~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
คิมหันต์ที่ 14/1

Chapter14


มันไม่เชิงความเจ็บปวดรวดร้าวนักหรอก หากมันเป็นความอึดอัดแสนสาหัสเสียมากกว่า บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้นในตัวเขา และเจ้าสิ่งนั้นมันกำลังทุรนทุรายหาทางออก สิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยจนกระทั่งพบมันเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่สงบนิ่งในตัวเขาแต่ไม่เคยรู้ว่ามีมันอยู่


ทรมาน...ทรมานเหลือเกิน


เฟทล้มกลิ้งขณะที่เขากำลังโอบตัวเองให้ก้าวเดินไปอีกก้าว หลังจากที่เขาก้าวมาก้าวแล้วก้าวเล่าเพื่อมุ่งหน้ากลับไปหาฟีต้า แต่ดูเหมือนกับว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ เฟทดิ้นทุรนทุรายอยู่แทบพื้นท่ามกลางความตกใจของทุกคนในที่นั้นที่กำลังยืนมองดูเขาด้วยความสับสน ภาพรอบกายเขาช่างแสนสับสนเหลือเกิน มีแสงวูบไปวาบมาจนเขาปวดหนึบในดวงตา สมองเหมือนถูกกดทับและมีคราดเล็กๆ ครูดไปทั่ว ร่างกายราวกับจะระเบิดออก


ทรมานเหลือเกิน...


“เฟท เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากที่ใดที่เขาไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะที่ใดก็ตามเสียงนั่นก่อให้เกิดความยินดี ราวกับสรวงสวรรค์ในขุมนรก ทันทีที่แขนเล็กๆ แสนบอบบางนั่นโอบร่างเขาเอาไว้ ความทุกข์ทรมานใดๆก็มลายหายไปจนสิ้น กลิ่นอันคุ้นเคย สัมผัสอันปลอบประโลมใจ เขาได้ยินเสียงหัวใจของนางเต้นสุขสงบ


สิ่งเหล่านั้นช่างแสนอ่อนโยน...เหมือนบ้าน...


บ้าน...เขาห่างบ้านนานเกินไปใช่ไหม? หรือว่าถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะกลับไป?


ขณะที่ความคิดของไคเมร่าหนุ่มแสนสับสนวนเวียน สิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดและไม่คาดฝันว่าหญิงสาวจะทำก็เกิดขึ้น เสียงเล็กๆขับขานลำนำแผ่วเบาราวปลอบโยน


...หลับเถิดหลับตา...


...วาดวิมานพราวพร่าง...


...หลับฝันถึงวันวาน...


...บ้านเกิดเมืองนอน...


เสียงหวานใสพลิ้วผ่านโสตซึมซาบผ่านจิตวิญญาณประดุจจะชำระล้างใจของผู้ใด้สดับให้บริสุทธิ์ เฟทจำเพลงนี้ได้ มันเป็นบทเพลงกล่อมเด็กที่มารดาของเขาเคยร้องให้ฟังเมื่อนานแสนนานมาแล้ว...ใช่ ลา ลา ลา หลับตาลงเถิด หลับตา...


..ลา ลา ลา...


...ฝันเถิดแก้วตา...


เสียงหายใจของชายหนุ่มค่อยๆ สงบสม่ำเสมอ ดวงตาสีทองปรือขึ้นราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงของความฝัน...ลา ลา ลา ฝันเถิด ขวัญตา...


...ลา ลา ลา...


...นิทราเถิด นิทรา...


“ฟีต้า...” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่ว ขณะเดียวกันมือใหญ่ก็บีบมือบางที่กำมือตนอยู่แน่นนั้นเบาๆ การรู้สึกตัวนั้นของชายหนุ่มทำให้ใครๆ ในที่นั้นถอนหายใจกันอย่างโล่งอกไปตามๆ กัน


“ข้าอยู่นี่แล้วเฟท...” เสียงเล็กๆ นั่นเอ่ยเลียนแบบคำพูดที่เขาเคยพูดกับนาง น่าแปลกที่คำพูดที่ปราศจากความสำคัญใดๆ นั้นกลับสร้างความยินดีให้กับเขาท่วมท้นล้นหลากมากมายในหัวใจ...


