~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
คิมหันต์ที่ 21/1

Chapter 21


สามวัน จับผู้บุกรุกได้สิบสามคน...บอกให้เห็นได้ชัดว่าคนสั่งการหาได้ยอมตัดใจไม่ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ขบวนเดินทางกลับของท่านร็อคโก้ถูกโจมตีระหว่างทาง!


แต่ที่ทำให้แปลกใจก็คือ ผู้ที่ยื่นมือเข้าไปช่วยได้ทันเวลาก็คือกองทหารจากเผ่านกโดยการนำของไควานั่นเอง จากข่าวที่ส่งมาจากคณะเดินทางบอกว่าผู้เฒ่าร็อคโก้นั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนหลานสาวของท่านผู้เฒ่านั้นปลอดภัยดีและกำลังเดินทางต่อไป...นั่นคือข่าวที่ทางเฟทได้รับ


แรกสุดที่เขาได้ข่าวที่คณะเดินทางถูกโจมตี ทั้งเขาและบิดาต่างก็คิดตรงกันว่าน่าจะเป็นฝีมือของนักฆ่าที่ไควาจ้างมาอีกเป็นแน่...แต่เมื่อพบว่าไควากลับเป็นผู้ยกกองทหารมาช่วยเอาไว้อย่างประจวบเหมาะ นั่นทำให้พวกเขาเกิดความสับสนขึ้น


เซลดัลคิดว่าอาจจะไม่ได้เป็นฝีมือของไควา แต่พวกที่เข้าทำร้ายเป็นเพียงโจรป่าธรรมดาตามที่ข่าวได้ส่งมา ขณะที่เขายังคิดระแวงสงสัย และยิ่งสงสัยไความากยิ่งไปอีก เพราะช่วงเวลามันประจวบเหมาะเกินไป อีกทั้งพวกที่บุกโจมตียังถูกจัดการสังหารจนหมด จึงไม่รู้ว่าจริงแท้แล้วพวกที่เข้าโจมตีนั้นเป็นใครกันแน่


เมื่อความเห็นแตกออกเป็นสองทางเช่นนี้จึงยากที่จะตัดสินใจ แต่เมื่อจดหมายของท่านร็อคโก้ส่งมาบอกเล่าถึงการเดินทางและยืนยันว่าได้ไปถึงเผ่าโดยสวัสดิภาพแล้ว จึงทำให้พวกเขาสรุปว่าผู้โจมตีกลุ่มนั้นไม่น่าจะเป็นฝีมือของไควา หากในเวลาเดียวกันเฟทยังคงระแวงสงสัยอยู่


นกผู้เฒ่าได้เชื้อเชิญพวกเขาให้ไปร่วมงานเลี้ยงฉลกองการเดินทางกลับมาของจ้าวแห่งเผ่านกที่ทางเผ่าจัดขึ้น ทว่าในฐานะจ้าวแห่งโอราเคิลที่มีงานล้นมือทำให้เฟไม่สามารถที่จะไปได้ด้วยตนเอง ประจวบเหมาะกับที่เฟทอยากจะพาฟีต้าไปเยี่ยมถิ่นฐานเดิมของผู้เป็นมารดา เฟจึงมอบหมายให้ผู้เป็นลูกชายเป็นตัวแทนของตนเดินทางไปเข้าร่วมงานรื่นเริงครั้งนี้แทน


แม้ว่าระยะทางจะไม่ไกลไปกว่าครั้งที่ทั้งสองเคยเดินทางในครั้งที่ผ่านๆมา และอย่างที่รู้กันดีว่าใช้เวลาเดินเท้าเพียงแค่สามวันเท่านั้นซอกแซกผ่านหุบเขาที่เป็นดังพรมแดนกั้นสองฤดูที่แตกต่างเพื่อไปขึ้นเรือบินยักษ์ต่อไปยังเมืองของพวกนกอีกใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หากเฟทก็ต้องการที่จะขยับขยายเวลาที่ใช้ในการเดินทางออกไปด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ ซึ่งนั่นจะทำให้วันที่ทั้งคู่ออกเดินทางใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้นเพื่อไปให้ทันเวลา


