ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

17 ประโยคที่ใครๆคงไม่อยากได้ยิน

ประโยคที่ใครๆ ก็ไม่อยากได้ยินยอดฮิตที่สุด... สุดแสนสะเทือนใจ?

1." เราต่างกันเกินไป"

(แหมประโยคนี้ทำให้ต้องถามกลับว่าแล้วเธอมาจากดาวไหนล่ะ?)


2." เราไปด้วยกันไม่ได้หรอก"

(จะไปไหนเหรอ? ถึงไปด้วยกันไม่ได้)


3." ยังมีคนอื่นที่ดีกว่าฉันนะ"

(แน่นอน... รู้อยู่แล้ว)


4." เธอไม่ใช่"

(ไม่ใช่อารายเหรอ?)


5." เธอไม่ใช่คนนั้น"

(อืม... แล้วคนไหนล่ะ?)


6." ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะ"

(ดี ไม่เปลือง)


7." ฉันอยากมีพี่ชาย (น้องสาว)"

(ผมไม่อยากได้น้องสาวนี่, ฉันไม่ได้อยากมีพี่ชาย)


8." ฉันชอบเธอแบบพี่ชาย (น้องสาว) มากกว่า"

(งั้นผมคงเป็นพี่ชายคนที่ 8 ของเธอ, ฉันคงเป็นน้องสาวคนที่ 9 ของเธอ)


9." มันสายไปแล้วล่ะ"

(จริงๆ น่าจะจบกันตั้งนานแล้วนะ ฮ่าๆ)


10." เราจบกันแค่นี้นะ"

(อ้าว! แล้วจะให้จบแค่ไหนล่ะ)


11." เธอเป็นคนดีเกินไป"

(ชอบคนเลวใช่มะ ด้ายยย...)


12." เธอก็น่าจะรู้"

(ฉันไม่ได้มีพลังจิตอ่านใจคนได้นี่)


13." เธอไม่เข้าใจฉัน"

(แล้วจะให้เข้าไปทางไหนล่ะ)


14." เราเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่านะ"

(เพื่อนมีเยอะแล้ว...)


15." เธอตัดใจซะเถอะ"

(ตัด ก็ตายดิ)


16." เราเหมือนเส้นขนานกันนะ"

(เส้นขนานอย่างน้อยก็ไปด้วยกันได้)


17." นึกถึงความจริงบ้างซิ"

(แล้วนี่ฉันฝันอยู่หรือไง)


ที่มา //www.teenee.com

ช่วยกันบอกหน่อยว่าประโยคไหนโดนสุด




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 12 พฤษภาคม 2551 10:11:13 น.   
Counter : 273 Pageviews.  

-*-มนุษย์เราจริงๆแล้วมีหัวใจสองดวง-*-

เรื่องของ กามเทพและหัวใจ
เรื่องน่ารักๆ ของกามเทพและหัวใจ ในอดีตกาลนามมาแล้ว เค้าว่ากันว่า มนุษย์ทุกคนมีหัวใจด้วยกันจริงๆแล้วทั้งหมดสองดวง แต่ยังมีเทวดาน้อยอยู่องค์หนึ่งซึ่งไม่รู้จักสิ่งที่เค้าเรียกว่าหัวใจ
ด้วยความที่สงสัยว่าหัวใจนั้นมันเป็นอย่างไร เทวดาน้อยจึงได้ไปถามนางฟ้าผู้ที่ดูแลทางเข้าออกของประตูสวรรค์… “ท่านนางฟ้า โปรดบอกข้า หัวใจคืออะไร…?”
“หัวใจ…ก็คือสิ่ง บริสุทธิ์ สวยงาม ที่สุดของมนุษย์ยังไงเล่า”
“แล้วสิ่งที่เรียกมนุษย์อยู่แห่งใดล่ะ…?”
“อยู่เบื้องล่างยังอีกฟากของประตูสวรรค์นี่ยังไงเล่า”
“เปิดประตูให้ข้าไปชมหัวใจของมนุษย์ได้มั้ย นางฟ้า…?”
“มิได้หรอก มันผิดกฎของสวรรค์ เจ้ากลับไปซะเถอะ
แค่เจ้ามาสนทนากับข้าก็ผิดมากเท่าใดแล้ว เจ้ารู้ตัวมั้ย เจ้าเทวดาน้อย” เทวดาน้อยทำทีว่าหันหลังกลับไป แต่ด้วยความที่อยากได้หัวใจมาครอบครองไว้เป็นของตน
จึงได้นำคันศรธนูมา แล้วยิงไปที่นางฟ้าผู้รักษาประตูสวรรค์
หวังจะให้นางฟ้านั้นสลบไปในชั่วข้ามคืนนั้นเอง
เทวดาน้อยแอบเปิดประตูสวรรค์แล้วบินไปยังโลกมนุษย์
กลางดึกของคืนนี้เป็นคืนที่เงียบสงบ มนุษย์ทุกคนต่างหลับกันหมดแล้ว
เทวดาน้อยจึงแอบบินเข้าไปในบ้านของมนุษย์ทุกคน แล้วไปเอาสิ่งที่เรียกว่า
“หัวใจ” ของทุกคนบนโลกมนุษย์ มาคนละหนึ่งดวง
แล้วนำลอยขึ้นไปบนสวรรค์ หวังจะขโมยกลับไปเป็นของตน
แต่ระหว่างที่เทวดาน้อยกำลังกลับเข้าไป
ปากทางของประตูสวรรค์ได้มีนางฟ้าและเทวดาแห่งความรักยืนกั้นอยู่
เทวดาน้อยเห็นดังนั้นจึงบินหนี แต่นางฟ้าองค์หนึ่งได้บินตามเพื่อมาแย่งหัวใจของมนุษย์ทั้งหมดมาไว้ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อหัวใจทั้งหมดได้เกิดกระจายออกแล้ว ร่วงโปรยปรายไปยังบนโลกมนุษย์ และได้เกิดการสลับสับเปลี่ยนเจ้าของหัวใจกันในค่ำคืนนั้นเอง…
เทวดาน้อยถูกลงโทษด้วยการเป็นเด็กตลอดกาล
และเปลี่ยนชื่อเป็นกามเทพให้อยู่บนโลกมนุษย์เพื่อตามหาหัวใจสองดวงของมนุษย์ที่
ไปอยู่กับใครอีกดวงหนึ่ง ให้มาพบกันตลอดไป ตอนนี้หัวใจของคุณอีกดวงหนึ่งก็คงอาจจะอยู่กับใครบนโลกใบนี้ก็เป็นได้ อย่ารอให้ กามเทพ เป็นคนหาหัวใจให้คุณ…
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องตามหาหัวใจของคุณคืนมา และเมื่อคุณได้มันคืนมาแล้ว
จงดูแลหัวใจคุณให้ดี อย่าได้ปล่อยให้หัวใจมันจากคุณไปอีก…
เพราะคุณอาจจะไม่มีวันเจอหัวใจอีกดวงที่แท้จริงของคุณตลอดชีวิต
หรือชั่วชีวิตก็เป็นได้ - - -


