~* SumiTra is a Pali name...it means 'GooD Friend'. *~
คิมหันต์ที่ 4/2

ฟีต้าเงยมองหญิงสูงวัยร่างสูงโปร่งด้วยดวงตาเปล่งประกายความหวัง...


“ข้า...ข้าชื่อฟีต้าเจ้าค่ะนายหญิง”


“ชิชะ นี่แน่ะ เจ้าเด็กทะลึ่ง! ข้ามิใช่นายหญิงของเจ้านะ ข้าชื่อลอนต้า เป็นแม่บ้านใหญ่ของคฤหาสน์แห่งนี้ เรามีนายท่านและนายหญิงของเรา ถึงข้าจะเป็นคนซื้อเจ้ามาก็ตาม แต่เจ้าจะต้องเชื่อฟังและจงรักภักดีพวกนายท่านให้ดีจำไว้ ลอนต้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาเปรี่ยมด้วยปัญญา “บอกข้ามาสิว่า เจ้าทำอะไรเป็นบ้าง! ซักเสื้อ รีดผ้า กวาดบ้านทำอาหารเป็นไหม?”


“เป็นเจ้าค่ะ ท่านลอนต้า”


“เจ้าเด็กกวนประสาทนี่...เรียกข้าว่าคุณลอนต้าพอ อย่ายกเข้าไปเทียบชั้นเจ้านายนะ


“ค่ะ คุณลอนต้า” ฟีต้ารับคำ “ข้าซักผ้าถนัดเจ้าค่ะ ข้าเป็นเคยคนรับเหมาซักผ้าในหมู่บ้านมาก่อนค่ะ”


“อย่างนั้นก็ดีแล้ว ถ้าเช่นนั้นงานซักผ้าเจ้าก็จงทำไปก็แล้วกัน”


มืดแปดด้าน...


หมู่บ้านที่สองนี่ก็ไร้วี่แววของคนที่ตามหา เฟทเผชิญหน้ากับผิดหวังเป็นครั้งที่สองเมื่อเขาพบว่าหมู่บ้านแห่งที่สองแม้มิได้มอดไหม้เป็นจุณไปเช่นหมู่บ้านแรก หากไร้ร่องรอยของคนที่เขาตามหา ทุกคนผู้เฒ่าผู้แก่ยืนยันว่าไม่เคยพบเห็นสตรีที่มีลักษณะเช่นนั้นเลย


คนบนพิภพแห่งนี้ต่างสรุปลักษณะของสตรีผิวขาว เรือนผมสีเงินยวงและดวงตาสีอ่อนว่าเป็นคนเผือกทั้งสิ้น หารู้ไม่เลยว่าคนเผือกนั้นมีลักษณะที่แท้จริงอย่างไร!...และหมู่บ้านที่เขาเยือนเป็นแห่งที่สองก็ไม่เคยมีคนเผือกผ่านทางหรือเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว


ยิ่งสตรีผู้มีเรือนผมสีเงินยวงยิ่งมิต้องพูดถึง...เฟททอดถอนกับตนเอง  เขาเหลืออีกหนึ่งหมู่บ้านให้ต้องไปเยือน ซึ่งเป็นจุดหมายในอนาคตที่คาดการณ์ได้เป็นสองทาง


หนึ่งคือความหวังที่ว่านางจะต้องอยู่ ณ หมู่บ้านนั้นเป็นแน่ และอีกหนึ่งคือความสิ้นหวังที่ว่า เขาอาจจะต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ หากหมู่บ้านสุดท้ายแห่งนั้นไร้วี่แววเป็นเช่นเดียวกับหมู่บ้านที่ผ่านมา!


นี่เขาจะต้องดมหาคนแค่คนเดียวไปทั่วโลกใบนี้จริงหรือ?


หาสิ่งของหรือเข็มในมหาสมุทรอาจจะง่ายกว่านี้เสียด้วยซ้ำ!  เพราะเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้แบบไม่อาจคาดเดาได้นั้น อาจจะวิ่งหนีเขาไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็สวนทางกันอย่างไม่อาจจะรู้ได้ จนชาตินี้อาจจะไม่มีวันหาคนผู้นั้นพบเลยก็เป็นได้


โอ เหล่าเทพ...กับอีกแค่ข้าเกงานนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นถึงกับต้องลงโทษข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่!


