All Blog
641004 เดาแบบไร้ทิศทาง
641004 เดาแบบไร้ทิศทาง
            การซื้อขายหุ้นแบบคาดเดา คิดเอง เออเองว่า มันน่าจะเป็นเช่นนี้ อาจทำให้พลาดรายได้ที่พึงมีพึงได้
            ด้วยคิดว่า กำขี้ดีกว่ากำตด เอาเท่าที่ควรได้ไว้ก่อนดีกว่า ทำให้เสียโอกาสดี ๆ ไปเลย
            เมื่อหุ้น Banpu ให้ลูกค้าเก่า ที่อาจติดดอย ในราคาเก่าที่สูงโลดถึง   84.60 บาท วันที่ 17/1/2554 ขาดทุนยับเยิน ติดดอยอินทนนท์ ไม่ลงจากดอย ได้ซื้อหุ้นในราคา 5 บาทต่อหุ้น มีหรือที่เขายังกล้าหาญชาญชัยที่จะรอให้ราคาขึ้นไปอีกครั้ง
การตัดสินใจว่า วันที่หุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ จำนวนคนที่ได้หุ้นจองมากมายนี้จะเทขายเอากำไร เหมือนใจเราคิด ราคาหุ้นคงจะลงมามากอย่างแน่นอน
อนิจจาการคาดการณ์เองผิดไปถนัด เพราะใช้หุ้นเก่าเทขายไปก่อนล่วงหน้าในราคา 12.50 บาท วันที่ 30 กันยายน 2564 หลังจากเทขายหุ้นที่ได้มาใหม่ไปจนหมด แบบเทหมดหน้าตัก
วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 ทันทีที่หุ้นเข้าในตลาด ราคาหุ้นขึ้นพรวดทันที เป็นราคา 13.40 – 13.60 บาท พลาดไปแบบใจหายทีเดียว 0.90 – 1.10 บาท ต่อหุ้น ไม่รู้ว่า แล้วต่อไปจะเป็นเช่นไร
 



Create Date : 04 ตุลาคม 2564
Last Update : 4 ตุลาคม 2564 10:47:44 น.
Counter : 788 Pageviews.

0 comment
640610  หุ้นที่ทนถือรอ แล้ววันนี้ได้ทุนคืน
640610  หุ้นที่ทนถือรอ แล้ววันนี้ได้ทุนคืน
ช่วงที่หุ้นดิ่งลงเหว คงมีหุ้นหลายตัวที่ดิ่งตาม
คนที่ตกเป็นเหยื่อ แล้วจำต้องติดดอย ได้แต่ชะเง้อคอมอง
วันนี้ คงได้ลืมตาอ้าปากแล้วล่ะ อย่างน้อยได้ทุนคืน กับปันผลแทนดอกเบี้ยธนาคาร
 
ตัวอย่าง หุ้น III

           
จากรูป วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2564 เส้นกราฟไต่ระดับสูงขึ้น
           

 
ราคาซื้อขายวันนี้ 6.90 – 7.35 บาท
 
 
 

 
            จากรูป วันพุธที่ 6 มิถุนายน 2564
            Y/E’17  ค่า net profit margin % 5.61
            Y/E’18  ค่า net profit margin % 5.40
            Y/E’19  ค่า net profit margin % 6.04
            Y/E’20  ค่า net profit margin % 9.76
            Q1’21  ค่า net profit margin % 12.16
            ข้อมูลตรงนี้ ทำให้มองเห็นว่า หุ้น III ดูมีอนาคตขึ้น
 
            ความหมายของคำว่า อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)
            Posted on September 21, 2018 by Mr.LikeStock
            อัตรากำไรสุทธิ (NPM) แสดงถึง ความสามารถในการทำกำไรสุทธิ เปรียบเทียบกับยอดขาย ทำให้ทราบถึงความสามารถในการทำกำไรสุทธิของกิจการภายหลังจากการหักค่าใช้จ่ายทุกรายการแล้ว ใช้วัดความสามารถของบริษัทในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ
 
 
 
 
 