ปล . เครดิต คุณ Neyriney




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 15:34:18 น.   
Counter : 585 Pageviews.  

.+*+. ไดอารี่สีน้ำเงิน .+*+.

เมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันได้รับพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาจากเพื่อนคนนึง

เพื่อนซึ่งฉันทำเค้าหล่นหายไปกับกาลเวลานานพอดู
เกือบปีที่ไม่ได้เจอะเจอกันเลย
ครั้งสุดท้ายฉันรู้จากเพื่อนอีกคนเพียงว่า เค้าป่วยแล้วลาออกจากงาน
แล้วพาตัวเองหนีความวุ่นวายของสังคมเมือง
กลับไปช่วยกิจการของของที่บ้านที่เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัด ตราด...


ฉันแกะกล่องพัสดุฯ แล้วฉันก็ได้พบ “ Diary สีน้ำเงิน” เล่มหนา


ที่ดูเหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก
พร้อมกับข้อความที่เขียนด้ายปากกาเส้นเล็ก ๆ ว่า
“สำหรับความรู้สึกที่ดี ของความเป็นเพื่อน” พร้อมกับลายเซ็นของตัวเอง ....
นี่มัน Diary ของฉันที่เคยเขียนไปได้เพียงครึ่งหน้า
และได้ให้กับเพื่อนคนนี้ในวันหนึ่งที่ฉันได้รับรู้เรื่องราวไม่สบายใจของเขา
และพบว่าที่เขาเล่าให้ฉันฟังมันไม่ใช่ความทุกข์ที่เค้าอยากจะระบายออกมาทั้งหมด...
ฉันเลยแนะนำให้เขาเขียนในสิ่งที่เขาอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
และให้บรรยายมันลงใน Diary ของฉันเล่มนี้ แล้วบอกเขาด้วยว่า
ถ้าวันนึงที่เขาไว้ใจเพื่อนอย่างฉันเขาคงเล่าความทุกข์ของเขาทั้งหมดให้ฉันได้รับรู้
ฉันพลิกดู Diary สีน้ำเงินเล่มนี้อย่างคร่าว ๆ จากหน้าแรกจนหน้าสุดท้าย


