พระพุทธประวัติ ตอนที่ ๑๔๓ : สิงคาลมานพ
หลังจากที่โปรดเหล่าชฎิล พระพุทธองค์ได้เสด็จจากอุรุเวลาไปสู่นครราชคฤห์ตามที่เคยได้สัญญาไว้กับพระเจ้าพิมพิสารว่า เมื่อพระองค์บรรลุธรรมแล้ว จักเสด็จกลับมาสั่งสอนพระราชาและประชาชนแห่งนครนั้นให้รู้ตามด้วย พระเจ้าพิมพิสารและชาวนครราชคฤห์ ได้ทำการต้อนรับพระองค์ ด้วยความยินดีอย่างสูงสุดในข้อที่ว่าพระองค์ได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเสด็จมาโปรดเขาเหล่านั้น ณ ที่สวนตาลหนุ่มแห่งหนึ่ง พระองค์ได้ทรงสั่งสอนชี้แจงด้วยพระหฤทัยอันเต็มไปด้วยพระกรุณา โดยวิธีต่างๆ จนกระทั่งพระราชาและประชาชนเหล่านั้น มีความเข้าใจในธรรม ประกาศตนเป็นพระสาวกของพระองค์ พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงแสดงความเคารพนับถือ ในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ให้ปรากฏออกมาโดยการทรงถวายอุทยานเวฬุวัน ให้เป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เช้าวันหนึ่ง พระองค์เสด็จออกจาอุทยานเวฬุวัน เพื่อไปบิณฑบาตในนครราชคฤห์ ในระหว่างทางพระองค์ได้ทรงพบชายหนุ่มคนหนึ่งเนื้อตัวเปียกชุมไปหมด ราวกับว่าเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ ยืนอยู่กลางถนน ทำอาการโค้งตัวนบไหว้ทิศทั้งสี่ คือทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือ แล้วไหว้แหงนขึ้นไปบนฟ้าและไหว้ลงไปทางพื้นดินแทบเท้าของตนในที่สุด และได้โปรยเมล็ดข้าวไปทุกทิศ ในขณะที่ตนกำลังทำการนบไหว้ พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรดูชายหนุ่มคนนั้น ซึ่งกระทำพิธีอันแปลกประหลาดอยู่บนทางสาธารณะจนเสร็จแล้ว ได้ตรัสถามเขาว่า ทำไมเขาจึงทำอย่างนั้น ชายหนุ่มคนนั้นได้ทูลตอบว่า เขาทำเช่นนั้นตามคำสั่งของบิดาซึ่งได้สั่งให้เขากระทำทุกๆเวลาเช้า เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งชั่วร้ายทุกประการ มิให้เข้ามาสู่ตัวเขาทางทิศทั้งสี่และจากเทวดาในเบื้องบนและจากปีศาจในเบื้องต่ำ บิดาของเขาได้ขอร้องเขาเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อกำลังจะสิ้นชีพ ให้เขาทำเช่นนั้น ดังนั้น เขาจึงไม่อาจฝ่าฝืนความประสงค์ของบิดา นับตั้งแต่วันที่บิดาของเขาสิ้นชีพเป็นต้นมา เขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด โดยไม่มีขาดสักวันเดียว พระพุทธองค์ได้ทรงฟังคำตอบของเขาดังนั้นแล้ว ได้ตรัสว่า "เป็นการถูกต้องอย่างยิ่ง สำหรับท่านที่รักษาคำมั่นสัญญาอันได้ให้ไว้กะบิดา ขณะที่จะสิ้นชีพอย่างซื่อสัตย์แต่ว่าสิ่งที่ท่านกระทำนั้น ยังไม่ตรงตามที่บิดาของท่านมุ่งหมาย " "ข้อบิดาของท่านสั่งให้ท่านทำการนบไหว้ และโปรยอาหารไปทางทิศตะวันออกนั้น บิดาของท่านหมายความว่าท่านจะต้องแสดงความเคารพสักการะต่อบุคคล ซึ่งให้กำเนิดชีวิตแก่ท่าน โดยเฉพาะ ก็คือมารดาบิดานั่นเอง, การนบไหว้ทางทิศใต้นั้น บิดาของท่านหมายถึงการเคารพสักการะครูบาอาจารย์ ซึ่งสั่งสอนวิชาความรู้ให้ท่าน, การนบไหว้ทางทิศตะวันตกนั้น