 
 

 
            จากรูป วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564 หุ้น III ขึ้นมาเป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูง Most active value
อันดับ 4 ของวันนี้ ราคาเพิ่มขึ้น 1.10 บาท 8.94 % ทั้งที่เมื่อก่อน หาคนสนใจไม่ มันเกิดอะไรขึ้น
 

           
การซื้อขาย ฝั่ง offer สูงกว่าฝั่ง buy เยอะมาก อาจจะเป็นพวกที่ติดดอยมานานแล้วก็ พอเห็นราคาขึ้นพรวดพราด รีบเทขาย เอาทุนคืนก่อน
 
ถ้าซื้อ 12.20 ในวันที่ 5 กันยายน 2560 จะมีโอกาสขาย 13.20 ในวันที่ 2 มิถุนายน 2564
คำถาม กลุ่มติดดอยจะใจเย็นรอนานเกือบ 4 ปีไหวไหม และเมื่อรู้ว่ามีแนวโน้มจะขึ้นไปอีก จะคิดอ่านเช่นไร
รีบขาย ขอกำไรและทุนคืนก่อนหลังจากใจมันหงอยมานาน แล้วค่อยเริ่มต้นซื้อขายรอบใหม่ดีไหม อย่างน้อยขอให้บัญชีไม่ติดตัวแดงก่อน
แหม ๆ อุเหม่ ติดมาได้ตั้งนานสองนาน รออีกสักตั้ง จะเป็นไรไป
มาดูคำตอบกัน สำหรับคนที่รู้อนาคต ในความเป็นจริง หาคนที่คาดการณ์อนาคตได้แม่นยำ คงยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรกระมัง

 
            จากรูป พบว่า จากวันที่ 2 มิถุนายน 2564ราคา 13.20 ราคาหุ้นขึ้นไปแตะ 14 บาท
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2564 ราคาเหลือ 13.40 บาท
            คำถาม ถ้ารู้ว่าอะไรเป็นอะไรล่วงหน้าจะตัดสินใจเช่นไร
            ขอย้ำ ไม่มีใครขายหุ้นได้ในราคาที่สูงที่สุด และซื้อในราคาต่ำสุดได้
            มีคนบอก พอใจราคาใด ซื้อขายได้เลย อย่าหวังกำไรสูงสุดเลย ยากส์นักที่จะทำได้
 

 
            จากรูป วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ราคาหุ้นประมาณ 13.00 – 13.90 บาท
            คิดแล้วขายไป 13.40 บาท พอใจหรือไม่ หรือจะรอ เผื่อได้กำไรมากขึ้นอีกนิด
 



Create Date : 10 มิถุนายน 2564
Last Update : 10 มิถุนายน 2564 12:37:59 น.
Counter : 672 Pageviews.

0 comment
หุ้นยอดฮิตในอดีต ยังมองเห็นอนาคตไหม

หุ้นยอดฮิตในอดีต ยังมองเห็นอนาคตไหม
           
            หุ้น Banpu ยอดฮิต
คนเล่นหุ้นมือใหม่ในอดีต ประมาณปี 2554 คงจะคุ้นหูหุ้น Banpu เพราะ Top hit มาก
วันที่ 18 มกราคม 2554 ราคาหุ้นละ 84.60 บาท
วันที่ 26 เมษายน 2554 ราคาหุ้นละ 75.40 บาท
วันที่ 24 พฤษภาคม 2555 ราคาหุ้นละ 47.00 บาท
โอ้โห ราคาสูงขนาดนี้เชียวรึ คนรุ่นใหม่คงได้แต่ งง และ งง
นี่แหละ ดอย ของจริง จนป่านนี้ยังไม่ได้ขาย cut loss ก็ไม่ไหว กุมขมับอย่างเดียว
ทนถือหุ้นมานาน 10 ปี ผลจะเป็นเช่นไร เพราะมีแต่สาละวันเตี้ยลง ๆ ไม่ swing ขึ้นลง ให้หายใจหายคอ พอเอาทุนคืนกันบ้างเลย
วันที่ 23 กันยายน 2557 ราคาหุ้นละ 47.00 บาท
วันที่ 10 มิถุนายน 2559 ราคาหุ้นที่ขายให้เจ้าของหุ้นเดิม
หุ้นละ 5.00 บาท และขายได้ในวันเดียวกันได้ 11.90 - 12.80 บาท พอได้กำไร ทำให้ใจสบายขึ้นบ้างแหละน่า
 
