บันไดมนุษย์ images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

การสูญเสียการได้ยิน (Hearing loss) หูตึง, หูหนวก

ผู้ป่วยที่มีปัญหาการได้ยินนั้น อาจจะเกิดปัญหาขึ้นกับส่วนหนึ่งส่วนใดภายในหู ไม่ว่าจะข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง โดยที่ความสามารถทางการได้ยินนั้นอาจจะสูญเสียไปแค่บางเสียง หรืออาจจะไม่ได้ยินทั้งหมดก็ได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวสามารถที่จะกล่าวได้ว่าเป็นโรคหูตึง หรือหูหนวกได้

ประมาณ 3 ใน 1,000 คนของเด็กที่เกิดนั้นจะประสบกับปัญหาการได้ยิน ทั้งนี้ปัญหาการได้ยินนั้นยังสามารถที่จะเกิดขึ้นได้อีกเมื่อโตขึ้น



หลักการทำงานของการได้ยินเสียง



หูของมนุษย์ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบใหญ่ๆคือ หูชั้นนอก, หูชั้นกลาง, และหูชั้นใน โดยที่ส่วนประกอบของหูเหล่านั้นจะทำงานร่วมกันสำหรับการได้ยินเสียง




หูชั้นนอกคือส่วนของหูที่เห็นได้จากภายนอก ทำหน้าที่รวมรวบคลื่นเสียงที่เดินทางมา และนำคลื่นเสียงเหล่านั้นผ่านไปทางรูหู ซึ่งคลื่นเสียงจะเดินทางไปกระทบกับแก้วหูตรงหูชั้นกลาง แก้วหูเมื่อได้รับคลื่นเสียงก็จะเกิดการสั่นขึ้น การสั่นนี้จะไปทำให้กระดูกชิ้นเล็กๆ 3 ชิ้นที่อยู่กับแก้วหูเคลื่อนไหวโดยกระดูกทั้ง 3 ชิ้นคือ ค้อน, ทั่ง, และโกลน

การสั่นที่เกิดจากกระดูกทั้ง 3 นี้จะเดินทางไปถึงหูชั้นใน ตรง Cochlea ที่ซึ่งมีเซลล์ขนจำนวนมากอยู่ในนั้น การสั่นของคลื่นเสียงนี้ จะไปทำให้เซลล์ขนใน Cochlea เคลื่อนไหว ซึ่งเซลล์ขนมีอยู่ด้วยกัน2 ชนิด เซลล์ขนชั้นนอก และชั้นใน เซลล์ขนชั้นนอกจะทำหน้าที่รับข้อมูลเสียง ขยายสัญญาณเสียงที่ได้ และปรับตั้ง จากนั้นเซลล์ขนชั้นในจะส่งข้อมูลเสียงไปที่ประสาทการได้ยิน เพื่อที่จะส่งต่อไปยังสมองในการแปลผลต่อไป

ประเภทของการสูญเสียการได้ยิน
• Conductive hearing loss เป็นชนิดที่เกิดปัญหาขึ้นกับหูชั้นนอก หรือชั้นกลาง ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางการได้ยินแบบนี้ จะเป็นปัญหาแบบที่ไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถรักษาหายได้
• Sensory hearing loss เกิดขึ้นเมื่อ Cochlea ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ผู้ป่วยเด็กอาจจะสามารถได้ยินเสียงทั้งหมด หรือได้ยินบางส่วน หรือไม่ได้ยินเสียงเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเซลล์ขนนั้นโดนทำลายขนาดไหน ปัญหาของการได้ยินเสียงชนิดนี้จะเป็นแบบถาวร อีกทั้งความสามารถทางการพูดของเด็กนั้นจะมีปัญหาด้วย
• Neural hearing loss เกิดจากเส้นประสาทที่ต่อเชื่อมจาก Cochlea ไปถึงสมองถูกทำลาย

สาเหตุของการสูญเสียการได้ยิน
การสูญเสียการได้ยินสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เกิดโดยที่หูนั้นทำงานบกพร่อง หรือมีความผิดปรกติทางกายภาพของภายในหูเอง ส่วนสาเหตุอื่นๆที่เกิดขึ้นตอนหลังนั้นอาจจะมาจากการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยได้ ทั้งนี้รวมถึง
• ความผิดปรกติของของเหลวภายในหูชั้นกลาง
• การติดเชื้ออย่างรุนแรงเช่น meningitis
• การบาดเจ็บทางศีรษะ
• การฟังเสียงที่ดังมากๆ โดยเฉพาะจากทางหูฟัง
• อยู่ในที่ที่มีเสียงดังมากๆ นานๆ




การรักษาการไม่ได้ยิน
วิธีการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการไม่ได้ยิน ซึ่งโดยปรกติแล้วมีการใช้ยา การผ่าตัด หรือใช้เครื่องช่วยฟัง(Hearing aids) เครื่องช่วยฟังเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆเอาไว้ขยายเสียงที่เข้ามา ทำให้ผู้ป่วยได้ยินเสียงได้ดีขึ้นชัดขึ้น



สำหรับผู้ป่วยเด็กบางคนที่ไม่สามารถจะได้ยิน หรือเข้าใจคำได้เลยแม้ว่าจะใช้เครื่องช่วยฟัง(Hearing aids) แล้วก็ตาม มีความจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์อีกประเภทที่เรียกว่า “Cochlear implant” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ อิเลคโทนิคชิ้นเล็กๆ ที่จะถูกผ่าตัดใส่เข้าไปทำหน้าแทนที่ Cochlear ของผู้ป่วยรายนั้น โดยที่อุปกรณ์ชิ้นนี้จะเข้าไปทำหน้าที่แทนเซลล์ขนในการส่งข้อมูลเสียงไปยังสมองต่อไป







 

Create Date : 09 เมษายน 2551    
Last Update : 9 เมษายน 2551 21:42:29 น.
Counter : 9058 Pageviews.  


ลานสน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ตราบที่ยังมีความฝัน ตราบนั้นก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไป
Custom Search
Friends' blogs
[Add ลานสน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.