... ไม่หน้าเชื่อเพื่อนของฉันคนนี้เขียนมามันจนหมดทุกหน้า ...
ไม่บ่อยครั้งนักที่ฉันจะได้เห็นผู้ชายมานั่งเขียนอะไรมากมายอย่างนี้
..และในหน้าสุดท้าย ฉันก็พบรูปของตัวเอง
ที่ถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นที่คั่นหนังสือ กับข้อความหลังภาพที่ว่า
“ หากเธอมองฉันผ่านมิตรภาพของความเป็นเพื่อน ฉันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน”
ฉันพลิกกลับมาที่หน้าแรก ตั้งต้นอ่านมันอย่างตั้งใจ
จากหนึ่ง เป็นสอง สาม และสี่ ..ตามลำดับเรื่อยมา ...
ฉันได้พบชื่อของตัวเองบ่อยครั้งใน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้
เหมือนกับเป็นการเล่าสู่กันฟังของเพื่อนกับเพื่อน
เรื่องราวที่ฉันได้รับรู้จาก Diary หลายต่อหลายครั้งทำเอาฉันนั่งน้ำตาซึม ...
ไม่น่าเชื่อนะ ผู้ชายแข็ง ๆ กระด้าง ๆ
ที่มักจะทำอะไรให้คนอื่นได้ยิ้มได้หัวเราะอยู่ตลอดเวลาจะเก็บเอาอะไรมาคิดได้มากมายอย่างนี้....


ฉันอ่านมันหน้าแล้วหน้าเล่า...
แล้วฉันก็พบว่าเพื่อนที่ฉันเคยคิดว่าฉันรู้จักเขามากพอดู
มาวันนี้ฉันกลับรู้สึกว่าฉันไม่ได้รู้จักในตัวตนของเขาสักเท่าไหร่เลย
ฉันสัมผัสเค้าได้แค่เพียงเปลือกนอกที่เค้าแสดงออกมาให้คนอื่นได้รับรู้เพียงแค่นั้น...
มีบางแง่มุมที่ไม่เคยได้รู้ ฉันก็ได้รู้
บางเรื่องที่ฉันลืมไปอย่างไม่ได้ใส่ใจก็กลับมาอยู่ในความทรงจำอีกครั้ง ..
ฉันได้อ่าน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้ได้มากพอดู ถึงได้รู้ว่า
สาเหตุที่เธอกลับมาอยู่ที่เกาะ มาช่วยกิจการที่บ้าน
เพราะอาการป่วยของเธอนั่นเอง
เธออยากกลับมาอยู่ใกล้ ๆ กลับมาดูแลแม่ของเธอในวาระสุดท้ายของตัวเอง ...
หมอบอกเธอว่า โรคมะเร็งที่เธอเป็นอยู่มันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก
เธอไม่กล้าแม้แต่จะบอกเรื่องนี้กับแม่ซึ่งทำงานหนักมาทั้งชีวิต
โดยที่ทั้งแม่และเธอไม่เคยได้รับการใส่ใจดูแลจากผู้เป็นพ่อเลย

..เธอกลัวแม่ของเธอรับไม่ได้ ..เธอไม่เคยบอกใครถึงสิ่งที่เธอเป็นอยู่
ทางบ้านรับรู้เพียงว่าเธอสุขภาพไม่ดี ....
ฉันนั่งนึกถึงแม่เธอที่เคยเจอะเจอเมื่อปีก่อน ผู้หญิงที่ดูเข้มแข็ง แกร่ง
อย่างไม่น่าเชื่อ แม่เธอบอกเสมอว่าที่ท่านอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเธอ
เธอเป็นกำลังใจในการต่อสู้และการดำเนินไปของชีวิต..... แม่เธอจะรับได้ไหม
ถ้าวันนึงรู้ว่า กำลังใจของแม่กำลังจะจากไป...
ฉันรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับจากอาการข้างเคียงของโรคผ่านตัวหนังสือใน
Diary สีน้ำเงิน เธอเขียนไว้ว่า หลายต่อหลายครั้งที่เธอร้องไห้
และคิดถึงเพื่อนอย่างฉัน ยิ่งช่วงท้าย ๆ ของ Diary
ฉันได้เห็นชื่อของตัวเองบ่อยครั้งขึ้น
บ่อยมากจนรู้สึกว่าเวลานั้นเธอคงอยากให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เธอจริง ๆ
แต่เธอไม่เคยโกรธที่ฉันห่างหายมาอย่างนี้ เธอบอกว่า
เธอรู้ข่าวคราวและความเป็นไปของฉันตลอดจากเพื่อนอีกคน
เธอรู้ว่าฉันเองก็มีเรื่องทุกข์ใจที่ต้องเผชิญอยู่เช่นกัน
เธอถึงไม่เคยเรียกร้องที่จะให้ฉันไปอยู่ข้างเธอยามนี้ ....
ฉันอ่าน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้จนจบ ข้อความท้าย ๆ ของ Diary
คล้ายจะเป็นการสั่งเสีย ..เหมือนเธอรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ
และเธอกำลังต้องการเพื่อนสักคนในเวลานี้ และคน ๆ นั้นก็คือฉัน
“ หากเธอมองฉันผ่านมิตรภาพของความเป็นเพื่อน
ฉันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน”
แล้วฉันก็พบข้อความนี้อีกครั้ง มันเป็นข้อความสุดท้ายใน Diary
สีน้ำเงินเล่มนี้ ..ฉันอ่านมันจนจบ พร้อมกับปิดมันลงด้วยความรู้สึกผิด
นานแค่ไหนแล้วที่ฉันทำเพื่อนคนหนึ่งหายไปกับกาลเวลา
นี่ฉันเป็นเพื่อนชนิดไหนกันนี่
ยามที่เธอต้องการฉัน ฉันกลับห่างหายมาอย่างนี้
ฉันขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ฉันสัญญา
พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเหมือนก่อน กลับไปอยู่ข้างๆ
เธอยามที่เธอต้องการเพื่อนสักคน ....
แล้วพรุ่งนี้ฉันจะรีบไปหาเธอแต่เช้า
กลับไปทำหน้าที่ของเพื่อนที่พึงทำให้เพื่อน
...ฉันสัญญา เธอคงกำลังรอฉันอยู่ ....
วันนี้ฉันมาหาเธอที่บ้าน แต่สิ่งที่ฉันพบ ....
คือร่างของเธอที่นอนสงบนิ่งอยู่ตรงหน้า
...พบแม่ของเธอที่กำลังร้องไห้แทบขาดใจ
แม่โผเข้ากอดฉันเหมือนกำลังจะบอกว่า เธอไปแล้ว เธอจากไปแล้ว......
ฉันมาช้าไป มาช้าไปจริง ๆ
ฉันมาไม่ทันลมหายใจสุดท้ายของเธอด้วยซ้ำ ...
แม่เธอเล่าให้ฉันฟังหลังจากงานศพของเธอผ่านไป ...
แม่บอกว่าเธอมักจะพูดคุยถึงเรื่องราวของฉันให้แม่เธอได้รับรู้เสมอ
...เมื่อไหร่ที่เธอรับรู้ว่าฉันกำลังทุกข์ก็ดูเหมือนเธอกำลังทุกข์ไปกับฉันด้วย
..
แม่เคยบอกให้เธอมาหาฉันแต่เธอปฏิเสธ
เพราะเธอไม่อยากให้ฉันเห็นเธอในสภาพก่อนที่เธอจะจากไป
เธอกลัวว่าฉันจะเป็นห่วงเป็นกังวลไปกับเรื่องราวของเธอ
..แม่เธอบอกกับฉันว่าเธอห่วงฉันมาก แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเธอ
เธอยังบอกกับแม่ว่า
ถ้าฉันมาที่บ้าน แสดงว่าฉันคงไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกแย่กับชีวิต
..ฉันถึงพาตัวเองมาหาทะเลมาหาเพื่อนอย่างเธอ
...เธอฝากให้แม่ดูแลฉันแทนเธอด้วย ...


