คิมหันต์ที่ 2/1
Chapter 2 ณ มหาวิหารหินอ่อนขาวบริสุทธิ์อันสง่างาม หน้าจั่วถูกสลักเสลาเอาไว้ด้วยรูปของหมู่เทพยดาร่ายรำ โดยมีเสาด้านหน้าทั้งหกรองรับน้ำหนัก ลึกเข้าไปคือห้องวิหารอันโอ่โถง ที่ซึ่งชาวเผ่าต่างๆที่ผ่านเข้ามาใช้สักการะทวยเทพ ส่วนในที่สุดถูกปิดกั้นไว้ มีเพียงผู้ได้รับอนุญาตบางคนเท่านั้นที่สามารถจะเข้าออกได้...ส่วนที่ลึกที่สุดนั้นถูกปิดตายและมียามเฝ้าคุมอย่างแน่นหนาและตลอดเวลา และที่นั้นนั่นเอง...เงาร่างหนึ่งได้ปรากฏกายขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้ที่คอยเฝ้ายามอยู่ตื่นตระหนก และด้วยสัญชาติญาณของสัตว์ องครักษ์ทุกนายก็พร้อมต่อกรกับผู้บุกรุกไม่ว่ามันผู้นั้นจะน่ากลัวเพียงไรก็ตาม หากเมื่อร่างสูงสะโอดปรากฏกายก้าวออกมาสู่แสงสว่าง... ท่านเฟท! เหล่านายทหารก็ร้องอุทานเรียกอย่างตกใจ ไง! ชายหนุ่มรูปงามผมดำนิลยาวสลวยยกมือขึ้นทักทายพลางฉีกยิ้มกว้าง ข้ากลับมาแล้ว! โอราเคิล...ดินแดนอันงดงามในความเร้นลับของความยิ่งใหญ่แห่งขุนเขา ไม่มีใครรู้เลยว่าภายในคืออีกโลกหนึ่งที่ซึ่งสมบูรณ์พร้อมด้วยฤดูทั้งสี่ชั่วนิรันดร มหาวิหารแห่งโอราเคิล ตั้งอยู่บนเขาสูงที่สุดของดินแดนอันเป็นฤดูใบไม้ผลิตลอดกาล ด้านหลังสุดของมหาวิหารคือเส้นทางอันเชื่อมต่อกับโลกภายนอก โดยมี...จ้าวภูผา...เป็นผู้เฝ้าพิทักษ์ ทว่า... ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างฮันนีมูนรอบที่สองร้อยสิบสี่แล้ว... นั่นจึงกลายเป็นหน้าที่ของลูกชายคนโตอย่าง เฟท ที่ต้องออกไปดูแลแทนบิดา...โดยปริยาย งาน...งาน...งาน...งานนนนน!!! กองเอกสารคำร้องจากเผ่าต่างๆ ปลิวกระจาย เมื่อชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานกว้างใหญ่ออกอาการสติแตกนิดๆ...เมื่อมีแต่งานไม่รู้จักจบจักสิ้น ขณะที่โลกภายนอกเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว โอราเคิลเองก็มีแต่เรื่องให้ยุ่งไม่รู้จบ... พวกขบถงูที่ทะเลทรายคิมหันต์... ภูเขาไฟร้อยลูกที่ระเบิดสลับกันราวกับเล่นเวฟที่ภูผาเหมันต์... ความแห้งแล้งและขาดแคลนที่ปราสาทฤดูใบไม้ร่วง... น้ำท่วมที่วสันต์อาณาเขต... และความแออัดในมหานครแห่งฤดูใบไม้ผลิ...! มีแต่เรื่องน่าเบื่อที่มีอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น แบบนี้สิเล่าที่พ่อแม่สองแสบได้หาเรื่องแอบหนีเที่ยว อ้างฮันนีมูนได้ตลอดเวลา... หลังจากที่น้องสาวฝาแฝด...เฟลิอา...ออกเรือนไป กับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพ่อผู้ฟิตปั๋งอยู่สม่ำเสมอ ท่านพ่อกับท่านแม่ของเขาก็เอาแต่ทำตัวกระดี้กระด้าราวกับคู่ข้าวใหม่ปลามันทั้งๆ ที่ทั้งคู่ก็แต่งกันกันมาได้กว่าเกินกว่าห้าร้อยปีแล้วแท้ๆ... คนเป็นลูกอยากจะบ้าตาย...! ขณะที่โยนเหล่าจดหมายคำร้องเล่นไปทั่วห้องนั้นเอง... จะทำอะไรดีน้า...จะทำอะไรดีน้า...จะทำอะไรดีน้า...