Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Group Blog
 
All blogs
 

Sunday Banana Cupcake



วันนี้ วันอาทิตย์ อยู่บ้านคนเดียวอีกตามเคยค่ะ
มีกล้วยหอมสุกงอม มาก ๆ ๆ ๆ จากวันไหว้พระจันทร์ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา

เอามาทำเค้กกล้วยหอมก็แล้วกันเนอะ
เพราะรสนิยมส่วนตัวไม่ชอบกินกล้วยสุกค่ะ
ยกเว้นที่แปลงกายแล้ว ก็น่าพอกินได้หน่อย

ตกลงวันนี้เราทำเค้กกล้วยหอมก็แล้วกันนะคะ

สูตรจากคุณ Beebie คนที่อยู่ไกล ถึง Austin, TX United States โน่นแน่ะ

มาเตรียมพิมพ์กันก่อนค่ะ

ใช้พิมพ์มัฟฟิน แบบ 6 หลุม

(คุณ Beebie ใช้พิมพ์แบบ 2 นิ้ว ซึ่งที่บ้านก็มีค่ะ แต่ว่าพิมพ์กระดาษน่ะสิคะ มันมีแบบขนาดใหญ่กว่า แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ พยายามเหลือเกิน เอาพิมพ์กระดาษ วางบนพิมพ์ 2 นิ้ว มันยัดไม่ลงค่ะ เวลาเทเนื้อเค้กลงไป ตรงขอบ ๆ มันก็จะยับนิดหน่อย)

ใครที่มีเตาใหญ่ และ พิมพ์แบบเยอะหลุมกว่าก็ดีนะคะ
จะได้อบทีเดียว เร็วดี ไม่ต้องเสียเวลารออบทีละถาด



แล้วก็เตรียมส่วนผสมค่ะ
แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
Baking Soda 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 3 ฟอง
น้ำตาล 180 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
กล้วยหอมสุกบด 200 กรัม
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา




ต่อไปก็ขั้นตอนการทำค่ะ

1. วอร์มเตาอบ 200 c
2. ร่อนแป้ง, ผงฟู, bakingsoda แล้วพักไว้
3. บดกล้วยหอม แล้วใส่น้ำมะนาว พักไว้เช่นกัน
4. ตีไข่ไก่, น้ำตาลทราย, เกลือ ด้วยความเร็ว ให้น้ำตาลละลายและเนื้อขึ้นฟูนะคะ มีหลายตำราบอกวิธีสังเกต แต่ส่วนตัวแล้วจะสังเกตเองว่าเนื้อมันจะเริ่มเนียน ๆ สีอ่อนลง แล้วก็หนืด ๆ เล็กน้อย ถ้าไม่อยากสังเกต แต่ถ้าจะให้ง่าย ก็ตีสักประมาณ 7-8 นาทีตามที่คุณ beebie บอกอ่ะค่ะ




5. เสร็จแล้วก็ปรับความเร็วต่ำ (ถ้าใช้ความเร็วสูง รับรองแป้งกระจายค่ะ) แล้วเทแป้งใส่ทีละน้อย ๆ นะคะ ตีให้เข้ากันสักประมาณ 1 นาทีก็พอ



6. เติมน้ำมันพืชลงไป เวลาเท ให้เทเป็นสายนะคะ แหะ ๆ อันนี้ คิดเอาเองค่ะว่าถ้าเททีเดียว มันอาจจะนอนก้น แล้วไม่เข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ แล้วก็ตีต่อด้วยความเร้วกลางประมาณ 2 นาที
7. เติมกล้วยหอมบดที่เตรียมไว้ลงไป และอีกเช่นเคยค่ะ ตัดใส่ทีละช้อน
แล้วก็ตีด้วยความเร็วต่ออีกประมาณ 1 นาที
8. แล้วก็ตักใส่พิมพ์ อบด้วยไฟ 200 c ประมาณ 20 - 25 นาที



คอยสังเกตสีน่ะค่ะ ส่วนตัวที่ทำน่ะ อบเพียง 20 นาที ก็สีสวยพอใช้ได้แล้วค่ะ (อันนี้คิดเอาเองค่ะ ว่าสีแบบเนี้ยสวย
)

เสร็จแล้วก็เอาออกแบบพิมพ์ผึ่งในตะแกรงพักไว้

เดี๋ยวจะเอาใส่กล่อง เก็บไปให้เพื่อนกินพรุ่งนี้ค่ะ
เสร็จเราอีกตามเคย อร่อยรึเปล่าไม่รู้ ไงก็ต้องบังคับให้กิน 555