น้ำตาฉันยังคงอาบแก้ม ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ
ความห่วงใยที่เธอมีให้กันเสมอจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเธอทะเลหน้าบ้านเธอที่ฉันเคยบอกว่า
เป็นทะเลที่สวยที่สุด วันนี้มันดูเศร้าไปถนัดตา ...หลับให้สบายเถอะเพื่อน
ฉันจะไม่มีวันลืมเพื่อนอย่างเธอไปได้เลย ..ฉันสัญญา...
วันนี้ฉันนั่งสำรวจตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับถามตัวเองว่า
ฉันทำใครหล่นหายไปกับกาลเวลาอีกไหม ... แล้วถ้าฉันพบว่ามี
ฉันจะรีบกลับไปทวงถามให้เค้ากลับมาด้วยความรู้สึกดีๆ
และจะพยายามอย่างที่สุดที่จะรักษาเค้าไว้กับฉันตลอดไป


ปล . เครดิต คุณ Neyriney




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 15:33:55 น.   
Counter : 226 Pageviews.  

...ที่สุดของที่สุด...

คำเตือน: ไม่ควรอ่านขณะกำลังจะ,กำลังกินข้าว หรือเพิ่งกินเสร็จ


1.นักถ้ำมองโครตสกปรก
เป็น ชาวอเมริกันแต่ไม่ระบุชื่อเพราะญาติขอร้อง อายุ 37 ปี อยู่เมืองเลล์ เกลด รัฐฟลอริดา อาชีพเพาะปลูก เมื่อเวลาว่างชายคนนี้จะมีอาชีพพิเศษคือชอบแอบมองสาวทำธุระโดยการตะเวณดูตาม สุขาทั่วเมือง และยิ่งมองยิ่งติดใจจงตัดสินใจแช่ในถังส้วมหลุมเพื่อมองเห็นสาวทำธุระจะๆ ตา(ส้วมเมืองนอกเขาเป็นแบบนี้) เผลิญสาวคนหนึ่งเขาทำธุระปล่อยทุ่นส่วนตัวเสร็จ แล้วบังเอิญไปเห็นอะไรไม่รู้มีตาสองตาของคนจึงแจ้งตำรวจ แล้วเจ้าถ้ำมองคนนั้นก็ถูกตำรวจเรียกรถเครนพร้อมตะขอเกี่ยวนักถ้ำมองออกจาก หลุม จากนั้นก็หย่อนลงบึงน้ำเสียเลย

