คิมหันต์ที่ 6/1
Chapter6 มาอีกแล้ว...เจ้าตัวเล็ก เหมียววว เสียงร้องเล็กๆ ร้องรับเสียงใสของฟีต้าพร้อมกับที่เจ้าขนดำตัวน้อยเดินเยื้องย่างเข้ามาคลอเคลียมือบางที่ยื่นมาลูบไล้ตัวของมัน เจ้าตัวเล็ก...ที่ฟีต้าเรียกมันอย่างแสนเอ็นดูชูคอเอียงไซ้มือนุ่มขาวผ่องของหญิงสาวทั้งใบหน้าและร่างจ้อยของมันอย่างเป็นเจ้าของ ก่อนกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของนางแล้วใช้จมูกเล็กๆชนเข้าที่แก้มนวลของนาง...เป็นการทักทาย จุ๊บ! อรุณสวัสดิ์จ้ะสาวน้อย... เฟทเอ่ยกับนางในร่างแมว...ที่ร้อยทั้งร้อยนางไม่มีทางเข้าใจ นี่เป็นวันที่สามแล้วที่เขาเข้ามาป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่กับนาง ในบ้านหลังนี้ ในเวลาที่นางทำงานเขาก็จะแอบซอกแซกไปตามตัวบ้านด้านนอกเพื่อสอดส่องสิ่งต่างๆ ภายในบ้าน จนเขาได้รู้กำหนดการณ์ต่างๆ และกิจกรรมต่างๆของนายผู้หญิงนายผู้ชายของบ้านนี้ยามที่มาพัก และที่สำคัญก็คือ เขาได้รู้อีกว่า เมื่อไรที่งานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้น! เฟทหมายใจว่าจะใช้โอกาสนี้ เข้ามาเพื่อสืบข่าว...เด็กเผือก...ที่หายตัวไปให้มากยิ่งขึ้น คิดว่าเขาคงได้รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กสาวนางนั้นเพราะเขาเสียเวลากับที่นี่มากเกินไปแล้ว แต่ข่าวของเด็กเผือกไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่รั้งความสนใจของเขาเอาไว้กับหมู่บ้านแห่งนี้ เจ้าตัวเล็ก...กินขนมไหม? เสียงใสๆ เอ่ยถาม ขณะที่ฟีต้าบิขนมข้าวเกรียบย่างโรยน้ำตาลเป็นชิ้นเล็กๆใส่มือตนแล้วยื่นให้กับเขา นี่ต่างหากที่เหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้... น่าแปลกเหลือเกินที่ฟีต้าทำให้เขานึกถึงบ้านเสมอที่เจอนาง นางมีอะไรบางอย่างคล้ายๆ ชาวโอราเคิล แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร อาจจะเป็นกลิ่น? หรืออาจจะเป็นความงดงามหมดจดเป็นธรรมชาติตามแบบชาวโอราเคิล? ไม่หรอกเพราะยังมีผมสีดำแปลกๆนั่นที่เขาไม่คิดว่ามันจะสวยเป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ มันทำให้เขานึกถึงถ่านด้วยซ้ำ ราวกับมีใครเอาถ่านมาขยี้ใส่หัวนางมากกว่า และวันนี้มันดูดำปี๊ดปี๋เป็นพิเศษเลยทีเดียว นี่ เจ้า! มัวนั่งเล่นอยู่ได้ รีบๆ กินเข้าซี่นังเด็กทาส! ต๊าย! นั่นอะไรน่ะ แมวดำรึ นังเด็กผียังจะเอาแมวผีเข้ามาในบ้านหลังนี้อีกรึ!!! เจ้านี่มันตัวอัปมงคล ไม่รู้คุณลอนต้าพิสมัยอะไรเจ้านักไม่ยอมเอาเจ้าไปทิ้ง! เสียงแหวแว๊ดๆ ดังแสบแก้วหูที่เฟทไม่เคยอดสะดุ้งเลยสักครั้งเดียว