Neothais : We will save the world


<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 ธันวาคม 2552
 

เหนือน่านฟ้าวอชิงตัน ดีซี. : Washington flap

เหนือน่านฟ้าวอชิงตัน ดีซี.
เขียนโดย Terran (1/12/2009)


สวัสดีครับชาวหว้ากอ-ลึกลับทุกท่าน วันนี้ผมจะพาไปดูเหตุการณ์ที่วอชิงตัน ดีซี. ระหว่างวันที่ 13 – 19 กรกฏาคม 1952 เป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า Washington flap นั่นคือมีดวงไฟประหลาดมาโผล่ที่สนามบินนานาชาติวอชิงตันเป็นเวลา 7 วันเต็มๆ ซึ่งผมจะสรุปมาให้สั้นๆไม่ยาวนักแล้วกันนะครับ (ก็จริงๆมีเวลาไม่มากนักครับ)นกดื่มชา

ก่อน อื่นเลยต้องแนะนําให้รู้จักกับรัฐวอชิงตันซะก่อนครับ จะได้สมกับเป็นหว้ากอ ได้ความรู้เล็กๆน้อยๆติดไม้ติดมือ ติดเท้าติดอิฐ (ว้ากก....พอ) ไปบ้างครับ

วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C. โดยตัวย่อ D.C. ย่อมาจาก District of Colombia) อยู่บริเวณทิศตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ติดต่อกับรัฐเวอร์จิเนียและรัฐแมริแลนด์ โดยวอชิงตัน ดี.ซี. อยู่ในเขตฝั่งซ้ายของแม่น้ำพอตอแมก (Potomac River)

กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สร้างในสมัย ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีท่านแรกของสหรัฐอเมริกาของสหรัฐ สร้างขึ้นแทน ฟิลาเดเฟียที่เคยเป็นเมืองหลวงของสหรัฐสมัยเป็นดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ และมีอนุสาวรีย์วอชิงตัน ที่มีลักษณะเป็นแท่งโอเบลิสก์สูง 555 ฟุต (169 เมตร) สร้างเป็นเกียรติแก่ จอร์จ วอชิงตัน


เนื้อหารัฐวอชิงตันจาก th.wikipedia.org/wiki
en.wikipedia.org/wiki/Washington,_D.C.
ภาพจาก //www.wtsinternational.org





ผมจะขอยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญๆในช่วงระหว่างนั้นมาก่อนนะครับ และช่วงสุดท้ายจะให้ดูเป็นรายงานของแต่ละวันเลย

เหตุการณ์ ของ วันเสาร์ที่ 19 กรกฏาคม 1952 เวลา 11 โมง 40 นาทีครับ นาย Edward Nugent ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศที่Washington National Airport พบวัตถุบิน 7 ดวงในเรดาห์ ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง หลังจากที่เขาตรวจดูแล้วก็พบว่าไม่มีเครื่องบินหรือวัตถุอื่นๆอยู่ในเส้นทาง การบินในพื้นที่นั้นๆ เขากล่าวว่า “เป็นเหตุการณ์ที่แปลกมาก การเคลื่อนไหวของพวกนั้นสมบูรณ์สุดขีดเมื่อเทียบกับบรรดาเครื่องบินที่มี อยู่ในโลก ”

Harry Barnes ผู้ควบคุมเส้นทางของสายการบินที่ทำงานมานานในสนามบิน ก็ตรวจสอบวัตถุใน radarscope แล้วจึง ตรวจสอบเรดาร์ของพวกเขาพบว่าทำงานได้ตามปกติ เขาแจ้งไปยังศูนย์เรดาร์ของสนามบินแห่งชาติอื่นๆดูมัน

“แสงสีส้มสว่างจ้า ผมบอกไม่ได้หรอกว่ามันคืออะไร”

Barnes แจ้งฐานทัพอากาศแอนดรูที่อยู่ห่างออกไป 10 ไมล์ William Brady ผู้ซึ่งรับเรื่องอยู่ในหอควบคุมก็ยืนยันว่าเห็นลูกบอลไฟสีส้ม ที่ค่อนข้างแปลกประหลาด และเคลื่อนที่เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ


สนามบินแห่งชาติวอชิงตัน



วันถัดมาเวลาเที่ยงครึ่ง หอควบคุมการบินแห่งชาติรายงานพบ "จานสีส้มอยู่เหนือความสูง 3,000 ฟุต"