 

Create Date : 30 กันยายน 2550    
Last Update : 30 กันยายน 2550 13:36:51 น.
Counter : 1858 Pageviews.  

brownie cheesecake



ทำไปแจกเพื่อนค่ะ
brownie cheesecake สูตรจาก 10 best brownie ของคุณปริสนา

ทำไป ง่ววงไป สูตรนี้ทำเสร็จแล้ว ต้องรอให้เย็นลงในถาด แล้วถึงจะเอาออกจากพิมพ์ หลังจากนั้นแช่ให้เย็นค่ะ เพราะต้องเสริฟเย็น

ทำเสร็จ คนทำตาโหล เพราะทำตอนดึก ง่วงสุด ๆ




แต่ผลพลอยได้อย่างนึง ก็คือได้มานั่งมองฟ้า ตอนดึก ๆ คนเดียว คิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา อือม์ เรามีทำบางอย่างถูก และบางอย่างผิด มองคนบางคนผิด บางคนถูก

ที่น่าเศร้าที่สุดคือ มองบางคนผิดไป





 

Create Date : 29 กันยายน 2550    
Last Update : 29 กันยายน 2550 13:56:44 น.
Counter : 1346 Pageviews.  

Bake my day.......alone :( !

วันนี้ ถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว กลัวว่าจะไม่มีไรทำก็เลยทำขนมเค้กโกโก้ ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แล้วเช้าวันนี้ ก็มาทำ ชอคหน้านิ่มราดเค้กกัน



สูตรส่วนผสมชอคหน้านิ่ม ดัดแปลงมาจากของแม่สลิ่มค่ะ (ขอขอบคุณด้วยนะคะ)



ส่วนผสมขอแบ่งเป็นสามส่วน เพื่อความเข้าใจของตัวเอง แบบนี้น๊า

ส่วนโกโก้
ผงวุ้น 1/2 ช้อนชา
น้ำ 200 กรัม
นมสดรสจืด (ตามสูตรเดิมใช้นมข้นจืด) 133 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม (ถ้าชอบหวานก็เพิ่มอีกซัก 20% นะคะ)
ผงโกโก้ 33 กรัม

ส่วนเพิ่มความข้น
แป้งข้าวโพด 26 กรัม
นมสดรสจืด 100 กรัม

ผสมให้แป้งละลายนะคะ เอาไว้ใส่เพิ่มความขัน (เหมือน ๆ กับที่ใส่ในลาดหน้าน่ะค่ะ)

ส่วนเพิ่มความมันและหอม

เนยสด 100 กรัม
เหล้ารัม 2 ช้อนชา

เริ่มทำกันเลยนะคะ

เอาส่วนผสมส่วนโกโก้ เทรวมกันในหม้อค่ะ ต้มให้เดือด อย่าใช้ไฟแรงมากนะคะ
คนจนน้ำตาลละลาย และรอจนเดือด



จากนั้นก็เอาส่วนเพิ่มความขัน เทใส่ลงไปค่ะ ค่อย ๆ เทเป็นสายนะคะ (ไม่แน่ใจว่าถ้าเทใส่พรวดเดียว อาจจะทำให้เนื้อโกโก้เป็นลิ่ม ๆ )
ตอนนี้ ลดความร้อนนะคะ เหลือแค่ไฟอ่อน ๆ อย่าให้ไฟแรงมาก เดี๋ยวจะไหม้

คนต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ เมื่อยมือแค่ไหน ก็อย่าหยุดนะคะ ไม่งั้น มันจะเป็นลิ่ม ๆ น่ะค่ะ

จากนั้น ก็ใส่ส่วนเพิ่มความมันและความหอม ลงไปตอนนั้นเลยค่ะ
คนอีกแป๊บเดียว พอให้เนยละลาย ก็ปิดไฟได้แล้วค่ะ แต่อย่าพึ่งหยุดคนนะคะ
คนไปเรื่อย ๆ เมื่อยห้ามหยุด พออุณหภูมิอุ่นได้ที่ ก็ลาดบนหน้าเค้กเลยค่ะ