ดวงตาสีทองของเจ้าแมวดำบนตักหญิงสาวปรายหางตามองสาวใช้สูงวัยนางนั้นด้วยสายตาดูถูก เขาไม่ชอบยายนี่เลย เฟทสังเกตหลายครั้งหลายหนแล้วว่าผู้หญิงคนนี้มีท่าทีอคติกับฟีต้าเป็นพิเศษ แม่คนในบ้านคนอื่นๆจะทำราวกับนางเป็นคนรับใช้ของคนรับใช้อยู่แล้วก็ตาม แต่กับผู้หญิงคนนี้นางไม่เคยยอมให้ฟีต้าแตะต้องสิ่งที่นางถือและเนื้อตัวนางราวกับรังเกียจเดียดฉันท์หญิงสาวเสียเหลือเกิน ตัวอัปมงคล! นั่นคือคำที่นางใช้กับฟีต้าทุกครั้ง และนั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เขาไม่เคยเข้าใจเลยสักนิดเดียวว่าทำไม? หรือนางจะรู้อะไรที่ไม่ดีบางอย่างเกี่ยวกับเด็กสาวคนนี้? แต่เขาคิด...คิดว่าบางทีนางอาจจะเป็นเช่นนี้กับเด็กรับใช้ทาสที่ถูกซื้อมาก็ได้ ไม่แน่ว่า...นางอาจจะเป็นสาเหตุที่เด็กเผือกนางนั้นหายไปจากบ้านนี้... ฟีต้าบิขนมที่เหลือแล้วใส่กระดาษกองเอาไว้ให้กับเจ้าตัวเล็กของนาง วางลงบนพื้นพร้อมกับเฟทในมือนาง ข้าต้องไปทำงานแล้ว ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆ จะต้องลำบาก ข้าไปก่อนนะเจ้าตัวเล็ก มือบางลูกขนอ่อนนุ่มของเจ้าแมวตัวน้อยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะผละจากมันไปเพื่อทำงานของนาง เฟทเลียกินขนมจนเรียบก่อนทำความสะอาดปากแมวๆ ของตนแบบแมวๆ แล้วยิ้ม...เขาเองวันนี้ก็มีงานเช่นกัน... หมู่บ้านเล็กๆ หากร้านรวงส่วนใหญ่กลับหาใช่ร้านขายของชำทั่วๆ ไปไม่ แต่เป็นสินค้าชั้นเลิศคุณภาพดี และสินค้าฟุ่มเฟือยราคาสูงจากต่างแดนรวมตัวกันเปิดร้านอยู่บนถนนสายหลัก เครื่องเงินจากช่างฝีมือขึ้นชื่อ ผ้าลูกไม้ลายละเอียดจากตะวันออก ผ้าไหมปักเลื่อมพรายสอดด้ายเงิน พัดชั้นดี หมวกประดับริบบิ้นและขนนก เสื้อขนสัตว์อ่อนนุ่ม ผ้าม่านกำมะหยี่ เครื่องกระเบื้องเนื้อบาง สบู่ เครื่องหอม และร้านอาหารเครื่องดื่มสำหรับเป็นที่นัดพบปะกันของชนชั้นสูงรวมไปถึงโรงแรมชั้นดีราคาแพง ร้านตัดเสื้อและทำรองเท้า แม้เป็นร้านเล็กๆ แต่ทุกร้านต่างมีสินค้าสำหรับชนชั้นสูงทั้งสิ้นอีกทั้งต่างก็ตกแต่งร้านเล็กๆ นั่นอย่างหรูหรา และไม่ว่าร้านใดในช่วงเวลานี้ก็มีคนเดินเข้าเดินออกขวักไขว่ แต่ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นนั้นกลายเป็นคนละเรื่องไปเลยทีเดียวเมื่อตะวันตกดิน เฟทนั่งทอดหุ่ยอยู่บนระเบียงด้านหน้าร้านอาหารชั้นล่างของโรงแรมอันดับหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้หญิงชั้นสูงมานัดพบปะกัน... แต่ว่า ทำไมเขาจึงต้องมานั่งกินอาหารในสถานที่เช่นนี้นั่นหรือ? ย้อนไปเมื่อคืนก่อน...