2.แล้วใครจะมาแทน
นางซิ นเธีย บรวน ชาวออสซี่ ได้ปลดเกษียณอายุงาน 62 ปีลง ที่โรงงานผลิตยาแห่งหนึ่ง จากสถิตทำงาน 34 ปีเต็ม โดยงานที่เธอทำสุดภาคภูมิใจคือ เธอสูดดมกลิ่นตด หรือก้นผู้ป่วยโรคริดสีดวงถวาร เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ผลิดน้ำยาดับกลิ่นก้นและส่งใส่ว่าผลิตภัณฑ์เขาใช้ได้ กับผู้ป่วยหรือไม่

3. สถิตนี้ใครกล้าทำลาย
โดแนลด์ คิง วัย 38 ปี ชาวเมืองเคพทาวน์ ประเทศเซาธ์แอฟริกา เขามีสถิดอันดับโลกโครตภูมิใจคือ เขาเป็นสามีหรือผัวของสัตว์ตัวเมียไม่น้อยกว่า 600 ตัว โดยเมียสัตว์ของโดแนลด์มีทั้ง แพะ แกะ วัว ควาย ม้า หมา แมว แรด นกกระจอกเทศ ลามา ไฮยีน่า กวาง เต่าตะนุ ลิงชิมแปมซี กอริลล่า ตัวกินมด (โฮ้กล้ามั่วขนาดนี้เลยเรอะ)

4. อยากดัง
เลิฟ วีนี่ ดาราโนเนม ชาวลอนดอน ทำยังไงก็ไม่ดังเสียที วันหนึ่งเธอเข้าส้วมก็เกิดไอเดียสุดเจ๋ง เธอใช้เงินก้อนสุดท้ายทำอัมบั้มซีดี.ทันที โดยการอัดเสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องน้ำขณะที่ตนเองเข้าใช้ ไม่ว่าเสียงแปรงฟัน เสียงขุยเสลด เสียงฉี่ ตด หาวเรอ เสียงอึตกกระทบกับน้ำ ผลคืออัลบัมเธอขายดีมากกว่า30000 แผ่น และราคาแผ่นพอๆ กับแผ่นป๊อบฮิตเลยทีเดียว (ดังสมใจเลย)

5. ตายสุดซวยที่สุดในโลก
อัน นี้เคยออกข่าวแล้วนะ บีทรีส วิลเลียมสัน อายุ 77 ปี พลเมืองอาวุโสชาวอังกฤษ วันหนึ่งเธอออกไปทำสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอทำงานเพลินขณะนั้นก็มีของเสียก้อนหนึ่งตกลงมาจากห้องน้ำเครื่องบิน พอดีช่วงนี้อากาศหนาวจัดทำให้ของเสีย(ขี้) จับก้อนน้ำแข็งจนโตเท่าผลส้มตกลงหัวอย่างรุนแรง เธอล้มลงเสียชีวิตทันที (เฮ้อ..ทำมั้ยซวยยังงี้)

6. แข่งกินของสัปดนชิงแชมป์โลก
การ แข่งนี้เกิดขึ้นที่ออสเตเลีย ชื่อรายการ ไอแซล อีท แอนนีธิง คอนเทสต์ แปลว่าฉันจะ แ ด ก ทุกอย่างที่ขวางหน้า ของที่กินมีทั้ง คอไก่สดๆ ฉี่วัว1ถ้วย หนอน ไส้เดือนสด ไขมันคน 1 ถ้วยที่ดูดมาจากคลีนิก (แวะ )

7. สั่งขี้มูลไกลที่สุดในโลก
โจ อานนี่ เมสัน สาวสวย หุ่นดี แต่พฤติกรรมสุดอนาถ เพราะเธอมีความสามารถพิเศษคือสั่งขี้มูกขนาดเท่าเม็ดถั่วแดงไกลถึง 151 ฟุต 3 นิ้วครึ่งขนาดเท่าสนามฟุตบอล (โอโห ซูดยอด)

8.แมวฉันอยู่ในจานเป็ด
มา ร์ซา ชาวนิวยอร์ก เสียใจมากที่แมวตัวโปรดชื่อ พัลซั่ม หายตัวไป เธอเศร้ามากจึงเดิมมาที่ภัตราคารจีน "xxx๊ดลัค ยู แฮป"สั่งเป็ดทอดมากินเพราะคิดว่าเธอจะคลายเศร้าได้ พอดีตอนที่เธอกินอาหารอย่างอร่อย ตำรวจ 3 นาย มาร้านพร้อมหมายค้นว่าร้านนี้ลักแมวลักหมามาปรุงอาหารขายแก่ลูกค้า......และ แล้วมาร์ชาก็ตามตำรวจไปดูในครัวแล้วก็เห็นหัวแมวของเธอแขวนกับตะขอ และพ่อครัวก็ยอมรับว่าเป็ดทอดที่เธอกินเป็นแมวของเธอเอง............... อร่อย