พยายามเททีเดียวให้หมดนะคะ จะได้เนียน ๆ
ส่วนตัวข้าพเจ้ายังเสียดายของอ่ะค่ะ ขูดเอาโกโก้ที่ติดหม้อออกมาหมด หน้าเลยไม่เรียบเท่าที่ควร เสร็จแล้ว ก็ใส่เข้าตู้เย็นเลยค่ะ ให้เซทตัว แล้วก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวเอาขนมไปแจกหลาน ๆ กัน :)



แช่ประมาณซัก ชั่วโมงนึงก็โอเคแล้วค่ะ
เอาออกมาตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆ






ก่อนออกจากบ้าน ก็ต้องไปร่วมงานมหกรรมล้างจานก่อนค่ะ
เป็นขั้นตอนที่เบื่อที่สุดอ่ะค่ะ แต่ก็ต้องทำ





เสร็จแล้วก็ไปกันค่ะ ออกเดินทางไป แถว ๆ ถนนกัลปพฤกษ์ค่ะ
เค้กหมดเกลี้ยงค่ะ ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าเค้กจะเก้อซะแล้ว


ขากลับ อยากลองขึ้นสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมน่ะค่ะ ก็เลยขับรถอ้อมไปทางพระประแดง ก็ได้ขึ้นสมใจ



พอลงมาทางฝั่งถนนพระราม 3 แป๊บเดียวไม่เกินสิบนาที ก็ถึงบ้าน ดีจริง ๆ ประหยัดเวลา และยังได้ชมวิวด้วย


มาถึงบ้าน ก็ยังไม่เย็นมาก ยังพอมีเวลาทำอาหารเย็น เอาแบบง่าย ๆ ๆ ก็แล้วอัน
ยำทูน่า กับ กุนเชียง




แล้ววันนี้ก็หมดวันไปอีกวัน เดี๋ยวต้องเข้านอนแล้ว ตื่นแต่เช้าไปทำงาน ไปเจอเรื่อง เจอคนที่ไม่อยากเจอ ไปเจอเรื่องที่ต้องอดทน
อือม์ เป็นมนุษย์ นี่มันต้องมีความอดทนจริง ๆ ขออวยพรให้ตัวเองผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี




 

Create Date : 23 กันยายน 2550    
Last Update : 24 กันยายน 2550 10:08:27 น.
Counter : 501 Pageviews.  

Layers cake



เมื่อวันจันทร์ วันเริ่มต้นใหม่ของสัปดาห์ เลิกงานแล้ว อยากกลับบ้านเร็ว ๆ
อยากไปทำขนม คิดอยู่นาน ว่าทำไรดี เพราะไม่อยากไปซื้อของเลย
ก็เลยเอาของที่มีอยู่ในตู้มาทำ

ตอนแรกก็กะจะทำชอคหน้านิ่ม แบบที่เคยทำ
แต่ว่า เบื่อแล้วอ่ะ ก็เลยคิดว่า ลองทำเป็นสองชั้นดูก็แล้วกัน

ใช้พิมพ์กลมขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว จะได้ชิ้นเค้กใหญ่มาก ๆ อ่ะ
ส่วนตัวคิดว่าใหญ่เกินไป





ต้องอบเนื้อวานิลลาก่อน แล้วก็อบเนื้อโกโก้



ตอนถ่ายรูปไม่ได้ถ่ายชั้นโกโก้ ไว้เลย คือว่ามันเริ่มจะดึกอ่ะค่ะ



ที่ทำวันนั้น มีข้อผิดพลาดหลายอย่างค่ะ
เค้กออกมาไม่สวยเลยค่ะ หน้าตาออกแนวน่ากลัวด้วยซ้ำ

แต่ก็ยังไม่วายเอาไปให้เพื่อน ๆ ที่ทำงานชิม
ส่วนตัว สรุปข้อผิดพลาดของตัวเอง คือ

1. ตอนอบเนื้อโกโก้ และ วานิลลา ได้เนื้อเค้กที่ฟูไม่เท่ากัน ทำให้เวลาซ้อนกันแล้ว มันไม่สวยอ่ะคะ
คิดว่าคราวหน้าถ้าใช้พิมพ์สี่เหลี่ยม แล้วมาตัดริมออกตอนหลัง น่าจะโอเคกว่า


2. เวลาตัดน่ะ ต้องใจเย็น ๆ กว่านี้ โดยปกติ จะใช้มืดชุบน้ำร้อน แล้วเช็ดน้ำ ออกให้แห้ง แล้วค่อย ๆ ตัดเป็นชิ้น ๆ ตัดชิ้นนึง ก็ต้อง ชุบน้ำร้อนครั้งนึง วิธินี้ จะทำให้ ตัวโกโก้ ไม่เลอะมาที่เนื้อวานิลลาที่เป็นสีครีม

