บันไดมนุษย์ images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 

รำลึกภูกระดึงอีกครั้ง ตค. 2009



ภูกระดึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนได้ไปเยือนมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะไปเพียงแค่ครั้งเดียวก็พอ บางคนก็ไปหลายต่อหลายครั้งไม่รู้จักเบื่อ ส่วนผมนั้นอยู่ในกรณีหลังคือไปได้ไม่รู้จักเบื่อ

แม้ว่าสภาพของภูกระดึงจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตามกฏเกณฑ์ที่ว่าไม่มีสิ่งไหนที่จะยืนยงคงสภาพเดิมได้ตลอด แต่กระนั้นสีสันของการเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้นก็มิได้จางหายไปแม้แต่น้อยในตอนนี้ อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีการสร้างกระเช้าขึ้นภูก็แล้วกัน

เหงื่อที่ไหลหยด เสียงแม่ค้าที่ร้องเรียกให้นั่งพัก เสียงบ่นต่างๆของนักเดินทางว่าไม่ไหวแล้ว หรืออื่นๆอีกมากมาย ยังคงมีอยู่ในทุกยุคทุกสมัย หลายต่อหลายคนได้เรียนรู้นิสัยของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างเพื่อน หรือคนรัก ในช่วงของความยากลำบากเหล่านี้เอง



กับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิตขอเป็นผู้พิชิตภูกระดึง” เป็นเหมือนใบประกาศความสำเร็จของเหล่านั้นเดินทางทั้งหลาย ที่เมื่อเหล่าผู้พิชิตนั้นสามารถเดินขึ้นมาที่หลังแปได้แล้ว จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเก็บไว้ชื่นชมในภายภาคหน้าได้ แต่เสน่ห์ของภูกระดึงนี้ไม่ได้มีอยู่เพียงก็การเดินพิชิตภูเท่านั้น ภูกระดึงมิได้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรือว่าเดินยากที่สุด ยังมีที่เดินป่าขึ้นเขาที่ท้าทายความสามารถของเหล่าบรรดานักเดินทางอีกมาก







ป่าสนที่ถูกแอบซ่อนไปกันสายหมอกยามเช้าบนภูกระดึงเป็นทัศนียภาพที่ดึงดูดสายตานักเดินทางมาหลายยุคหลายสมัยก็ว่าได้ หรือบางคนตกหลุมรักไปกับพระอาทิตย์ยามเย็นที่หายไปกับขอบฟ้าที่ผาหล่มสัก บางคนก็หลงใหลไปกันการปักเต็นท์ชมดาวคลุกเคล้าไปกับอากาศที่หนาวเหน็บในยามค่ำคืน







สำหรับผมแล้วขอเพียงได้แค่ส่งความคิดถึงไปพร้อมกับเสียงกระดิ่งล่องลอยไปกับสายลม หวังว่าจะมีสักวันที่จะส่งไปถึงคนที่รักได้ก็เพียงพอแล้ว








 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2552 22:14:05 น.
Counter : 1569 Pageviews.  

เรื่องราวแห่งชีวิตบนภูกระดึง (บทที่ 2 บางสิ่งเปลี่ยนไปแต่หัวใจไม่เปลี่ยนแปลง)


มีใครชอบหวนคิดถึงอดีตเก่าๆบ้างไหม ฉันเป็นคนหนึ่งที่ ชอบนั่งรำลึกถึงความหลังครั้งเก่าอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นจะสุขหรือจะเศร้า มันก็เป็นความทรงจำที่มีค่าสำหรับฉันเสมอ ยังจำได้ว่าตอนอยู่มัธยมปลาย สมัยที่ต้องนั่งคร่ำเคร่งอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อสอบ entrance ฉันชอบตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือตอนตี4 ซึ่งเป็นเวลาที่ฉันชอบมากที่สุด เพราะเหมือนกับมีฉันอยู่คนเดียวบนโลกที่กำลังหลับใหล ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะหยุดนิ่ง มีเพียงฉันกับหนังสือแล้วก็เสียงเพลงที่ฉันเปิดคลอไปด้วย สมัยนั้นฉันชอบฟังเพลง folk song มาก โดยเฉพาะเพลงของ จิม โครชี ซึ่งเป็นเพลงที่ฉันจะเปิดฟังเสมอเวลาตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิ่งก็เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีของมัน ฉันเองก็เติบโตขึ้นจากเด็กมัธยมปลายกลายเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ไม่มีการตื่นขึ้นมาอ่านหนังตอนเช้า บทเพลง folk song ที่ฉันชอบฟังถูกแทนที่ด้วยเพลงสมัยใหม่ทีผ่านเข้ามาตามความนิยมและรสนิยมของฉันที่เปลี่ยนไป แต่ถึงแม้ว่าทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปและไม่มีวันเหมือนเดิม ความทรงจำเหล่านั้นก็ยังคงแจ่มชัดอยู่ในความรู้สึกของฉันเสมอ

การไปภูกระดึงของฉันครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการไปรำลึกถึงอดีตหรือย้ำเตือนความทรงจำใดๆ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาเยี่ยมเยือนภูยอดนิยมแห่งนี้ แต่ถึงแม้จะเป็นครั้งแรก ฉันก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนภูสูงแห่งนี้ เพราะฉันสัมผัสได้ถึงความทันสมัยและความอินเทรนที่ไม่ตกยุคของภูแห่งนี้



ตอนแรกที่ฉันผ่านพ้นเส้นทางหฤโหดจนขึ้นมาถึงหลังแป ฉันรู้สึกแปลกใจมากที่เห็นป้ายเชิญชวนให้เช่าจักรยานติดอยู่ แปลกใจเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าบนภูสูงชันขนาดนี้จะมีใครขนเอาจักรยานขึ้นมาด้วย แล้วเค้าขนกันขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งฉันคิดว่าคงไม่พ้นคุณลูกหาบมหัศจรรย์แบกขึ้นมาแน่นอน ตอนแรกฉันคิดว่ากิจกรรมนี้คงไม่เป็นที่นิยมหรอก เพราะเสน่ห์ของการท่องเที่ยวบนภูกระดึงน่าจะอยู่ทีการเดินมากกว่า และถึงแม้ว่าจะเป็นเส้นทางทางเดียวกันความรู้สึกที่ได้จากการปั่นจักรยานกับการใช้สองขาน้อยๆของเราก้าวเดินไปก็คงไม่เหมือนกันแน่นอน ฉันว่าการเดินถึงแม้จะช้า แต่มันก็ทำให้เราสัมผัสได้ถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยสองข้างที่เราอาจจะเลยผ่านไปถ้าเราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากกว่าการเดิน



แต่แล้วฉันก็รู้ว่าความคิดของฉันนั้นผิดถนัด มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่นิยมการปั่นจักรยานแทนการเดิน แล้วเส้นทางการขี่จักรยานก็คือทางเส้นเดียวกันกับทางคนเดิน เพราะฉะนั้นตอนนี้เราอาจจะไม่สามารถเดินเอ้อระเหยได้อย่างสบายเหมือนเดิม เพราะต้องคอยระวังหลังของเราเป็นระยะๆ ไม่ให้คุณจักรยานทั้งหลายมาชน



อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ฉันสัมผัสได้บนภูสูงแห่งนี้คือร้านค้าอินเทรนใหม่ๆ จะมีใครเชื่อไหมถ้าฉันบอกว่า ฉันได้มานั่งชิลด์ชิลด์ในร้านกาแฟ กินโกโก้ร้อน เคล้าเสียงเพลงแจ้ส ท่ามกลางสายลมหนาวบนภูกระดึงด้วยหล่ะ ที่สำคัญร้านนี้รับบัตรเครดิตด้วยนะ ร้านกาแฟร้านนี้คงเป็นร้านใหม่ที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสที่ไม่หยุดนิ่งของกาลเวลา

ฉันก็เลยเกิดความสงสัยอยากรู้ว่าคนที่ประทับใจภูกระดึงจนถึงขั้นมาภูแห่งนี้ถึง 5 ครั้งอย่างคนใกล้ตัวของฉันเค้าจะมีความคิดเห็นและความรู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แล้วฉันก็ได้คำตอบสุดจ๊าบว่า

"ถึงแม้บางสิ่งจะเปลี่ยนไปแต่หัวใจรักภูกระดึงก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปหรอกนะ"




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2549 20:05:39 น.
Counter : 712 Pageviews.  

เรื่องราวแห่งชีวิตที่ภูกระดึงบทที่ 1 (มหัศจรรย์คุณลูกหาบ)

พวกเราเคยมีอาชีพในดวงใจหรืออาชีพในฝันกันบ้างไหม ตอนเด็กๆฉันฝันอยากจะเป็นหมอหรือไม่ก็นักวิทยาศาสตร์ ฉันรู้สึกว่า 2 อาชีพนี้ช่างเป็นอาชีพที่เท่ห์แล้วก็ดูดีอะไรเช่นนี้ แต่พอโตขึ้นความคิดความฝันของฉันมันก็เปลี่ยนไปตามวัยด้วย จนตอนนี้ฉันมีอาชีพในดวงใจเยอะแยะไปหมด แต่หลังจากกลับมาจากไปภูกระดึงครั้งนี้ ฉันก็ค้นพบอาชีพใหม่ในดวงใจ นั่นคืออาชีพลูกหาบ






ขอสารภาพตามตรงเลยนะตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตนจนชีวิตจะย่างเข้าสู่วัยเลข 3แล้ว ฉันเพิ่งเคยมีประสบการณ์เดินขึ้นภูแค่ 2 ครั้งเอง ครั้งแรกคือไปภูสอยดาว ครั้งที่สองก็ไปภุกระดึงนี่แหละ แต่ทำไมฉันถึงไม่ได้ประทับใจคุณลูกหาบที่ภูสอยดาวเอาซะเลย ฉันจำได้เลือนลางแค่ว่าคุณลูกหาบแกเดินเร็วมาก เผลอแป้บเดียว เดินลิ่วๆนำหน้าฉันไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ขนาดฉันไม่ได้แบกของอะไรเลยนะเนี่ย

