ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

.+*+. เมื่อความรักเป็นเรื่องดี .+*+.

.+*+. เมื่อความรักเป็นเรื่องดี .+*+.


มื่อความรักเป็นเรื่องดี
เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ สำหรับคนสองคน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อวันที่คนสองคนมาถึง จุดสำคัญ หรือเรียกว่า จุดผันแปล
เมื่อคนสองคนมีกันดีอยู่แล้ว ทำไมจึงมีคนที่สามตามมา
ทำไมต้องมีน้ำตาสำหรับความรักของคนสองคน
และทำไมคนรักกัน จึงต้องมีคนนึงยอม ยอมทุกอย่าง
แต่อีกคนกลับมีความสุขบนความทุกข์ของคนอีกคน
ทำไมคนสองคนจึงต้องทำร้ายกันอยู่เสมอ
และทำไม คนสองคน จึงทำให้คนๆนึงแทบบ้า
เพราะคนๆนึง เป็นต้นเหตุให้คนๆนึงเสียใจ
แต่อีกคนนึงกลับมีความสุขกับคนๆนึง

และเมื่อคนๆนึงทำใจ และคนๆนึงกลับมาขอคืนดี
คนๆนึงก็อยากมีวันคืนที่ดีสำหรับเราสองคน
แค่ทุกอย่างเมื่อให้อภัย ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
คนๆนึงจึงควรทำอย่างไร
จะยังคงให้อภัยคนๆนึง และรักคนๆนึงอยู่อย่างนั้นต่อไป หรือ
เขาควรจะตัดใจ ตัดขาดจากคนๆนึง จบทุกความรู้สึก
และความทรงจำ ของคนสองคน
และความรักที่ใครต่อใครคิดว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์
ที่ใครๆบอกว่าดี มีแต่ความสุข มีแต่รอยยิ้ม
แต่ทำไมสิ่งที่ฉันเจอ มันเป็นแค่เวลาชั่วคราว และเฉพาะตอนที่เขาต้องการเรา
แล้วเราก็ต้องกลับมานั่งร้องไห้ให้กับคนๆนึงที่ทำให้เจ็บช้ำตลอดเวลา
คนๆนึงสามารถทำให้คนๆนึง เจ็บปวดจนแทบบ้า
และจำไปตลอดชีวิตของเขากับคนๆนึงคนนี้

PopUpGiZa

-----------------------------------------------------------------

ทุกๆสิ่งล้วนแล้วต้องมีอีกสิ่งเป็นส่วนประกอบ ซึ่งมันจะทำให้ค่าของ

สิ่งนั้นแสดงปฏิกิริยาได้ออกมาอย่างชัดเจน หากคุณไม่เจอกับสิ่งนั้นๆ

ซึ่งทำให้คุณเสียใจ คุณก็จะไม่รู้เลยว่าคุณกำลังถูกหลอก...หากคุณไม่รู้

ว่าคุณถูกหลอกคุณก็จะไม่ตาสว่าง เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่

ชีวิตของเราจะต้องเจอกับสิ่งต่างๆมากมาย ดิฉันก็เคยคิดเหมือนกัน

หากขาดคนๆนั้นไปคงจะรักใครอีกไม่ได้ หลังจากผ่านพ้นมาทุกอย่างก็ดีขึ้น
หัวใจมีแผลเป็นบ้างเล็กน้อย นั้นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ซึ่งแสดงถึงความโลด

โผนของหัวใจที่ได้หลงรักใคร อย่างน้อยมันก็เป็นหลักฐานยืนยันว่า

เราก็รักคนๆนึงเป็นเหมือนกัน…อย่างน้อยก็ได้เป็นบทเรียนว่ารักครั้งนี้มันช่าง

ช้ำแทบขาดใจ แต่อย่างไรเราก็ได้รับวัคซีนทำให้ใจเรานั้นเข้มแข็งขึ้นแล้วนะ

แต่อย่าดื้อยาจนใจแข็งเป็นหินล่ะเพราะนอกจากจะทำร้ายจิตของเราเองแล้ว

มันยังเป็นป้อมปราการที่ปิดโอกาสตัวเองแล้วคนอื่นอีกด้วย

อยากให้เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา ไม่ใช่ให้นำมาแทนที่คนเก่านะ

แต่ใจคนเรามีที่พอที่จะเปิดรับคนใหม่ๆเข้ามาอยู่เสมอ ไม่ถูกใจไม่เป็นไร

สิ่งที่ยังหลงเหลือก็คือมิตรภาพ มันก็มีค่าพอๆกับความรักความหลงใหลไม่ใช่เหรอ


ปล . เครดิต คุณ Neyriney




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 3 มิถุนายน 2551 10:04:12 น.   
Counter : 245 Pageviews.  

