ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร

ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร

สำหรับคนที่กำลังเหนื่อย หรือท้อแท้อ่ะน๊า..

เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า ทั้งๆที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน

ไม้ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน

แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮต์

ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว

ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นเพชร

เพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม
พร้อมๆกับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก

ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน

ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับอยู่ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ว
จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ ?

ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า

ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า
ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว....

ในสถานการณ์เช่นนี้น หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ
ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ

จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม เสมือนดั่งเพชร

แม้เพชรจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว

แต่เพราะเพชรไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป

ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ จนกาลเวลาผ่านไป

เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง

เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่

จากอดีต... ปัจจุบัน....ตลอดไปในอนาคต




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 มิถุนายน 2551 18:05:51 น.   
Counter : 242 Pageviews.  

อุทาหรณ์ นักศึกษาสาว ถูก เพื่อนชาย ล้วง ใน โรงหนัง

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
จากปากของน้อง ใบเตย นักศึกษาชื่อดังย่านรามคำแรง ที่เปิดใจ คุยกับทีมงานวาฮาฮา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ของสาวๆ ที่จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่ออันโอชะ ของผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ที่จ้องแต่จะเอาเปรียบผู้หญิง น้องเตย ตอนนี้อายุ 19 ...หญิงสาว ผิวขาว หน้าตาน่ารัก ตามวัยใส...น้องเตยเล่าให้ฟังว่า เพราะว่า เตย เป็นผู้หญิงที่ดูน่ารัก เตย สูง 167 หนัก 50 ดูเพรียวบางผิวขาวหน้าตาน่ารัก จึงเป็นธรรมดา ที่เตยจะมีหนุ่มๆมาจีบกันตรึม แต่ด้วยที่ยังไม่ถูกใจใครเลย เตยจึงยังไม่มีแฟน น้องเตยเล่าให้ฟังว่า วันนั้น เป็นวันศุกร์ หลังจากเลิกเรียนแล้ว มีเพื่อนชายที่สนิทกัน มาชวนไปดูหนัง ด้วยความที่ไว้ใจเพื่อน ประกอบกับหนังเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เตยอยากดูอยู่พอดี เตยจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเพื่อนชายที่คิดว่า เพื่อนกันคงไว้ใจกันได้ น้องเตยเล่าให้เราฟังต่อไปว่า....หลังจากที่เพื่อนของเตย ไปซื้อบัตร แล้วเราเข้าไปนั่งในโรงหนัง วันนั้นโรงหนังดูเงียบๆ โรงเหลง จัง เพราะอาจจะเป็นวันที่หนังเรื่องนี้ใกล้ออกแล้วกระมัง...แต่เตยก็ ยังนึกเอ๊ะใจ อยู่ว่าทำไม เพื่อนคนนี้จะเลือกที่นั่ง ในแถวที่ไม่มีใครนั่งเลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงเพราะวันนี้คนน้อยกระมัง จะทำให้แถวของที่นั่งไม่มีคนมานั่งเลย...แต่เตยหารู้ไม่ว่า ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เตยจะถูกเพื่อนชาย...ล้วง

วันนั้นอากาศในโรงหนังเย็นมากเลย..ประกอบกับไว้ใจเพื่อนคนนี้ด้วย...บรรยากาศในโรงหน
ังวันนั้น มันเย็นมาก
แล้วก็ มืดพอสมควร แล้ววันนั้น เตยก็นุ่งกระโปรงสั้น ใส่ชุดนักศึกษา รัดรูปพอสมควร เผยให้เห็นสิ่งที่ยั่วยวนอย่างเด่นชัด
ประกอบกับขาขาวๆของเตย ซึ่งเตยก็รู้ดีว่าผู้ชายส่วนมากจะชอบมองขาของเตย แต่เตยก็ระวังตัวอยู่ตลอด

ระหว่างที่นั่งดูนั่งกัน....อากาศก็เย็น แล้วก็มืดด้วย เพื่อนชายของเตยก็เอามือมาจับมือเตย แล้วถามว่า เย็นไหม
เตยก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ ใจหวิวๆ บ้าง เพราะไม่เคยถูกผู้ชาย ใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน..
เหมือนเค้าจะรู้ว่าเตยกำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่เค้ากำลังทำ เค้าเริ่มรุกเร้าและจู่โจมมาลำดับ...เค้าเขยิบเอียงตัวมาใกล้เตย
ตอนนั้นเตยรู้สึกได้เลยว่า ใจมันสั่นๆ แล้วก็ หวิวๆ ยังไงก็บอกไม่ถูก

