~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
คิมหันต์ที่ 4/1

Chapter 4


เทือกเขาโอราเคิลกว้างยาวครอบคลุมชายแดนเกือบทั้งหมดทางด้านนาร์เดน โอบล้อมฝั่งเหนือทั้งหมด และหมู่บ้านใหญ่สุดชิดชายแดนสามหมู่บ้าน


ฟรอนเทียร์ ทิมัส อัสทีเรีย...คือสามหมู่บ้านใหญ่ที่ฟื้นตัวเร็วที่สุดและเจริญล้ำหน้าหมู่บ้านอื่นใดด้วยมีการติดต่อค้าขายกับต่างแดนอย่างคับคั่ง ทั้งสามรายล้อมรอบจุดเกิดเหตุตามบันทึกที่เขาพบ...หรือจะพูดให้ถูกกว่าก็คือ...บรรณารักษ์เฒ่าผู้นั้นแนะนำมานั่นแหละ


ท้องฟ้าไพศาล เป็นสีครามสดสวยดูไร้ทุกข์ร้อนอันใด แม้นจะพลิกกลับก็ยังคงความงามพิสุทธิ์สดใสมิเคยเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ต้องท่องเที่ยวควานหาเข็มในมหาสมุทรแห่งฟากฟ้าสีครามนี้ล่ะก็คงรื่นรมย์ไม่ใช่น้อยทีเดียว


เฟททอดถอนใจขณะเลือกกระพือปีกร่อนลงยังพงไพรไม่ไกลจากหมู่บ้านแรกนัก แต่ก็ไกลเพียงพอที่จะพ้นจากสายตาของคนส่วนใหญ่


ถึงแม้ว่าไคเมร่าหนุ่มค่อนข้างที่จะมั่นใจในจุดลงจอดของตนว่าปลอดคนแล้ว หากเนินดินที่มองจากฟากฟ้า เมื่อร่อนลงมากลับกลายเป็นหลุมศพไร้ป้ายที่มีหญ้าขึ้นเขียวชอุ่ม ทำให้เฟทติดเบรกแทบไม่ทัน จนต้องกระพือปีกใหญ่ของตนซ้ำอีกสามสี่ครั้งเพื่อพยุงตัวลอยขึ้น ก่อนโผร่อนลงพื้นห่างออกไปเล็กน้อย


เฟทหนุ่มหันกลับมามองหลุมศพไร้นาม ก่อนทำความเคารพอย่างนอบน้อม “ขออภัยท่านผู้วายชนม์ ข้าน้อยหาได้เจตนารบกวนการหลับใหลของท่าน ขอให้ท่านโปรดอภัยจากในโลกโน้นแก่เราด้วย”


สถานที่แห่งนี้ช่างคุ้นตา...ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบกาย เนินสูงพอควร ดูเหมือนว่าคนทำคงไม่มีปัญญาขุดหลุมให้ลึกจึงต้องถมดินสูงขึ้นเป็นเนินเช่นนี้เพื่อป้องกันมิให้สัตว์ป่ามาขุดกิน หินก้อนกลมที่ถูกวางเอาไว้ห่างออกไปดูเหมือนมีคนจงใจมีตะไคร่ขึ้นเขียวเข้มเฉกเดียวกันกับเนินที่มีทั้งดอกใหญ่และหญ้าขึ้นเขียวสด บางทีหินนั้นคนวางคงตั้งใจจะใช้แทนป้ายหลุมศพก็เป็นได้


เฟทนึกอย่างแน่ใจว่าตนคิดไปเองที่เห็นว่าคุ้นตา เพราะสถานที่เช่นนี้ดูจะมีอยู่ทั่วไปหมดบนแผ่นดินแห่งนี้...ดินแดนที่ฟื้นจากสงคราม


ไคเมร่าจำแลงกายเป็นคนเดินทาง เฟทตวัดผ้าคลุมร่างอำพรางเสื้อผ้าที่ผิดแผกจากผู้อื่นของตน


เครื่องแต่งกายของโอราเคิลส่วนใหญ่มักถูกออกแบบให้เข้ากับลักษณะของแต่ละเผ่าเพื่อความสะดวกในการแปลงกาย