เรื่องขนมคุ้กกี้ห่อหนึ่ง

เรื่องขนมคุ้กกี้ห่อหนึ่ง......

> > > >
> > > > ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดี
> > > > >จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ชั่วโมง ในการเปลี่ยน
> > > เครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง
> > > > เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่มและคุ๊กกี้ 1 ห่อ
> > > > และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกินฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
> > > > เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง เธอสังเกตเห็นว่าข้างๆ
>เธอมีชายหนุ่ม
> > > > ซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
> > สักครู่หนึ่ง
> > > ขณะที่เธออ่านหนังสือ ชาย
> > > > หนุ่มก็หยิบขนมคุ๊กกี้ออกจากถุง ซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง
> > > > แล้วกินมันอย่างละชิ้น เธอมองด้วยความโกรธ
>แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย
> > > > เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ
> > > >
> > > > เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ามองนาฬิกา
> > > ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย กำลังกินมัน
> > > > ให้หมดสิ้นไป เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า
> > > > "ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็..ฉันจะชก
> > หน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย"
> > > > ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น
> > > ทั้งสองส่งสายตามองกัน เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้น
> > > > สุดท้าย เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร
> > > > ชายหนุ่มค่อย ๆ หยิบคุ๊กกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น 2 ชิ้น
> > > ส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น เธอรับ
> > > > จากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า "เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุด ๆ
> > > ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้
> > > > แต่พูดขอบคุณสักคำ"
> > > >
> > > > เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง
> > > >
>ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
> > > > ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่อย่างสบายแล้ว
> > > > เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
> > > > ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ
>เธอตกใจมาก
> > > > ถ้าคุ๊กกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า.....
> > > > คุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกินเธอลุกขึ้นทันที
> > > > แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม
> > > แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า
> > > > มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง
> > > > เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท
> > > เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง
> > > >
> > > > มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า
> > > > สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงมันเป็นการเข้าใจผิด
> > > > มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น
> > > > และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง
> > > > ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย
> > > > นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนตัดสินผู้อื่นหลาย ๆ
> > > > สิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ควรมองผู้อื่นในแง่ดี
>แล้วคอยสังสัยตัวเองว่า
> > > > "เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?
>เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่"



ปล . เครดิต คุณ Neyriney




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2551 13:51:10 น.   
Counter : 287 Pageviews.  

+*+. สิ่งที่ได้มา..และสิ่งที่เสียไป .+*+.