เมื่อท้องฟ้าดารดาษไปด้วยดวงดาวและไร้จันทร์ ไม่มีใครเลยที่จะมองเห็นปีกแห่งรติกาลโบยบิน เฟทร่อนลงเงียบกริบบนหลังคาของคฤหาสน์หลังเดิม ดวงตาสีทองวาววามเรืองแสงสีทองในความมืดอันไร้ผู้คน เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนหลับใหล และไม่มีใครรู้ถึงผู้มาเยือนลึกลับ... ร่างในชุดดำอำพรางกายสูงซอกแซกไปตามห้องต่างๆ ภายในตัวบ้าน ฝีเท้าของเขาเงียบกริบราวกับแมว ชายหนุ่มควบคุมเสียงหายใจของตนเอง ผังของบ้านทั้งด้านบนด้านล่างและปีกซ้ายขวาไม่ต่างกัน มีรูปแบบเดียวกัน จำได้อย่างง่ายดายและน่าเบื่อหน่าย ในบรรดาห้องต่างๆ ก็มีผนังที่กั้นระหว่างกันไม่หนานัก ไม่มีทางเลยที่จะแอบซ่อนใครเอาไว้ในบ้านหลังนี้ได้ในเมื่อทุกๆ ห้องมีหน้าต่างและบานประตูที่สามารถทะลุไปยังอีกห้องได้ แน่นอนที่สุด ไม่มีทางหรือประตูลับใดๆ เจ้าของบ้านไม่มีทางเป็นคนขี้เล่นไปได้อย่างแน่นอน หรือไม่สถาปนิกก็เป็นคนน่าเบื่อ... ไร้รองลอยของคนที่ตามหา ไม่มีเหลือแม้แต่เบาะแสให้ตามสืบต่อ...หรือไม่เขาอาจจะต้องหาใครบางคนเพื่อถาม...แต่คำถามใหม่ที่เกิดขึ้นก็คือ เขาจะเข้ามาไถ่ถามซักฟอกหาข่าวจากคนในบ้านได้อย่างไร? และคำตอบของคำถามทั้งหมดกำลังยืนดูขวดเครื่องหอมหน้ากระจกของร้านฝั่งตรงข้าม...หญิงสาววัยสิบเจ็ดแต่งกายด้วยเครื่องประดับหรูหราที่มากับมารดาของนางกำลังยืนดูขวดแก้วเจียระไนใส่น้ำหอมสีสวยรอมารดาของนางที่กำลังสนทนาอยู่กับสตรีอีกนางที่แต่งตัวหรูหราไม่ต่างกัน หลังจากการสืบเขาก็ได้รู้ว่า คหบดีที่แรงร่ำรวยผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นก็คือ เสนาบดีคลังแห่งซานซาลอว์ สตรีผู้เป็นเป้าหมายครั้งนี้ก็คือ ภริยาเสนาบดีคลังแห่งซานซาลอว์มาดามผู้เลิศหรู ซึ่งเดินคู่มากับลูกสาวคนโตอายุสิบเจ็ด...เป้าหมายที่จะนำเขาเข้าไปในบ้านได้อย่างเปิดเผยด้วยการตีสนิทสองแม่ลูกคู่นี้ ซึ่งมันง่ายกว่าการตีสนิททางท่านเสนาบดีที่มีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลาและหาทางเข้าหายากกว่าหลายขุม ลิบๆ ที่ปลายถนนสายหลัก เฟทรู้สึกได้ถึงสัตว์พาหนะตัวใหญ่ย่างเหยาะเทียมรถเทียมมาตามเส้นทางนี้ และจอดเพื่อรับสองแม่ลูกขึ้นนั่ง อย่างที่เขาเองมักจะพูดอยู่เสมอๆ ว่า...โอกาสเป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นเอง... ขอโทษทีนะ...พี่ม้า เฟทส่งกระแสจิตคุกคามและเฉียบคมตรงไปยังพี่ม้าที่น่าสงสารเข้าไปกระตุ้นสัญชาตญาณของม้าเทียมรถ ทำให้สัตว์จอมตื่นตระหนก...