หลังจากที่เขาทรุดลงไป เฟทก็ถูกหามกลับที่พักโดยหามใส่เปลและมีนายทหารสองนายนำมา หลังจากคนอื่นๆ กลับออกไปจนหมด เหลือเพียงเขากับฟีต้าที่มีสีหน้าเป็นกังวลหนักหนาและไชน์อยู่ภายในที่พำนักชั่วคราวนั้น ไชน์เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงในสวัสดิภาพของชายหนุ่ม


“เฟท...แน่ใจแล้วนะว่าเจ้าไม่เป็นไรแล้ว ให้ข้าตามหมอมาดูแลอาการของเจ้าสักหน่อยดีกว่า...”


“ไม่...ข้าไม่เป็นไรแล้ว...ข้าแค่ต้องการ พักสักนิด...” เฟทปฏิเสธที่จะให้ผู้ใดตรวจร่างกายของเขา เพราะหากมีผู้ใดเข้าใกล้เขาในยามนี้แล้วละก็ ชายหนุ่มกลัวเหลือเกินว่าจะไม่สามารถปิดบังสภาพร่างที่แท้จริงของตนได้ ไชน์พยักหน้ารับแม้จะยังไม่แน่ใจนักว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะสบายดีจริงดังคำพูด แต่เมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธนักแน่นแข็งขันถึงเพียงนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเข้าไปสอดได้อีก


“ถ้าเช่นนั้นพักผ่อนให้มากๆล่ะ ดูแลเขาด้วยนะ” ประโยนหลังนั้นทหารหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวผู้ที่ดูเหมือนกับว่าจะเป็นผู้เดียวที่ชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นี้นั้นยอมรับให้อยู่ชิดใกล้ได้ในยามนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองเท่าใดนักก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ไชน์แน่ใจคือ...คนทั้งสองต่างจำเป็นต่อกันและกันยิ่ง!


ลับร่างของไชน์ไปแล้ว เฟทก็ขยับตัวลุกขึ้น ทำให้ฟีต้าผวาเข้ามาประคองชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง “เฟท...! ท่านน่าจะพัก”


“ไม่ ข้าไม่มีเวลามากจะพัก ฟีต้า...มีหลายอย่างที่ข้าต้องบอกกับเจ้าก่อน ก่อนที่เราจะออกเดินทาง เพราะหากเราเดินทางแล้ว เราคงไม่มีเวลามากมายพูดคุยกันยาวๆแบบนี้อีกจนกว่าเราจะกลับถึงบ้าน” เฟทเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


“อะไรเหรอเฟท...สำคัญมากอย่างนั้นเลยเหรอ หรือว่าเกี่ยวกับอาการป่วยของท่านด้วย?” ฟีต้าเอ่ยด้วยสีหน้าแสดงออกถึงความกังวลใจและห่วงใยในตัวของเขานัก เฟทพยักหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่ง และตอบนาง


“ข้าคิดว่าเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ข้าไม่รู้ว่ามันจะเลวร้ายเพียงใด และมันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือข้าห่วงเจ้า...ฟังนะ สิ่งที่ข้าพูดมันอาจจะฟังดูเหลวไหลไร้สาระ แต่มันเป็นความจริง...ฟีต้า พวกเรา ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ”


“เฟทหมายถึงไฟนั่น เรื่องที่ข้ามี...เอ่อ...เรื่องที่ข้าเป็น...ปีศาจ?”


“ไม่ใช่แบบนั้น ฟีต้า สิ่งที่เจ้ามี อำนาจที่เจ้าครอบครอง มันไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายเช่นนั้น มันเป็นพรที่บรรพบุรุษของเราได้รับมา นานมาแล้วบรรพบุรุษของพวกเราอาศัยอยู่ร่วมกันกับเทพเจ้าและมนุษย์บนผืนพิภพเดียวกัน จวบจนบรรพบุรุษของเราได้รับพรอันแสนวิเศษเป็นการตอบแทนการทำงานของเราในฐานะผู้ส่งสารจากเหล่าทวยเทพ ชีวิตอันแสนยืนยาวและสายเลือดอันใกล้เคียงเทพ มันนำพามาซึ่งภัยพิบัติเพราะเมื่อใดที่มนุษย์ผู้หนึ่งดื่มกินเลือดเนื้อของเรา พวกเขาก็จะครอบครองอำนาจและชีวิตอันยืนยาวของพวกเราไป