เราสร้างตึกที่สูงขึ้น แต่วัดที่เตี้ยลง
เรามีทางด่วนที่กว้างมากขึ้น แต่มีทัศนคติที่แคบลง
เราใช้จ่ายมากขึ้น แต่เรามีน้อยลง
เราซื้อมากขึ้น แต่เรามีความสุขกับของนั้นน้อยลง
เรามีบ้านที่ใหญ่มากขึ้น แต่มีครอบครัวที่เล็กลง
เราสะดวกสะบายมากขึ้น แต่มีเวลาน้อยลง
เรามีการศึกษามากขึ้น แต่มีสามัญสำนึกน้อยลง
เรามีความรู้มากขึ้น แต่มีการตัดสินน้อยลง
เรามีผู้ชำนาญการมากขึ้น แต่ก็มีปัญหามากขึ้น
เรามียามากขึ้น แต่ความ”อยู่ดี”น้อยลง
เราเพิ่มพูนสิ่งที่เราเป็นเจ้าของ แต่ลดค่าของมันลงไป
เราพูดมาก แทบจะไม่ให้ความรัก และก็เกลียดกันบ่อยเกินไป
เราเรียนรู้ว่าจะหาเลี้ยงชีวิตอย่างไร
แต่เราไม่ได้เรียนรู้ว่าชีวิตคืออะไร
เราทำให้การมีชีวิตยาวนานขึ้น แต่เราไม่ได้ใช้ชีวิตที่แท้จริง
เราเดินทางไปกลับถึงพระจันทร์
แต่เรามีปัญหาแค่จะเดินข้ามถนนไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน
เราชนะปัจจัยภายนอก แต่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายใน
เราทำให้อากาศสะอาดขึ้น แต่เราทำให้วิญญาณของเราสกปรก
เราสลายอะตอม แต่ไม่ใช่ความลำเอียง
เรามีเงินเดือนมากขึ้น แต่ศีลธรรมน้อยลง
เรามีปริมาณมากขึ้น แต่คุณภาพน้อยลง
ยังมีช่วงเวลาของชายที่สูงใหญ่ แต่ไม่มีลักษณะเฉพาะตัว
มีกำไรมากมาย แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้คน
ยังมีช่วงเวลาที่โลกสงบสุข แต่ยังมีสงครามภายใน
มีกิจกรรมมากขึ้น แต่สนุกน้อยลง มีอาหารหลากชนิดมากขึ้น
แต่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร
ยังมีช่วงเวลาที่คนแต่งงานกันมากขึ้น แต่ก็มีการหย่าร้างกันมากขึ้น
มีบ้านที่สวยงาม แต่ก็มีบ้านแตกสาแหรกขาด
มันคือช่วงเวลาที่มีอะไรมากมายโชว์อยู่ตรงหน้าต่าง
แต่ไม่มีอะไรอยู่ในห้องเก็บสต๊อกเลย
คือเวลาที่เทคโนโลยีสามารถนำจดหมายฉบับนี้มาสู่ท่านได้
และนี่ก็คือเวลาที่คุณจะเป็นผู้เลือกที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง
หรือ...แค่กดปุ่ม”ลบทิ้ง” ส่งข้อความนี้ไปให้คนที่คุณห่วงใย
“สิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับผู้ที่มองโลกในแง่ดี”


ปล . เครดิต คุณ Neyriney




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2551 13:51:05 น.   
Counter : 372 Pageviews.  

.+*+. ค่ า ข อ ง ชี วิ ต .+*+.

.+*+. ค่ า ข อ ง ชี วิ ต .+*+.

นานมาแล้ว ... มีพระราชาผู้หนึ่ง ได้บอกกับคนขี่ม้าของเขาว่า
ถ้าเขาสามารถขี่ม้าไปครองพื้นที่ได้มากเท่าไรก็ตาม
พระราชาจะยกที่ดินนั้นให้กับเขา คนขี่ม้าจึงควบม้าของเขา
ไปอย่างรวดเร็วด เพื่อครอบครองที่ดินให้มากเท่าที่จะทำได้
เขาเร่งควบม้าไปเรื่อย ๆ เร็วเท่าที่ม้าจะรับไหว ...
เมื่อเขาหิว หรือเหนื่อย เขาก็ไม่หยุดควบม้า
เพราะเขาต้องการครอบครองดินแดนให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเขาหมดแรง และกำลังจะตาย เขาจึงถามตัวเองว่า ...
" ทำไมเราถึงกดดันตัวเองอย่างหนักเพื่อให้ได้ครอบครองผืนดิน?
ตอนนี้เรากำลังจะตาย และเราก็ต้องการเพียงแค่ที่ดินเล็ก ๆ เพื่อฝังศพตัวเอง "

... เรื่องข้างต้นก็เหมือนการเดินทางของชีวิตพวกเรา ...
พวกเราผลักดันตัวเองอย่างทุกวันเพื่อให้ได้เงินมากๆ มีอำนาจ และ เป็นที่ยอมรับ
พวกเราละเลยที่จะดูแลสุขภาพของตัวเอง และคนรอบข้าง ...
เราไม่มีแม้เวลาที่จะให้กับครอบครัว และชื่นชมกับสิ่งสวยงามรอบตัว
หรือแม้กระทั่ง งานอดิเรกที่เรารัก เราก็ไม่มีแม้เวลาที่จะทำมัน
วันหนึ่งเมื่อเรามองกลับไป ... พวกเราจะตระหนักว่า
สิ่งที่ต้องการนั้น จริง ๆ เรากลับไม่ได้มันมา ทั้งที่มันอยู่ใกล้เสียเหลือเกิน ...
แต่สิ่งที่เราขวนขวาย และพยายามไขว่คว้า มันกลับไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตเราเลย
แต่เมื่อเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้กับสิ่งที่เราพลาดไปในชีวิต
ไม่ใช่การสร้างเงิน สร้างอำนาจ หรือการยอมรับ
ชีวิตไม่ใช่การทำงาน งานเป็นสิ่งสำคัญเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เราสนุก
กับความงาม และความพึงพอใจของชีวิต ...
แต่ ...ชีวิตคือความสมดุลของงาน และการเล่น ครอบครัวและเวลาส่วนตัว
... จงตัดสินใจว่าจะสร้างสมดุลให้กับชีวิตคุณอย่างไร?
กำหนดลำดับความสำคัญของคุณเอง ตระหนักว่าอะไรที่คุณสามารถยอมรับได้
แต่จงตัดสินใจด้วยสัญชาตญาณของตัวคุณเอง ...
ความสุขคือความหมาย และจุดมุ่งหมายของชีวิต ...
ดังนั้น ... สร้างมันง่าย ๆ โดยทำในสิ่งที่คุณต้องการจะทำ
และซาบซึ้งกับธรรมชาติ ชีวิตนั้นเปราะบาง ชีวิตนั้นสั้น
ใช้ชีวิตอย่างสมดุล ในสไตล์ของคุณเอง และสนุกกับมัน

