รัฐบาลเยอรมนีเตรียมส่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองไปสหรัฐอเมริกา เพื่อผลักดันการหารือและขอคำตอบ กรณีอื้อฉาวที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯถูกกล่าวหาว่า ดักฟังโทรศัพท์ของผู้นำเยอรมนี และอื่นๆ...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ว่า ประเทศเยอรมนีเตรียมส่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองไปยังสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์หน้า เพื่อผลักดันการหารือและขอคำตอบข้อกล่าวหาที่ว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ของสหรัฐฯ แอบดักฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล รวมถึงโครงการสอดแนมอื่นๆของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
สื่อในประเทศต่างๆได้เผยแพร่ข้อมูลจากเอกสารลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่รั่วไหลออกมาโดยฝีมือของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ของซีไอเอและเอ็นเอสเอ กล่าวหาสหรัฐฯว่าสอดแนมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของพลเรือน รวมถึงดักฟังโทรศัพท์ในหลยประเทศ สร้างกระแสความไม่พอใจไปทั่วโลก แต่ความไม่พอใจต่อสหรัฐฯรุนแรงมากขึ้นหลังจาก มีการกล่าวหาว่าผู้นำหลายประเทศรวมถึงประธานาธิบดีบราซิลและเม็กซิโก ตกเป็นเหยื่อถูกสหรัฐฯสอดแนมด้วย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องอื้อฉาวของสหรัฐฯแผ่ขยายไปทั่วยุโรป โดยล่่าสุดมีรายงานกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าดักฟังโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ทำให้รัฐบาลเมืองเบีย์เรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงเบอร์ลินเข้าชี้แจงทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักระหว่างประเทศพันธมิตร
เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) นาย เกย็อก สไตรเทอร์ โฆษกรัฐบาลเยอรมนีกล่าวว่า ผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาล รวมถึงหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทั้งภายในและนอกประเทศ จะเดินทางไปสหรัฐฯโดยเร็ว เพื่อผลักดันให้มีการเจรจาหารือกับทำเนียบขาว และสำนักงานเอ็นเอสดี ในเรื่องข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาที่มีต่อโครงการสอดแนมของสหรัฐฯ ทำให้เหล่าผู้นำประเทศยุโรปเรียกร้อง ในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้มีข้อตกลงใหม่กับสหรัฐฯ ในเรื่องการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง เพื่อให้สามารถคงความเป็นพันธมิตรสำคัญและสามารถต่อสู้ต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายต่อไปได้ ขณะที่แถลงการณ์ปิดการประชุมของผู้นำยุโรประบุว่า "ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างอียูและสหรัฐฯ ต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานของความเคารพและความเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อความร่วมมือในการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองที่จำเป็นได้"
นอกจากนี้ เยอรมนีและบราซิลยังพยายามผลักดันร่างข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของนานาประเทศ ต่อการสอดแนมข้อมูลของสหรัฐฯในประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ร่างข้อมติสหประชาชาติดังกล่าว มิได้เอ่ยถึงสหรัฐฯโดยตรง แต่เรียกร้องให้ให้มีการขยายขอบเขตข้อตกลงร่วมระหว่างประเทศ ด้านสิทธิการปกครองและพลเรือน ให้ครอบคลุมกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตด้วย.