ข่าวใหม่ที่จะกระเตื้องราคาหุ้น
ปี 2564 เริ่มมีข่าวที่ทำให้หุ้น Banpu กระดี๊กระด๊าขึ้นมาบ้าง
แล้วข่าวเหล่านี้ จะช่วยให้ลงจากดอยได้บ้างหรือไม่ คงยากนะ ถึงยากมากเลย
นอกจากจะตัดใจ เล่นรอบใหม่
บางคนเรียก ถัวเฉลี่ย
เพื่อให้ราคาทุนลดลง จะได้ขาดทุนน้อยลง ไม่ใจหายจนลมจับ
วันที่ 1 เมษายน 2564 ราคาหุ้นละ 12.80 บาท และสามารถทำกำไรได้
วันที่ 2 มิถุนายน 2564 ราคาหุ้นละ 13.70 บาท
หลายคนเข็ดขยาด บอกเจ๊ง และไม่กล้าเริ่มต้นใหม่อีกรอบ จึงติดดอยตลอดกาล ไม่มีโอกาสลงจากดอยแน่นอน
 
            ดูข่าวหุ้น เผื่อรู้ทิศทางตลาด
           ข่าวนี้จะช่วยให้ราคาหุ้น Banpu ดีดขึ้นหรือไม่
ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 7, 2021 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
BPP-BANPU เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่งในออสเตรเลีย Beryl (BSF) และ Manildra (MSF) ในสัดส่วน 100% ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 มูลค่าลงทุน 97.5 ล้านออสเตรเลียดอลลาร์ หรือ เทียบเท่า 2,332 ล้านบาท
            การลงทุนในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินตามแผนกลยทุธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างรากฐานการลงทุน ในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศออสเตรเลียและยังเป็นการก้าวสู่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีความก้าวหน้าและเป็นตลาดขายส่ง (wholesale electricity market) ที่เปิดเสรีอีกด้วย
การลงทุนในครั้งนี้เป็นอีกก้าวในธุรกิจพลังงานสะอาดในประเทศออสเตรเลีย
 
เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ หุ้นดีดตัวขึ้นได้
จากธุรกิจถ่านหินเปลี่ยนเป็นธุรกิจพลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด เปลี่ยนภาพลักษณ์ ทำให้มีอนาคตที่สดใสขึ้น
โบรกเกอร์ AIRA ให้คำแนะนำทยอยซื้อที่แนวรับ ราคาเป้าหมาย 14.80,15.20      
อ่านเรื่องนี้ต่อที่: https://www.kaohoon.com/content/tag/banpu
https://www.kaohoon.com/content/tag/banpuBANPU
https://www.kaohoon.com/content/tag/banpu
Banpu มีผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 รายได้เพิ่ม 16% จากราคาถ่านหิน-ก๊าซธรรมชาติปรับดีขึ้น ทิศทางดำเนินงานปี 2564 ชี้เทรนด์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ‘ถ่านหิน-แก๊ส’ ปรับขึ้น เป็นบวกต่อรายได้ของบริษัทฯ หลังปี 2563 ขาดทุน 1.7 พันล้านบาท
ดูข่าว ฟังข่าว กลุ่มติดดอย และกลุ่มหวังตั้งต้นใหม่เผื่อถัวเฉลี่ยราคาหุ้นเดิม ฟังแล้วคงใจชื้นขึ้นบ้างแหละน่า
 