9. ฉี่ก็มีดี
นักวิจัยชาติไหนก็ไม่รู้เ พากันตกตะลึงว่าฉี่นั้นมีดี โดยพบคุณสมบัติที่ว่ามีฤทธิ์คล้ายยากล่อมประสาท ทำให้คนรู้สึกสุขสบายและมีความสุข เมื่อเห็นดังนี้นักวิจัยเลยนำไปสกัดเป็นแคปซูลขายในราคา 5 ดอลลาร์เสียเลย

10.มนุษย์ตดตายอย่างสมศักดิ์ศรี
โจ นาธาน กริกส์ ชาวอังกฤษ เขาป่วยเป็นโรคประหลาด เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินย่อยอาหารและกล้ามเนื้อทำให้เกิดแก๊สในท้องและตด เป็นประจำทุกระยะ 11 วินาที อยู่ดีไม่ว่าดีนายคนนี้ดันมีภรรยาและอยู่ 19 ปีเต็ม มีหรือที่เธอจะทนได้ เธอเลยจับสามีขังไว้ในตู้เก็บผ้าแบบปิดมิดชิด ปล่อยให้สามีตดตั้งแต่เช้าจนเย็น และวันต่อมาภรรยาเขาก็ลองจุดไฟเหย่ไปดู ปรากฏว่าบ้านระเบิดพังเป็นแถบ ตายกันทั้งสามีภรรยา

...หากชาติมีจริง ขอให้เราทั้ง2เกิดมาคู่กัน...

11.นักเลียสิวสถิตโลก
นาง สาวแซลลี่ ดาลตัน อายุ 19 ปี เมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เปิดอาชีพเป็นนักเลียสิว โดยใช้ลิ้นสะกิดสิวให้หัวออก เธอทำทั้งหัวดำ หัวช้าง และเธอทำมาตั้งแต่ปี 1942 จนอายุ 21 ปี เธอทำสถิตเลียสิวแก่ผู้คนรวม 5000 คน

12.อาหารชวนอ้วกที่สุดในโลก
วง การอาหารโลกต้องบันทึกสถิตว่าเป็นอาหารที่ขยะแขยงของโลกที่เคยมีบันทึกมา เหตุเกิดที่ภัตตาคาร “โอมาร์” ในกรุงอัสตันบูล ประเทศตุรกี มีอาหารชนิดหนึ่งชื่อ “ซุปเห็ด” ดังมากคนต่อเข้าคิวไปกินจนแน่นร้านทุกวัน

มี อยู่วันหนึ่งลูกค้าคนหนึ่งเกิดสงสัยว่าทำไมเนื้อเห็ดมันเหนียวผิดปกติกว่า วันอื่นๆ จึงมีการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าแท้ที่จริงเนื้อเห็ดที่เหนียวๆ นั้น เป็นเนื้อผิวหนังที่ตาย ตัดออกจากปลายแขน ปลายขา คนป่วยโรคเรื้อนนั้นเอง.....อ้วก! (สงสัย...คงอร่อยน่าดู )

13.หมอพยาบาลหนีกระเจิง
เหตุ เกิดที่ห้องผ่าตัดแห่งหนึ่งในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อแพทย์และพยาบาลดูดไขมันจากหน้าทาง(ไลโปซัคั่น) จากสาวอ้วนคนหนึ่งชื่อ มาร์ธ คีเนอร์ หนัก 975 ปอนด์ หรือ 442 กิโลกรัม ระหว่างที่ดูดจู่ๆ เครื่องดูดไขมันเกิดทำงานผิดพลาดแทนที่จะพ่นไขมันลงถุงกลับพ่นกระจายไปทั้ง ห้อง แพทย์ และพยาบาล ต้องวิ่งหนีอุตลุด

14.เรื่องน่าเศร้าของช่างตัดผมตาบอด
ซา มูเอล โครเจอร์ อายุ 55 ปี เป็นช่างตัดผมอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ตาบอดทั้งสองข้าง วันนั้นแก่เดินถือเก้าอี้สำหรับเด็กสำหรับนั่งตัดผม ขณะนั้นเขาเดินอยู่ริมถนนในเมืองแอตแลนต้า ด้วยความซวย ซามูเอลเกิดล้มหน้าคะมำลงกับพื้น บังเอิญมีหมามาขี้ไว้เกินบะเริ่ม ก้อนขี้หมานั้นเข้าปากเขาเต็มๆๆ.....อ้วก! (เฮ้อ...ซวย)

15.อาหารนี้ช่วยรอดชีวิต
ด. ช. ทอมมี่ กรีลีย์ อายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เขาเกิดมาพร้อมโรคแพ้อาหารทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนมแม่ ขนมก็แพ้ ถ้ากินเข้าไปจะอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง

แต่......มีอาหารอย่างหนึ่ง ที่ทอมมี่กินแล้วไม่อ้วก และสามารถเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง นั้นคือขี้มูลเหลวๆ จากปากหรือจมูกเด็กๆ นั้นเอง