ความโขยกเขยกของเกวียนบรรทุกฟางที่ชายหนุ่มขออาศัยติดไปหมู่บ้านถัดไป...เขาจำได้ เมื่อตอนออกจากหมู่บ้านที่แล้ว เขาได้ข่าวเกี่ยวกับกลุ่มโจรที่ดักปล้นชาวบ้านและพวกพ่อค้าทาสออกอาละวาดในแถวหมู่บ้านชายแดน กับข่าวลือที่ว่าพวกโจรค้าทาสบุกหมู่บ้านที่เขาผ่านมาก่อนหน้านั้นและเผาจนราบเป็นหน้ากลอง แต่เฟทรู้ดีว่าเพฃิงไหม้นั้นมันมิมีทางที่จะใช่ฝีมือของมนุษย์ได้แน่! จึงไม่มีทางเป็นฝีมือพวกโจรกระจอกพวกนั้นแน่นอน...


เอาหัวไคเมร่าเป็นประกัน!


แต่ปริศนาที่หมู่บ้านนั่นก็ยังคงอยู่ และก็อีกครั้งที่เขาต้องพูดว่า ‘มันไม่ใช่ธุระโกงการอะไรของเขาสักหน่อย’...ไม่แน่ว่าพวกชาวบ้านเหล่านั้นอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ก่อความขัดเคืองให้แก่ทวยเทพทั้งหลาย จนโดนลงทัณฑ์!


และที่สำคัญก็คือ...


เฟทนั้น...ไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นคาดการณ์เอาไว้ได้แม่นยำเพียงไร!


ยอดไม้สะบัดพลิ้วตามสายลมพัดเอื่อย ยอดหญ้าเอนอ่อนโอนไปมาราวนางรำระบำร่ายพร้อมเพรียง สายน้ำไหลเอื่อยสะท้อนแสดงอาทิตย์อัสดงมองเห็นว่ามันกำลังคล้อยเคลื่อนอยู่ไกลๆ ชื่นชมสองทัศนียภาพข้างทางแสนเจริญใจเหมาะกับการขับกล่อมบทเพลงขลุ่ยอ้อให้ใจไหว...หากไม่เพราะ...


ล้อหักระหว่างทางละก็...ตอนนี้เขาคงชมวิวเพลิดเพลินใจยิ่งนักไปแล้ว! บ้าจริงๆ เชียว!


เฟทนึกขณะที่ช่วยเจ้าของเกวียนกับลูกชายดันเกวียนเจ้ากรรม ที่ดันเสียหลักตกข้างทางนี่ขึ้นมาจากคู ขณะที่เจ้าของตรวจดูล้อที่หัก ก็เงยขึ้นมาส่ายหน้ากับผู้เป็นลูกชายคนโต ก่อนหันมาบอกกับเฟทว่าพวกเขาคงไม่สามารถไปต่อได้จนถึงหมู่บ้านใหญ่ถัดไปได้ และพวกเขาทั้งหมดต้องเดินเท้าไปยังหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดแถวนี้ก่อนอาทิตย์ตกดิน ซึ่งพ่อลูกคู่นี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ไกลนัก แต่ก็ไม่ใช่หมู่บ้านใหญ่ที่มีคนเยอะเช่นเดียวกัน พวกเขาก็ไม่รู้ว่าที่นั่นจะมีช่างซ่อมหรือไม่!


หลังจากผูกสัมภาระขึ้นหลังวัวเทียมเกวียน ชายคนลูกแบกย่ามใหญ่ขึ้นหลังส่วนคนพ่อจูงวัวตาม ทั้งสองเป็นชาวนาและพ่อค้าที่ทำการค้ากับต่างเมืองในช่วงเวลาว่างพักจากการทำการเกษตร


งานในไร่นานั้นเป็นงานที่ต้องใช้เวลาก็จริง แต่เมื่อผ่านช่วงหนึ่งของงานไปแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของผืนดินและท้องฟ้าเป็นผู้รับช่วงต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงเก็บเกี่ยว ระหว่างนั้น พวกเขาจึงพอมีเวลาว่างบ้างและเพียงพอที่จะใช้ไปกับกิจการอื่นๆ