S.C. Pierman นักบินของ Capital Airlines กำลังรออยู่ในที่นั่งคนขับบนเครื่อง DC-4 ขออนุญาตนำเครื่องขึ้นดูเพราะเขาเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอุกกาบาต หรือดาวตกอะไรเทือกนั้น เขาอธิบายว่าจริงๆแล้วมัน “สีขาว ไม่มีหางเสือ เร็ว และเป็นดวงไฟ” กว่า 14 นาที Pierman อยู่ในการติดต่อวิทยุกับ Barnes

วัน ที่ 26 กรกฏาคม 1952 เวลา 8 โมง 15 นาที นักบินและ พนักงานต้อนรับ บนเที่ยวบิน สายการบินแห่งชาติ พบวัตถุประหลาดบนเครื่องบินของพวกเขา ศูนย์เรดาร์ที่สนามบินแห่งชาติและเรดาร์ที่ ฐานทัพอากาศแอนดรู (ชาวหว้ากอดูได้ที่นี่เลยครับ //www.andrews.af.mil )มีการติดตามวัตถุไม่ทราบสัญชาตินี้ วัตถุดังกล่าวมีความเร็วระหว่าง 90 - 100 ไมล์ต่อชั่วโมง

การพบเห็นของเหตุการณ์วันที่ 19 -20 กรกฏาคมนั้น ต่อมาได้ถูกรายงานเป็นการพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ในวันถัดมา บางฉบับลงว่า “ฝูงจานบินมาจับกลุ่มบินผ่านเมือง” กัปตัน Edward J. Ruppelt จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับโครงการบลูบุ๊คที่รัฐบาลสร้างขึ้นมาให้แกดูแล ก็รีบเดินทางมาถึงวอชิงตัน ครับ..และแล้วรัฐบาลสหรัฐฯก็มาเอี่ยวจนได้ เขาได้รวบรวมรายงานกลับไปยังเพนตากอน ก่อนที่จะรายงานบทสรุปออกมา รายงานสรุปว่าอย่างไรนั้น จะอยู่ในปฏิทินวันสุดท้ายของแต่ละวันที่ผมทำสรุปไว้นะครับ

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงาน



13 กรกฎาคม (เวลา ตี4)

เครื่องบินสายการบิน นานาชาติกำหนดเส้นทางระหว่างทางไปสนามบินแห่งชาติประมาณ 60 ไมล์ มีการสังเกตพบลูกบอลสีขาวของแสงที่โฉบไปตะวันตกของเมือง วัตถุนั้นสูง 11,000 ฟิต และขนานในระดับเดียวกันกับเครื่องบินที่ความเร็วเท่ากัน วัตถุออกจากพื้นที่ที่ประมาณ 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ในขณะที่สภาพอากาศดีสำหรับการสังเกตท้องฟ้า และไม่มีรายงานว่าในเวลาขณะนั้นมีวัตถุใดๆมาทำให้การบินยุ่งเหยิง

14 กรกฎาคม (เวลา 2 ทุ่ม 12)

เครื่อง บินแพนอเมริกันแอร์เวย์อยู่ที่ 8,000 ฟิต ใกล้ Norfolk, VA มีวัตถุทรงกลมสีแดงเรืองบินเข้ามาใต้เครื่องบิน วันต่อมา ลูกเรือได้รายงานอย่างละเอียดไปยัง AFOSI

16 กรกฎาคม (เวลา 4 ทุ่ม)

ที่ ถนน Hampton มีวิศวกรผู้หนึ่ง พบดวงไฟสองดวงสีน้ำตาลและสีเหลืองลอยมาจากทางใต้ประมาณ 500 ไมล์ มันเคลื่อนที่ช้าและมีการยูเทิร์น เขาอธิบายว่ามันตะกุกตะกักเมื่อเคลื่อนไหวช้า และมีความสามารถในการเปลี่ยนเป็นรูปวงกลมที่ดูน่าพิศวง

18 กรกฎาคม (เวลา ตี 2)

ที่วอชิงตัน ดีซี. วิศวกรหัวหน้าสถานีวิทยุสังเกตเห็นจานบินรูปสีส้ม 7 ดวงรวมเป็นอันเดียว และก็หายไป

นอกจากเรดาห์แล้ว ก็ยังมีการยืนยันว่าพบด้วยตาเปล่า ภาพนี้ถ่ายได้ในช่วงเวลาดังกล่าวครับ



19 กรกฎาคม ( เวลา 5ทุ่ม 40 )

สนามบินแห่งชาติเริ่มพบวัตถุบินไม่ปรากฏสัญชาติในเรดาร์

20 กรกฎาคม (เวลา ตี1 )

