ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
(ขอนแก่น ภูเก็ต เชียงใหม่) ผุดรถไฟฟ้ารางเบา โมเดลขนส่งแก้จราจรหัวเมืองใหญ่






ผุดรถไฟฟ้ารางเบาโมเดลขนส่งแก้จราจรหัวเมืองใหญ่

สํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ สังกัดกระทรวงคมนาคมมีบทบาทหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและวางแผนการขนส่งและจราจรของประเทศมองเห็นความสำคัญของการจัดการปัญหาการเดินทางและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพในหัวเมืองใหญ่ในส่วนภูมิภาคและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมต่อสภาพเมืองนั้นๆเพื่อให้ได้แผนงานที่เป็นรูปธรรมสำหรับการพัฒนาในระยะสั้น กลางและยาวรวมทั้งรูปแบบการลงทุน การจัดการองค์กรและการบริหารจัดการระบบให้ยั่งยืน

++ขอนแก่น รอเสนอครม.

ขอนแก่นเป็นจังหวัดต้นแบบของการพัฒนาเมืองใหญ่ด้วยระบบขนส่งมวลชนในรูปแบบของรถไฟรางเบาโดยภาคเอกชนในจังหวัดรวมตัวก่อตั้งเป็นบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด หรือเคเคทีทีด้วยทุนจดทะเบียน 200ล้านบาท และมีความคืบหน้าอย่างเป็นระบบมากที่สุด


นายเข็มชาติ สมใจวงษ์

ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น

นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่นกล่าวกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเป้าหมายของขอนแก่นพัฒนาเมืองในการสร้างรถไฟรางเบาแนวเหนือใต้สำราญ ท่าพระ มีระยะทางรวม 26 กิโลเมตร จำนวน21 สถานี ใช้รถไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ15 ขบวน ขบวนละ 3ตู้ สามารถจุผู้โดยสารได้ 180 คนความคืบหน้าล่าสุด 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่นประกอบด้วยเทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญและเทศบาลตำบลท่าพระ ซึ่งเป็นเส้นทางที่รถไฟรางเบาวิ่งผ่านได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเท็มส์ฯ หรือเคเคทีเอส(KKTS) ด้วยทุนจดทะเบียน 5ล้านบาทให้เป็นหน่วยงานที่บริหารจัดการเดินรถ จัดทำ TORเพื่อจัดหาผู้ดำเนินการก่อสร้างและจัดเก็บรายได้ของระบบขนส่งสาธารณะซึ่งขณะนี้ ขอนแก่นทรานซิท ซิสเท็มส์ กำลังดำเนินการประสานโครงการต่อทั้งในส่วนของผลการศึกษาจากงบของสนข.ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนรวมถึงการประสานกับกรมทางหลวง และกรมธนารักษ์เพื่อขอใช้พื้นที่เกาะกลางถนนจากนั้นนำเข้า ครม.เพื่อรออนุมัติโดยคาดว่า ปลายปี 2560 นี้จะเริ่มก่อสร้างได้อย่างเป็นทางการมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2562-2563ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.5หมื่นล้านบาท

สิ่งที่เห็นรูปธรรมในขณะนี้คือ การเปิดบริการรถบัสโดยสารปรับอากาศขอนแก่นซิตี้บัส ที่เชื่อมท่าอากาศยานขอนแก่นกับสถานีขนส่งผู้โดยสาร 3แห่งในแนวตะวันออก-ตะวันตก โดยผ่านสถานที่สำคัญในตัวเมือง มีบริการไว-ไฟในรถบัสสามารถชำระค่าโดยสารด้วยสมาร์ทการ์ด

++เชียงใหม่สรุปมิ.ย.นี้

จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคมการคมนาคม วัฒนธรรมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายมีนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนมากตลอดทั้งปีมีการขยายตัวของเมืองไปสู่รอบนอกอย่างรวดเร็วทำให้มีจำนวนการเดินทางเพิ่มขึ้นสูงแต่เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถรองรับความต้องการการเดินทางทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรอย่างต่อเนื่อง

รศ.ดร.บุญส่งสัตโยภาสผู้จัดการโครงการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่าแนวทางพัฒนาระบบโครงข่ายที่เป็นโครงข่ายแผนแม่บท 2 โครงข่าย ทั้ง 2โครงข่ายระบบดักและระบบฟีดเดอร์ซึ่งระบบดักจะเป็นรถไฟรางเบาหรือแอลอาร์ที จำนวน 3เส้นทางคือสีแดง นํ้าเงิน เขียว สายทางละประมาณ 12 กม. หรือรวมกันประมาณ 36กม.สำหรับฟีดเดอร์จะมี 2 ระบบ ฟีดเดอร์ที่อยู่ในสายทางในเมือง ระยะทางประมาณ20 กม.ระบบฟีดเดอร์นอกเมืองที่เชื่อมระหว่างอำเภอรอบนอกเข้ามาสู่ระบบหลัก สายทางละประมาณ15 กม.รวมจะมีโครงข่ายขนส่งสาธารณะประมาณ 200กม. ภายในเขตชุมชนหรือในเขตเมืองซึ่งอาจต้องใช้เงินลงทุนถึง2 หมื่นล้านบาท โดยให้รัฐจัดสรรงบประมาณ 80%และเอกชนระดมทุนอีก 20%