กราฟหุ้น Banpu
 

           
จากกราฟ จะมองเห็นกราฟค่อย ๆ ทะยอยสูงขึ้น จากแอ่งกระทะ เป็นรูปตัวยู U คล้ายหุ้นอีกหลายตัวที่ดูดีขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไต่ระดับจากก้นเหวขึ้นสู่ยอดเขา แต่จะเป็นยอดสูงแค่ไหน ยังสงสัยอยู่
 

           
จากรูป พบว่า ยอดซื้อขายมีจำนวนมากพอสมควร
            เทียบฝั่งซื้อกับขาย ฝั่งขายจะมากกว่า แสดงว่า คนหวังทำกำไรมากกว่าจะเก็บเอาปันผล
            การจ่ายปันผลในรูปหุ้น banpu-w3 ทำให้ใจไม่หงอยจนเกินเหตุ
วันที่   ราคา
25-09-60 banpu-w3           17.90
15-06-59 banpu-w3             7.80
 
            ปี 2560 ได้ราคา 17.90 บาท สูงกว่า ปี 2559 ที่ได้ราคาเพียง 7.80 บาท

            ค่า net profit margin % ค่าต่ำสุด -0.61 รอบ 31-12-2019
            ค่า net profit margin % ค่าสูงสุด 7.99 รอบ 31-12-2017
            รองลงมา กระเตื้องขึ้น ค่า net p rofit margin % ค่า 6.79 รอบ 31-3 -2021

            จากรูป แสดงราคาหุ้น Banpu ในช่วง 1 เดือน 9 พฤษภาคม – 9 มิถุนายน 2564
ดูกราฟแล้ว สวยงามน่าซื้อ ใช่ไหม มีแต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
            การมองหุ้นแต่ละตัว ควรเลือกมองภาพรวม หรือมองเฉพาะเดือนที่จะซื้อล่ะ
            อดีตที่ผ่านมาแสนเจ็บปวด แล้วอนาคตจะย้อนรอยเดิมไหม
            หรือหนทางข้างหน้าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสวยงาม
 



Create Date : 09 มิถุนายน 2564
Last Update : 9 มิถุนายน 2564 13:36:43 น.
Counter : 696 Pageviews.

0 comment
หุ้นตัวยู แอ่งกระทะ ฟื้นคืนชีพ

           
หุ้นตัวยู แอ่งกระทะ ฟื้นคืนชีพ

หุ้นบางตัวลืมตื่น นอนหลับสลบไสลไปนานสองนาน พอรู้สึกตัวว่า ตนมีหน้าที่ที่จะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนหุ้นทั่วไป จึงฟื้นคืนชีพ กลับมาทำหน้าที่ของตน
 
            หุ้นติดดอยนาน
ตอนที่หุ้นติดดอย จะคิดอ่านทำเช่นไรกันบ้างล่ะ
 
            คนที่ชอบ cut loss คงตัดขายทิ้งในช่วงแรก ๆ ไปแล้ว
            คนพวกนี้ คิดว่า ขายขาดทุนแล้วเอาทุนไปหากำไรต่อจะดีกว่าทนถือหุ้นขาดทุน ที่มองไม่เห็นอนาคต
            ถ้าขายขาดทุน แล้วหาหุ้นตัวใหม่ที่จะทำกำไรได้ ก็ดีไป
ถ้าขายขาดทุนไปเรื่อย ๆ ตัวใหม่ขาดทุนอีก คงทุนหาย กำไรหด ไม่เหลือทุนรอน
 
ถือหุ้นไว้ ไม่ขายแน่นอน ไม่ว่าขาดทุนมากน้อยเพียงใด
            บางคนตัดใจขายขาดทุนไม่ลง
เจ้าของหุ้นที่ติดดอยมานาน จนเกือบจะตัดใจขายทิ้ง แต่ด้วยมีทุนหนาพอ เงินเย็นพอ จะทำใจนิ่ง ๆ ไม่มองมัน รอปันผลอันน้อยนิด พร้อมความหวังอันริบหรี่
พวกนี้คิดว่า เล่นหุ้น พอได้ปันผล ดีกว่าดอกเบี้ยธนาคารอันแสนจะน้อยนิด
 