สมัยก่อนหาได้มีใครสนใจไม่จนกระทั่งมารดาของเขา ชายาแห่งจ้าวภูผาเป็นผู้ริเริ่ม ทำให้สาวๆ ในโอราเคิลทำตามเป็นค่านิยมที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งแดนสวรรค์แห่งนั้นอย่างรวดเร็ว


เสื้อผ้าของเขาเองที่เอาติดตัวมาจากโอราเคิลก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้นตัวเสื้อด้านหน้าจะเหมือนกับเสื้อนักเดินทางในแถบเหนือทั่วไป หากด้านหลังกลับถูกเจาะทบกันเอาไว้เป็นช่องและชั้นอย่างละเอียดแนบเนียน ที่เป็นเช่นนั้นก็เพื่อความสะดวกในยามที่เขาใช้ร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์โดยเฉพาะส่วนปีกของเขา


บิดาผู้เป็นเจ้าภูผาและไคเมร่ารุ่นแรกสามารถแปลงกายเป็นสัตว์ได้แทบทุกชนิด ทว่าพรสวรรค์นั้นของไคเมร่าดูจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล


มารดาของเขาสามารถแปลงกายได้เพียงไม่กี่ร่างเพราะนางกลายมาเป็นไคเมร่าเมื่อยามเจริญวัยแล้ว หากเขาและเฟลิอาผู้เป็นน้องสาวต่างมีพรสวรรค์ที่แตกต่างกันกับบิดาของตน


เฟลิอานั้นมีพรสวรรค์ที่สามารถแปลงกายเป็นสัตว์วิเศษได้สามร่าง และลูกๆ ของนางก็คลอดออกมาเป็นเผ่าสมิงสายเลือดแท้ที่หายาก ส่วนตัวของเขาเองนั้นมีความสามารถที่ต่างออกไปนั่นก็คือการคงสภาพครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่ชาวโอราเคิลต่างรู้กันดีว่าเพื่อคงร่างที่ทรงพลังและงดงามที่สุดนั้นไว้จะต้องเป็นผู้มีพลังแห่งจิตใจอันแข็งแกร่ง แต่สำหรับเฟทแล้ว ร่างนั้นเป็นร่างที่เป็นธรรมชาติเสียยิ่งกว่าการแปลงกายเป็นสัตว์อย่างสมบูรณ์เสียอีก


ไคเมร่าหนุ่มเดินลัดเลาะออกไปตามทางป่า จนพบกับกระท่อมหลังเล็กๆ ที่ถูกทิ้งร้าง วูบแรกเฟทคิดว่าคงเป็นกระท่อมของพรานป่าที่สร้างทิ้งเอาไว้ยามล่าสัตว์ หากหาได้เป็นเช่นนั้นไม่...


เมื่อเขาเดินไปถึงเฟทจึงได้พบกับภาพอันน่าสะพรึงกลัวมากที่สุด...


กอง หรือพูดให้ถูก ลาน...เถ้าถ่านกว้างไกลแทบสุดสายตา กินเนื้อที่นับจากอาณาเขตป่าด้านหลังกระท่อมหลังน้อย ทุ่งหญ้ากว้างขวางเลยไปจนถึงหมู่บ้านเกือบทั้งหมด เหลือรอดเพียงสองสามหลังคาเรือนที่สุดสายตาซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปเท่านั้นที่รอดพ้น พื้นที่ดำตอตะโกกินอาณาบริเวณไพศาลยิ่งเป็นตัวบอกอาณาเขตของสถานที่ซึ่ง ‘เคย’ เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านใหญ่ และบัดนี้แทบไม่เหลือสิ่งใดอันบ่งบอกถึงการมีชีวิตอื่นหลงไว้อยู่เลย!


ชายหนุ่มไม่อาจจะคาดการณ์ได้เลยว่าสิ่งใดได้เกิดขึ้นกับหมู่บ้านอันเจริญยิ่งแห่งนี้


เฟทเริ่มออกสำรวจพื้นที่ด้วยความพรั่นพรึง...และคำถามในใจอันไร้หนทางจะคาดการณ์ถึงสาเหตุของเพลิงไหม้อันร้ายกาจนี้


เพลิงอันใดที่ก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้!