16.มนุษย์ปืนใหญ่ลงผิดที่
โร เจอร์ เคนนีย์ เป็นนักแสดงผาดโผนเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ปืนใหญ่ยิงจากปากกระบอกปืนไปไกลถึง 100 ฟุต แล้วตกไปจุดที่คำนวณไว้อย่างแม่นยำ

ครั้งหนึ่งในการแสดง เกิดความผิดพลาดจากแรงอัดกระบอกปืนทำให้ร่างเขาลอยพ้นตาข่าย และเวลานั้นช้างกำลังขี้พอดี หนาของโรเจอร์จึงพุ่งเข้าตูดช้างอย่างแม่นยำ (เจ๋งเป้ง...แม่นเปะ)

17.มนุษย์งู
เรื่องนี้เคยออกข่าวมาแล้วช่อง 3 บรูโน่ โทรลอคซี่ ชาวอิตาลี กำลังฝึกฝนสมาธิแบบชาวตะวันออก วันๆ ไม่ทำการอะไร เอาแต่เล่นโยคะ

อยู่ มาวันหนึ่งเขารู้สึกว่าลิ้นของเขามันใหญ่ไป คับปากคับคอ เป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิเขาจึงใจกรรไกลคมๆ อ้าปากอาๆๆ แล้วตัดฉับลิ้นแยกเป็น 2 แฉก จบ..............

18.ศิลปิน
เน็ด โทเลอร์ ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินสุดเพี้ยน แต่งานเขานั้นสวยงาม ตระการตา

ความ สัปดนเขาเริ่มขึ้นเมื่อเมียคลอดแฝด 3 ออกมา ด้วยความแป็นศิลปิน เขาเอาผ้าออมแบบใช้แล้วของเด็กแฝดมาจัดการคลุกเคล้ากับขี้แล้วผสมอะไร บางอย่าง สร้างผลิตภัณฑ์เครื่องประดับ เช่น สร้อยลูกประคำ เข็มกลัดติดเสื้อ กิ๊ปหนีบผม ฯลฯ

19.มนุษย์หมาป่า
โรเบิร์ต จอห์นสัน หรือ เฟ็ช เกิดพลัดหลงพ่อมากลางป่า ฝูงหมาป่ามาเห็นเข้าจึงเก็บไปเป็นลูก ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั้ง 10 ขวบ จึงได้รับการช่วยเหลือออกมาอยู่กับสังคมมนุษย์เหมือนเดิม

แต่นิสัย ของโรเบิร์ตยังแก้ไม่หาย แม้ปัจจุบันนี้ เขาจะโตแล้ว เป็นถึงผู้บริหารนักการธนาคาร แม้ในขณะประชุม เขายังขอเวลานอกเพื่อที่จะเข้าห้องส่วนตัว อาเจียนของเก่าออกมาใส่จานแล้วเลียกลับเข้าไปเหมือนเดิม

20.คนสกปรกที่สุดในโลก
วิ ลลี่ เครเมอร์ แห่งเมืองยูยีน รัฐโอเรกอน ได้รับฉายาว่า คุณขี้เปียก เนื่องจากเขาสะสมก้อนประหลาดกลิ่มเหม็นเน่า หนักกว่า 27 ปอนด์ไว้ห้องนั่งเล่นเขา

ก้อนเหม็นนั้นมาจากสิ่งละอันพันละน้อยจากสะดือ รูหู จากรูจมูก ขี้ไคล ผสมด้วยน้ำอสุจิ

21.ภารโรงขี้เล่น
ในห้องแล้บทดลองทางโภชาการแห่งหนึ่ง ในเมืองแฟรค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อนักวิจัยกลับบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่ภารโรงมาทำความสะอาด

วัน รุ่งขึ้นนักวิจัย เข้ามาภายในเพื่อเข้าทำงานต่อ แทนที่จะทำงานกับด่าพ่อล้อแม่เพราะถาดงานวิจัยเกิดสลับปนไปหมด พร้อมถาดใส่ใส้เอแคลร์กับราสเบอรี่ ได้มีถาดก้อนสำลีซับเลือดซับหนองมาแทนเพราะภารโรงขี้เล่นแท้ ๆ (เฮ้อ...ซวย)

22.ดิ่งพสุธาลงผิดที่
แคเธอรีน เดลาแพลนเต้ เป็นนักดิ่งพสุธาหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมืออาชีพ

ครั้ง หนึ่งเธอดิ่งพสุธา ปรากฏว่าถูกลมกรรโชกเลยเป้าหมายออกนอกเมืองนับเป็นไมล์ ๆ เธอบังคับร่มลงในแปลงปลูกผักแปลงหนึ่ง โดยหล่นตูมลงถังปุ๋ยหมักที่เปิดฝาจนขึ้นอืด อย่างสุด ๆ
(เย่ แม่นจัง )

23.ฆ่าตัวตายแบบสกปรก
เคนท์ เกรียร์ วัย 56 ปี ชาวอังกฤษ ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบเรื้อรังหลายปี ทำให้เขาหายใจลำบาก มีเสลดพัดคอตลอดเวลา