บางคนทนถือรอ พอเท่าทุนปุ๊บ ขายปั๊บ
เช่น บางคนถือหุ้น ADB จำนวน 20,000 หุ้น ตั้งแต่วันที่ 18-02-62 ในราคา 1.00 บาทต่อ 1 หุ้น รวมค่าอะไร ๆ เป็น 20,044.30 บาท ถือมานานเกือบสองปี ถึงวันที่ 09-12-63 ราคาเท่าทุน
หลังจากที่มองมันดิ่งเหวไปเรื่อย ๆ นานแล้ว พอมองเห็นว่า จะได้ทุนคืน ราคา 1.01 รีบเทขาย คิดเสียว่า ไม่ยอมขายขาดทุน แต่ขอเอาทุนคืน เลยตัดใจขายได้ 20,155.26 บาท กำไร 110.96 บาท
            คนแบบนี้ บอกกำขี้ดีกว่ากำตด ขอเอาทุนคืน ไม่ได้ดูข้อมูลใด ๆ ประกอบเลยว่า หุ้น ADB ตัวนี้มีอนาคตดีขึ้นแล้ว
 
บางคนที่ใจเย็นมาก ๆ ถือมานาน ขอเอากำไรบ้างซิ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ขาดทุนมาตั้งนาน พอมองเห็นว่าตัวเลขมีเขยิบขึ้น ทำใจนิ่ง ๆ ดูข้อมูลสักนิด ใจเย็นสักหน่อย ขอเอากำไรมากกว่านี้
ถ้าคนนี้ใจเย็นเยือกเป็นน้ำแข็ง ไม่สะดุ้งสะเทือนเลย
เช่น บางคนถือหุ้น ADB จำนวน 20,000 หุ้น ตั้งแต่วันที่ 18-02-62 ในราคา 1.00 บาทต่อ 1 หุ้น รวมค่าอะไร ๆ เป็น 20,044.30 บาท ทนถือมาจนถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 จะได้ราคาหุ้นละ 2.22 บาท
ถ้าเขาขายวันนี้  20,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 2.22 บาท
จะได้เงิน 20,000 * 2.22 = 44,400 จากทุน 20,044.30 บาท
เขาจะได้กำไร = 44,400 - 20,044.30 = 24,355.70 บาท หักค่าโน่นนี่นั่นอีก
จะได้กำไรสุทธิประมาณ 24,300 บาท
ถามว่ามีคนแบบนี้ไหม ใจเย็นมากขนาดนี้
บางคนอาจจะไม่ยอมขาย ขอรอให้กำไรมากกว่านี้อีก
คนแบบนี้จะไม่ยอมขายเท่าทุนแน่ ๆ ขอเอากำไร เพราะทนถือมานาน ปลอบใจตัวเองว่า ไม่ใช่แค่หุ้นตัวนี้ตัวเดียวหรอก แต่มันราคาลงทั้งกระดาน
พร้อมบ่นพึมพำอีกหลายยก ว่าใครนะทำให้บ้านเมืองพังเช่นนี้ เศรษฐกิจไม่ดีเอาเสียเลย นี่ช่วยไม่ได้เหมือนกัน อย่าไปเผลอผสมโรงด่าว่าใครเขาออกสื่อนะ นอกจากขาดทุนแล้ว ยังจะโดนข้อหาดูหมิ่นเขาเสียอีก ดีไม่ดีโทษอื่นตามมาเป็นพรวน
คนแบบนี้ อาจเป็นคนทำใจนิ่งได้เก่ง และมีความรู้มากพอที่จะเข้าใจราคาหุ้น
 
มีคนอย่างน้อยสี่แบบ ที่คิดและทำในช่วงหุ้นติดดอย
คุณเป็นคนแบบไหนกันล่ะ
 
            ผ่านไปสัก 2 – 3 ปี หุ้นบางตัวขยับขึ้นมา ให้พอมองเห็นหนทางเอาทุนคืน
            คนที่อ่านมาก มองเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น หุ้นหลายตัวดีดขึ้นมา
            ตอนนี้ บางคนคิดหนัก จะขายเอาทุนที่แช่แข็งมานานดีไหม หรือถือต่อไปดีล่ะ เพราะเริ่มมองเห็นอนาคตที่สดใสของหุ้นที่ค่อย ๆ ทะยานสูงขึ้นทั้งกระดาน
            ตรงนี้ คงตัวใครตัวมันแล้ว
 