“เราต้องเข้าหมู่บ้านเล็กๆ ข้างหน้าให้ทันก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องค้างแรมกลางป่า ช่วงนี้ข้าได้ยินมาว่าพวกค้าทาสมันมาเพ่นพ่านแถวนี้มากเหลือเกิน ที่สำคัญ เรามีเงินไม่เพียงพอใช้เป็นค่าไถ่ตัวให้พวกมันแน่” คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นเมื่อดึงเชือกลากจูงให้วัวตามเป็นระยะ


“ชีนะลูกสาวของพ่อเฒ่าชูบอกกับข้าว่าญาติของนางซึ่งอยู่หมู่บ้านที่ห่างออกไปเฉียดชายแดนถูกพวกค้าทาสจับตัวไป แถมยังมีข่าวลืออื่นๆ อีกด้วยว่าพวกมันเผาหมู่บ้านนั้นจนราบเลยด้วย นับวันจะโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆทุกที พวกทางการก็ไม่ทำอะไรปล่อยให้ชาวบ้านตาดำๆ อย่างเราต้องเผชิญชะตากรรมที่พวกมันก่อ”


“หยุดพูดมากได้แล้วซาราส ชาวบ้านอย่างเราทำงานของเราไปก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจคนพวกนั้นหรอกผู้เป็นพ่อดุลูกชายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม


“ฮึ! ก็แล้วทำไมอ้ายพวกนั้นไม่พูดเหมือนกันนี้ เวลาเกิดสงครามบ้างเล่า


เฟทฟังสองพ่อลูกถกเถียงกันอย่างเงียบๆ ขณะยกตะกร้าใส่ของขึ้นพาดบ่า สงครามที่แม้ผ่านไปก็ยังคงทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้ไม่อาจลบเลือนไปจากใจของผู้ผ่านความทุกข์นั้นได้เลยจริงๆ!


ดวงอาทิตย์ตกเร็วเสมอเมื่อเราไม่อยากให้มันตก...


ไม่ทันจะถึงที่หมาย ท้องฟ้าก็มืดมิด และเต็มไปด้วยดวงดาวดารดาษ สิ่งที่ผู้ร่วมทางผู้พ่อหวาดหวั่นก็เกิดขึ้นจริง


คืนเดือนมืด เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย สัตว์ป่าออกหากินยามค่ำคืน และสัตว์สองขาที่ออกหากินใยยามใกล้เคียงกัน ผู้ไม่ชำนาญการเดินทางและไร้ซึ่งอาวุธป้องกันจำต้องหวาดกลัวและกริ่งเกรงเอาไว้ให้จงหนัก


แต่อะไรที่ยิ่งกลัวก็ยิ่งวิ่งเข้ามาหา...


บัดนี้คนร่วมเดินทางทั้งสามตกอยู่ในวงล้อมของชายหกคน ดูจากหน้าตาแล้วเฟทสรุปกับตนเองเงียบๆว่า...ไม่ใช่คนดีมีการศึกษาอย่างแน่นอน...


“พวกเจ้า ถ้ามีเงินก็เอาออกมาให้หมด...”


โธ่เอ๋ย...ที่แท้ก็พวกโจรกระจอก!


“พะ พะ พะพวกเราไม่มีเงินหรอกนายท่าน พวกเรากำลังจะเดินทางไปขายของที่เมืองข้าหน้าเรามีแต่สินค้า...” ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงสั่นอย่างน่าสังเวชใจ...เฟทคิด แต่ก็นั้นแหละ กลัวเอาไว้ดีกว่ากล้าไร้สติ เพราะความกลัวก่อสติและความระมัดระวังได้...หรืออาจจะไม่ได้ในบางคน โชคยังดีที่ชายสูงวัยตรงหน้าเขานั้นเป็นจำพวกแรก


“ไม่มีเงิน พวกเจ้าก็ต้องเป็นทาส! เฮ้ย! พวกเรา อัดมัน


เฟทกรอกตากับบทพูดไร้สาระนี่เต็มกลืน...