ความจริงรักษาหาย แต่เขาบอกตัวเองว่า “อยู่ไปก็รกโลก” จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายแบบพิสดาร

เขา เติมน้ำจนเต็มอ่างอาบน้ำเด็กก้มหน้าปล่อยให้เสลด น้ำมูก ปะแน่นรูจมูก 2 รู และบางส่วนปิดหลอดลม จนหน้าเขาซุกลงในอ่างน้ำ แล้วเขาก็ตายอย่างสมใจนึกเพระขาดอากาศหายใจ

24.จิตแพทย์ก็บ้าเป็น
เมื่อ ปี 1992 มีจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคจิตในผู้สูงอายุชาวอเมริกันนำเสนอวิธีการบำบัดโรค จิตแก่คนไข้ของตนเอง โดยให้คนไข้แก้ผ้าแล้วนอนในอ่างอาบน้ำ จากนั้นหมอก็แก้ผ้าจนล่อนจ้อนก้มหน้าใช้ลิ้นตัวเองเลยร่างกายคนป่วยจนทั่ว ตัว

กว่าจะรู้ว่าจิตแพทย์คนนั้นเป็นบ้า ด้วยให้คนป่วยโรคจิตแหละมาบอกว่า “หมอเป็นบ้าไปแล้วเจ้าค่า”




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 13:55:33 น.   
Counter : 802 Pageviews.  

เ รื่ อ ง ส ย อ ง [ รึเปล่า ]

เหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง

ผู้เล่ากล่าวว่า คนที่เล่าเรื่องตายแล้วไปไหนให้ฟังเป็นเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง

เขาเล่าว่า เหตุเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศวังเวงในบริษัทเก่าแก่แห่งหนึ่ง
ตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งร่ำลือกันว่าเมื่อครั้งอดีตเคยเป็นป่าช้ามาก่อน
มีประวัติโจษจันเล่นขานกันมากมายที่เดียวเกี่ยวกับเจ้านายดุและผีหลอก

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม ไม่ปรากฏปี
นางสาวกิ่งแก้ว (นามสมมติ) พนักงานพิมพ์ดีดวัยเบญจเพส
มีภารกิจการงานต้องสะสางมากมาย
วุ่นวายเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นการทำงานวันสุดท้ายในรอบปี
รวมทั้งรุ่งขึ้นพรุ่งนี้จะย่างเข้าสู่ช่วงของลองวีคเอนด์
ตลอดวันนั้นจึงเกือบๆ จะมีสภาพเป็นวันโลกาวินาศสำหรับกิ่งแก้วโดยแท้
เธอต้องเคร่งเครียดหมกมุ่นอยู่กับงานตั้งแต่เช้าจนบ่าย
(และไม่มีเวลาว่างกินข้าวมื้อกลางวัน) กระทั่งเคลื่อนคล้อยกลายเป็นค่ำ
เพื่อนร่วมงานหลายคนค่อยๆ ทยอยแยกย้ายกันกลับบ้าน
ทำไปทำมาท้ายที่สุดทั้งบริษัทก็เหลือเธออยู่เพียงคนเดียว
ตอนนี้ล่ะ บรรยากาศในตึกเก่าๆ ทึมๆ แสงไฟสลัวจนแลดูแล้วชวนสยอง
รวมทั้งเสียงแกรกกรากของกระดาษกระพัดกระพือ
และอะไรต่อมีอะไรก็เริ่มแสดงบทบาทหน้าที่ของตนเองออกมาชัดเจน
และค่อยๆ ทบทวีความวังเวงมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่กิ่งแก้วทำงานของเธอเสร็จสรรพ และเตรียมตัวเก็บข้าวของเพื่อจะกลับบ้าน
เธอเหลือบชำเลืองมองไปยังผนังกำแพงด้านใกล้ๆ โต๊ะทำงาน
พลันก็ต้องตกใจสุดขีด ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น
สีหน้าซีดเผือดราวกับเลือดในกายเหือดแห้งหมดร่าง

สิ่งที่กิ่งแก้วเจอนั้น... ทำให้เธอเป็นเช่นนี้... สิ่งนั้นคือ.....
....................






ใช่แล้ว... สิ่งที่กิ่งแก้วพบคือ... ปฏิทินนี่เอง !!!!!!!!!!!!!!!

และสาเหตุที่ทำให้กิ่งแก้วตกใจเจ้าปฏิทิน ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะตกใจเลย
เธอต้องพบเห็นกับวันหยุดต่อเนื่องยาวนานหลายวัน
ทำให้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ตระเตรียมวางแผนจะไปเที่ยวไหนในช่วงวันหยุด
เหล่านี้เอง เป็นเหตุให้กิ่งแก้วต้องอุทานออกมาว่า








"......... ตายแล้ว.... จะไปไหนดี !!!"



ขำๆวันละนิดจิตแจ่มใส ^-^




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 13:21:35 น.   
Counter : 258 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]