            ตัวอย่าง หุ้น ADB

            จากภาพ วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ราคาหุ้น ADB อยู่ระหว่าง 2.12 – 2.30
            ราคาซื้อกับขาย มี volume ปริมาณการซื้อขายที่ดูไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อกันเลย สองข้างของ Bids & Offers แค่นี้ คงดูไม่ค่อยแปลกสักเท่าไร
            บางคนให้ข้อสังเกตว่า ปริมาณหรือจำนวนซื้อขายนี้บอกการปั่นหุ้นได้
            คงต้องเก่งอีกนิด ชำนาญอีกหน่อยจึงจะรู้เนอะ
            ลองดูภาพต่อไป เป็นข้อมูลพื้นฐาน Fundamental 31-12-2017 ถึง 31-3-2021

            อาจจะดูไม่เป็น ค่อย ๆ ดูไป
 
            ค่า net profit margin % กับราคาหุ้น
            ลองดูคำว่า net profit margin %


7.49 รอบ 31-3-2021 สูงที่สุด เพราะรอบ 31-12-2017 มีค่า 2.10 แล้วค่อย ๆ ลดลงมา เป็น 0.91 และ 0.24 และเพิ่มแบบมีนัยสำคัญเป็น 5.06 และ 7.49 ล่าสุด
ค่า net profit margin % สัมพันธ์กับรูปกราฟ หรือแปรตามกัน
            กราฟตัวยูที่อยู่แอ่งกระทะมานานค่อย ๆ ทะยานขึ้น ดังภาพ

            เส้นกราฟซ้ายมือสุดราคาประมาณ 3 นิด ๆ แล้วเป็นเส้นกราฟสีแดงที่ลดลงอย่างรวดเร็วในปี 2018 ที่ค่ากำไรสุทธิลดจาก 2.1 เหลือ 0.91 พอขึ้นปี 2021 กราฟกระดกหัวขึ้นพร้อมค่ากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 7.49
           
            ดังนั้น ถ้าดูค่า net profit margin % จาก ข้อมูลพื้นฐาน Fundamental และพิจารณากราฟ จะมองเห็นว่า หุ้น ADB ดูมีอนาคตขึ้นมาทันใด
            พอหุ้นมีกำไรมากขึ้น จะจ่ายปันผลมากขึ้น เอาใจคนถือหุ้นมากขึ้น
            นอกจากถือหุ้นที่มองไม่ค่อยมีอนาคต แต่พอทำใจได้บ้างเพราะได้ปันผลเป็นหุ้นเพิ่ม และขายในราคา 1.16 ต่อ 1 หุ้น วันที่10-02-64  
พอได้ปันผลเป็นหุ้นเพิ่มปุ๊บ ขายเอากำไรปั๊บ ถ้าได้สัก  2,000 หุ้น จะขายได้ 2,266.33 บาท แต่เขาถือไว้ หุ้นนี้จะเพิ่มจำนวนขึ้น
ปันผลรอบ 1/2563 หุ้น ADB ได้ 0.01 บาทต่อหุ้น
ปันผลรอบ 2/2563 หุ้น ADB ได้ 0.00 บาทต่อหุ้น
ปันผลรอบ 1/2564 หุ้น ADB ได้ 0.55 บาทต่อหุ้น
 
ข้อมูลหุ้น ADB คงจะพอให้พวกติดดอยสบายใจและมีความหวังขึ้นมาบ้าง
 



Create Date : 08 มิถุนายน 2564
Last Update : 8 มิถุนายน 2564 18:29:03 น.
Counter : 784 Pageviews.