“สิ่งนั้นทำให้เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายโกรธ จึงสร้างสวนผสมอันน่ากลัวเอาไว้ในสายเลือดของพวกเรา...ชาวโอราเคิล...ว่าเมื่อใดที่มนุษย์ผู้หนึ่งดื่มกินเลือดเนื้อของพวกเรา มนุษย์ผู้นั้นจะมีวิญญาณเป็นอมตะหากร่างกายจะไร้ชีวิตอันยืนยาวเป็นไปตามครรลองดั้งเดิมของมัน ผลก็คือ พวกเขาจะแก่ไปตามอายุขัยที่แท้แต่วิญญาณของเขาจะติดขังอยู่ในโลกนี้ ในร่างที่เน่าเปื่อยและผุพัง จนในที่สุดถูกถอดถอนไปจากวัฏสงสารชั่วกัลป์”


ฟีต้าสูดหายใจเฮือกด้วยความประหลาดใจ ดวงตานางเบิกกว้าง และนางกลั้นหายใจเอาไว้ครู่ใหญ่ก่อนค่อยๆ ถอนออกมา พร้อมกับคำถาม “ถ้าอย่างนั้น มันก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ...แต่ว่า มันเป็นไปได้ยังไง มันเหมือนกับ...”


เฟทพยักหน้า “ใช่ มันเกิดขึ้นกับชายผู้ละโมบคนนั้น และใช่อีก เหมือนๆกับในนิทานปรัมปรานั่นที่พวกมนุษย์เล่ากันถึงเรื่องของจ้าวภูผา และเจ้าภูผากับสาวชาวบ้านคู่นั้นก็คือพ่อกับแม่ของข้าเอง” ฟีต้ายกมือขึ้นปิดปากพลางส่ายหน้า...มันช่างแสนเหลือเชื่อ!


“ข้าเข้าใจว่าสำหรับเจ้ามันช่างยากนักที่จะเชื่อแต่เชื่อเถอะ เจ้าเองก็เห็นมาแล้วกับตามิใช่หรือ...กับชายที่ชื่อจีอัสนั่นอย่างไรล่ะ เอาล่ะ ต่อไปข้าขอถามเจ้า ฟีต้าเจ้าต้องตอบกับข้าตรงๆ ...บาดแผลของเจ้าในวัยเด็ก ไม่ว่าจะใหญ่เพียงใด มันจะหายอย่างรวดเร็วใช่หรือไม่?”


“ท่านรู้ได้ยังไง?” ฟีต้านึกสงสัยขึ้นมาทันใด


“นั่นเป็นเพราะสายเลือดของบรรพบุรุษของเรา ข้ารู้อยู่แล้ว”


“แต่...พอข้าโตขึ้นมันก็หายไป...” ฟีต้าค้าน “ถ้าเป็นเช่นที่ท่านว่าจริง ข้าก็น่าจะยังเป็นเช่นนั้นอยู่สิ”


เฟทส่ายหน้า ชายหนุ่มยื่นมือของตนออกมาตรงหน้าก่อนจัดการกรีดมันด้วยเล็บของตนสองรอยซึ่งทำให้ฟีต้านึกประหลาดใจยิ่งนักพร้อมทั้งตกใจอีกด้วยที่เล็บของชายหนุ่มนั้นช่างคมผิดคาด เลือดของเขาไหลออกมา หากมันกลับดูใส แม้จะมีสีแต่ไม่เหมือนเลือดของมนุษย์ทั่วไป ในขณะที่บาดแผลหนึ่งหายสนิทอย่างรวดเร็ว แต่อีกบาดแผลกลับยังคงเปิดให้เลือดไหลอยู่เช่นนั้น ทำให้ฟีต้าถึงกับอ้าปากค้าง