ตอนนั้นเตยรู้สึกหมดเรี่ยวแรง เค้าเริ่มเอามือเข้ามาใกล้ๆ...ตรงนั้น แล้วล้วงเข้าไป....อู้ยๆ ทำอะไรค๊ะ
เตยร้องถาม เค้าบอกว่า เหอะน๊า นิดเดียวเอง เพื่อนกัน ล้วงแค่นี้เอง....เตยก็ ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงไปไหนหมด
ปล่อยให้เค้าล้วงอย่างเมามัน....เตย มองตามมือลงไป เค้าเอามือล้วงหายเข้าไป อย่างเมามัน
สายตาที่วิงวอนของเค้า มันทำให้เตย ได้แต่ร้องซี้ดอยู่ในใจว่า...อู้ย พอเหอะ ล้วงของเค้า พอยัง คะ
น๊า นิดเดียวเอง กำลังล้วงเพลินเลยๆนะ....ช่วงที่เค้าล้วงของเตยนั้น อีกมือเค้าก็เอื้อมมาบีบ..นม ของเตย
เตยตกใจมากเลย ไม่คิดว่าเค้าจะกล้าขนาดนี้ แต่เตยก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้า เพราะตอนนั้น ก็ รู้สึกอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
เหมือนกับว่า เค้าอยากทำอะไรก็ปล่อยให้เค้าทำไป....เพื่อนชายคนนั้น เค้าก็เอามือ มาบีบนม แล้วก็ คลำมันเล่นเบาๆ
เตยก้มลงมามอง นม แล้วก็อมยิ้มในใจ หวงก็หวง..ไม่อยากให้เค้าทำ แต่ ตอนนั้นมันหมดแรงเลยนะ..เพื่อนก็
ไม่ยอมพอเสียที ทั้งล้วง ทั้ง บีบนม อย่างเมามัน ห้ามก็ไม่ฟัง....พอจะบอกให้พอ ก็ ทำหน้าอ้อนเตยก็เลยต้องปล่อยให้
เพื่อนมัน ทั้ง ล้วง ทั้ง บีบนม เล่น อย่างเมามัน

ช่วงที่เพื่อนล้วงแล้วเอามือออกมานะ...เตย รู้เลยว่า นิ้วเค้ามีน้ำแฉะๆด้วย....เพราะเตยเอามือไปโดนนิ้วเค้า
ตอนที่เค้าเอื้อมมาจับนมเตย....ตัวเอง พอเหอะ นะ..ล้วงของเค้าพอเหรอยังค๊ะ..นี่ น่าตีจัง ทั้ง มือก็ล้วง
อีกข้างก็ จับนมของเค้านะ...พอเหอะนะ....เตยหวงของเตยนะ ตัวเองนะ ล้วงของเค้าพอยังนะ.....นี่
นิ้วตัวเอง อะ แฉะไปหมดแล้วนะ สงสารเค้าบ้างนะ...

นี่..อีตา บ้า...ล้วงพอหรือยัง..ล้วงเข้านะ ข้าวโพด ในถุงที่ฉันซื้อมานะ ล้วงไปกินจนจะหมดแล้วนะ...แล้ว
นมกล่องที่ฉันซื้อมาก็บีบ เล่นอยู่ได้ มือว่างมากหรือไง แล้วนิ้วอะ มาจับแก้วแป็บซี่ จนนิ้ว แฉะไปหมดแล้วนะ เธอ..โอ้ย มาดูหนังกับเธอ โดนล้วง โดน จับ นม นิ้ว แฉะ หมดเลย

ปล.โด้น โดนไหมหล่ะ ชะ ชะ ช่า




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 มิถุนายน 2551 18:05:34 น.   
Counter : 332 Pageviews.  

ฮาเฮ แบบ เฮฮา [โจ๊ก สตอรี่]

เรื่อง 1

สามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานกัน ภรรยาไม่มีความสุขเลย เพราะสามีของเธอมีความต้องการทางเพศสูงมาก...

วันหนึ่ง เธอทนไม่ไหวกับสามี จึงเขียนโน้ตแปะไว้ที่ตู้เย็นว่า...