หมายถึงการทนุถนอมเลี้ยงดูบุตรและภรรยา, การนบไหว้ทางทิศเหนือหมายถึงการเคารพนับถือสงเคราะห์วงศ์ญาติและมิตรสหาย, การนบไหว้ทางทิศเบื้องบนหมายถึงการสักการะบูชาบุคคลผู้มีความดี ความงาม ความประเสริฐ เช่น สมณะและพราหมณ์ เป็นต้น, สำหรับการไหว้ลงเบื้องต่ำทางพื้นดินนั้น หมายถึงการยอมรับนับถือสิทธิในการแสวงสุข และการมีชีวิตของสัตว์ต่ำๆ ทุกประเภทแม้แต่สัตว์ที่ถือกันว่าเล็กและเลวที่สุด ซึ่งอาศัยอยู่ในแผ่นดิน บิดาของท่านมุ่งหมายอย่างนี้ จึงได้สั่งให้นบไหว้เช่นนั้น และเป็นการป้องกันอันตรายทุกอย่างอันจะมาถึงทางจากทุกทิศทุกทาง ได้จริง" พระองค์ได้ทรงอธิบายให้ชายหนุ่มซึ่งมีนามว่า สิงคาละ คนนี้ เข้าใจโดยละเอียด ในสิ่งที่เขาจะต้องประพฤติต่อตนเอง และต่อบุคคลอื่น เพื่อให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พระองค์ได้ทรงแนะนำให้สิงคาละเว้นจากการฆ่า, เว้นจากการลักขโมย, จากการล่วงเกินคนรักของบุคคลอื่น, จากการพูดเท็จ, และการดื่มน้ำเมาทุกชนิด พระองค์ทรงแนะนำให้เขาทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียร เพื่อการสะสมทรัพย์และในการรักษาทรัพย์ซึ่งหามาได้แล้ว แต่ก็อย่าได้หลงละโมภหรือบริโภคใช้สอยทรัพย์นั้น เพื่อประโยชน์แก่ตนแต่ผู้เดียว และไม่ใช้ทรัพย์ไปในทางสุรุ่ยสุร่ายอย่างโง่เขลา ทรงแนะให้ใช้ทรัพย์จำนวนหนึ่งในสี่ เพื่อการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวหนึ่งในสี่ในการขยายการงานอาชีพของตนให้กว้างขวางออกไป หนึ่งในสี่ในการช่วยเหลือคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ และอีกหนึ่งในสี่เก็บไว้เป็นทุนสำรองเมื่อคราวภัยพิบัติเกิดขึ้นจักได้ใช้สอยทันท่วงที สิงคาละได้ตั้งใจฟังคำแนะนำของพระองค์ด้วยความเคารพและได้กราบทูลแก่พระองค์ว่าเมื่อบิดาของเขายังมีชีวิตอยู่นั้น เขาเองได้กล่าวกับบิดาของเขาอยู่บ่อยๆ ถึงข่าวเล่าลืออันเกี่ยวกับพระองค์ว่าทรงเป็นศาสดาเอกและได้พยายามขอร้องให้บิดาของเขาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อรับคำสั่งสอน แต่บิดาของเขาได้ปฏิเสธเสียทุกคราวไป โดยพูดว่าลำบากเกินไปบ้าง เหนื่อยเปล่าบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในการเดินทางบ้าง กล่าวดังนี้แล้วชายหนุ่มชื่อสิงคาละนั้นได้ทูลขอร้องให้พระพุทธองค์ทรงยกโทษให้แก่บิดาของเขา และตัวเขาเอง ขอสมัครเป็นสาวกของพระองค์ ยืนยันในการที่จะทำการไหว้ทิศทั้งหก ตามวิธีที่พระองค์แนะนำโดยครบถ้วนจนตลอดชีวิต (จากสิงคาโลวาทสูตร ในคัมภีร์ฑีฆนิกาย)
Create Date : 16 กรกฎาคม 2554
Last Update : 16 กรกฎาคม 2554 18:52:27 น.
0 comments
Counter : 2267 Pageviews.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [? ]
ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์ ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email : nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.