แต่ว่าตอนทำ ทำกลางคืนวันจันทร์ แล้วก็ต้องแช่เย็น ตอนเช้ามาตัดใส่กล่อง เพื่อเอาไปให้เพื่อนที่ทำงาน

ปรากฎตื่นสายอีก โอย .... มือไม้สั่น ตัดไปก็โกรธตัวเองไปว่าทำไมตื่นสายขนาดนี้
เนื้อเค้กวานิลลา เลอะเทอะหมดเลยอ่ะ แย่จริง ๆ
ประกอบว่ามันชิ้นใหญ่มาก ๆ ตอนแรกกะว่า จะตัดให้ได้ 8 ชิ้น ปรากฎว่าใหญ่เกินไปค่ะ ก็เลยตัดเล็กลงมาอีก แย่เลยคราวนี้

มันทำท่าเลอะเทอะกว่าเดิมอีก อ่ะ


แต่ก็อ่ะ เอาเหอะ เพื่อน ๆ คงให้อภัย ยังอุตส่าห์ หอบเอาไปให้เพื่อนชิมอีก



เพื่อน ๆ กินแล้วไม่รู้เป็นไงบ้าง

ส่วนตัวลองชิมเอง 1 ชิ้น รสชาดไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ ซึ่งโอเคสำหรับตัวเอง เพราะลดน้ำตาลจากสุตร original ไปพอสมควร
เพื่อนบางคนบอกว่าชอบไม่หวานแบบนี้ แต่บางคนก็บอกว่าน่าจะหวานกว่านี้อีกหน่อย

เอาสูตรเนื้อเค้กมาเป็นของแถมด้วยค่ะ
ส่วนผสมแป้ง

1. แป้งพัดโบก 100 กรัม (ถ้าเป็นชั้น โกโก้ ใส่ผงโกโก้ผสมร่อนไปด้วย 2 ช้อนโต๊ะ)
2. ผงฟู ¾ ช้อนชา
3. น้ำตาลทราบ 110 กรัม (สูตรเดิม 120 กรัม)
4. เกลือ ½ ช้อนชา
5. น้ำ 40 กรัม
6. นมจันจืด 30 กรัม
7. ไข่ไก่ 3 ฟอง
8. เนยละลายรสเค็ม 70 กรัม
9. เอสพี 10 กรัม
10. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา สีเหลือ 2 หยด (ถ้าเป็นชั้น โกโก้ ไม่ต้องใส่นะคะ)

เตรียมก่อนทำ
วอร์มเตาไว้ที่ 180 องศา
ตัดกระดาษไขรองก้นพิมพ์

วิธีทำส่วนแป้ง
1. ร่อนแป้งและผงฟูพักไว้ (ชั้นโกโก้ทำเหมือนกันค่ะ เพียงแต่ร่อนโกโก้ไปด้วยตอนนี้เลย)
2. ตีน้ำตาล, เกลือ, ไข่ไก่, และ น้ำ ใส่เอสพีไปด้วย เอาไปป้าย ๆ กับหัวตีค่ะ เดี๋ยวก็ละลายไปตอนตี ตีให้จนเป็นสีอ่อน ๆ เนียน ๆ แต่ไม่ต้องตั้งยอดนะคะ (ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกรึเปล่า)
3. ใส่แป้งลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที (ถ้าสีความเร็วสูง แป้งฟุ้งเข้าจมูกหมดค่ะ)
4. พอแป้งเข้ากันดี ก็ปาดขอบอ่าง แล้วตีความเร็วปานกลางไปอีกประมาณ 5 นาที
5. เสร็จแล้วก็ปาดขอบอ่างอีกรอบ แล้วตีความเร็วต่ำ (ช่วยในการตัดฟองอากาศออกจากเนื้อแป้งด้วยค่ะ) แล้วใส่นมข้นจืด,กลิ่น และ เนยสดละลาย (ต้องทิ้งให้อยู่ในอุ่น ๆ ก่อนนะคะ ใส่ร้อน ๆ ลงไปส่วนผสมสุกหมดค่ะ)
6. ปาดอ่างเบา ๆ ตีความเร็วต่ำอีกนิดนึง เพื่อให้เนื้อเนียน และ ไล่ฟองอากาศออก
7. เสร็จแล้วเทใส่พิมพ์ ก่อนเอาเข้าอบ เคาะก้นพิมพ์ สองสามทีนะคะ จะเห็นฟองอากาศปุด ๆ ขึ้นมา
8. ใส่เข้าเตาอบเลยค่ะ ประมาณ 30 นาที
9. พอครบกำหนดก็เอาออก เช็คก่อนนะคะ ว่าสุกรึเปล่า ปกติ จขกท. จะเช็คโดยวิธีการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มอ่ะค่ะ ชัวร์ดี แต่ว่าวิธีนี้ จะทำให้เค้กเป็นรู ถ้าเราทำเค้กแบบอื่นที่ต้องโชว์หน้าเนื้อเค้ก วิธีนี้ไม่แนะนำค่ะ
10. พอเอาออกจากเตาแล้ว เอาพิมพ์กระแทกโต๊ะแรก ๆ ค่ะ วิธีนี้ ช่วยให้เนื้อเค้กเซทตัว
11. อย่าพึ่งเอาเค้กออกจากพิมพ์นะคะ รอให้พออุ่นๆ ในพิมพ์ค่ะ แล้วค่อยเอาออก แล้วทิ้งให้เย็นบนตะแกรง
12. แล้วก็ทำเนื้อโกโก้ต่อแบบเดียวกัน

