bloggang.com mainmenu search
Diarist
ประสบการณ์การเลี้ยงลูก

ถนนสายนี้มีตะพาบ
ก.ม.ที่ 230
"ความกลัว
ที่เกิดจากสำนึกดี"


Music Box Hit Collection [Official Playlists]
credit & special thanks to YouTube
& uploader: i am official channel




********************************************************
โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 230
"ความกลัว" โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า
ก่อนจะไปต่อไปต้องยอมรับก่อนเลยว่า เราเป็นคนโชคดีในการเลี้ยงลูกอย่างมาก เพราะนอกจากลูกจะเชื่อฟังคำสอนทุกเรื่องอย่างที่สุดแล้ว ลูกก็ยังเอาใจใส่ในเรื่องต่างๆของตัวเอง ไม่ทำตัวให้แม่หนักใจในเรื่องใดเลย

แต่ก็นั่นแหละ การเลี้ยงลูกที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาแต่เด็กนั้น บางทีก็เกิดสิ่งเหลือเชื่อที่ทำให้แม่หัวใจจะวายเสียให้ได้

เนื่องจากลูกเข้าอนุบาลตั้งแต่สองขวบสี่เดือน เราเอาลูกไปฝากร.ร.อนุบาลของหมอเด็กที่ดูแลลูกๆ ลูกติดพยาบาลที่เป็นครูอนุบาลหนึ่งด้วย ก็เลยเรียนอนุบาลหนึ่งตั้งแต่ตอนนั้น แล้วแม่ก็เอาไปเข้าชั้นป.1 โรงเรียนที่แม่เป็นศิษย์เก่าตั้งแต่ยังไม่ห้าขวบ เรียนก่อนวัยไปมาก แต่ก็เรียนรั้งท้ายประจำซึ่งต้องยอมรับและคอยให้ลูกถึงวัยที่พร้อมจะเรียน ซึ่งเมื่อถึงวัยแล้วก็เรียนดี

ตอนเช้าๆ แม่ต้องไปส่งลูกก่อนไปทำงาน เย็นไปรับกลับมาซื้ออาหารสดจากซูเปอร์ใกล้บ้านก่อนเข้าบ้าน ลูกก็ไปซื้อกับข้าวกับแม่ทุกวัน แรกๆก็ถามแม่ว่า เขาวางของให้หยิบเอง ไม่กลัวคนไม่จ่ายตังค์หรือ คำถามนี้มาจากเด็กห้าขวบ แม่ทึ่งมาก แต่ก็อธิบายตามสมควร สรุปว่า ถ้าใครขโมยแล้วเขาจับได้ จะต้องถูกตำรวจจับ ไม่มีใครกล้าขโมยหรอก แล้วก็จบอยู่แค่นั้น

อีกหลายเดือนต่อมา แม่ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว วันหนึ่งไปซื้อของด้วยกันตามปกติ แม่จ่ายค่าของแล้วก็เดินตามกันมา รู้สึกว่าลูกเงียบไป คงง่วง แม่คิดอย่างนั้นแล้วก็กลับเข้าบ้านเพื่อไปทำอาหารต่อ ส่วนลูกก็ต้องไปอาบน้ำเองแล้วก็ทำการบ้านให้เสร็จก่อนอาหารเย็น

แต่สักพัก ลูกก็กลับมาหาแม่ในครัวทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำทำการบ้าน หน้าตาไม่สำราญ มายืนจับมือแม่ ถามว่าเป็นอะไร ลูกว่าไม่เป็นอะไร แล้วก็ล้วงของสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากระโปรงนักเรียนส่งให้แม่ โอ้โห อิแม่เครียดทันใดเลย พอจะเดาเหตุการณ์ออก แต่ก็ยังอยากให้สารภาพเอง ถามว่าซื้อมาหรือ เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ในใจนั้นคิดว่าลูกแอบหยิบเงินของแม่ไปซื้อมา แต่มันร้ายกว่านั้น เพราะสิ่งนั้นคือ กบเหลาดินสอสวยงามน่ารักมาก ลูกจะได้มาอย่างไรเพราะไม่มีเงินมากขนาดนั้น

ลูกว่าไม่ได้ซื้อ หยิบมาจากร้านที่แม่ซื้อกับข้าว มือไม้อ่อนเลยอิแม่ ถามว่า อยากได้ทำไมไม่บอกแม่ ลูกว่า ไม่ได้อยากได้ แต่อยากรู้ว่าเขาจะจับได้ไหม เอาเข้าไปเลย ถามว่า จำไม่ได้หรือว่า ถ้าเขาจับได้จะเป็นอย่างไร แม่ก็จะมีความผิดด้วยนะ ลูกคงจะรู้สึกผิดมากขึ้นเรื่อยๆ ถามว่า แม่พากลับไปเอาคืนให้เขาได้ไหม

เรานึกว่าเรื่องนี้น่าจะใหญ่เสียแล้ว ไม่ได้กลัวว่าจะมีเรื่องโดนจับ เพราะเราก็สนิทกับเจ้าของร้านนั้นพอจะอธิบายกันได้ง่ายๆ แต่เราห่วงวิธีคิดและวิธีการของลูกและคิดอย่างเดียวว่าต้องให้ลูกหลาบจำ แม้ว่าลูกจะไม่ได้อวดว่าตัวเองเก่งสามารถแอบหยิบของเขามาได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด นี่ต้องเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ลูกกล้าทำ

เราจึงบอกลูกว่า แม่ยังไม่ว่าง เก็บของนั้นไว้ก่อน พรุ่งนี้เอาไปโรงเรียนด้วย ดูแลให้ดีนะ ถ้าทำหายจะไม่มีคืนเขา ลูกก็รับคำ หน้าม่อยกลับไปอาบน้ำทำการบ้าน กินข้าว แล้วก็อ่านบทเรียนล่วงหน้าสำหรับวันต่อไป

รุ่งขึ้น อาบน้ำแต่งตัวเองแล้วกินมื้อเช้า นั่งรอแม่ไปส่ง ก่อนจะเข้าโรงเรียนไป บอกแม่หน้าเบ้ๆจะร้องไห้ว่า "มารับเร็วๆนะคะ" คือคงอยากรีบเอาของไปคืน แม่เห็นได้ชัดเจนเลยว่า นี่เป็นความกลัวที่เกิดจากสำนึกดีแล้ว ไม่เคยเห็นลูกกลัวอะไรมากเท่านี้มาก่อน รู้สึกว่าแม่ไม่ควรสร้างสภาวะตึงเครียดให้ลูกตัวน้อยเท่านี้ต่อไป จึงบอกให้ลูกเอาของกลางมาฝากแม่ไว้ ตอนเย็นจะรีบกลับไปรับ ลูกรู้สึกผิดเองก็ดีแล้ว อย่าร้องไห้ ต่อไปอย่าทำอีก ไว้แม่ช่วยพาไปวางของเก็บเข้าที่เดิม ลูกก็เลยยิ้มออกก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนไป

เราถามตัวเองว่า ถ้าลูกแอบหยิบของของเขามาแล้วเที่ยวอวดใครๆว่า "นี่งัย ชั้นแอบหยิบมา ไม่เห็นมีใครจะจับได้เลย" ถ้าลูกชื่นชมความไม่สุจริตของตนเอง เราจะสะเทือนใจมากสักแค่ไหน
Diarist
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต

Create Date :17 มิถุนายน 2562 Last Update :18 มิถุนายน 2562 17:50:10 น. Counter : 1102 Pageviews. Comments :43