อันโน้นอันนี้อันนั้น... อะแฮ่มๆๆ!!! เสียงเข้มๆ คุ้นหูของคนที่กำลังแอบนินทาในใจอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันทั้งสองคนเสียด้วย!!! เจ้าของเสียงกระแอมเข้มๆ หนักๆ เอนร่างพิงบานประตูห้องทำงานพลางมองหน้าลูกชายตัวแสบที่แอบบังอาจทำห้องรกบวกกับอู้งานที่ได้รับมอบหมายอีกด้วย! ใบหน้าที่ราวกับจะถอดแบบกันออกมาเว้นแต่สีผมเท่านั้นที่แตกต่างกัน ขมวดคิ้วกระตุกดิกๆ แถมตาขวางมองลูกชายตัวแสบอย่างมีอารมณ์...โมโห! ชะ! พ่อเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ให้สุ่มให้เสียง! เฟทอ้าปากค้างหน้าซีดเผือด มือยังค้างอยู่ในท่าที่กำลังโยนจดหมายคำร้องเล่น... พะ พะ พะ พ่อ! แม่! ชายหนุ่มอุทานเรียกลั่น คุณพ่อเฟเปลี่ยนมาเป็นยืนตัวตรงพลางยกแขนขึ้นกอดอก และแม้ริมฝีปากจะแย้มยิ้มออกกว้าง แต่ดวงตาสีทองแบบเดียวกันกับของลูกชายกลับขุ่นขวางคมกริบ จะใครเสียอีกล่ะ ไอ้ลูกเลิฟฟฟฟ...! น้ำเสียงลากหวานของเฟฟังดูน่ากลัวพิลึกมากกว่าหมายความตามที่พูด แถมมีน้ำเสียงเข่นเขี้ยวนิดๆ ดังกรอดๆ อีกด้วย...น่าสยองเป็นอย่างยิ่ง... เฟทลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ในทันทีก่อนทำท่าราวกับจะกระโจนออกนอกหน้าต่างห้องหากเฟรู้ดีว่าเจ้าลูกชายคิดอะไรทำอะไร ด้วยความเร็วที่เหนือว่าอย่างเห็นๆ เฟทก็โดนผู้เป็นพ่อพุ่งตัวเข้าขวางทางหนีแล้วเขกกะโหลก โป๊ก! ลงไปกองอยู่กับพื้น อู๊ยยยยยย เฟทลงไปนั่งกุมหัวลูบปลอยๆอยู่กับพื้น เจ้าแสบ ริอาจจะหนีไปไหนอีก...หืออออ? ทะ...ท่านพ่อ ไหนว่าจะฮันนีมูนรอบโอราเคิลอีกสองสัปดาห์ถึงจะกลับไม่ใช่เหรอขอรับ เฟทฉีกยิ้มแหยสู้พ่อเสือ ในขณะที่ลูกเสืออย่างเขากำลังหาทางรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องรับมือ อ๋อ ใช่สิ! นั่นอาจจะเป็นไปได้ ถ้าหากไม่เพราะเจ้าโดดงานหนีไปเที่ยวซนในโลกมนุษย์ จนข้าไม่เป็นอันสวีท กับภรรยาสุดที่รักของข้า... แม่ข้า! เฟทรีบขัดขึ้น ทำให้เฟหลุดประเด็นไปวูบหนึ่ง เป็นเมียข้าก่อนเฟ้ยไอ้หนู! ฟาฟาซึ่งยืนมองเงียบๆ อยู่นานกระแอมขัดขึ้นก่อนส่งสายตาคมกริบและรอยยิ้มหวานจนน่ากลัว...กว่า...ให้ทั้งสองหนุ่ม ข้าก็เป็นทั้งสองอย่างนั่นล่ะค่ะ คุณสามีและคุณลูก เฟฉีกยิ้มแห้งๆ ให้กับภรรยาก่อนหวนกลับเข้าเรื่องเดิมได้อีกครั้งด้วยใบหน้าเก๊กขรึม เฟท! เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว... เอ่อ...คงราวๆ... เฟททำสีหน้าครุ่นคิดพลางยกมือทั้งสองขึ้นมาทำท่าเหมือนนับ ชวนให้คนมองอดคิดไม่ได้ว่า...ถ้ามันทำได้คงเอานิ้วเท้าขึ้นมานับด้วยแล้ว! ก่อนที่หนุ่มไคเมร่าจะแสยะยิ้มกว้างตามแบบฉบับตัวแสบแล้วตอบออกไปด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถ้าเป็นมนุษย์ก็คงราวๆ ยี่สิบขอรับ...ท่านจ้าว เฟยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ อย่างจนปัญญากับเจ้าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของเขา...เอาล่ะยอมรับว่าสมัยเขาอายุเท่าเฟท เขาเองก็มีนิสัยแบบนี้เปี๊ยบ เหมือนกันไม่มีผิด...แต่ ตอนนั้นเขาก็รับผิดชอบคนทั้งชนเผ่าได้นี่นา! ไม่ตลกเลยนะเฟท! ตอนที่ข้าอายุเท่าเจ้านั้น...ข้าถึงกับรับหน้าที่เป็นจ้าวแห่งเผ่าดูแลคนทั้งชนเผ่าเชียวนะ เจ้าเป็นถึงลูกข้าแต่ถ้าหากทำตัวเกกมะเหรกเกเรเหลวไหลถึงเพียงนี้มันก็ต้องมีการลงโทษกันเสียบ้างแล้ว!!! เฟตวาดเสียงกร้าวปั้นหน้าเอาจริงเอาจังเสียจนคนถูกเอ็ดหน้าเริ่มซีดที่จู่ๆ คนเป็นพ่อตัวเอาจริงขึ้นมา และแล้ว...บทลงโทษที่ว่าก็ผ่าเปรี้ยงลงมากลางหัวกบาลของพ่อหนุ่มเจ้าสำราญ (หมายเลขสอง)... เวลาผ่านไปไวราวโกหก