"เรียนท่านสามีที่เคารพ

ฉันทนความต้องการของคุณไม่ไหว จะขอมีอะไรกับคุณแค่วันที่ขึ้นต้นด้วยตัว ที (T) เท่านั้น

ด้วยรัก จากภรรยา"

หลังจากนั้นเธอก็ไปทำงาน เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พอข้อความใหม่แปะอยู่ที่ตู้เย็น

"เรียนคุณภรรยาที่น่ารัก

ผมตัดสินใจแล้วว่าจะตกลงทำตามข้อตกลงของคุณ โดยการมีสัมพันธ์กับคุณแค่วันที่ขึ้นต้นด้วยตัว ที (T)

อันได้แก่ Tuesday Thursday Today และ Tomorrow

ด้วยความรัก จาก สามี

ปล. ผมรอคุณอยู่ข้างบนนะ"


เรื่อง 2

ศาล - จำเลยโดนฟ้องข้อหาข่มขืนหญิงสาว จำเลยมีข้อโต้แย้งหรือไม่

ชาย - ผมไม่ผิดครับ ศาลที่เคารพ

หญิง - แกน่ะผิดชัด ๆ ศาลที่เคารพ จำเลยผิดค่ะ

ศาล - ขอฟังเรื่องทั้งหมดก่อนละกัน

หญิง - ได้ค่ะ คือเมื่อวานนี้ ดิฉันเดินไปซื้อของที่ตลาด ชายคนนี้เขาก็มองฉันแบบโลมเลีย ฉันเลยวิ่งหนีค่ะ แต่ฉันวิ่งมาถึงบ้าน เขาก็ตามเข้ามาและก็ยืน...ฉันน่ะค่ะ (ร้องไห้)

คณะลูกขุน - โอ เธอช่างน่าสงสารเสียจริง

ศาล - จำเลยมีข้อแก้ตัวไหม

ชาย - ผมไม่ได้วิ่งตามนะครับ เธอเป็นคนดึงผมไปเองเลยต่างหาก แถมเธอยังยั่วผมก่อนด้วย

หญิง - ไม่จริงนะคะศาลที่เคารพ มันโกหก (ร้องไห้โฮ)

ศาล - ใจเย็น ๆ ก่อนทั้งสองฝ่าย ผมมีวิธีที่ทำให้รู้แล้วล่ะ จำเลย คณสูงเท่าไหร่

ชาย - 185 ครับ

ศาล - แล้วผู้เสียหายล่ะ

หญิง - 152 ค่ะ

ศาล - งั้นศาลขอตัดสินให้จำเลยไม่มีความผิด

หญิง - ได้ยังไงคะ !! เขาผิดชัด ๆ เลย!!

คณะลูกขุน - นั่นสิศาลที่เคารพ ทำไมล่ะ

ศาล (เริ่มรำคาญ) - อ้าว ก็คนที่สูง 185 ซม. จะมีอะไรกับคนที่สูง 152 ซม. ขณะยืนได้ยังไงล่ะ

หญิง - ทำไมจะไม่ได้!! ก็ฉันเขย่งให้เขาทำน่ะสิ!!!

ศาล,คณะลูกขุน - !!!!!!!!!!?????????



เรื่อง 3

+++มีคนไทยอยู่ 1 คน พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ
+++ได้เข้าไปทำงานในบริษัทหนึ่ง ซึ่งเป็นของต่างชาติ
+++ในทุกวันเขาก็ทำงาน เหมือนเดิมทุกวัน แต่....