“เผ่าพันธุ์ของเรามีความสามารถในด้านอำนาจแห่งจิตสูงว่ามนุษย์ ทำให้เราสามารถควบคุมร่างกายได้ด้วยพลังแห่งจิตใจ ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็ฝึกฝนมันอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเจ้าเห็นว่าเด็กคนอื่นๆ แผลไม่ได้หายไปอย่างรวดเร็วดังเช่นตน เจ้าเกิดความรู้สึกผิดแปลกและเกิดความปรารถนาที่จะเป็นเหมือนกับผู้คนอื่นๆ เจ้าเชื่อว่าตนเหมือนกับมนุษย์คนอื่นๆ และบาดแผลของเจ้าก็จะหายช้าเช่นเดียวกัน ดังนั้นบาดแผลของเจ้าจึงหายช้า ข้าสังเกตว่า บาดแผลที่เจ้าได้รับตอนที่เราถูกจับไปของเจ้าหายไปอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย ซึ่งนั่นเกิดขึ้นทันทีที่จิตใจของเจ้าไม่ได้จดจ่อกับมัน ใจเจ้าพะวงอยู่กับการหลบหนีทำให้บาดแผลของเข้าหายสนิทดีและอย่างรวดเร็วตามธรรมชาติของเผ่าพันธุ์เรา ถ้าเป็นมนุษย์ทั่วๆ ไป คิดดูสิข้าเชื่อว่ามันต้องทิ้งรอยเอาไว้เพราะตอนที่เราเดินทางมาถึงที่นี่ บาดแผลของเจ้าก็หายสนิทไร้ริ้วรอยใดๆ แล้วทั้งที่ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์หลังจากที่เราถูกจับ”


เฟทเอ่ย และนั่นทำให้หญิงสาวได้คิด กระนั้นนางก็ยังคงสับสน เฟทสังเกตเห็นความสับสนนั้นของนางได้ผ่านดวงตานาง


“ข้าคิดว่าเจ้ากำลังสับสน เจ้าลองคิดดู เจ้าบอกข้าว่าเจ้าถูกทหารฆ่าหลายต่อหลายครั้ง ถ้าเช่นนั้นทำไมจึงไม่ทิ้งรอยบาดแผลอะไรไว้เลยกัน?”


“มันก็เป็นเพราะ...ข้า...” ฟีต้าเองก็ไม่อาจจะหาคำใดมาเอ่ยแก้คำพูดของชายหนุ่มได้ ไม่มีเลยสักเหตุผลเดียว เพราะนางเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไม? แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะดูมีเหตุผลขึ้นมาทันทีหากคิดไปตามเหตุผลที่ชายหนุ่มได้หยิบยืนมาให้นาง


“ถ้าอย่างนั้นท่านจะอธิบายเรื่องไฟนั่นได้ยังไง?” ฟีต้าถามขึ้นอย่างอยากรู้ในทันที


สีหน้าของเฟทดีขึ้นหลังจากทีท่าที่เริ่มยอมรับคำพูดของเขาได้ของนาง “นั่นง่ายมาก...ก็เพราะ เจ้ามีเชื้อสายของวิหคเพลิงน่ะสิ”


“วิหคเพลิง? สายเลือด? แต่พ่อแม่ข้า...เป็นแค่...”


เฟทยกมือขึ้นปิดปากช่างค้านของนาง “แม่ของเจ้าคือวิหคศักดิ์สิทธิที่หนีมาจากดินแดนคิมหันต์เมื่อหลายร้อยปีก่อน เจาะจงเป็นเวลาชัดๆ ข้าออกจะไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่เอาเป็นคร่าวๆ ว่าคงสักสองร้อยปีก่อนนั่นแหละ แม่ของเจ้าเป็นนักบวชหญิงในวิหารของเผ่าวิหค แต่แม่ของเจ้าก็หนีออกมาเพราะตกหลุมรักผู้เป็นหัวหน้าเผ่า...นั่นตามคำบอกเล่าของหัวหน้าเผ่าวิหคนะ...และรู้สึกผิดจึงหนีลงมายังโลกมนุษย์นี้และหายตัวไป


“ข้าคิดว่า การที่เจ้ามีอำนาจนี้เป็นเพราะแม่ของเจ้าได้สืบทอดต่อมาให้แก่เจ้า ซึ่งตามตำนานของเผ่าวิหคว่ากันว่า มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถครอบครองความเป็นอมตะนั้นเอาไว้ได้ ข้าคิดว่าเพราะแม่ของเจ้าต้องการแก่เฒ่าลงไปพร้อมกับชาวสามีมนุษย์ของนาง นางจึงได้สละพลังอำนาจนั้นให้แก่เจ้า แต่ก่อนที่นางจะได้บอกอะไรกับเจ้าก็ดันเกิดสงครามขึ้นก่อน แม่เจ้าจึงไม่ได้บอกอะไรกับเจ้าเอาไว้เลย...”