1 comment
คำถามว่า ซื้อหุ้นตอนราคาลง ดีไหม

คำถามว่า ซื้อหุ้นตอนราคาลง ดีไหม
            แล้วรู้ไหม ส่วนใหญ่หุ้นทั่วไปราคาลดลงและเพิ่มขึ้นช่วงไหน
ช่วงก่อนประกาศปันผล สัก 1 เดือนเป็นอย่างน้อย จะรู้แนวโน้มราคาหุ้น
พอรู้ข่าวอัตราการจ่ายปันผล บางหุ้นราคาอาจขึ้นพรวด ๆ ถ้าจ่ายปันผลดี
ตรงกันข้าม ถ้าอัตราการจ่ายน้อยนิด ราคาอาจลดลง
 
กรณีที่ซื้อขาลงแล้วนับว่าดี เช่น ซื้อก่อนประกาศปันผล แล้วช่วงใกล้ขึ้นเครื่องหมาย XD ราคาส่วนใหญ่จะขึ้นกว่าปกติ
ต้องคิดต่อว่า ควรขายเพื่อเอาปันผล แต่หลังจากนั้นราคาจะลดลง ควรทำเช่นไรบ้าง
ต้องรู้วันที่แน่นอนในการขึ้นเครื่องหมาย XD
จำไว้ว่า ถ้าซื้อไว้แล้วก่อนวันขึ้น XD แล้วขายวันที่ขึ้น XD เจ้าของหุ้นยังได้เงินปันผล และจะมีโอกาสได้ราคาที่สูงมากด้วย
อย่ารีรอ ลังเล เพราะราคาหุ้น ส่วนใหญ่จะลดลง แต่มันก็ไม่หรอกนาย มีเหมือนกันที่ หลังวันขึ้น XD บางหุ้นราคากลับเพิ่มขึ้น
บอกแล้ว หุ้นคือความแน่นอน อย่าคาดหวังให้มาก เหมือนซื้อลอตเตอรรีนั่นแหละ
 
ส่วนใหญ่จ่ายปันผลเดือนอะไร บางหุ้นจ่าย 2 รอบ ช่วงเดือนเมษายนกับกันยายน
คงต้องหาข้อมูลกันบ้าง ถ้าเล่นหุ้นอยู่ บนกระดานหุ้นจะขึ้นเครื่องหมาย XD ให้เห็น ส่วนวันที่ ต้องลองกดใกล้ ๆ มันจะขึ้นวันที่ให้เห็น
 