“ข้าอยากให้ฟีต้าได้เรียนรู้เรื่องราวของโอราเคิลมากกว่านี้ ได้เห็นโลกมากกว่าที่นางเคยเห็น เหมือนอย่างที่ข้าเคยได้เห็น” นั่นเป็นเหตุผลส่วนตัวที่สุดของชายหนุ่ม “คนอื่นๆจะเดินทางไปก่อนหรือตามมาทีหลังเพื่อให้ถึงทันกันก็ได้ แต่ข้าไม่อยากจะรีบเร่งระหว่างการเดินทาง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีเวลาได้ชื่นชมภูมิทัศน์”


“แต่มันอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับนาง...” เซลดัลหันไปทางฟีต้าซึ่งกำลังพูดคุยและหัวเราะอยู่กับแม่และน้องสาวของเฟทอย่างสนุกสนาน


“ข้ารู้ดี...ข้าจะปกป้องนางเอง”


“แต่ยังไงข้าว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีอยู่ดี” เซลดัลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มลึก ทว่า...


“ตรงกันข้าม...ข้าคิดว่าบางทีอาจเป็นโอกาส...” เฟเอ่ยขึ้นสีหน้าเคร่งขรึม ทำให้ชายต่างวันหันมองมาเป็นตาเดียวกันอย่างสงสัย


“โอกาสอะไรรึ?” เซลดัลเอ่ยถามด้วยความฉงน ขณะที่เฟกลับยิ้มอย่างมีนัย พลางโน้มกายมาเบื้องหน้าเข้าหาหนึ่งสมิงหนึ่งไคเมร่าแล้วเอ่ยด้วยเสียงกระซิบค่อย


“ก็โอกาสที่จะจัดการกับคนที่ถูกจ้างวานมาลักพาตัวนางทั้งหมด รวบตัวพวกมันในครั้งเดียวไงล่ะ”


“เจ้าหมายถึง...ใช้...” เซลดัลปรายตาไปทางพวกผู้หญิงอีกครั้ง “เป็นเหยื่อล่อย่างนั้นรึ?”


“ถูกต้อง”


“ในเรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วย เฟทโพล่งออกมา สีหน้าของชายหนุ่มเครียดขึง เขาวางแผนที่จะจัดขบวนคุ้มกันอย่างแน่นหนานเอาไว้ ไม่ยอมจะให้นางต้องเผชิญกับอันตรายอีก! เฟมองใบหน้าแข็งกร้าวของลูกชายนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่ใบหน้าของผู้เป็นพ่อจะอ่อนโยนลงและมีร้อยยิ้มที่แสดงถึงความเข้าใจ


“ข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่ต้องการให้แม่สาวน้อยนั่นเป็นอันตราย เฟท...และในฐานะพ่อก็ไม่ต้องการให้ลูกๆต้องเผชิญหน้ากับอันตรายโดยไม่จำเป็นเช่นกัน แต่...เจ้าจะฟังแผนการนี้ก่อนได้รึเปล่า” และด้วยถ้อยนั้นเองที่ทำให้สีหน้าของไคเมร่าหนุ่มที่สุดแสดงความฉงนสงสัยออกมา ก่อนที่แววตาของเขาจะปรากฏความสุขุมขึ้นแทนที่ เฟทพยักหน้าและแสดงทีท่าตั้งใจฟังเป็นอย่างดี เมื่อเห็นทีท่าของลูกชายจึงยิ้มและเกริ่นขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแผ่วเบาหากเข้มข้นชัดเจน


“แผนการมีอย่างนี้...”


เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก และแล้ววันเดินทางก็มาถึง...


ขบวนเดินทางเดินทางออกจากวิหารแห่งโอราเคิลแต่เช้าตรู่โดยมีจ้าวภูผาและชายาออกมาอวยพรให้ทั้งสองเดินทางโดยสวัสดิภาพ และมองส่งจนลับสายตา ขบวนเดินทางมีผู้ติดตามเพียงสี่คนโดยใช้รถเทียมม้าเพียงคันเดียวเท่านั้น


พอถึงเวลาสาย ขบวนเดินทางก็เดินทางออกมาพ้นเขตที่อยู่ ทั้งขบวนนั้นจึงหยุดพักกลางทาง ร่างในเสื้อคลุมสีขาวย่างลงจากรถเทียมม้า เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวันแรงกล้าโดยมีมือป้องดวงตาเอาไว้ เรือนผมสีเงินปลิวหลุดออกมาจากแถบของผ้าคลุม ขณะที่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อคลุมสีดำกระโดดลงจากหลังม้าอย่างองอาจสาวเท้าเข้ามารับมือของอีกฝ่ายเพื่อช่วยพยุง


ทันใดนั้นเอง คนกลุ่มหนึ่งก็พุ่มตัวออกมาจากข้างทางเข้าจู่โจมร่างสูงทันที!