ฟีต้าฟังอย่างแปลกใจระคนสงสัย...หากว่านางคือนกวิเศษนั้นจริง นั่นก็สามารถอธิบายเรื่องที่นางยังมีชีวิตอยู่หลังจากถูกฆ่าไปครั้งแล้วครั้งเล่า รวมทั้งเรื่องไฟที่เผาผลาญหมู่บ้านนั้นด้วย แม้แต่ในโลกมนุษย์นี้เองก็มีตำนานเช่นนี้เหมือนกัน ว่ามีนกวิเศษที่เกิดขึ้นจากเพลิงที่ร้อนที่สุดและเป็นอมตะแม้จะถูกฆ่าหรือตายครั้งแล้วครั้งเล่าก็จะเกิดขึ้นใหม่จากเถ้าถ่านและเปลวเพลิง


“ถ้าอย่างนั้น เฟทล่ะ เฟทเป็นอะไร?” ดวงตาของนางเป็นประกาย เมื่อคิดว่าตนเองไม่มีวันตาย และชายหนุ่มเองก็เป็นพวกเดียวกันกับนางแล้วละก็ เขาเองก็น่าจะไม่ตายเหมือนกัน


“ข้าเหรอ?” เฟทยิ้มขันกับสีหน้าท่าทางของนางที่จดจ่อกับคำตอบของเขาเหลือเกิน “ข้าเป็นสัตว์ประหลาดในโลกของพวกเรา เรียกกันว่าไคเมร่า...ข้าสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้หลายหลากมากมาย”


“ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เฟทว่า พ่อแม่ของเฟทเป็นคนในตำนานนั่น ตำนานก็เป็นเรื่องจริง ฟีต้าตื่นเต้นยิ่งนักกับโลกใบใหม่ของนาง


“ก็นั่นแหละ ตำนานทุกตำนานก็มีมูลมาจากเรื่องจริงแทบทั้งนั้น เว้นแต่ มนุษย์จะเอามาบอกเล่ากันยังไง” เฟทวางมือใหญ่ลงบนหัวที่ตอนนี้ปกคลุมด้วยเรือนผมสีเงินของหญิงสาว ซึ่งดูเหมาะเจาะเข้ากับใบหน้างามนี้โดยดูไม่ขัดหูขัดตาอีกต่อไป


“สีผมที่แท้จริงของเจ้า เป็นสีเดียวกับของมารดาเจ้าสินะ...ข้าติดตามร่องรอยของนางมาพบเจ้าได้ก็เพราะสิ่งนี้ แต่เจ้ากลับดันเอาถ่านขยี้ใส่หัวเสียจนดำปี๋ไปหมด ข้าเลยพะวงควานหาเสียเกือบตายจริงๆ เลย” ชายหนุ่มพ้อต่อหญิงสาวด้วยท่าทีปราศจากความจริงจัง เขายิ้มกริ่ม ก่อนก้มลงแตะริมฝีปากลงกับเรือนผมนั้นที่เขาจับมันขึ้นมาพันเล่นกับมือตน ท่าทางสบายๆ นั่นของเขาแต่กลับทำให้หญิงสาวหน้าแดงไปจนถึงใบหู


เฟทหัวเราะชอบใจกับท่าทางของนางยิ่งนัก...


“เอ๊ะ...เฟท แล้วเกี่ยวกับอาการป่วยของท่านล่ะ...มันหมายความว่ายังไงทำไมการเป็นเผ่าพันธุ์ของเราถึงได้มีผลต่ออาการป่วยของท่านด้วยล่ะ”


สีหน้าของเฟทมีความสับสนเกิดขึ้น เมื่อจ้องเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่าควรจะบอกนางหรือไม่ว่าเขาเสี่ยงที่จะกลายเป็นอะไรไป เพราะเหตุใด...


“ในดินแดนของพวกเรา มีความเชื่อว่า...ชาวโอราเคิลตนใดพลัดหลงเข้ามาอยู่ในดินแดนของเหล่ามนุษย์เป็นเวลาเนินนาน จะดึงดูดเอาความมืดของมนุษย์เข้าผสมผสานในสายเลือดอันตองสาปและเปลี่ยนแปลงพวกเราให้กลายเป็นปีศาจร้ายออกเข่นฆ่าล่าสังหารสรรพชีวิตด้วยความเหี้ยมโหดอำมหิต เจ้าคงจะรู้จักดีเกี่ยวกับตำนานของจ้าวภูผา ที่ออกมาปกป้องชาวซานซาเรียเอาไว้จากปีศาจร้าย...”





Create Date : 30 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:30:05 น. 0 comments
Counter : 152 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.