สูตรนี้ ตัวเนื้อเค้กดัดแปลงมาจากสูตร Mandarin orange cake ของแม่สลิ่ม ขอบคุณค่ะ
เด๋ว




 

Create Date : 19 กันยายน 2550    
Last Update : 20 กันยายน 2550 7:54:58 น.
Counter : 436 Pageviews.  

Orange Cheesecake Brownie

วันนี้ ตั้งใจว่าจะใช้ chocolate ที่มีอยู่ตู้เย็น
ทำเค้ก หรืออะไรก็ได้ ไปฝากเพื่อนสนิท คนที่เป็นเจ้าของ chocolate

คิดอยู่นานว่าจะทำไรดี ที่เพื่อนยังไม่ได้ชิม เพราะว่าส่วนใหญ่เคยทำไปให้ชิมหมดแล้ว

ก็เลยเปิดหนังสือ 10 best ของคุณปริสนา ทำ Orange Cheesecake Brownie
เป็น brownie แบบที่มี cheese ผสมด้วย สำหรับคนที่รักพี่ เสียดายน้อง อย่างเรา

moonlight ขี้ลืมสุด ๆ ต้องเอาส่วนประกอบทั้งหมด มาเรียงหน้ากระดานตามลำดับ

ไม่งั้น ใส่ผิดใส่ถูก มั่วแน่ ๆ



ผสม ๆ ลงไป



ตามสูตรต้องใช้พิมพ์ สี่เหลี่ยมขนาด 8 x 8 แล้วใช้ฟลอยซ์รอง เวลาอบสุกแล้วก็ดึงมาเลย
แต่ไม่มีฟลอยซ์อ่ะค่ะ
ก็เลยเอาพิมพ์แบบกลมแทน แบบถอดก้นได้

ผลปรากฎว่า ไส้ทะลักค่ะ มันแลบออกมาข้างล่าง



จวนได้เวลานัดแล้ว แต่ว่าอบเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เย็นค่ะ ต้องรอให้เย้นลงในพิมพ์
เพราะเค้ก มีส่วนผสมของ cheese ด้วยค่ะ
หนำซ้ำเวลาจะเสริฟ ก็ต้องแช่เย็นด้วยค่ะ

ไม่รู้จะทำไง ก็เลยต้องหอบไปให้เพื่อนทั้งพิมพ์อย่างงี้แหละค่ะ

ค่อยไปถอดพิมพ์ที่บ้านเพื่อนละกัน
งานนี้ ขายผ้าเอาหน้ารอดจริง ๆ




มีคนสงสัยว่าทำไมมันหน้าแตก

อิ อิ มันเป็นบราวนี่น่ะค่ะ กรอบนอก นุ่มใน เนื้อชีสน่ะ

หน้ามันต้องแตกอย่างนี้แหละค่ะ ถึงจะอร่อย เพราะมันจะกรอบมาก ๆ




 

Create Date : 15 กันยายน 2550    
Last Update : 15 กันยายน 2550 23:03:53 น.
Counter : 676 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

Moonlight of my heart
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




.....On the opposite coast of sadness
is something called a smile
Friends' blogs
[Add Moonlight of my heart's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.