ร่างบางในชุดเสื้อผ้าสกปรกมอซอเดินโซซัดโซเซไปตามทาง ฝุ่นที่ตลบขึ้นมาจากการเคลื่อนไปข้างหน้าของเกวียนใหญ่และม้าฟุ้งกระจายไปทั่ว ทำให้คนที่เดินตามมาดานหลังจามจนต้องเบือนหนี เท้าน้อยๆ ในรองเท้าเก่าผุพังระบมบวมไปทั้งเท้า ทุกย่างก้าวเจ็บปวดจนแทบจะเดินไม่ไหว ทว่าหากหยุดลงตรงนี้ นางจะต้องถูกทิ้งเอาไว้ให้ตายอยู่กลางทางหรือไม่ก็ถูกคนเหล่านั้นฆ่าตายเป็นแน่


ฟีต้าเดินซวนเซด้วยความเหนื่อยอ่อนและปวดล้าไปทั้งกาย ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนยิ่งนัก หากกำลังใจความความกลัวผลักดันให้ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า


เพลิงไหม้ทำลายหมู่บ้านจนพินาศย่อยยับแทบไม่เหลืออะไร และไร้ซึ่งชีวิตอันใดจะสามารถดำรงชีพต่อไปได้บนผืนดินอันมอดไหม้แห่งนั้น ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่นางจะหมดสติไป หากเมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมา ฟีต้าก็ไม่เหลือความทรงจำถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้นั่นเลย เว้นเสียเรื่องของตนเองก่อนเหตุเพลิงไหม้ และความทรงจำหลังจากที่นางรู้สึกตัวขึ้นมาพบกับพวกกองเกวียนค้าทาสนี้!


ร่างน้อยซวยเซอีกครั้งก่อนสะดุดขาตนเองล้มลงกับพื้นดินคลุกฝุ่น ทำให้ผู้ที่เดินตามหลังต้องชะงัก


“อะไรกันวะ! อย่ามาทำสำออยนะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!!!” ชายร่างใหญ่ที่ตามมาตวาดเสียงลั่น หากในปากของหญิงสาวนั้นแห้งผาก


“นายท่าน ข้าเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว ได้โปรดให้ข้าได้พัก หรือไม่ก็ขอน้ำให้ข้าสักหน่อยเถิด...”


“หนอย! นังนี่...อย่ามาเสแสร้ง รีบลุกขึ้นเดียวนี้ สินค้าทาสอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น!!!” ร่างบางถูกกระชากผมให้ลุกขึ้นจากพื้น เจ็บปวดศีรษะเป็นหนักหนา หากยิ่งร้อง นางก็ยิ่งถูกตีรุนแรงยิ่งขึ้นอีก


“ทีอาส! หยุดเดี๋ยวนี้ เดี่ยวนังนั้นมันก็ตายหรอก อีกอย่าง หากเจ้าอยู่ใกล้มันนานๆ เดี๋ยวเจ้าก็ถูกเคราะห์ร้ายที่มันนำมาให้หายสาบสูญไปอีกคนหรอก ชายบนหลังร้องตะโกนบอกมา ทำให้ชายผู้คุมที่ถูกเรียกว่าทีอาสชะงักมือพลันแล้วผลักนางล้มลงอีกครั้งก่อนเดินหนีห่างราวกับว่าหญิงสาวเป็นกาฬโรคน่าขยะแขยงก็ไม่ปาน


“นังน่าชัง! ไม่รู้ว่าเจ้าจะเอามันมาด้วยทำไม...เล็คซ์ เจ้าก็รู้ว่านังนี่เป็นกาลกิณีโดยแท้ น่าจะให้ข้าฆ่ามันซะ


“หุบปากของเจ้าเสีย! ทีอาส...ต่อให้นังนี่จะเป็นตัวหายนะอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเราอีก เมื่อเราขายนางออกไปได้ที่เมืองข้างหน้า! ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เงินทองมากมายเท่าไหร่ แต่เงินก็คือเงิน


ทีอาสทำเสียง ฮึ! อย่างดูแคลน ก่อนชำเลืองกลับไปมองร่างที่กองอยู่บนพื้นพยายามจะลุกขึ้นจนสำเร็จแล้วเดินตามต่อมา