**มีอยู่มาวันหนึ่ง เขาได้เข้าห้องน้ำในบริษัทแล้วไปเจอ
คนฝรั่ง2 คน อยู่ในห้องน้ำ ซึ่งฝรั่งทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกัน ซึ่งกำลังล้างมือ หลังจาก ฉี่เสร็จ และ พอฝรั่ง 2 คนนั้นเห็นคนไทย ทั้ง2คน จึงคุยข่มคนไทย ว่า....
ฝรั่งคนที่ 1 "นายเรียนจบที่ไหนว่ะ"
ฝรั่งคนที่ 2 "เราเรียนจบที่ OXFORD จากประเทศ อังกฤษ"
(ทันใดนั้น ฝรั่งคนที่ 2 ก็ควักน้ำล้างมือมาถึงข้อศอก)
ฝรั่งคนที่ 1 เห็นก็งงแล้วถามว่า "ทำไมต้องล้างมือถึงข้อศอกด้วย"
ฝรั่งคนที่ 2 ตอบว่า " ที่อังกฤษเขาสอนให้ล้างอย่างนี้ เพราะตอนฉี่ ฉี่อาจกระเด็นมาถึงแขนก็ได้ ต้องระวังไว้ก่อน"
(ทันใดนั้น ฝรั่งคนที่1 ก็ควักน้ำมาล้างมือ เฉพาะ ที่มือ แล้วหาไม้มา แคะขี้เล็บออก)
ฝรั่งคนที่ 2 เห็นก็ถามว่า " นายจบจากที่ไหน"
ฝรั่งคนที่ 1 ตอบว่า "เราจบจาก อเมริกา ที่ STAMFORD
ที่นั่นเขาสอนให้ล้างมือเฉพาะที่สกปรก แล้วก็ แคะขี้เล็บออก เพื่อป้องกันเชื้อโรค"
ฝรั่ง 2 คนเห็นคนไทยฉี่อยู่ พอคนไทยฉี่เสร็จ ก็เดินออกจากห้องน้ำเลย
ฝรั่งทั้ง 2 คนเห็นก็ตกใจว่าทำไมไม่ล้างมือ เลยวิ่งไปถามคนไทยว่า
"นายจบจากไหน ทำไมถึงไม่ล้างมือ"

คนไทยตอบว่า "จบราม รามไม่สอนให้ฉี่รดมือตัวเอง"




เรื่อง ที่อั้นนานๆไม่ได้ เรื่อง 4 ********ถึงกับกริบกันเรย

"ขอนัดคุณหมอหน่อยครับ หมู่นี้ผมหน้ามืดบ่อยๆ ไม่รู้มีปัญหาเรื่องความดันหรือเปล่า"


"วันศุกร์หน้าบ่ายสองนะคะ"


"นานยังงั้นเชียวหรือ ขอเป็นวันสองวันนี้ไม่ได้หรือ"


"ไม่ได้จริงๆค่ะ คิวแน่นมากเลยค่ะ
ต่อให้มีคนยกเลิกนัด อย่างมากก็เร็วขึ้นวันสองวันเองค่ะ"


"ง้านเลยเรอะ... เออ...


แล้วนี้ถ้าเกิดผมตายก่อนจะถึงวันนัดจะทำไงดีฮึ"


"กรุณาโทรมาแจ้งด้วยนะคะ จะได้เลื่อนคิวคนข้างหลังมา
แทนคุณได้ค่ะ!!!"


"......"


เรื่อง สอ-งบ-วก-สาม

"แม่คะ หนูตัดสินใจแล้วว่า!
จะไม่แต่งงานกับจอห์น "


"อ้าว ทำไมล่ะลูก "แม่ถามด้วยความประหลาดใจ


"หนูเพิ่งรู้ว่าเขาไม่นับถือศาสนาอะไรเลยและไม่เชื่อว่า
มีนรกด้วย"


"ไม่ต้องห่วงหรอกลูกแต่งงานกับเขาเถอะ


เพราะอยู่กินกันไปเขาก็จะรู้เองว่านรกมีจริง "


เรื่องนี้ต้องเช็ดก่อน
เรื่องไรวะ
เรื่อง 6 ไง -*-

รื่องมีอยู่ว่า...ปู่ของเด็กสาวตายด้วยหัวใจวาย เด็กสาวจึงสงสัยมาก เพราะปู่ของเธอเป็นคนสุขภาพแข็งแรง เด็กสาวตัดสินใจถามย่า

เด็กสาว "ย่าคะ ทำไมปู่ถึงหัวใจวายทั้ง ๆ ที่แข็งแรงดีล่ะคะ"

ย่า "หลานอยากรู้หรอ"

เด็กสาว "ค่ะ"

ย่า "งั้นย่าจะเล่าให้ฟัง ทุก ๆ วัน ตอนเย็นย่าจะมีอะไรกับปู่"

เด็กสาว "..."

ย่า "แล้วปู่จะใช้เสียงระฆังของโบถส์เป็นตัวให้จังหวะ"

เด็กสาว "แล้วไงคะย่า"

ย่า "ก็วันนั้นรถขายไอติมมันแล่นผ่านน่ะซี่!!"

