bloggang.com mainmenu search

Diarist
"แกงโฮะ"ประสบการณ์


ถนนสายนี้มีตะพาบก.ม.ที่ 219
"สิ่งที่แพงที่สุดที่เคยซื้อ"
เลือกเลย: แหวนเพชรหรือบ้าน
โจทย์: คุณ กะว่าก๋า

คำอธิบายโจทย์
ในชีวิตนี้คุณเคยซื้ออะไรที่แพงที่สุด? แพงขนาดไหน ทำไมต้องซื้อ มีอะไรดีจึง
ทำให้คุณตัดสินใจซื้อ และส่งผลอย่างไรกับชีวิตคุณบ้าง เขียนกันให้เต็มที่กับ
โจทย์สุดโหดที่ชวนให้ใช้ปัญญาในการขบคิดกันได้เลย

*********
เมื่อเขาบอกว่าให้บรรเลงได้เต็มที่ แล้วเราจะช้าอยู่ใย แต่โจทย์นี้ก็ไม่ได้โหดได้หิน
แต่อย่างใดนะคะ ทุกคนคงเคยจำเป็นต้องซื้อของจำเป็นแก่ชีวิตด้วยราคาแพงเกิน
กำลังทรัพย์ที่จะจับจ่ายมาได้ในขณะนั้น สำหรับเราจะเขียนได้ง่ายมาก ไม่ต้อง
ลำบากแถเหมือนหลายๆโจทย์ที่ได้เจอมา แค่เล่าไปเรื่อยๆ อย่าเผลออ่านเพลินจน
หลับคาจอ น้ำลายยืดย้อยก็แล้วกัน... แหะๆ อ่านจนหลับคาจอนี่ ไม่น่าจะเพลินนะ
ตัวเอง หรืองัย งงๆ

เราเกิดมาในครอบครัวบ้านๆ แม่เป็นแม่บ้านเต็มตัว ไม่มีอาชีพเสริมใดๆ พ่อเป็น
ข้าราชการชั้นผู้น้อยกระจิ๋วหริว แต่ในวันที่เราเกิด พ่อได้เลื่อนขั้นและเงินเดือนขึ้น
ถึง 80 บาท เยอะนะนั่น เพราะก๋วยเตี๋ยวตอนนั้นชามละแค่สองสามตังค์ แม่เป็นแม่
บ้านที่ประหยัดทุกอย่างแต่ไม่ถึงกับตระหนี่ถี่เหนียว เรียกว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบ
บาทน่ะแหละ สมัยนั้น ไม่มีเสื้อผ้าเด็กขายทั่วๆไป มีแต่เสื้อเด็กแพงๆในร้านฝรั่ง แต่
แม่เย็บเสื้อสวยๆให้เราใส่เอง เย็บด้วยมือทุกฝีเข็ม ของใช้ของเล่นของเรา พ่อซื้อ
ให้แต่ของดีๆราคาแพงเท่าที่พ่อจะหาให้ได้

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การงานของพ่อรุ่งเรืองมาก แล้วต่อมาอีก 10 ปียังถูก
สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 500,000 บาทอีก นับได้ว่าเข้าขั้นเศรษฐี
และนั่นก็เกือบ 70 ปีมาแล้ว แม่มีทุนจึงผันตัวเองไปค้าขายบ้านและที่ดินเพราะ
จริงๆแล้ว แม่ก็เกิดมาในตระกูลพ่อค้า ต้องนับว่าแม่ทำอาชีพนี้มาในยุคบุกเบิกเลย
ทีเดียว พอเราเรียนถึงระดับอุดมศึกษา จึงมีเก๋ง Opel Kapitan ขับไปเรียน คันนี้นับ
ว่าเป็นรถเยอรมันคันเล็กที่สุดในบ้าน นอกนั้นเป็นรถอเมริกันอีก 3 คัน มีเปียโนราคา
แพงไว้ดีดเล่นก๊องแก๊ง คือเราไม่ได้อยากเล่นเป็น แต่พ่อก็ซื้อมาตั้งไว้ให้ เผื่อลูกจะ
เกิดแรงบันดาลใจหัดเล่น ไม่มีอะไรที่ลูกชาวบ้านเขามีกันแล้วเราไม่มีดีกว่า

