ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ชั ด เ จ น แ ล ะ ส ม่ำ เ ส ม อ

วันก่อนผมไปงานแต่งงานอดีตกิ๊ก

(ที่ไม่ได้แปลว่าชู้ . . . แต่เป็นคนที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน)

เราเคยไม่ได้เจอกันมาเกือบปีจากการเจอกันครั้งสุดท้าย . . .

ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ แต่ผมพยายามนึกเองว่าเป็นเพราะงานเยอะ

ไม่มีเวลา . . . ที่ทำให้เราห่าง ๆ กันไป


ผมยังจำได้

วันที่เราเจอกันครั้งแรก


ผมไปหาเพื่อนที่คณะของเธอ

เราอยู่สถาบันเดียวกัน แต่คนละฝั่งถนน

ผมเห็นเธอเล่นกับหมาสกปรก ๆ ตัวนึง

ภาพนั้นยังชัดเจนอยู่เลย

ผู้หญิงผมยาว หน้าตาน่ารัก เล่นกับหมามอมแมม

เธอเอาลูกชิ้นปิ้งมาให้น้องหมากิน

ลูบหัวลูบหูมันแบบไม่รังเกียจ

ผมไม่เคยจีบผู้หญิง จีบไม่เป็นด้วย แต่ผมขอให้เพื่อนแนะนำเธอให้รู้จัก

แสดงให้เห็นว่าผมสนใจเธอ ไม่รู้เรียกว่าจีบหรือเปล่า

เราคุยกันถูกคอเรื่องหมา เรื่องหนัง เรื่องเพลง เรื่องนินทาเพื่อนของเรา

และเรื่องการเรียนที่เธอสนใจการเรียนของคณะผม

และผมสนใจการเรียนคณะเธอซึ่งเป็นคนละสาย

ความสัมพันธ์ก่อตัว . . . เราอาจจะเป็นมากกว่าเพื่อน

แต่ก็ไม่รู้จะใช้คำว่าแฟนได้ไหม

เราไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน ผมเดินไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์ทุกเย็น

เราโทร.คุยกันบ่อย ๆ ถึงจะไม่บ่อยมาก

วันหยุดเรานัดไปดูหนังด้วยกัน ผมถือของให้เวลาเธอไปชอปปิ้ง

แต่เราไม่เคยบอกว่าต่างคนต่างรู้สึกยังไง

ไม่เคยบอกใครและไม่เคยบอกกันว่าตกลงเราเป็นแฟนกัน

ไม่เคยมีคำพูดหวานๆ หรือการกระทำที่มันพิเศษมากไปกว่านี้

จนเราเรียนจบ . . .


พอเริ่มทำงาน . . . สังคมก็เริ่มเปลี่ยน

เวลาและความวุ่นวายหน้าที่การงานทำให้ความกระตือรือล้นที่จะเจอกันน้อยลง

ความถี่ในการโทรหากันห่างขึ้นเรื่อย ๆ


จนแทบจำไม่ได้ ว่าครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน กินข้าวกัน ดูหนังด้วยกัน

และโทรศัพท์คุยกัน คือ เมื่อไหร่

ผมไม่คิดถึงเธอหรือเปล่า . . . ก็ไม่เชิง

เพียงแต่มันมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า จนเหมือนหลง ๆ ลืม ๆ เธอไป . . .


เรามาเจอกันอีกทีตอนงานแต่งงานเพื่อนคนที่แนะนำให้เรารู้จักกัน

หลังจากเรียนจบหลายปี เรายังคุยกันเหมือนเดิม แต่เหมือนระยะห่างมากขึ้น

เราไม่ถามกันว่าแต่ละคนหายไปไหนมา

ถามแต่ว่ากำลังทำงานอะไรอยู่ เป็นไงบ้าง

แล้วเราก็ห่างหายกันไปอีกครั้ง . . . แล้ววันนึง . . . เธอก็โทรมาหาผม

บอกว่ากำลังจะแต่งงาน กับชาวต่างชาติ ที่ทำงานที่เดียวกันกับเธอ


ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง

เราห่างกันจนผมไม่ควรจะหวงเธอแล้ว . . .

แต่ผมก็รู้สึกใจหาย

มันรู้สึกแปลก ๆ เหงา ๆ หัวใจหวิว ๆ ยังไงไม่รู้


ผมไปงานแต่งงานของเธอ . . .