ตกใจส่งเสียงร้องแหลมยิ่งกว่าเสียงกรีดร้องของพวกสาวๆ ที่อยู่ในพาหนะที่เทียมมันเข้าด้วยเสียอีก! เมื่อคนขับผู้น่าเวทนาไม่สามารถควบคุมได้และไม่ทันตั้งตัวจึงถูกสะบัดตกจากที่นั่งอย่างง่ายดาย...และภาพการตกนั้นดูไม่น่ามองนัก ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วย!!! เสียงของคุณหญิงเสนาร้องด้วยความหวาดกลัว เป็นจังหวะที่เฟทรออยู่แล้ว ร่างสูงเร้นกายหายไปจากฝูงชน เพื่อกระโดดขึ้นหลังคาไปดักรถม้าด้วยความเร็วดุจเสือดาว แม้ว่าการวิ่งด้วยความเร็วเช่นนั้นจะทำให้เขาหมดเปลืองพลังกายไปมากก็ตาม... แต่เสร็จงานแล้วค่อยไปเติมคืนก็ได้แหละน่า! ทันทีที่เฟทวิ่งไปดักหน้ารถได้หนึ่งช่วงตัวรถม้า ร่างสูงก็กระโดดลงมาบนที่นั่งคนขับได้อย่างเหมาะเหม็ง สำหรับมนุษย์ทั่วๆ ไปแล้วการควบคุมม้าสองตัวที่กำลังตื่นตระหนกอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากยิ่งและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่กับเฟทที่เป็นชาวโอราเคิลแล้วนั้น...เรื่องนี้เป็นเพียงแค่เรื่องขี้ประติ๋ว! โย้วๆ ใจเย็นๆ มือใหญ่ทำเป็นรั้งบังเหียนอย่างลำบาก หากจริงแล้วหาได้ดึงแรงอย่างแสร้งว่า ดวงตาสีทองจับที่สองแรงม้าแล้วส่งกระแสความคิดตนไปปลอบโยน ควบคุมเจ้าม้าทั้งสองไว้! พี่ม้าเย็นไว้...ข้าไม่ทำอะไรพวกเจ้าหรอก เมื่อสี่ขาคูณสองที่ห้อตะบึงค่อยๆลดความเร็วจนหยุดนิ่งสนิทเสียงกรีดร้องสองเสียงด้านหลังก็เงียบลง เฟทกระโดดลงจากที่นั่งคนขับคล่องแคล่ว เดินไปเปิดประตูรถม้าออกแล้วยื่นหน้าเข้าไป ...ปลอดภัยแล้วครับ คุณสุภาพสตรีทั้งสอง... แผนการดูเหมือนจะไปได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ เมื่อเขาได้ช่วยเหลือแม่ลูกทั้งสองให้รอดพ้นจากความตายเขาก็เท่ากับผู้มีพระคุณและเสมือนอัศวินขี่ม้าขาวในสายตาของสตรีทั้งสอง และเพื่อเป็นการตอบแทน สตรีผู้แม่จึงยื่นข้อเสนอให้เขาย้ายไปพักที่คฤหาสน์จนกว่าจะออกเดินทาง พร้อมทั้งมอบค่าตอบแทนซึ่งเป็นเงินทองอีกมากมายให้กับเขา...ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เขาต้องการ เว้นเสียก็แต่เฟทไม่ต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะมีผู้คนคอยจับตา เช่นนั้นเขาจึงปฏิเสธไป...ท่าทางนอบน้อมของชายหนุ่มและไว้ตัวแบบคนมีการศึกษา ทำให้นายหญิงแห่งคฤหาสน์เสนาบดีพอใจเฟทยิ่ง! เฟทจึงได้รับเชิญให้ร่วมงานเลี้ยง หากเมื่อชายหนุ่มทำท่าเหมือนจะปฏิเสธอีกครั้ง...
Create Date : 30 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:42:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 211 Pageviews. |
|
|