แต่พอมาภูกระดึงความคิดของฉันเกี่ยวกับลูกหาบก็เปลี่ยนไป ฉันมองพวกเขาด้วยสายตาและมุมมองที่แปลกไป มีทั้งความทึ่งผสมปนเปกับความนับถือว่า ในชีวิตของคนคนหนึ่ง ทำไมถึงได้มีความมุ่งมั่น และความอดทนในการทำงานที่แสนยากอย่างนี้ทุกๆวันได้อย่างไร

แต่ก็ขอเริ่มเล่าตั้งแต่เริ่มต้นเลยละกันนะว่าระบบการหาบของขึ้นภูกระดึงเนี่ย เค้าจัดการเป็นระบบระเบียบดีมาก อันดับแรกเราก็ไปซื้อใบติดสัมภาระก่อน ของหนึงชิ้นก้ใช้ใบติดสัมภาะ 1 ใบ อ้อลืมบอกไปใบติดสัมภารใบละ 2 บาทนะ






หลังจากนั้นเราก็เอาสัมภาระทั้งหมดของเราไปชั่งน้ำหนัก ซึ่งเค้าจะชั่งแค่ครั้งละ 1 ชิ้น เศษที่เหลือก็ปัดขึ้นหมด อย่างเช่นครั้งนี้เราเอาโฟมปูรองนอนไปด้วยอันละไม่ถึง 1 ขีด แต่ชั่ง 1 ครั้งมันก็เลยกลายป็น 1 กิโลไป มูลค่าราคาค่าจ้างของมันก้เลยพุ่งปรี๊ดตามไปด้วย ฉันว่านี่อาจจะเป็นวิธีที่เพิ่มกำไรให้กับคุณลูกหาบเค้าก็ได้ ตอนแรกฉันก็เสียดายเงินนะ แต่พอเห็นความยากลำบากในการทำงานของเค้าก็เข้าใจอ่ะนะ





ชั่งเสร็จแล้วก็เอาสัมภาระไปรวมกันเค้าจะพยายามให้ของของคนนึงคนไปกับลูกหาบแค่คนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นคุณลูกหาบเค้าก็จะเอาของทั้งหมดห่อรวมกันแล้วก็มัดไว้บนคานไม้ไผ่ 1 อัน แต่ละคนก็จะพยายามมัดของให้ได้น้ำหนักมากที่สุด เพราะฉะนั้นของที่เค้าหาบขึ้นไปก็จะไม่ใช่แค่เป้ของนักท่องเที่ยว แต่อาจจะเป็นน้ำอัดลมหลายสิบขวด น้ำเปล่าหลายๆแกลลอน





แต่ที่ฉันคาดไม่ถึงเอาซะเลยก็คือ "ถังแก้ส" เค้าแบกถังแก้สอันใหญ่บิ๊กเบิ้ม ไม่ใช่แค่ถังแก้สปิกนิคนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด แล้วก็ไม่ได้แบกแค่ถังเดียวนะ แบกตั้ง 2 ถัง เพราะฉะนั้นความเร็วในการเดินของคุณลูกหาบของเราก็จะช้ามากเพราะน้ำหนักอันมหาศาลที่แบกอยู่บนบ่า ฉันสังเกตว่าแต่ละก้าวที่เค้าเดินไป เหมือนเค้าจะต้องคิดทุกครั้งว่าจะวางเท้าลงบนหินก้อนไหน จะถ่ายเทน้ำหนักตัวอย่างไร เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้งคงไม่ใช่แค่ตัวเค้าจะบาดเจ็บ แต่อาจจะหมายถึงเงินที่จะไปซื้อข้าวให้ลูกและเมียที่บ้านกินก็คงจะหายไปด้วย เพราะเหตุนี้ฉันก็เลยรู้สึกว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทน ความมุ่งมั่น แล้วก็ต้องอาศัยความมีสติและสมาธิอย่างมากอาชีพหนึ่ง จนฉันนำเอาข้อคิดที่ได้จากคุณลูกหาบบนภูกระดึงมาใช้ในการวิ่ง 10 กิโลของฉัน เวลาที่ฉันรู้สึกเหนื่อย ล้าแล้วก็ท้อ ฉันจะพยายามใส่ใจในทุกๆก้าวย่างที่ฉันวิ่งไป พอทำอย่างนั้นแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมีกำลังฮึดสู้ขึ้นมาใหม่ก็ไม่รู้

บางครั้งการเกิดของอย่างหนึ่ง ทำให้อีกสิ่งหนึ่งหายไป
แล้วการมีกระเช้าละ จะทำให้อาชีพของลูกหาบหายไปหรือเปล่า





 

Create Date : 29 ตุลาคม 2549    
Last Update : 29 ตุลาคม 2549 20:33:15 น.
Counter : 2742 Pageviews.  


ลานสน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ตราบที่ยังมีความฝัน ตราบนั้นก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไป
Custom Search
Friends' blogs
[Add ลานสน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.