ประธานาธิบดี เบนิญโญ่ อากีโน ที่3 แห่งฟิลิปปินส์ประกาศจะพักอาศัยในเมืองตาโกลบัน ซึ่งได้รับความเสียหายจากไต้ฝุ่น ไห่เยี่ยน มากที่สุด จนกว่าจะเห็นความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่เรือรบอังกฤษเดินทางถึงเกาะเซบูแล้ว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดี เบนิญโญ่ อากีโน ที่3 ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ ว่าเขาจะอยู่ที่เมืองตาโกลบัน เมืองเอกของจังหวัดเลย์เต ซึ่งได้รับความเสียหายจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่น 'ไห่เยี่ยน' มากที่สุด จนกว่าเขาจะเห็นความคืบหน้าในกระบวนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังจากก่อนหน้านี้เขาถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความล่าช้าในการขนส่งเสบียงอาหารพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ

นายอากีโนเผยต่อผู้สื่อข่าวขณะอยู่ที่เมืองตาโกลบันในวันอาทิตย์ว่า ความช่วยเหลือขนานใหญ่จากประชาคมนานาชาติ ซึ่งบริจาคทั้งเสบียงอาหารและเงินมูลค่ารวมกว่า 248 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำลังเริ่มแสดงให้เห็นสภาพที่ดีขึ้นในเมืองตาโกลบัน "เราอยากช่วยแบ่งเบาภาระของทุกคนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และตราบเท่าที่ผมยังไม่เห็นพัฒนาการใดๆ ผมและทีมเจ้าหน้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป" นายอากีโนกล่าว

จากการเปิดเผยล่าสุดของ คณะกรรมการบริหารและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติ (เอ็นดีอาร์อาร์เอ็มซี) เมื่อวันอาทิตย์เวลา 18:00น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งขึ้นฝั่งทางตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ส่งผลกระทบต่อประชาชน 10,174,296 คน ใน 44 จังหวัด บ้านเรือนถูกทำลายหรือพังเสียหาย 543,127 หลัง พบผู้เสียชีวิตแล้ว 3,976 ราย บาดเจ็บ 18,175 คน และสูญหายอีก 1,590 คน รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 10,339,290,061 เปโซ (ราว 7.48 พันล้านบาท)

จนถึงขณะนี้ ในเมืองตาโกลบันที่พื้นที่ที่มีไฟฟ้าใช้เพียงไม่กี่จุดเท่านั้น โดยเป็นไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟพลังงานดีเซล น้ำประปายังไม่ไหล ทำให้ประชาชนต้องใช้แทงก์เก็บน้ำในการบริหารจัดการน้ำ ขณะที่ ริคกี การันดัง โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผยว่า นายอากีโนต้องการรับประกันว่า การแจกจ่ายเสบียงและสิ่งของบรรเทาทุกข์จะเป็นไปอย่างลื่นไหล และจะฟื้นฟูระบบพลังงานในเมืองตาโกลบันให้เร็วที่สุด

เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนในภูมิภาคนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ไร้บ้านจากอิทธิพลของพายุไห่เยี่ยน เดินทางไปโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอริก เพื่อทำพิธีมิสซาครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกพายุถล่ม โดยบางคนมาเพื่อต้องการขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยให้ตนเองรอดชีวิต ขณะที่บางส่วนต้องการสวดภาวนาแก่ผู้เสียชีวิต

ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการช่วยเหลือของนานาชาติยังคงดำเนินต่อไป เฮลิคอปเตอร์หลายลำของสหรัฐฯเดินทางขนส่งเสบียงอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากเรือบรรทุกเครื่องบิน 'ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน' แก่ผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ห่างจากสนามบินตาโกลบิน สถานที่หลักในการแจกจ่ายเสบียงอาหาร อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติเตือนว่า ยังคงมีประชาชนที่กำลังหิวโหยในพื้นที่แถบเทือกเขา และแสดงความเป็นห่วงด้านสาธารณสุขและการใช้ชีวิตของผู้ประสบภัย

อีกด้านหนึ่ง เรือพิฆาต 'เอชเอ็มเอส แดริง' ของอังกฤษ เดินทางถึงชายฝั่งเกาะเซบูแล้วในวันอาทิตย์ เพื่อช่วยในปฏิบัติการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย โดยลูกเรือกำลังเตรียมการขนส่งเสบียงไปยังเกาะ ปาไนย์ ทางตะวันตกของเกาะเซบู ก่อนที่ 'เอชเอ็มเอส อิลลัสเทรียส' เรือรบอีกลำของอังกฤษ จะตามมาสมทบในเร็วๆนี้