“นี่! พวกเจ้าก็เอาของนี่ไปแทนไม่ดีกว่ารึไง ผู้ชายสามคนมันขายไม่ได้เท่าไหร่หรอกน่า! แถมยังแก่ๆอีกหนึ่งด้วย ถือเสียว่าของพวกนี้เป็นค่าไถ่ตัวพวกเราไง เฟทเอ่ยอย่างเบื่อหน่ายในอารมณ์


“ไอ้หน้าอ่อน คิดว่าพวกเราเป็นอะไร พวกเราเป็นโจรนะเว้ย! ไม่ใช่พ่อค้า ไม่ต้องการสินค้าโว้ย! ต้องการเงิน


โง่...แต่ก็นั่นแหละ ถ้าฉลาดจะมาเป็นโจรเรอะ!


“ว่าไง เงิน หรือทาส


เฟทกรอกตา ก่อนหันไปกระซิบกับชายสูงวัยที่สุดในกลุ่ม “พวกท่านสองคนหลับตาซะ เสียงของไคเมร่าหนุ่มเบาราวกับสายลม หากชัดพอให้ชายผู้พ่อได้ยิน


“นักเดินทาง ท่านจะทำอะไร?”


“แล้วท่านจ้างข้าร่วมเดินทางมาด้วยเหตุใดเล่า รีบๆหลับตาเสีย หรือไม่...เจ้าอยากเป็นทาสให้พวกมันล่ะ


ชายผู้พ่อรีบหันไปบอกลูกชายตนแล้วปิดตาในทันใดตามคำสั่งของชายหนุ่มแปลกหน้า


วินาทีที่ดวงตาทั้งสี่ดับลงนั้นเอง ดวงตาที่สะท้องแสงอ่อนๆในความมืดก็กลับวาวเรืองเป็นสีทองเจิดจ้า ภาพในวิสัยทัศน์ของเฟทสว่างไสวราวกับกลางวัน!


หกคน สูงราวเจ็ดศอกสอง เล็กกว่าอีกสี่ มิใช่คู่มือของเขา...ยิ่งในความมืด แม้มนุษย์ผู้ที่คุ้นชินก็ไม่อาจจะเทียบกับสัตว์ป่าผู้ดุร้ายอย่างเขาได้! ขณะที่สองพ่อลูกตัวสั่นงันงกกับเสียงร้องกระสับกระส่ายของวัวเทียมเกวียนและเสียงวิวาทสั้นๆแต่ดังระงม ทุกสิ่งทุกอย่างก็พลันสงบอย่างรวดเร็ว


ไอ้พวกกระจอก!


เฟทใช้สองมือปัดตามร่างกายของตนเอง โจรโง่ๆ เจอแค่เสือโคร่งตัวโตๆก็เผ่นกระจายหายกระเจิงโกยกันไม่เห็นฝุ่น แกล้งกระโดดเข้าขย้ำ กัดขบเล่นๆคนสองคน ไอ้เจ้าพวกนั้นก็แตกตื่นวิ่งชนกันให้วุ่นวายน่าสมเพชนัก! นั่นแหละต้นเหตุของเสียงอึกทึกตุบตับครึกโครม ในความมืด...ไม่มีใครจับความเข้าใจใดๆได้หรอกว่าเสือโคร่งตัวมหึมาโผล่ออกมาได้อย่างไร? เฟทคิดและแสยะยิ้มกระหยิ่มกับตนเอง ครั้นเมื่อคืนร่างเดิม...ชายหนุ่มก็รู้สึกวูบๆหน้ามืดจนล้มลงไปอยู่แทบพื้น!


เสียงที่เงียบไปนาน ทำให้ชายผู้พ่อลืมตาขึ้นมอง พบชายผู้ร่วมทางนั่งกองอยู่กับพื้นเบื้องหน้า...หากพวกโจรหายไปราวกับร่ายคาถาเสก


“ท่านนักเดินทาง ชายผู้พ่อเอ่ยก่อนวิ่งเข้ามาประคองชายหนุ่มให้ลุกขึ้น


“ข้าไม่เป็นไร ข้าคงแค่เข่าอ่อนเพราะออกแรงปุบปับกะทันหันก็เท่านั้น พวกท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”


“พวกข้าไม่เป็นไร แต่ท่านสิ บาดเจ็บหรือไม่? เกิดสิ่งได้ขึ้น


“ท่านนักเดินทาง! ท่านทำได้อย่างไร พวกโจรถึงได้หนีหายไปสิ้นไม่เห็นฝุ่นเช่นนี้ ชายผู้ลูกเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น มองเขาด้วยความประทับใจและเคารพ ซึ่งอย่างหลังนั่นจะทำให้เขาต้องลำบากแน่


“ก็ไม่มีอะไร ข้าแค่เล่นมายากลให้พวกมันดูเท่านั้น พวกปอดแหกก็เผ่นกันกระเจิง”


“เวทมนต์! ท่านเป็นผู้ใช้เวทมนต์รึ แสดงว่าท่านจะต้องเป็นผู้มีพลังเวทอันกล้าแข็งแน่เลย! ข้าเพิ่งเคยรู้ว่ามีผู้ใช้เวทมนต์อยู่จริงความเข้าใจผิดของหนุ่มตรงหน้าทำให้เฟทกรอกตาซ้ำ


เอาเข้าไป ความเข้าใจผิดพวกนี้แก้ไม่ได้ง่ายๆ เสียด้วย...จะซวยไหมนี่เรา!


“ก็ไม่ใช่อะไรแบบนั้น แต่ช่างมันเถอะ! พวกเรารีบเดินทางกันต่อโดยเร็วดีกว่า อย่างน้อยเข้าเขตหมู่บ้านก็จะได้สบายใจยิ่งขึ้น”


ด้วยความช่วยเหลือของคนผู้พ่อ เฟทลุกขึ้นยืนแล้วปัดฝุ่นตามเนื้อตัวออกสำเร็จ...แล้วท่ามกลางของความตื่นเต้นหนึ่งและความโล่งใจอีกหนึ่ง คนทั้งสามก็ออกเดินทางต่อ


“เออ...จริงสิ” เฟทหันมาเอ่ยกับชายคนพ่อ “หมู่บ้านข้างหน้านี่ชื่อหมู่บ้านอะไร?”


“อ๋อ...หมู่บ้านนั่นชื่อ...ลิสมัต น่ะท่าน”






Free TextEditor


Create Date : 30 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 17:45:09 น. 0 comments
Counter : 177 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ArTimuS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket


นิยายอัพเดท...Photobucket

-ปฏิบัติการหักร้างถางรักPhotobucket
เรื่องราวความรัก แนวโรแมนติกดราม่า ของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเลิกลากันไป แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็กลับมาเพื่อขอเคียงคู่เธออีกครั้ง ความรักแสนเศร้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายรักพลาดได้นะคะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-คีตคิมหันต์ Photobucket
ภาคต่อจากเรื่องลำนำเหมันต์ เมื่อคุณพ่อคนเก่งลงโทษคุณลูกตัวแสบให้ออกติดตามหาวิหคศักดิ์สิทธิ์จนนำไคเมร่าหนุ่มไปยังโลกมนุษย์จนได้พบกับเด็กสาวผู้อาภัพและเหตุการณ์เหนือความคาดฝัน นิยายแฟนตาซีโรแมนติกที่แฟนนิยายมกราไม่ควรพลาดค่ะ (อัพเดทใหม่ล่าสุดค่ะ)

-Love Happening
เรื่องสั้นของสองหนุ่มสาว และความไม่เข้าใจกัน อุปสรรค และมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาล (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)Photobucket

-Pretty Doll
เรื่องสาวผู้น่ารักของเมทสาวกับนายหนุ่มจอมเสเพลที่เก็บเธอมาเลี้ยง เรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนวโรแมนซ์แสนฮาเฮ (น่าเสียดายที่ห้องนี้บังเอิญล็อคเพราะเนื้อหาบางตอนไม่ค่อยเหมาะกับเยาวชน แต่ถ้าสนใจและอายุไม่ต่ำกว่า18 สามารถขอพาสเวิร์ดได้โดยการส่งอีเมลมายัง จขบ. หรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ)PhotobucketPhotobucket

- Love in Rain
รวมเรื่องสั้นของเจ้าของบ้าน เรื่องราวความรัก และสายฝนอันชุ่มฉ่ำ



Photobucket
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ArTimuS's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.