ทางโครงการจะมีการจัดประชาพิจารณ์ครั้งสุดท้ายในเดือนมิถุนายน 2560เพื่อนำเสนอโครงข่ายทั้ง 2 และรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะและข้อห่วงใยของประชาชนเพื่อจะสรุประบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เพื่อนำเสนอต่อไปเมื่อพิจารณาโครงข่ายทางเลือกเสร็จสิ้นแล้วจึงจัดให้มีการออกแบบทางวิศวกรรมความเป็นไปได้ในการลงทุน

หลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการออกแบบดำเนินการก่อสร้างต่อไปผลการศึกษานี้คาดการณ์อีกไม่เกิน 3 เดือนจะต้องส่ง หลังจากนั้นสนข.ก็จะผลักดันเสนอ ครม.ต่อไป

++ภูเก็ตเดินเครื่อง

ทางด้านภูเก็ต จังหวัดท่องเที่ยวติดอันดับโลกได้มีการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยเช่นกัน โดยภาคเอกชน 25ราย ก่อตั้งบริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน100 ล้านบาทมีเป้าหมายวางแผนพัฒนาเมืองภูเก็ตในแนวคิดการเติบโตอย่างชาญฉลาด หรือSmart Growth และการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งหรือ Transit-Oriented Development(TOD)โดยโครงการใหญ่สุดคือการก่อสร้างระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถไฟรางเบาหรือแอลอาร์ทีซึ่งมีงบลงทุนกว่า 3หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2561-2563 จะใช้เวลาในการก่อสร้างจำนวน3 ปี รวมระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร มี 24สถานีจะมีกำหนดเปิดให้ประชาชนได้ใช้ในช่วงปี 2564

ดร.เผด็จ จินดา กรรมการผู้จัดการบริษัทภูเก็ตพัฒนาเมืองจำกัดเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้จัดสัมมนาและนำเสนอนิทรรศการผลงานของบริษัทและมีพิธีการลงนามบันทึกความร่วมมือ MOU กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนและภาคเอกชนรวมทั้งสิ้น12 หน่วยงาน

ทิศทางการพัฒนาจะเป็นการขนส่งมวลชนด้วยสมาร์ทบัสขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและรถไฟรางเบาหรือ แอลอาร์ที รวมทั้งการพัฒนาปรับปรุงทางนํ้า ท่าเรือจุดจอดพัฒนาพื้นที่รองรับและรูปลักษณ์ เรือโดยสาร นำเที่ยวในทุกระดับชั้นการพัฒนาพลังงานทางเลือก แหล่งนํ้าและรีไซเคิลของเสีย การทำแผนที่ 3มิติเพื่อรองรับทุกความต้องการ ระบบแอพพลิเคชันบริการนักท่องเที่ยวของเมืองภูเก็ตระบบแสงสว่างอัจฉริยะเพื่อความสะดวกและปลอดภัยการสร้างแลนด์มาร์กให้เป็นสัญลักษณ์เมืองการสร้างระบบบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดความประทับใจแด่ผู้มาเยือนภูเก็ต

สนข.ยังเสนอให้เมืองใหญ่อื่นๆ อย่างนครราชสีมา พิษณุโลกระยอง สระบุรีสมุทรสาคร ก่อตั้งบริษัทพัฒนาเมืองเพื่อลงทุนสร้างระบบขนส่งสาธารณะลดปัญหาการจราจรติดขัด โดยแต่ละเมืองอาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันบ้างในส่วนระบบหลักโดยอาจเริ่มต้นด้วยรถบีอาร์ทีซึ่งเป็นระบบที่มีราคาถูกกว่ารถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็สามารถพัฒนาให้มีความมั่นคงขึ้นเช่นเมืองใหญ่ได้



เครดิตบทความ จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 15 - 17 มิถุนายนพ.ศ. 2560 ขอขอบพระคุณ มา ณ ที่นี้ครับ

//www.thansettakij.com/content/161828?ts




Create Date : 23 มิถุนายน 2560
Last Update : 23 มิถุนายน 2560 22:09:44 น. 0 comments
Counter : 1595 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.