ตัวอย่างหุ้น BBL
ปี 2563 เมื่อหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD และมีข่าวว่าจะจ่ายปันผลดี ทำให้หลายคนคิดว่า น่าจะซื้อเพื่อหวังปันผล
            ต้องคิดว่า การขายก่อนเพื่อหวังส่วนต่าง กับ รอเอาปันผล อย่างใดจะได้เงินตอบแทนมากกว่ากัน BBL ให้ปันผลรอบแรก 1/63 ถึง ร้อยละ 5 แสดงว่า 1,000 * 5 จะได้ 5,000
            ปี 2564 ล่ะ
BBL วันที่ 20 เมษายน 2564 ตอนเช้าราคา 124.5 ตอนบ่ายราคา 127 ส่วนต่าง 2.50 บาท คูณกับจำนวนหุ้นที่ซื้อ ถ้า 1,000 หุ้น จะได้กำไร 1,992.95 บาท
การขายเพื่อเอา 1,992.95 กับหวัง 5,000 หักออก 10 % = 5,000 – 500 = 4,500 จึงอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี งานนี้ต้องสืบว่า เขาให้ปันผลเท่าไรกันแน่
ปรากฎว่า ปี 2564 งวด 1/64 เขาจ่ายปันผล 2.5 % วันที่  21 เมษายน 2564
แสดงว่าถ้าขายก่อนวันขึ้น XD 1 วัน จะได้ 1,992.95 บาท
แต่ถ้ารอปันผล จะได้ ร้อยละ 2.5 แสดงว่า 1,000 * 2.5 จะได้ 2,500
หักออก 10 % = 2,500 – 250 = 2,250
การขายเพื่อเอา 1,992.95 กับหวัง 2,250
เครื่องหมาย XD ตัว x แปลว่า อด ใครซื้อวันขึ้นเครื่องหมาย XD จะอดได้ปันผล
ถ้าอยากได้เงินปันผลต้องซื้อวันก่อนขึ้นเครื่องหมาย 1 วัน สมมติว่าหุ้นขึ้นเครื่องหมายวันที่ 21 แล้วอยากได้ปันผล ต้องซื้ออย่างช้า เย็นวันที่ 20
ซึ่งจะเป็นวันที่ราคาหุ้นขึ้นสูงสุด มันคุ้มไหมกับราคาสูงขนาดนี้
บางคนจึงยอมซื้อก่อนอย่างน้อย 1 เดือน หรือเป็นช่วงที่หุ้นราคาต่ำถึงต่ำมาก
XD แปลว่า อดได้สิทธ์ ดังนั้น ถ้ามีหุ้นอยู่ก่อน XD ขายเช้าวันขึ้นเครื่องหมาย XD จะได้เงินปันผล แต่ถ้าเพิ่งซื้อวันขึ้นเครื่องหมายแปลว่าอด
ปัญหาอีกนิด พอวันขึ้น XD จริง ๆ ราคาหุ้นจะลดลงอีก เพราะคนที่หวังปันผลจะต้องซื้อก่อนขึ้น XD 1 วัน วันที่ขึ้น XD จริง ๆ จะไม่มีใครซื้อ ราคาจึงจะลดลง
ปัญหา จะขายก่อนขึ้น XD 1 วัน ที่ราคาสูงสุด แล้วอดปันผล หรือรอให้ขึ้น XD แล้วราคาลดลง กับมีโอกาสได้ปันผลด้วย อย่างใดดีกว่าล่ะ คงต้องคิดสะระตะเองแล้ว คำนวณด้วยล่ะ

            จากกราฟ BBL วันที่ 23 เมษายน 2564 หลังวันขึ้น XD วันที่ 21 เมษายน 2564
            หลังจากวันปันผลผ่านไป ขึ้นเครื่องหมาย XD แล้ว ราคาหุ้นจะลงไปเรื่อย ๆ นั่นคือ ถ้าจะขาย โอกาสการได้เงินที่ลงทุน 126.5 บาท จะหายไป ต้องค้างดอยทันที รอจนหุ้นจะขึ้นใหม่อีกรอบ
            วันที่ 23 เมษายน ราคาเหลือ 121.50 บาท
            ตอนนี้ต้องตัดสินใจแล้วว่า ถ้าถือเพื่อหวังปันผลในรอบต่อไป คงต้องถือต่ออีกยาว จะกลายเป็นพวกเล่นหุ้น VI  value investor แทนเล่นเอากำไรรอบสั้น day trade ไปซะแล้ว
            การซื้อตอนหุ้นอยู่ในขาลง กับอยู่ในขาขึ้น ซึ่งไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่า วันใดหุ้นจะขึ้น และจะขึ้นกี่วัน หรือจุดสูงสุดต่ำสุดของหุ้นในรอบวัน รอบเดือนนี้จะเป็นเช่นไร มีการใช้กราฟเพื่อทำนายอนาคต ซึ่งจะเชื่อได้แน่หรือไม่ ต้องเรียนรู้กันต่อไป
            กลุ่มที่หวังปันผล เก็บถือยาว อยากเป็นพวก VI รู้ว่าหุ้นธนาคารปันผลประมาณ 2.5 %
 


จากกราฟ BBL วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 หลังวันขึ้น XD วันที่ 21 เมษายน 2564 แล้วราคาหุ้น BBL เหลือ 116.50 บาท จุดที่หุ้นราคาสูงสุดคือก่อนขึ้น XD 1 วัน
ข้อมูลเหล่านี้ คงทำให้มองเห็นภาพของการซื้อและขายในแต่ละช่วงว่ามีความหมาย
 



Create Date : 18 พฤษภาคม 2564
Last Update : 18 พฤษภาคม 2564 16:44:18 น.
Counter : 389 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments