ชมวิวทิวทัศน์ เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย คิดใหม่ ทำใหม่ บูม "ขอนแก่นโมเดล"





สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย คิดใหม่ ทำใหม่ บูม"ขอนแก่นโมเดล"

เริ่มจากความตั้งใจของนักธุรกิจรุ่นใหม่คนขอนแก่นไม่กี่รายที่มีใจมุ่งมั่นอยากจะบริหารจัดการเมืองร่วมกันผลักดันโครงการแก้ปัญหาจราจรที่เรียกเสียงฮือฮาอย่างรถไฟฟ้ารางเบา หรือแทรมระยะทาง 22.6 กิโลเมตร งบประมาณลงทุน 15,000 ล้านบาทวันนี้ก้าวเข้าใกล้ความจริงทุกขณะเป็นขอนแก่นโมเดลที่ท้องถิ่นทั้งประเทศต้องหันมาจับตามอง

หัวขบวนคนสำคัญไม่พูดถึงไม่ได้ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารรุ่นที่สอง ของกลุ่ม ช.ทวีรับไม้ต่อจากรุ่นพ่อแม่ “ชอ ทวีแสงสกุลไทย” และ “อุษา ทวีแสงสกุลไทย”ผู้บุกเบิกธุรกิจต่อรถบรรทุกรายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น



ปัจจุบันดำเนินธุรกิจ ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังติดตั้งระบบวิศวกรรมทางยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ให้บริการเทคโนโลยีระบบรางรวมทั้งผลิตและให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในการป้องกันประเทศสินค้าและบริการของบริษัท เช่น รถบรรทุก รถพ่วง รถบัสรถลำเลียงอาหารสำหรับเครื่องบิน รถไฟ รถดับเพลิง รถกู้ภัย รถหุ้มเกราะ รถลำเลียงพลเรือรบหลวง เป็นต้น

นอกจากธุรกิจของกลุ่ม ช.ทวี แล้ว “สุรเดช“ยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง(เคเคทีที) จำกัด ที่เป็นทั้งต้นคิดจุดประกายเรื่องการร่วมมือกันของทุกฝ่ายในการพัฒนาเมืองตัวเอง และทำให้“ขอนแก่นโมเดล” เป็นหัวเมืองใหญ่ที่หลาย ๆ จังหวัดต้องจับตา

“สุรเดช“ ระบุว่า วันนี้ การพลิกโฉมขอนแก่นได้เริ่มต้นทำโครงการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าระบบรางเบา ด้วยการจัดตั้งบริษัท 5 เทศบาลได้แก่ เทศบาลตำบลสำราญ เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลตำบลเมืองเก่าและเทศบาลตำบลท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในชื่อ บริษัท ขอนแก่นทรานซิทซิสเต็ม จำกัดด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาทเพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนโครงการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะระบบรางเบา (LRT) จังหวัดขอนแก่น



ขณะนี้เหลือเพียงผลการศึกษา พร้อมทั้งทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ที่กำลังเร่งดำเนินการ เพื่อให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.)นำส่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา

หาก ครม.อนุมัติ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี 2560 นี้ขณะเดียวกันจังหวัดขอนแก่นอยู่ระหว่างเจรจาขอใช้ที่ดินของศูนย์วิจัยข้าว 200 ไร่เพื่อนำมาพัฒนาสถานี และพื้นที่เชิงพาณิชย์

“สุรเดช” เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปในการเปลี่ยนเพื่อพลิกโฉมก่อนจะมาเป็น “ขอนแก่นโมเดล” ว่า “ใช้เวลา 8 ปี กว่าจะถึงวันนี้เริ่มจากต้องให้ท้องถิ่นเห็นด้วยกับเราก่อน และคนแรกที่ผมไปคุยด้วย คือ เอ็นจีโอโดยไปคุยกันที่คณะมนุษยศาสตร์ ม.ขอนแก่น อธิบายความคิดว่า อยากทำเพื่อบ้านเมือง(ขอนแก่น) อย่างไร ผมบอกอุดมการณ์ผมกับเขาไม่ต่างกัน ชอบเพลงเดียวกัน คนเก็บฟืนคนกับควาย แต่ผมเป็นลูกพ่อค้า ถามว่าวิธีของเขาวันนี้ พี่น้องดีขึ้นไหมทำไมไม่ลองวิธีของผม ถ้าหากผมออกนอกลู่นอกทาง ให้มาด่าผมได้ เพราะวันนี้เราต้องเปลี่ยนอย่าเอาแต่บอกว่าเราเป็นทุนสามานย์ ผมฟังมาตั้งแต่เด็กแล้ว เราต้องเปลี่ยนต้องเป็นทุนมีอุดมการณ์ แต่เราต้องทำให้ดู”

“เพราะคนไทยเป็นประเภทที่ต้องมีคนทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือ Monkey See Monkey Do ดังนั้นต้องเริ่มที่พวกเราคนขอนแก่นทำต่อไปทั้งประเทศจะทำ”

“สุรเดช” อธิบายต่อไปว่า วันนี้ทุกคนรู้ว่า โลกเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน ดังนั้นสิ่งแรกที่คนไทยทุกคนต้องเปลี่ยน คือ วิธีคิด หรือ Mindset ของตัวเองก่อน ห้ามพูดว่ายากเพราะที่ขอนแก่นเปลี่ยนแล้ว เราต้องทำของยากเพื่อลูกหลานของเราเมื่อเปลี่ยนวิธีคิดได้ เราจะเกิดสิ่งที่ต้องพัฒนา เรียนรู้เพราะจุดอ่อนของคนไทยวันนี้บอกว่า เรียนจบด็อกเตอร์ก็หรูแล้ว