Capital แอร์ไลน์เที่ยวบินจากสนามบินแห่งชาติ หอควบคุมการบินพบวัตถุไม่ปรากฏบนจอเรดาร์สามดวง เหมือนดาว มีหางเสือยาว เคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ขึ้นลง และบินแนวนอน หัวหน้า CAA ควบคุมการจราจรทางอากาศ กล่าวในการสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ อธิบายการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ปรากฏบนเรดาร์

20 กรกฎาคม (เวลา ตี 1 5นาที)

พยาน 5 คน สังเกตเห็นวัตถุสามดวงสีแดง-สีส้มลอยอยู่

20 กรกฏาคม (เวลา ตี 3)

Capital แอร์ไลน์เที่ยวบินขาเข้าที่สนามบินแห่งชาติรายงานว่าวัตถุไม่ปรากฏสัญชาติ ตามเครื่องบินจากบริเวณใกล้เคียง Herndon, Va., ไปประมาณ 4 ไมล์ทางตะวันตกของสนามบิน มีการยืนยันในเรดาร์ ARTC.

ภาพที่ปรากฏในเรดาห์ ในวันที่ 20 กรกฏาคม



20 กรกฎาคม (ตี 4 – 6 โมง)

วัตถุไม่ปรากฏสัญชาติมีเพิ่มเติมมาในเรดาร์ ARTC ที่สนามบินนานาชาติ

20 กรกฎาคม (บ่าย)

เรดาห์ ของศูนย์ที่ Andrews AFB ของกองทัพอากาศ พบจานบิน10 ลำนานถึง 15-20 นาที วัตถุวิ่งว่อนได้เปลี่ยนทิศทาง (ตามรายงานรายละเอียดของ NICAP จากการสังเกตการณ์สภาพอากาศ AF.)

26 กรกฎาคม (3 ทุ่ม)

จาน บินปรากฏอีกครั้งที่เรดาห์ของสนามบินนานาชาติ นักบินพลเรือนเห็นวัตถุเรืองขาวสี่ดวงขณะนำร่องยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ใกล้ Herndon, Va. และสองนักบิน CAA เหนือแมริแลนด์ นักบินสายการบินแห่งชาติใกล้ Andrews AFB ที่ 1,700 ฟิตรายงานว่า เห็นยูเอฟโอ "บินอยู่เหนือเครื่องบิน “

26 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม 15)

เรดาห์ของ Andrews AFB ฟันธง เอ๊ย..คอนเฟิร์มการพบวัตถุบินลึกลับ

ฐานทัพอากาศแอนดรูว์



26 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม 50 )

เรดาห์ ARTC ที่สนามบินแห่งชาติพบการเลี้ยวกลับของวัตถุ 4 ดวง วัตถุอื่นๆกระจายอยู่รอบๆขอบเขตเรดาห์

26 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม 54 )

เรดาร์ติดตามจานบิน 12 ลำในพื้นที่วอชิงตัน ดีซี.

26 กรกฎาคม ( 4 ทุ่ม 38 )

- กองทัพอากาศสั่งให้แจ้งเป้าหมายในเรดาร์

- F-94 สองลำถูกสั่งให้ออกประจำการจากฐานบินนิวคาสเซิล เดลาแวร์ทันที

27 กรกฎาคม (เที่ยงคืน 15 )

พล ตรีฟอร์เนช เจ้าหน้าที่ในเพนตากอน และโฮลคอมบ์ ทหารเรือผู้เชี่ยวชาญอิเล็กทรอนิกส์ มาที่สนามบินแห่งชาติ ARTC เพื่อสังเกตเป้าหมายและแจ้งไปยังกองทัพอากาศให้ปฏิบัติการสกัดกั้นวัตถุบิน ลึกลับโดย F-94 สองลำที่มาจากเดลาแวร์

Lockheed F-94



27 กรกฎาคม (เที่ยงคืน 20 )

F-94 พยายามสกัดกั้นในขณะที่ความเร็วของวัตถุบินลึกลับมีความเร็วเท่ากับ F-94 แต่เมื่อพยายามไล่กวดไปมากขึ้น มันกลับหายไปจากสายตาและจอเรดาห์ นักบินบอกว่าเขาตกตะลึงกับความเร็วที่เหลือเชื่อของมัน

27 กรกฎาคม (1 ทุ่มครึ่ง )

ร้อย โทที่ Andrews AFB เห็นจานบินสีดำเคลื่อนไหวช้าๆที่ตะวันออกเฉียงเหนือด้วยการส่าย และเคลื่อนไหวแบบกลิ้ง และจานบินไปอยู่ใต้เมฆที่อยู่ในทางทิศใต้

27 กรกฎาคม ( 3 ทุ่ม)