บอกตรงๆ ว่าตอนอยู่ในงาน

ผมนึกในใจว่าทำไมผู้ชายที่ยืนข้างเธอไม่ใช่ผม

แต่วันนั้นผมก็ได้แสดงความยินดีกับเธอไปอย่างเต็มใจ


. . . . . .


เมื่อคืน

เธอโทรมาหาผม . . .

เราคุยกันมากขึ้นกว่าตอนที่ห่างหาย

ที่จริงผมเริ่มทำใจได้บ้างแล้วล่ะ

ก็เลยแกล้งบอกเธอไปว่า . . . เนี่ย พอบีแต่งงานไปโอเลยไม่รู้จะแต่งกับใคร

เธอหัวเราะ ถามว่า นี่โออยากแต่งงานกับบีด้วยเหรอ นึกว่าไม่อยาก

ผมก็ อ้าว ทำไมล่ะ โอดูไม่ชอบบีเหรอ

เธอนิ่งไปแป๊บนึง แล้วก็ถามแบบเสียงซีเรียสว่า . . .

ถามจริงเถอะ บีอยากรู้มานานแล้ว ว่าที่ผ่านมาโอคิดยังไงกับบี

ผมถามย้อนกลับว่าที่เราไปกินข้าว ดูหนัง กันเนี่ย

มันไม่ได้หมายความว่าชอบเหรอ ไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะ


จากนั้นผมถึงได้รู้ว่า เธอรู้สึกไม่เข้าใจว่าผมคิดไงมาตลอด

เพราะเราไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน คุยกันทุกวัน


แต่ผมไม่เคยมีอะไรหวานๆ ไม่เคยแสดงความห่วงใยเป็นพิเศษ

ไม่เคยบอกว่าชอบเธอ ไม่รู้ว่าเราเป็นแฟน . . . หรือเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก

ซึ่งสิ่งที่เธออยากรู้คือผมชอบเธอระดับไหนแค่คนควงเล่นหรือมากกว่านั้น

(ผมดูเหมือนคนคบผู้หญิงไว้ควงเล่นขนาดนั้นเลยเหรอ . . .)

เพราะเป็นผู้หญิง . . . ทำให้เธอไม่เคยกล้าถาม

แต่ วันนี้ถามฐานะ เพื่อนเก่า

ตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้พูด เพราะพูดไม่เป็น

แล้วก็ไม่นึกว่าผู้หญิงจะต้องการการแสดงออกที่ชัดเจนมากกว่านี้

ยิ่งพอเรียนจบ ผมเหมือนหายไปเลย . . . ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน


ผมรู้สึกเหมือนกับว่า หัวข้อการคุยหลังจากนั้น

คือ เราต่างเสียดายที่เราไม่เปิดเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายมากกว่านี้ในตอนนั้น

ถึงเราจะคุยกันเหมือนเป็นเรื่องน่าขำ . . .



หลังจากวางสาย . . .

ผมรู้สึกเหงา ๆ หวิว ๆ ยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าเธอจะแต่งงาน


มันเหมือนอะไรบางอย่างที่เราควรจะรักษาไว้ แต่กลับรักษาไม่ได้


แล้วตอนนี้มันก็สายเกินไปที่จะเรียกกลับมา

ก็หวังว่าความเหงาแบบนี้มันคงจะผ่านไป . . .

ไม่กี่วันหลังงาน ผมได้รูปแต่งงานของเธอมา

(ผมขอรูปเจ้าสาวที่เธอไปถ่ายติดหน้างานไว้)

ผมดูแล้วก็ยิ้ม ๆ ทุกครั้ง


ใช่ครับ . . . ถึงมันจะเศร้า แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นความทรงจำที่ดี

ตอนที่ผมเห็นรูปนี้ครั้งแรก ผมไม่เคยฝันว่างานแต่งงานผมจะเป็นไง . . .