แต่ฐานะทางการเงินของพ่อก็พุ่งขึ้นและดิ่งลงถึงสามครั้ง ไม่เคยถึงกับล้มละลาย
แต่ก็ไม่โดดเด่นในช่วงที่เราจะแต่งงาน ว่าที่สามีก็ไม่ได้มาจากครอบครัวคนรวย
และแม้ว่าคุณพ่อของเขาจะมีศักดินาใกล้ๆพันไร่ แต่ที่ดินที่มีก็มีแค่หนึ่งไร่ในทำเลที่
ไม่น่าจะรุ่งเรือง แต่เมื่อเขาคิดจะแต่งงานกับเรา เขาก็ทำงานพิเศษ อดออมเก็บเงิน
อย่างอดทนอยู่ถึงสองปีก่อนจะได้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอด้วยขันหมากที่มีแหวนเพชรเม็ด
เดียว 5 กะรัตเป็นตัวชูโรง พร้อมเงินสดอีกเต็มพานใหญ่ แต่งงานกันแล้วก็ย้ายมา
อยู่กับครอบครัวพ่อแม่เรา เพราะเราเป็นลูกโทน พ่อแม่ไม่อยากให้แยกออกไป
ประกอบกับตอนนั้น เรายังอยู่บ้านหลังใหญ่ บนที่ดิน 2 ไร่ในซอยสุขุมวิท 39 บ้าน
ยังมีห้องว่างๆพออยู่ได้อีกครอบครัว

สามีเราคิดอยู่เสมอว่า อยากมีบ้านอยู่กันเอง เริ่มต้น สิ่งที่ทำได้ก็คือ หาซื้อบ้านและ
ที่ดินผ่อนส่ง เราต้องแอบทำเงียบๆ ไม่ให้แม่รู้ คือไม่อยากรบกวนแม่ซึ่งยังมี
ทรัพย์สินส่วนตัวอยู่อีกไม่น้อย เราอยากมีสมบัติที่เป็นน้ำพักน้ำแรงของเราเอง

แต่บ้านในโครงการผ่อนส่งมักอยู่นอกเมือง การจะออกไปอยู่ไกลพ่อแม่ซึ่งตอนนั้น
อายุกว่า 60 แล้วก็เกิดความห่วงใย การเลี้ยงลูกโดยไม่มีคุณยายช่วยดูให้บ้างก็จะ
ลำบากพอสมควร สามีไม่ได้คิดเรื่องนี้แต่เราคิดหนัก แล้วในที่สุดเราก็บอกสามีว่า
จะซื้อที่ดินในซอยสุขุมวิท 49 ซึ่งมีทางลัดเดินจากบ้านพ่อแม่ไปหาเราได้ไม่ไกล
นัก แต่ราคาตอนนั้นก็วาละ 2500 บาท สามีถามว่า จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เราบอก
ว่า เราตัดสินใจขายแหวนหมั้นเพราะแหวนนั้น เราจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ใส่ จะขาย
เอาเงินมาซื้อบ้านและที่ดิน ครอบครัวเราจะได้อยู่กันไปอีกยาวนาน เขาบอกว่า
ก็ได้อย่างมากสักหกเจ็ดหมื่น แต่ที่ดินและบ้านจะตกถึง 8 แสน เขาลืมไปว่า เรา
เป็นลูกกระจ๊อกของแม่ที่มีฝีมือซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เราจัดการเรื่องติดต่อ
ธนาคารให้แม่มาตลอด เรื่องนี้ก็แค่หมูๆในอวยพะโล้สำหรับเรา