คนจากหมู่บ้านที่เหลือรอดถูกจับขณะอพยพจากที่ดินเก่า รวมทั้งฟีต้าที่หมดสติติดมาในขบวนนั้นก็ถูกพวกพ่อค้าทาสที่ผ่านทางจับตัวเอาไว้ พวกที่พอมีทรัพย์สิ้นบ้างก็ขอแลกตัวด้วยเงินทองข้าวของแล้วไถ่ตัวเองออกไปได้แล้วหนีไป หญิงชายและเด็กที่หน้าตาดีก็ถูกจับแยกแล้วขนใส่เกวียนเทียมโคใหญ่ ส่วนคนอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นถูกล่ามมือเท้าแล้วให้เดินตามรถเทียมไปตลอดทาง


แรกๆ นางเองก็ถูกจับขึ้นเกวียนถือเป็นสินค้าดี แต่ทว่าด้วยเหตุนั้นเองทำให้พวกโจรค้าทาสเข้ามายุ่มย่ามกับนาง ค่อยๆ หายไปทีละคนจนผิดสังเกต หัวหน้าโจรค้าทาสที่ชื่อเล็คซ์จึงเอาขี้โคลนทาหน้านางแล้วไสส่งนางลงจากเกวียนไปเป็นสิ้นค้าชั้นเลวแล้วออกคำสั่งมิให้ใครมายุ่งกับนางอีก


น้ำถูกเทลงมาบนหัวของนางทำให้ฟีต้ารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีทองเงยขึ้นมองชายผู้ซึ่งนั่งอยู่บนอานถือถุงน้ำหนังเอาไว้ในมือถือ...นางจำได้ว่าเขาก็คือ ชายผู้ซึ่งมีนามว่า...เล็คซ์!


“ทีนี้ก็เลิกบ่นแล้วเดินต่อไปได้แล้ว


ทันทีที่กล่าวจบ หัวหน้าพ่อค้าทาสก็ชักม้าขึ้นนำขบวนต่อไป...


ไม่ว่าจะคุ้ยเขี่ยอย่างไรต่อไปทั่วทั้งบริเวณเพลิงไหม้กี่สิบกี่ร้อยรอบ เฟทก็ยังไม่สามารถค้นหาสิ่งอันเป็นต้นเหตุของเรื่องร้ายนี้ได้ อย่าว่าแต่หาสาเหตุเลย แม้แต่จะหาจุดเริ่มต้นเพลิงก็ไม่มีร่องรอยใดๆบอกได้ว่าเริ่จากที่ไหน ทั่วทั้งบริเวณนั้นแลราวกับได้เกิดไฟบรรลัยกัลป์ลุกพรึบขึ้นพร้อมกันทั้งหมด


มันช่างน่าแปลกนัก!


เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีต้นเพลิง ซึ่งควรที่จะเป็นบริเวณที่พบการเผาไหม้มากที่สุด อีกทั้งสภาพการเผาไหม้หมดจดเป็นบริเวณกว้างเช่นนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกด้วย! ไม่มีทางเลยที่ทุกๆ อย่างซึ่งติดไฟได้และไม่น่าจะได้จะถูกเผาไหม้ไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ก้อนถ่าน อย่างน้อยพวกต้นไม้ก็ควรจะเหลือซากยืนต้นเอาไว้ให้พบเห็นบ้าง หากที่ชายหนุ่มเห็นอยู่นี้นั้นกลับมีเพียงขี้เถ้าสีเทาและพื้นดินดำๆกับก้อนหินดำจากเขม่าเท่านั้น


นอกเหนือไปจากนี้ เฟทได้พบกับก้อนโลหะหลอมเหลวจับตัวกันเป็นก้อนอีกด้วย เพลิงไหม้ป่าแรงเพียงไรก็ไม่น่าจะสามารถหลอมโลหะจนไร้สภาพดั้งเดิมเช่นนี้ได้!


หากแม้แต่โลหะที่เขาเห็นอยู่นี้ยังไม่อาจจะต้านทานได้ แล้วไหนเลยที่จะเหลือไว้ซึ่งซากร่างกายของมนุษย์...