สำหรับฟีต้า...นี้ผ่านไปสามปีหลังจากการสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รักไปจนหมดสิ้น สงครามก็ยุติลงในที่สุด เมื่อซานซาลอว์และนาร์เดนจับมือกันและลงนามในสนธิสัญญาหย่าศึก ด้วยการรบที่ยืดเอมาเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดปัญหาภายในต่างๆ นานาตามติดมาอย่างมากมาย ทั้งเศรษฐกิจ อุบัติภัยธรรมชาติ การจลาจลและความไม่สงบภายใน การบุกรุกเข้ามาของชนกลุ่มน้อยตามตะเข็บชายแดนที่ติดกับต่างประเทศในด้านอื่นๆต่างเป็นปัญหาที่สะสมมากขึ้นจนน่าวิตกอย่างยิ่ง นาร์เดนที่เป็นประเทศในแถบที่ราบสูงแม้ไม่มีปัญหาในด้านโจรต่างชาติ หากภัยธรรมชาติส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างต่อเนื่อง ความแล้งแค้นละบาดไปทั่วราวกับโรคติดต่อ อีกทั้งฤดูหนาวที่ยาวนานขึ้นในระยะเวลาสามปีที่เพิ่งพ้นผ่านทำให้อาหารไม่เพียงพอ ขณะที่ด้านซานซาลอว์ต้องประสบปัญหาไม่แพ้กัน ด้วยความเป็นประเทศในที่ราบเป็นส่วนใหญ่ มีพื้นที่ติดกับปลายประเทศรวมทั้งทางทะเลต่างเป็นปัญหาทั้งสิ้น การอพยพออกของประชาชนภายใน และการรุกรานของชนกลุ่มน้อยซึ่งดักปล้นสะดม การค้าทางทะเลก็ประสบกับปัญหาโจรสลัดอย่างต่อเนื่องมาในสองปีให้หลัง ทำให้ราคาสินค้าต่างๆ แพงขึ้นสู่ยุคข้าวยากหมากแพง อีกทั้งกษัตริย์ซาเรียสิ้นพระชนม์ลงอย่างกะทันหัน ทำให้ขาดผู้นำ และในที่สุดพระอนุชาเจ้าชายวาเลียสได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนเจ้าชายรัชทายาทที่ยังทรงพระเยาว์ยิ่ง ทว่าด้วยเหตุการณ์สิ้นประชนม์อย่างกะทันหันนี้นี่เองที่ทำให้เจ้าชายวาเลียสได้รับโอกาสยับยั้งสงครามเอาไว้ก่อนตามกฎการศึกอันเป็นข้อตกลงร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ได้ส่งทูตไปเพื่อยุติสงครามที่ยามนานมาถึงเจ็ดปีนี้ โดยไม่ต้องมีฝ่ายใดเสียมากไปกว่าที่เป็น... แต่สิ่งที่สูญเสียก็ไม่ได้คืนกลับมา...และไม่มีใครสามารถหาสิ่งทดแทนมาได้ ส่วนฟีต้าตัวน้อยผู้เป็นผู้ช่วยพยาบาลในค่ายพยาบาลนั้น นางเปลี่ยนจากเด็กน้อยตัวจ้อยกลายเป็นสาวรุ่น! ร่างเล็กๆ ใต้เสื้อผ้าหลวมโพลกสีเทาๆ อีกทั้งเก่าจนเป็นรอยรูเนื้อผ้ากินตัว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยรอยด่างตามที่ต่างๆอันเกิดขึ้นจากการทำงานอีกด้วย นางหอบหิ้วเสื้อผ้าหอบใหญ่ที่รับมาจากโรงแรมในหมู่บ้านเพื่อเอาออกมาซัก
Create Date : 30 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:48:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 198 Pageviews. |
|
|