เจ้าสาวผมจะเป็นใคร หน้าตาแบบไหน

ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ . . .ว่าตัวเองจะแต่งงานหรือเปล่า

แต่รูปถ่ายผู้หญิงปล่อยผมยาว ยิ้มกว้าง แต่งหน้าอ่อนๆ

ใส่ชุดสีขาวสบายๆริมสระน้ำ . . . ทัดดอกไม้สีขาวที่หู รูปนี้

ผมรู้สึกเสียดายจริง ๆ ที่เธอไม่ใช่เจ้าสาวของผม ไม่ได้ใส่ชุดนี้เพื่อผม


ในแต่งงานของเธอ ทุกครั้งที่มองเธอ

ผมถามตัวเองตลอด . . ว่าทำไมผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอวันนี้ไม่ใช่ผม

แต่คำตอบของสิ่งที่ผมถามตัวเอง . . . ผมก็รู้ว่าเพราะอะไร



เหตุการณ์นี้คงเป็นบทเรียนนะครับ

ซึ่งไม่รู้ผมจะมีโอกาสได้แก้ตัวอีกหรือเปล่า

เรื่องของคนที่ไม่ชัดเจน ไม่สม่ำเสมอ และเข้าใจยาก อย่างผม

อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง

ไม่อยากให้เกิดกับใคร . . .

ใครที่ยังมีสิ่งที่ตัวเองหลงลืม ลองย้อนหันกลับไปมอง

และเอาใจใส่ให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นอีกนิดนะครับ

จะได้ไม่ต้องมานึกเสียดายทีหลัง . . . ถ้าสิ่งนั้นพลาด หรือหลุดลอยไป

หรือถ้าพลาด อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่าได้ทำเต็มที่แล้ว

ไม่ใช่พลาด เพราะปล่อยปละละเลย

อย่าลืมนะครับ . . . ขอย้ำอีกทีว่า

+ + ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ชั ด เ จ น แ ล ะ ส ม่ำ เ ส ม อ + +











P.s ขอขอบคุณบทความจาก ความรักดอทคอม

โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ( ใครเคยอ่านมาแล้วขอโทษด้วยละกัน )




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 15:43:39 น.   
Counter : 324 Pageviews.  

พ่อสอนลูกว่าด้วยเรื่องของตะปู...

พ่อสอนลูกว่าด้วยเรื่องของตะปู...
มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก
พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขาถุงหนึ่งและบอกกับเขาว่า
“ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคนให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน”

วันแรกผ่านไป....
เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว
และก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไป อย่างน้อยที่สุด
เขาได้รู้ว่าสิ่งที่พ่อกำลังพยายามบอกกับเขาก็คือ
การรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ ซึ่งง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
และแล้วหลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้น ใจเย็นมากขึ้น
เขาจึงเข้าไปพบพ่อและบอกกับพ่อว่าเขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว
ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็น พ่อยิ้มและบอกกับลูกชายว่า
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้โดยทุกๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์
ฉุนเฉียวของตนเองได้ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว”

วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออกทีละตัว จาก 1 เป็น 2 .... จาก 2 เป็น 3
จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกมา เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า
”ฉันทำได้ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ!!”

พ่อไม่ได้พูดอะไรแต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน และบอกกับลูกว่า
“ทำได้ดีมาก ลูกพ่อและเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ
เห็นไหมว่ามันไม่เหมือนเดิมไม่เหมือน.. กับที่มันเคยเป็น จำไว้นะลูก
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์
สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผลเหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน
ต่อให้พูดคำขอโทษสักกี่หนก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด
ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้ฉันใดก็ฉันนั้น”

“กับเพื่อน ..เพื่อนเปรียบเสมือนอัญมณีอันมีค่าที่หายาก..
เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจและยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ
เป็นคนที่คอยปลอบใจเรา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา และจริงใจกับเราเสมอ
...แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน
และระวังสิ่งที่เราทำไปไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำและจงจำไว้เสมอว่า
คำว่าขอโทษ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตามแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือรอยร้าวที่เขา
คงไม่อาจลืมมันได้...ตลอดไป...”




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 15:13:33 น.   
Counter : 269 Pageviews.  

ระหว่าง "คนที่เรารัก" กับ "คนที่รักเรา" เราควรจะเลือกใครดี??

คนที่เรารัก.....คือคนที่ใช่สำหรับเรา
แต่บางครั้ง.....เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่

คนที่เรารัก.....คือคนที่เราคิดว่าเรารู้จักเขาดี
แต่แท้จริงแล้ว....เรากลับไม่รู้จักเขาเลย

คนที่เรารัก......คือคนที่เราพร้อมจะเป็นผู้ให้
แต่สิ่งที่เราให้.....เขากลับไม่เคยมองเห็นสิ่งที่เราให้ไป

คนที่เรารัก........คือคนที่เราอยู่ด้วยเวลามีความสุข
แต่เวลาเราทุกข์.....เรากลับมองหาเขาไม่เจอ

