาผิดเธอได้เลย

อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของประเทศเคนยา รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างชาติช่วยกันค้นหาและขุดค้นซากปรักหักพังของห้างฯ เวสต์เกท มอลล์ ซึ่งพังถล่มลงมาส่วนหนึ่ง ระหว่างปฏิบัติการยุติเหตุจับตัวประกันฝีมือกลุ่มติดอาวุธ 'อัล-ชาบับ' ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศโซมาเลีย ซึ่งเริ่มขึ้นในวันเสาร์และสิ้นสุดลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยยังไม่แน่ชัดว่าจะพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมหรือไม่

เมื่อวันอังคาร (24 ก.ย.) ประธานาธิบดีอูฮูรู เคนยัตตา แห่งเคนยา ประกาศการสิ้นสุดของปฏิบัติการยุติเหตุจับตัวประกัน พร้อมระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ทั้งหมด 72 ราย แบ่งเป็น พลเมือง 61 ราย, เจ้าหน้าที่ความมั่นคง 6 นาย, ผู้ก่อการร้ายอีก 5 ราย  และจับกุมผู้ก่อการร้ายได้ 11 คน ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแห่งเคนยากล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจไม่เพิ่มขึ้นอีก แต่หากพบศพก็น่าจะเป็นศพของผู้ก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม สภากาชาดแห่งประเทศเคนยาระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังมีผู้สูญหายในเหตุการณ์นี้อีก 61 คน