บุคลากร ของกองทัพอากาศที่สนามบินแห่งชาติเห็นวัตถุขนาดใหญ่แสดงลักษณะเหมือนแสงแดด โฉบเหนือตึกCapital หลังจากนั้นไม่กี่นาที วัตถุก็บินตรงแล้วหายไปจากสายตา

28 กรกฎาคม

หนังสือพิมพ์เริ่มพาดหัวข่าวจากวอชิงตัน ดีซี. อ้างข่าวจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งให้นักบินบินตามและ ยิงมัน ไม่ว่าจะเห็นมันที่ไหนก็ตามในสหรัฐอเมริกา

คนที่ยืนอยู่คือกัปตัน Edward J. Ruppelt



29 กรกฎาคม (ตี 1 ครึ่ง – ตี 5 )

มีวัตถุไม่ปรากฏสัญชาติในเรดาห์ของ CAA 8 – 12 จอเรดาห์รับรู้ถึงมันว่ามีการเคลื่อนไหวไปตะวันออกเฉียงใต้ 15 ไมล์ใกล้วอชิงตัน ดีซี.

29 กรกฎาคม (ตี3 )

นัก บินสายการบินตะวันออกพบเป้าหมายในเรดาห์ ขอให้ ARTC ตรวจสอบเป้าหมายว่าเรดาร์รายงานว่าเห็นอะไร ทาง CAA กล่าวว่าเป้าหมายหายไปจากจอเรดาร์เมื่อเครื่องบินอยู่ในพื้นที่ และจากนั้นก็บินมาอยู่ด้านหลังเขา

29 กรกฎาคม ( บ่าย 3 )

นักบินของกองทัพอากาศเห็นจานบิน 3 ลำ สีขาว บินห่างออกไป 10 ไมล์ ไปทางใต้ของฐานบินแอนดรูว์ เรดาห์ยืนยันว่ามีอีก

29 กรกฎาคม ( 4 โมง)

กอง ทัพอากาศแถลงว่าการพบเห็นทั้งหมดเป็นเพราะอุณหภูมิที่ไม่คงที่ทำให้เรดาห์ ผิดเพี้ยน ส่วนที่นักบินเห็นก็เพราะเป็นปรากฏการณ์ของชั้นบรรยากาศ เออ.. เอากะเขาสิ นี่แหละครับรายงานที่ส่งตรงจากเพนตาก้อนฝีมือกัปตัน Edward J. Ruppelt เอ้า..แยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้วครับท่านผู้ชม กองทัพอากาศสหรัฐฯบอกว่าไม่มีอะไรในกอไม้ไผ่(โย่ง.. รึเปล่า อันนี้ไม่รู้) ตามฟอร์มครับ เรดาห์ของสหรัฐฯห่วยขนาดนั้นเชียวเหรอ แล้วกรณีที่มีคนเห็นด้วยตาเปล่าล่ะ พี่แกตอบว่า "นั่นมันดาวที่บิดเบี้ยวโดยสภาพของชั้นบรรยากาศ ".. - -"

แล้ว ปริศนาของวัตถุบินลึกลับประหลาดที่มาว่อนๆอยู่ที่วอชิงตันติดกัน 7 วันก็จบลงด้วยประการล่ะฉะนี้ วันนี้ไม่มีเครดิตให้ลงนะครับ เนื่องจากผมเขียนเอง ไม่ได้นั่งเทียนเขียนนะครับ (เพราะไฟไม่ดับครับ เลยไม่ต้องจุดเทียน โอ้ว) สําหรับวันนี้ก็ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ.Terran




Create Date : 01 ธันวาคม 2552
Last Update : 30 ธันวาคม 2553 20:11:46 น. 3 comments
Counter : 2935 Pageviews.  
 
 
 
 
สวยมากเลยค่ะ
 
 

โดย: พลอย IP: 125.27.29.112 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:09:41 น.  

 
 
 
ไม่เหนสวยเลย
 
 

โดย: รำภพัถพั IP: 125.27.29.112 วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:10:49 น.  

 
 
 
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$




....................test.................................



WWWWWWWWWWWWWWWWWWWWWWW
 
 

โดย: light IP: 118.173.1.51 วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:19:06 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Mr.Terran
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




ซิดนี่ย์ เจ.แฮร์ริส เคยกล่าวไว้ว่า
"อันตรายที่แท้จริง ไม่ใช่อยู่ที่ว่า Computer จะเริ่มคิดเหมือนมนุษย์
แต่อยู่ที่ว่า มนุษย์ จะเริ่มคิดเหมือน Computer" ผลงานทุกชิ้นใน BLOG ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ยกเว้นบทความที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา New Document
New Comments
[Add Mr.Terran's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com