คนที่เรารัก....คือคนที่เราใส่ใจทุกเวลา
แต่ที่แย่กว่าคือ.....ตลอดมาเขาไม่ได้ "รักเรา"



คนที่รักเรา.......คือคนที่เราเพียงมองผ่าน
แต่เขา.......กลับมองเราอย่างใส่ใจ ดูแล

คนที่รักเรา.....คือคนที่เราไม่พยายามทำความรู้จัก
แต่เขา.....กลับพยายามทำความรู้จักเรา

คนที่รักเรา.....คือคนที่เราไม่เคยให้ความสำคัญมากมาย
แต่เขา.....กลับให้ในสิ่งที่ล้วนมีค่ามีความสำคัญกับเรา

คนที่รักเรา......คือคนที่เราไม่เคยเห็นหน้าเวลาเราสุข
แต่เวลาทุกข์......เขากลับเป็นเหมือนเงาคอยเฝ้าตาม

คนที่รักเรา.....คือคนที่เราไม่เคยนึกถึง
แต่มีสิ่งหนึ่ง.....บอกให้รู้ว่า......"เขารักเรา"

ก็คือ เขาไม่เคยทำให้เราต้องเสียใจ เหมือนกับคนที่เรารัก




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 14:49:03 น.   
Counter : 461 Pageviews.  

เหตุผล 10 ประการที่การเรียนดีกว่าเซ็กส์

เหตุผล 10 ประการที่การเรียนดีกว่าเซ็กส์

เห็นมั้ย นับข้อดีได้มากกว่าตั้ง 10 ข้อแน่ะ น้องๆ เพื่อนๆ รีบหันมาตั้งตาเรียนกันดีกว่าค่ะ

1 : คุณสามารถหาคนที่จะมาร่วมด้วยง่ายๆ

2 : เวลาคุณเหนื่อย คุณก็หยุดได้

3 : คุณสามารถทำสำเร็จได้เร็ว โดยไม่รู้สึกผิดหรืออาย

4 : เมื่อคุณเปิดหนังสือ คุณไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครคนอื่นเปิดมาแล้ว

5 : กาแฟสักนิดหน่อยก็ทำให้คุณทำมันได้ทั้งคืน

6 : เวลาคุณยังอ่านไม่จบบท คุณก็สามารถคั่นหนังสือได้

7 : คุณสามารถทำมัน กินขนม แล้วก็ดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้

8 : คุณไม่ต้องอายเมื่อพ่อแม่มาขัดจังหวะกลางคัน

9 : คุณไม่ต้องวางแก้วเพื่อที่จะทำมัน และเหตุผลสุดท้ายก็คือ

10 : ถ้าคุณไม่แน่ใจ คุณสามารถเรียกเพื่อนร่วมห้องให้ช่วยได้




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 15:21:56 น.   
Counter : 294 Pageviews.  

"วิธีแก้อาการ ง_อ_น"

"วิธีแก้อาการ ง_อ_น"
เป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง
ติดต่ออย่างรวดเร็วขยายตัวเป็นวงกว้างในแนวราบ
ยังไม่พบ วัคซีน หรือยารักษา
ผู้ป่วยมีอาการหน้างอ และบางรายที่อาหารหนักจะมีอาการหน้าดำ
แทรกซ้อนด้วย หูแข็ง ฟังอะไร ขัดหูขัดใจไปหมด
ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยพองาม
ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน ว่าผู้ใดนำเชื้อมาปล่อย
โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น
ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน
ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ
ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก
จะทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้
สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก

ผู้ง้อ ควรได้รับการฝึกสอนและเป็นผู้ชำนาญการง้อเป็นพิเศษ
เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย
ต้องการความเอาใจใส่
หลังได้รับการรักษาผู้ป่วยที่หายแล้ว
ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา
ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจ
หากความรักและความเข้าใจลดน้อยลงเมื่อไหร่ อาการงอนจะกำเริบ

หมายเหตุ

พบมากในกลุ่มคนที่มีความสวย และความน่ารัก
สำหรับผู้ไม่สวยและไม่น่ารัก
จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ น่ารำคาญ
จะปล่อยไปตามยถากรรม
ไม่มีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น
จนกว่าอาการจะหายหรือตายไปเอง...




 

Create Date : 30 เมษายน 2551   
Last Update : 30 เมษายน 2551 12:02:53 น.   
Counter : 400 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]