แต่ด็อกเตอร์วันนี้ก็ไม่ใช่ทุกอย่างเพราะด็อกเตอร์เป็นการจบศาสตร์ศาสตร์หนึ่งที่ลึกและประเทศไทยก็เต็มไปด้วยนักวิชาการ ซึ่งทำอะไรไม่ได้ เขียนแต่กระดาษ

ดังนั้นเมื่อเราเปลี่ยนวิธีคิด แล้วเรียนรู้ก็จะรู้วิธีแก้ปัญหาของประเทศเรา และจะรู้เองว่า เราต้องสามัคคี และต้องบูรณาการ

“ที่ผ่านมาเราพูดแต่บูรณาการ แต่มันไม่มีจริงแต่การบูรณาการที่แท้จริงจะต้องเกิดเรื่องการสานเสวนามาคุยกัน ทั้งกลุ่มเอกชนรัฐบาลท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และชุมชน เพื่อให้ได้วิธีการแก้ปัญหาซึ่งนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วที่ขอนแก่น”

สุรเดชกล่าวอีกว่า สำหรับจังหวัดขอนแก่นวันนี้มีแผนพัฒนาจังหวัด คือสมาร์ทซิตี้ 2030 โดยมีฐานขั้นที่ 1 คือ การทำขนส่งมวลชน และการพัฒนาเมืองฐานขั้นที่ 2 คือ ข้อมูล หรือที่เรียกว่า Internet of Things และฐานที่ 3 คือ คนควบคุมข้อมูลที่ประกอบด้วย สมาร์ท 6 เรื่อง ได้แก่ 1.Smart Mobility 2.Smart Living 3.Smart Citizen 4.Smart Economy 5.Smart Environment และ 6.Smart Governance

“ทั้งหมดนี้เราต้องทำจากฐานราก คือ ขนส่งมวลชน และพัฒนาเมืองแต่ทุกวันนี้เราไปทำจากข้างบน เหมือนทำจากใบไม้ลงไปหารากเพราะคนไทยชอบทำเรื่องง่าย ก็เลยทำเรื่องใบไม้ก่อน ซึ่งมันไม่ยั่งยืนวันนี้ขอนแก่นทำไมทำรถรางก่อน ก็เพราะอิมแพ็กต์มันสูงมันทำให้เกิดการเปลี่ยนเมืองได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การทำรถรางอย่างเดียวมันไม่คืนทุนเราต้องพัฒนาที่ดินด้วย โดยนำที่ดินรัฐมาพัฒนาซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลก็ให้นำใจกลางขอนแก่น 200 ไร่ไปทำซึ่งเป็นตัวอย่างว่าต่อไปมันจะอยู่ของมันได้เองวันนี้เราจะเป็นจังหวัดแรกที่จะทำสมาร์ทซิตี้ แบบยั่งยืน จะไม่เหมือนกรุงเทพฯที่รัฐบาลต้องไปซับซิไดซ์”

จากแผนทั้งหมดนี้ สุรเดชมองว่าจังหวัดขอนแก่นในอนาคตจะเกิดหมุดใหญ่ขึ้นในแผนที่โลกและจะเป็นหมุดที่เชื่อมต่ออีกหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น นครราชสีมา อุดรธานีเสน่ห์ของขอนแก่นจะเป็นเมืองแห่งการลงทุน เป็นเมืองแห่งโอกาสของเยาวชนคนหนุ่มคนสาว มิใช่ดินแดนแห้งแล้ง สมัยก่อนคุณพึ่งน้ำ แต่เดี๋ยวนี้คุณพึ่งข้อมูลเมื่อมีข้อมูลก็เหมือนกับน้ำ ฉะนั้นต่อไป ขอนแก่นจะเป็นเมืองแห่งโอกาส

ที่สำคัญโมเดลทั้งหมดนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะถอดบทเรียนทำเป็นตำราให้ คาดว่าปีหน้าจะแล้วเสร็จจะเป็นหลักสูตรของสมาร์ทซิตี้

โดยหนังสือเล่มนี้เรียกว่า PIF หรือ Provincial Infrastructure Fund หากใครอยากจะทำโมเดลเดียวกันผมจะไม่ทำให้ แต่จะยื่นเล่มนี้ และเมื่อทุกคนทำ ประเทศจะค่อย ๆ ขยับ

“ทำไมต้องเปลี่ยนตอนนี้ ถามว่าคุณมีเวลาไหม อายุเท่าไหร่ ทำงานกี่ปีจะมีไฟแค่ไหน มันต้องกำหนด ไม่ใช่ว่าพอเกษียณแล้วมาบ่น ผมนับถือคนทำไม่นับถือคนรู้แล้วไม่ทำ แล้วบอกว่ามีอุปสรรคอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะอุปสรรคผมก็มีผมยังทำเลย”

คำกล่าวที่ว่า “คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ”คงเป็นคำจำกัดความระบุถึงตัวตนนักธุรกิจหนุ่มขอนแก่น ผู้ที่ลุกขึ้นมา “เปลี่ยน”ได้เป็นอย่างดี

เครดิตข่าวจากประชาชาติธุรกิจ 31 พ.ค. 60 ขอขอบพระคุณ มา ณที่นี้ครับ 

//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1496218522




Create Date : 05 มิถุนายน 2560
Last Update : 5 มิถุนายน 2560 10:23:01 น. 0 comments
Counter : 1415 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ภาพอดีต ภาพปัจจุบัน และอนาคต และความเป็นไปของเกาะรัตนโกสินทร์
เล่าเรื่องทริป ที่สุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว มัน อเมซิ่ง มากมาย
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.