มองดูสิ่งที่คุณคิด มันจะกลายเป็นคำพูด
มองดูคำพูดของคุณ มันจะกลายเป็นการกระทำ
มองดูการกระทำของคุณ มันจะกลายเป็นนิสัยติดตัว
มองดูนิสัยของคุณ มันจะกลายเป็นบุคลิก
มองดูบุคลิกของคุณ มันจะกลายเป็นโชคชะตา

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือตัวคุณที่จะกำหนดตัวคุณเอง




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2551 13:51:01 น.   
Counter : 230 Pageviews.  

+*+. ข อ ง ข วั ญ จ า ก เ ว ล า .+*+.

+*+. ข อ ง ข วั ญ จ า ก เ ว ล า .+*+.

ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่งเข้าบัญชีให้คุณทุกเช้า เป็นเงิน 86,400 บาท
ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้นทุกตอนเย็นจะลบยอดคงเหลือทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้ระหว่างวัน
คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนที่สุดคุณต้องถอนมาใช้ทุกบาททุกสตางค์ ใช่ไหม!!!


เราทุกคนมีธนาคารอย่างนั้นเหมือนกัน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า "เวลา" มันเข้าบัญชีให้คุณ 86,400 วินาที
ทุกคืนมันจะถูกล้างบัญชีถือว่าขาดทุนตามจำนวนที่คุณพลาดโอกาสที่จะลงทุนในสิ่งดีๆ มันไม่สะสมยอดคงเหลือ
ไม่ให้เบิกเกินบัญชี ในแต่ละวันจะเปิดบัญชีใหม่ให้คุณ ทุกค่ำคืนจะลบยอดคงเหลือของทั้งวันออกหมด
ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ในระหว่างวัน ผลขาดทุนเป็นของคุณ
ไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ ไม่มีการถอนของ "วันพรุ่งนี้" มาใช้ได้
คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้
ให้ลงทุนจากเงินฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนมาสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพ
ความสุข และความสำเร็จ! นาฬิกากำลังเดิน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด


จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งปี
ให้ไปถามนักเรียนที่สอบตกต้องซ้ำชั้น
จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งเดือน
ให้ไปถามคุณแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด
จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งสัปดาห์
ให้ไปถามนักเขียนหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งชั่วโมง
ให้ไปถามคนรักที่กำลังรอคอยตามนัดหมาย
จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา หนึ่งนาที
ให้ไปถามคนที่เพิ่งพลาดขบวนรถไฟ
จะรู้ถึงคุณค่าของเวลา เสี้ยววินาที
ให้ไปถามคนที่เพิ่งรอดหวุดหวิดจากอุบัติเหตุ


ทำทุกขณะที่คุณมีให้มีคุณค่า!
และทำให้มีคุณค่ามากขึ้นไปอีกเพราะคุณใช้มันร่วมกับคนพิเศษบางคน
ให้พิเศษเพียงพอที่จะใช้เวลาของคุณ
และจำไว้เสมอว่าเวลาไม่คอยใครแม้สักคนเดียว
เมื่อวานเป็นอดีต พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย วันนี้เป็นของขวัญ
นั่นไงทำไมมันถึงถูกเรียกว่า "Present"

ปล . เครดิต คุณ Neyriney




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 13:22:02 น.   
Counter : 917 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]