ไคเมร่าหนุ่มทอดถอนใจราวกับโลกได้สิ้นสุดลงบัดนี้ เขาไม่อาจจะรู้ได้เลยจากพื้นดินดำๆผืนนี้ว่า ใครคนหนึ่งที่เขากำลังตามหาจนพลิกแผ่นดินนั้นเคยอาศัยอยู่ที่นี้หรือไม่ ไม่แม้แต่เบาะแสะเล็กน้อย


เพราะทุกๆสิ่งได้กลายเป็นเถ้าไปจนสิ้นแล้ว!


นางถูกขายในราคาเพียงสิบเอ็ดเชลเท่านั้น!


ฟีต้าเดินทางจากข้างถนนสู่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีในเมืองเล็กๆ ใกล้อาณาเขตนาร์เดน เมืองเล็กซึ่งอยู่ถัดจากเมืองการค้าใหญ่แถบชายแดนอันเป็นเมืองซึ่งพวกพ่อค้ายิปซีผ่านเข้าออกค้าขายกันอย่างเสรี ทว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นเพียงเมืองพักตากอากาศที่พวกขุนนางซื้อที่ดินเอาไว้ปลูกบ้านพักฤดูร้อน เพื่อหนีอากาศอบอ้าวมารับลมเย็นชื่นของภูเขา...เมืองนี้ที่มีนามว่า ลิสมัต


นางถูกซื้อมาเป็นหญิงรับใช้ โดยสตรีผู้เป็นแม่บ้านใหญ่...นามว่า ลอนต้า


เมื่อมาถึง...ลอนต้ายื่นเสื้อผ้าใหม่ให้กับหญิงสาวแล้วไสนางให้ไปอาบน้ำล้างหน้าตาเนื้อตัวและสระผม ครั้นเมื่อสีดำๆ จากคราบเขม่าไฟและฝุ่นควันออกไปจากร่างกายและเรือนผมจนสิ้น ผมที่ตอนแรกลอนต้านางเข้าใจว่าเป็นสีดำๆ เทาๆ ดูโสโครกก็กลับกลายเป็นสีขาวหรือจะพูดไปคือ สีเงิน อ่อนจางจนแลขาวใสนั้นเป็นสีดั้งเดิมของมันเอง


“ตายจริง! คนเผือกหรือนี่ นางอุทานเมื่อเห็นสีผมนั่น


“คุณลอนต้าคะ...ข้าว่าเด็กนี่ดูน่ากลัวนะคะ คงเอาไว้รับใช้ในบ้านไม่ได้หรอกค่ะ ดูตาของนางสิคะ หญิงรับใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางมองฟีต้าอย่างรังเกียจ “แถวบ้านข้า ถือว่าพวกคนเผือกจะนำเรื่องเคราะหืร้ายและอัปมงคลมาให้นะคะ


ขณะที่หญิงนางนั้นส่งสายตามองมาที่นางอย่างเดียดฉันท์ ลอนต้ากลับมองนางอย่างครุ่นคิด ดวงตาสีอำพันช้อนขึ้นมองหัวหน้าแม่บ้านหญิงอย่างหวาดกลัวและวิงวอน...


“ดูตามันสิคะ...คุณลอนต้า! อย่างกับตาของสัตว์ป่า น่ากลัวออกค่ะ! คุณคะ รีบๆไล่มันออกไปเถอะค่ะ”


“หยุดเหลวไหลได้แล้วนะ! จีอา...เจ้าดูเด็กนี่ให้ดีสิ พอล้างคราบสกปรกดำๆออกไปแล้วหน้าตาสะอาดเอี่ยมเกลียงเกลา ถึงจะเป็นคนเผือกแต่กลับไม่มีกระหรือจุดด่างให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ผิวกลับขาวเนียนราวกับงาก็ไม่ปาน เจ้ากลัวเพียงเพราะคำเล่าลือไร้สาระโบร่ำโบราณกับความเชื่องมงามเท่านั้นนะรึ รู้รึไม่ว่าข้าซื้อเด็กนี่มาด้วยราคาถึงสิบเอ็ดเชลเชียวนะ! ที่สำคัญหน่วยก้านเด็กนี้ก็ดูไม่เลวทีเดียว นี่เจ้า! ชื่ออะไร?”





Create Date : 30 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:45:32 น. 0 comments
Counter : 167 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.