เด็กสาว "-*-"



เรื่องนี้พวกคุณๆคงชอบๆกันอยู่******* เรื่อง7

ในเช้าวันวาเลนไทน์ ภรรยาตื่นขึ้นพร้อมกับความฝัน

ภรรยา"ที่รัก เมื่อคืนฉันฝันค่ะ ฉันฝันว่าคุณให้สร้อยคอไข่มุกเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ค่ะ ที่รัก..คุณคิดว่าฝันแบบนี้หมายความว่าอะไรคะ"

สามี "ที่รัก เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้จ๊ะ"

สามีตอบ และยิ้มอย่างอารมณ์ดี

คืนนั้น สามีกลับบ้าน พร้อมกับของขวัญชิ้นหนึ่ง และมอบให้กับภรรยา ฝ่ายภรรยารับห่อของขวัญด้วยความดีใจ และเมื่อเปิดกล่องของขวัญดูก็พบว่า

หนังสือเล่มนั้นชื่อ "คู่มือทำนายฝัน"


เรื่องของกุ5555+ อันนี้ไม่ใช่แร่ะ
อาจซ้ำบ้างไม่ซ้ำบ้างก็ขออภัยด้วยครับ




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 11 มิถุนายน 2551 18:05:26 น.   
Counter : 272 Pageviews.  

เรื่องนี้สำหรับคนรักที่ชอบทะเลาะกัน อ่านไว้นะครับ

จากที่ใช้เวลาดูใจกันเพียงไม่นาน ในที่สุดเธอก็ตกลงแต่งงานกับเขา

ชายผู้เป็นรักแรกของเธอ

ในวันแต่งงาน ว่าที่สามีของเธอได้ซื้อตุ๊กตาคู่บ่าวสาว มามอบให้เป็นของขวัญ

ด้วยความที่เธอเพิ่งได้รู้จักความรักมาเพียงน้อยนิด

เธอจึงเข้าใจเพียงว่าสามีของเธอช่างเป็นคนโรแมนติกเสียจริง



แต่เนื่องด้วยความที่เธอยังไม่เข้าใจคำว่ารัก

และไม่ได้ใช้เวลานานพอ จึงทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยมาก

เพราะเธอเป็นคนที่เอาแต่ใจ สามีของเธอถึงจะเป็นคนที่มีเหตุผล

มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่า แต่ก็เป็นคนอารมณ์ร้อน

ทั้งคู่จึงทะเลาะกันรุนแรงมาก แต่เขาก็จะเป็นคนไกล่เกลี่ย

ให้เรื่องร้ายบรรเทาลงได้ทุกครั้งไป



จนครั้งนี้ ด้วยความโมโห เธอได้ปัดตุ๊กตาคู่รัก

ลงจากโต๊ะที่เคยมีทั้งสองยืนเคียงกัน

บัดนี้ตุ๊กตาทั้งสองกระจัดกระจายไปคนละทาง

เธอหยิบตุ๊กตาเจ้าสาวมาขวางใส่เขาประกาศจะขอหย่ากับสามี

เขากอดตุ๊กตาเอาไว้แน่น แล้วเดินออกจาเรือนหอแห่งรักไปทั้งน้ำตา



หลังจากพายุสงบลง หญิงสาวก็นั่งนิ่งแล้วร้องไห้

เธอเหลือบไปเห็นตุ๊กตาเจ้าบ่าวที่เหมือนจะนอนร้องไห้อยู่ที่พื้น

เธอหยิบมันขึ้นมากอดอย่างเจ็บปวดที่สุด

ปากเธอพร่ำบอกรักเจ้าบ่าวของเธอร้อยพันครั้ง

แต่ก็ไม่มีเสียงตอบใดๆจากเจ้าตุ๊กตาตัวน้อย



เธอลุกขึ้น กอดตุ๊กตาเดินออกไปนอกบ้าน

ตั้งใจจะออกไปตามหาเขา...คนรักเพียงคนเดียวของเธอ

แต่พอพ้นประตูบ้านไป ก็เห็นสามีของเธอนอนอยู่ที่ริมรั้ว

เขาหลับไปทั้งๆที่ยังกอดตุ๊กตาเจ้าสาวอยู่

เธอจึงเข้าไปปลุกแล้วบอกว่า “ขอโทษนะจ๊ะ เพื่อนของฉันดูท่าทางเหงา

เพื่อนของเธอก็ทำหน้าเศร้าจังเลยฉันจึงอยากจะขอเจ้าสาวจากเธอมาให้เพื่อนฉัน

เพื่อให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”



เธอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแล้ว และเธอก็กำลังยิ้มเช่นกัน

มันเป็นช่วงเวลาที่เขาและเธอช่างสุขใจเหลือเกิน

“ให้ไม่ได้หรอก ฉันมีเพียงแค่เธอคนนี้เท่านั้นเธออยู่ปลอบฉันทั้งคืนเลย

ถ้าให้เธอไปแล้วใครจะปลอบฉันล่ะ"

แล้วเธอก็หัวเราะ “โธ่ ให้ฉันไม่ได้เหรอ แล้วฉันจะคอยปลอบเธอเอง

เถอะนะ ฉันซื้อก็ได้ เท่าไหร่ฉันก็จะซื้อให้ได้”



“ถ้าความรักมันซื้อขายกันได้ง่ายๆก็ดีน่ะสิ” เขาตอบ

“ถึงยังไงฉันก็คงขายให้ไม่ได้หรอก เพื่อนฉันคนนี้มีค่าสำหรับฉันมาก

เพราะเธอนำพาคนที่ฉันรัก กลับมาหาฉันอีกครั้ง”



หญิงสาวตื้นตันใจจนน้ำตาไหลลงมา

“จะพอมั้ยถ้าฉันจะจ่ายแสนกอด ล้านจูบ และความรักที่ไม่มีวันหมดไป”

“กลับบ้านด้วยกันนะ…”



เวลาทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่พอใจซึ่งกันและกัน ในช่วงเวลานั้นส่วนของ

โทสะจะมีมากกว่าความรัก ยิ่งหากเธอโยนความรักทิ้งไป

มันก็จะเหลือเพียงความโกรธ ความไม่พอใจเท่านั้นเอง

และเพราะเธอโยนความรักทิ้งไป เธอจึงลืมไปว่า ถึงแม้ตอนที่ทะเลาะจะโกรธ

เกลียด ด่าว่ายังไง เวลานั้นเราก็ยังรักกันอยู่ ที่ทะเลาะก็เพราะรักไม่ใช่เหรอ


ทำไมไม่กอดความรักเอาไว้ เธอจะเข้าใจความหมายของการทะเลาะกัน

ก็เพราะว่ารักมาก แต่ไม่เข้าใจกัน



เพราะเธอโยนความรักทิ้งไปในตอนที่ทะเลาะกัน เธอจึงกล้าจะบอกเลิกได้

เพราะความรักที่เธอเคยมีมากมาย อยู่บนพื้น ไม่ได้อยู่ในใจของเธอ

และเธอจะเจ็บปวดที่สุด เมื่อเก็บความรักบนพื้นกลับมาใส่ในใจเธออีกครั้ง...



ดีใจทุกครั้งที่ได้ทะเลาะกัน เพราะรู้ดีว่าคนที่กำลังด่าว่าฉันอยู่

เธอทำเพราะว่ารักฉัน รู้ดีว่าเมื่อปัญหาจบลง ความเข้าใจจะเพิ่มขึ้น

ความรักก็เหมือนกัน เคยสังเกตมั้ยว่าเราจะรักกันมากขึ้น ถ้าได้ทะเลาะกัน



คนสองคน มาจากคนละทาง ความแตกต่างมันต้องมีอยู่แล้ว

ตอนนี้เราเหมือนเดินขนานกัน แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน

ช่องว่างระหว่างเราจะค่อยๆลดลงไป



ทำใจเอาไว้เถอะ เพราะเราจะต้องทะเลาะกันไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ

จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว.




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 15:50:08 น.   
Counter : 294 Pageviews.  

15 วิธีลับสมองให้ความจำดีขึ้น, *-*

นี่คือคำแนะนำเพื่อความจำที่ดีขึ้น

1. หาเวลาที่เหมาะที่สุดกับการใช้ความคิดของเราในแต่ละช่วงวัน แต่ละคนแต่ละวัยจะมีช่วงทองให้กับการคิดไม่เหมือนกัน ว่ากันว่าคนมีอายุแล้วสมองจะเคลียร์ที่สุดก็เป็นช่วงเช้า พวกหนุ่มๆสามวๆนั้นกว่าจะมีสมาธิในการคิดได้ก็จะเป็นช่วงบ่าย ดูตัวเองว่าความคิดดีดีของเรานั้นมักจะมาในช่วงไหน แล้วเก็บช่วงนั้นไว้สำหรับงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์

2. หาความรู้อยู่เรื่อยๆ...รู้แบบกว้างๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกไปซะทุกอย่าง แต่ความรู้ที่สะสมมาจากทุกเรื่องจะช่วยต่อยอดกับข้อมูลใหม่ๆให้เข้าใจได้ ง่ายๆขึ้น

3. "จดไว้ให้จำ" เครื่องช่วยจำที่ดีที่สุดก็คือจดทุกอย่างลงในกระดาษ เขียนไว้กันลืม สุภาษิตจีนบอกไว้ว่า ถึงแม้ว่าหยดหมึกที่จางที่สุดก็จะอยู่ได้นานกว่าความจำที่ว่าแม่นที่สุด

4. เพิ่มพลังกับกาแฟ..แต่แค่ถ้วยเดียวพอนะ ที่จะช่วยให้มีสมาธิดีขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าเวลาเครียดๆละก็ห้ามเด็ดขาดเพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม

5. โยงเรื่องใหม่กับความจำเดิม ให้คิดซะว่าความคิดหรือความจำที่มีอยู่เดิมนั้นเหมือนกับตุ๊กตาที่ถูกแขวนไว้กลางอาก
าศ กำลังรอข้อมูลใหม่ๆเข้าไปปะติดปะต่อ อย่าปล่อยเรื่องใหม่ๆเข้าไปอย่างไม่มีจุดเชื่อมโยง เช่น ถ้าจะจำชื่อคน ก็ลองโยงความหมายหรือเสียงของชื่อนั้นเข้ากับสิ่งต่างๆที่เราคุ้นเคย

6. ฝึก..ฝึก..ฝึกจำอยู่บ่อยๆ ถึงอายุอ่อนกว่าแค่ไหน แต่ถ้าไม่เคยฝึกท่องจำเลย ความจำก็อาจจะสู้คนแก่ไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อลองนึกดูสิว่าไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนทำไมเราถึงไม่ลืมสูตรคูณ ที่เราท่องตั้งแต่ยังเด็กล่ะ

7. ควรให้เวลาสมองได้รับเรื่องตลกๆหรือได้คิดอะไรที่ไร้สาระบ้าง เป็นการให้ความคิดของเราได้พักผ่อน

8. รู้จักดัดแปลงความคิดสร้างสรรค์ มันมักจะเกิดขึ้นมาได้จากบางอย่างที่เราคุ้นเคยนั่นล่ะ จะเชื่อมั้ยล่ะ ถ้าบอกว่าวิธีเปิดฝากระป๋องแบบดึงขึ้นนั้นน่ะ ต้นตอมาจากการปลอกเปลือกกล้วยนั่นเอง

9. คบเพื่อนที่ฉลาด มีความคิดกว้างๆ..แล้วคำโบราณที่บอกว่าคบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผลนั่นน่ะมันเป็นความจริง การที่เราได้อยู่ใกล้กับคนที่มีความรู้ เป็นคนฉลาดที่เปิดรับความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอนั้นจะช่วยให้เราได้คิดตาม และฝึกสมองอยู่บ่อยๆ

10. เลียนแบบลีโอนาโด..หมายถึง ลีโอนาโอ ดา วินซี มีวิธีมากมายที่ดาวินซีใช้สร้างสรรค์งานของเขาง่ายๆก็คือ ลองเขียนภาพจากมือที่ไม่ได้ถนัด

11. เอาใจใส่ เคยมั้ยที่เวลาได้เจอใครๆกลับจำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร ที่เป็นปัญหาอาจจะไม่ใช่เรื่องของความจำแต่เป็นเรื่องของการใส่ใจ ถ้าเราใส่ใจกับคนๆนั้น หรือสิ่งนั้น เราจะจำได้มากกว่าที่เป็น

12. ฟังเพลงโมสาร์ท ก่อนนอนเปิดงานของโมสาร์ทฟังซักหนึ่งรอบ จะช่วยเรื่องความจำดีขึ้นได้

13. ออกกำลังกาย เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนที่ไม่ใช่แค่ให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แต่หมายถึงสมองได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย

14. ลองทำสิ่งใหม่ๆจะได้มีแนวความคิดที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

15 ตัดเครื่องรบกวนสมาธิทั้งหมด ขึ้นป้าย Don't Disturb! ติดไว้ข้างตัว เวลาที่งานนั้นต้องใช้ความตั้งใจและมีสมาธิอย่างสูง และทางที่ดีดึงสายโทรศัพท์ออกไปไม่รับสายเข้าเลยดีกว่า




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 15:49:55 น.   
Counter : 245 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]