เราจึงได้มีบ้านและที่ดินซึ่งลงทุนไปโดยรวมดอกเบี้ยเป็นเงินล้านกว่าบาท แต่ผ่าน
มา 45 ปี ราคาที่ดินซึ่งแปลงใกล้ๆเราเพิ่งขายไปพุ่งขึ้นไปถึงวาละเกือบ 4 แสน
บาท เราไม่ได้อยู่ต้นๆซอยซึ่งแพงกว่านี้มาก แต่บริเวณใกล้เคียงมีสถานทูตมาสร้าง
บ้านพักเอกอัคราชทูตสามประเทศ เขตจึงมาดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างดี น้ำไม่ท่วม
ตอนนี้ลูกๆแบ่งที่ดินสร้างบ้านให้ฝรั่งเช่า พ่อแม่ก็เก็บค่าเช่าเลี้ยงตัวเองไป คือ ไอ้ที่
พ่อแม่มีอยู่เองก็ไม่ต้องชักเนื้อใช้ และเก็บทรัพย์สินนี้ไว้เป็นที่อยู่หรือเป็นทุนแก่การ
ลงหลักปักฐานของลูกๆสืบไป แต่แม้ว่าตอนนี้ทั้งเราและลูกๆยังมีที่ดินและบ้านอีก
หลายแห่งในสองสามจังหวัดเพราะเชื่อว่า การเก็บเงินไว้เป็นที่ดินทำเลดี จะ
งอกเงยได้แบบไม่ต้องลงแรงแค่รอคอยเวลาทำให้ราคาเติบโตเอง เราก็จะยังอยู่ที่
บ้านนี้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ถ้าเพชรน้ำงามเม็ดนั้นยังคงอยู่กับเรา จะขายได้ตอนนี้สักสิบล้านหรือไม่ก็ยังสงสัย
แถมเราก็จะไม่มีที่ดินแปลงนี้ซึ่งตอนนี้มีราคาสูงกว่าเพชรเม็ดนั้นไม่น้อยกว่าหกเท่า

ถือว่าบ้านและที่ดินของเรานี้เป็นสิ่งที่ซื้อมาแพงที่สุดในชีวิตของเรา ที่ไม่เคยต้อง
ลำบากเรื่องเงินๆทองๆมาก่อนหน้านั้น แต่กลับต้องขายแหวนหมั้นและอดออมถึง
ขั้นเป็นหนี้แทบหัวโต ต้องทำงานจนแทบไม่มีเวลานอน ทั้งงานประจำ งานเสริม
และงานสอน เพียงเพื่อให้มีเงินพอสมทบกับของสามีเอาตัวรอดในการซื้อสิ่งนี้ แต่
ก็เป็นความภาคภูมิใจที่เราทำได้ ต้องนับว่า ลูกๆก็ร่วมมืออย่างดี เพราะเข้าใจว่า ที่
เขาไม่ค่อยมีอะไรดีๆในวัยเด็กอย่างที่เด็กคนอื่นๆมีนั้น เป็นเพราะเราต้องประหยัด
มากเพื่อให้มีวันนี้

*********
ขอบคุณโจทย์ดีๆของคุณก๋า ซึ่งทำให้เราได้มีเรื่องแรกในการเขียน
หมวดประสบการณ์ชีวิตที่เคยนึกอยากเขียนไว้เป็นที่ระลึกถึงแก่ลูกๆ
แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้เขียน

**********
"อัตอวย" ไปเยอะแล้วก็มาถึงช่วงแถมท้ายเอนทรี่นี้ด้วยภาพดอกไม้ที่เก็บ
มาสะสมไว้ดูเล่นกันนะคะ

ชุดแรกเป็น Phalaenopsis สีขาว (กล้วยไม้ต้นเก่งๆของบ้านป่ามักมีอายุมากว่า
50 ปี ถึงกว่า 100 ปี เป็นกล้วยไม้ที่เลี้ยงมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่และคุณยายของลูกๆ
แต่ภาพในวันนี้อากาศไม่ค่อยดีและบางภาพก็ย้อนแสง รูปทรงสีสันก็จะเรียบๆ
สู้พวก hybrid ไม่ได้

















ส่วนสีชมพูต่อไปนี้ จำไม่ได้ว่ามีมาอย่างไร กลีบสีชมพูอ่อนจาง ปากสวย ครั้งนี้ก็มีมาแค่ดอกเดียว





ลาไปด้วยกุหลาบท้องถิ่น คือเห็นแถวบ้านป่าปลูกกันหลายบ้านน่ะค่ะ





เอนทรี่นี้รีบเขียนอย่างด่วนทั้งที่ภาระเนื่องในปีใหม่ยังไม่ซา แต่ปีนี้เขียนแค่
2 หมวด ไม่อยากส่งช้ากว่าที่กำหนดมาค่ะ

*********

เครดิตเพลงประกอบ:
YouTube & Uploader - youngae kim
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต

Diarist

Create Date :05 มกราคม 2562 Last Update :22 มกราคม 2562 21:36:11 น. Counter : 1567 Pageviews. Comments :76