กลุ่มคนในชุดไอ้โม่งตรงเข้าทำร้ายชายในชุดเสื้อคลุมดำซึ่งกระโดดหลบการจู่โจมเฉียดฉิว และหวุดหวิดไปอีกครั้ง เมื่ออาวุธสังหารนั่นตวัดกลับมา ร่างในชุดขาวถูกรั้งตัวให้แยกห่างออกไปจากผู้จู่โจ่มคนอื่น


“พวกแกเป็นใครกัน! ทำไมต้องจู่โจมพวกเรา”


“แกไม่จำเป็นต้องรู้


ร่างในเสื้อคลุมกระโดดหลบออกไป ก่อนจัดการกับชายผู้เข้าจู่โจมตนจนล้มไปด้วยหมัดเดียว ขณะเดียวกันร่างในชุดขาวซึ่งไม่ได้ขัดขืนมาแต่แรก ก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วจัดการคนที่เหลือจนหมอบในพริบตา


“เจ้านี่ไม่มียั้งมือเลยนะ...” เซลดัลสะบัดผ้าคลุมออกจาหัว ในเวลาเดียวกันที่เฟทก็สลัดผ้าคลุมสีขาวยาวระเกะระกะออกเช่นกัน


“ช่วยไม่ได้ ข้าไม่ได้เคลื่อนไหวได้สะดวกเหมือนเจ้าถึงจะได้ทำตัวเยิ่นเย้อชวนพวกไอ้โม่งคุยอยู่ได้นี่ ข้าละนับถือพวกผู้หญิงจริงๆ ที่ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วในชุดเสื้อผ้ากรุยกรายพันแข้งพันขาแบบนี้ได้ เฟยกแขนให้กับสหายรักดูสภาพของตนเองที่ถูกแปลงโฉมไปในเสื้อผ้าของสตรียาวรุ่มร่ามรัดกุม


“ข้ารู้สึกว่าตัวเองโชคดีในทันใดที่ไม่ได้เกิดมามีผมสีเงินเลยเชียวล่ะ” เฟตวัดสายตาไปทางเพื่อนรัก เมื่อตนเป็นตัวต้นคิดแผนการจึงบ่นอะไรไม่ได้


“ข้าไม่คิดว่าจะต้องให้สมบทสมบาทถึงขนาดนี้ ทีแรกข้าแค่จะเอาเสื้อคลุมคลุมเอาไว้เฉยๆเท่านั้น แต่ฟาฟาสิ ยืนกรานว่าต้องให้สมจริง หากไม่อย่างนั้นพวกมันจะไม่หลงกล”


“และนางก็พูดถูก แถมยังคิดถูกทำถูกอีกที่ให้เอารถม้านี่มา...” เซลดัลพยักหน้าอย่างขึงขังในใจนึกไปถึงสตรีผู้ยิ้มร่าสนุกสนานที่ได้ยินแผนการนี้


ยากนักที่จะลืมรอยยิ้มซุกซนเจ้าเล่ห์แบบนั้นได้!


“เมียข้าก็ฉลาดแบบนี้เสมอแหละ แต่ข้าแอบติดใจไอ้ตรงท่าทีสนุกสนานเสียเหลือเกินของเจ้าหล่อนนี่สิ แถมยังคะยั้นคะยอให้ข้าแต่งหน้าอีกด้วย ให้ตาย


แม้ว่าขณะนี้เครื่องสำอางที่ว่าจะไม่หลงเหลือบนใบหน้าของเขาอีกแล้วก็ตาม แต่นั่นก็เป็นอีกสิ่งที่เซลดัลจะไม่มีวันลืม สมิงหนุ่มถึงกับหลุดหัวเราะกิ๊กๆ ออกมา


เฟคำรามในลำคออย่างหงุดหงิด ก่อนร้องสั่งคนที่เหลือซึ่งถูกสั่งให้วิ่งไปซ่อนทันทีเพื่อไม่ให้มีใครต้องเจ็บตัวโดยไม่จำเป็นให้ออกมาจากที่ซ่อน


“ขนไอ้พวกนี้ขึ้นรถ! แล้วออกเดินทางกันต่อได้แล้ว!!”






Free TextEditor


Create Date : 30 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:14:30 น. 0 comments
Counter : 172 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.