bloggang.com mainmenu search
Diarist
ประสบการณ์การเลี้ยงแคคตัส
/ไม้อวบน้ำ

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 228
ต้นไม้ ดอกไม้ - กระบองเพชร/ไม้อวบน้ำอายุกว่า 50 ปี


เชิญคลิกฟังเพลงตามอัธยาศัยค่ะ
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต
Music Box Hit Collection [Official Playlists]
credit & special thanks to YouTube
& uploader: i am official channel

**********************************************************

จขบ.นี้เขียนเรื่องต้นไม้มาหลายปี เขียนจนใครเข้ามาเห็นว่าบล็อกมีภาพดอกไม้แม้แค่ภาพเดียว ก็แปะโหวตหมวดต้นไม้ให้มาเรียบร้อย แทบไม่อ่านอะไรเพิ่ม เหมือนมันเป็นยี่ห้อขนมตุ้บตั้บยังงัยยังงั้นเลย แต่วันนี้จะเขียนจากประสบการณ์นะคะ ต้นไม้บางต้นก็กลับบ้านเก่าไปหมดแล้วค่ะ

ตอบโจทย์ตะพาบวันนี้ ก็ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ใช่คนเล่นต้นไม้ตามกระแส บ้านป่ามีต้นไม้หลากหลายมากและเราไม่เคยปล่อยให้ต้นไม้ตายถ้ายังสามารถยื้อเค้าไว้ได้ เพราะฉะนั้น กระบองเพชรที่เราเล่นเป็นบ้าเป็นบอตอนที่แพ้ท้องลูกสาวคนโตคือ พี่ปู นั้น ตอนนั้นมีเป็นร้อยต้น ทั้งที่มีคนขายที่ตลาดนัดสนามหลวงแค่เจ้าเดียว แทบจะเอามาทุกต้นที่เค้ามี แต่พอพี่ปูและน้องชายโตพอจะไปโรงเรียนได้ การเลี้ยงดู รับส่งลูกๆและทำงานอาชีพด้วย ทุกอย่างนี้ต้องมาก่อน กระบองเพชรของเราก็เริ่มล้มหายตายจาก แต่ผ่านมากว่า 50 ปีแล้ว ก็ยังเหลือมาถึงวันนี้หลายต้นเหมือนกัน ล้วนพิสูจน์ได้ว่า ต้นไหนอยู่ในประเภททรหดที่สุด

ต้องบอกว่าการเล่นกระบองเพชรเมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้วนั้น ไม่ได้มีปุ๋ยและเครื่องเลี้ยงอย่างทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เลี้ยงดูต้นมากกว่าจะได้เห็นดอก

วันนี้ลองเอาต้นเก่งสักต้นมาอวดกันอีกสักครั้ง ต้นนี้คือหมวกสังฆราชซึ่งที่เห็นมีเล่นกันตอนนี้ก็ไม่มีเหมือนของเราซึ่งหน้าตาเป็นเช่นนี้ค่ะ



ส่วยยอดมีลายสวยมาก



ดอกก็สวยมาก ถึงเวลาให้ดอกก็จะให้ครั้งละประมาณ 5 ดอก ทะยอยบาน



แต่ต้นนี้ก็อยู่กับเราครบ 50 ปีพอดี เพราะลาจากไปเมื่อฝนแรงมากสองปีก่อน ทิ้งไว้ที่บ้านป่า ลืมเก็บเข้าร่ม ลำต้นแตกและเน่า สุดจะเยียวยา เสียดายมาก หาต้นแบบนี้และขนาดนี้ยากมากหรือไม่มีแล้วตอนนี้

ต้นต่อไปที่จะพามา ไม่ได้โดดเด่นมีชื่อเสียงแต่อย่างใด ซื้อมาเพียงต้นเล็กๆ แล้วก็ค่อยๆโตแผ่เต็มกระถางตื้นๆใบใหญ่ นางมีชื่อว่า ไดโนเสาร์ ดูภาพกันก่อนนะคะ



ต้นนี้เป็นต้นโบราณที่เมื่อใบแก่จะแผ่แบนไม่เป็นจีบเหมือนใบอ่อนหรือแก่กำลังดี ซึ่งภายหลัง เขาพัฒนาพันธุ์จนเป็นจีบไปจนเหี่ยวแห้ง สำหรับต้นของเรานี้ก็มีดอกจุ๋มจิ๋มดีมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ต้องอาศัยปุ๋ยเลย น้ำกับแดดพอประมาณเท่านั้น แต่ต้องอยู่ในที่เย็นเช่นบ้านป่า เอามากรุงเทพฯก็ไม่มีดอก ตามชมกันค่ะ







กุหลาบหินก็ยังเหลือเยอะ แต่หน้าตาก็ไม่ค่อยเหมือนกุหลาบหินสมัยนี้เท่าไร จะเห็นความเก่าแก่ได้จากก้านดอกที่ยาววนไปมา ทำหักเสียบ้าง พวกนี้ก็แจกๆเขาไปเรื่อย ยกมาชมสักสองสามกระถางนะคะ







ต้นข้างบนนี้เลี้ยงยากหน่อย คือถ้าแดดแรง น้ำในกลีบร้อนจัดจนเหี่ยวสุกไปเลย ส่วนพวกข้างล่างคือต้นที่เรียกว่า กระดังงา เรามีเยอะจนสุมเป็นดงแบบนี้ ไม่ค่อยได้แดด เลยไม่ค่อยเป็นสีแบบดอกกระดังงา





พวกม้าเวียน กับ ม้าลายก็ยังมีเยอะ หน้าตาก็ไม่เหมือนพันธุ์สมัยนี้อยู่ดี เราก็รักษาแบบโบราณๆนี้ต่อไป





พวกกำมะหยี่นี่เหลือกระถางเดียว



ต้นเล็กๆน้อยๆที่เหลือต่อไปนี้ล้วนอายุกว่า 50 แล้วทั้งนั้น อยู่กับเรามาแบบไม่เคยเห็นดอก ตอนนี้เอามาเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยปุ๋ยและเครื่องปลูกสมัยใหม่ หวังว่าต่อไปจะได้เห็นดอกบ้าง ชื่อเสียงเรียงนามใดก็ไม่รู้หรอกค่ะ ยกมาสักสามสี่ต้น











ต้นใหญ่ต้นสุดท้ายซื้อมาเมื่อเขาเริ่มฮิตพวกหยกมงคล ซื้อมาต้นเท่าฝ่ามือราคาหลายสิบบาทเมื่อ 30+ ปี เลี้ยงมาจนบัดนี้สูงสองเมตร ตัดเล็มไปชำต้นสูงฟุตกว่าๆแจกเพื่อนๆไปเยอะ ตอนนี้ตั้งกระถางไว้ปากทางเข้าบ้าน รากลงดินเสียแล้ว คงไม่ย้ายไปไหนอีก





มาถึงตอนนี้ที่เขาฮิตแคคตัสกันมาจนบางคนอาจหายฮิตไปแล้ว เราเพิ่งจะลองซื้อถูกๆมาเลี้ยงไม่กี่ต้นเพราะพี่ปูอยากให้มีบ้างเผื่อมีดอกจะได้ยกไปวางบนโต๊ะทำงาน คิดว่านะ ก็เลยไปเลือกๆดูมาเก็บไว้ ต้นหนึ่งที่ลงทุนถึง 75 บาท คือ ฮามาโตะแคคตัส ที่กำลังให้ดอกตั้งสองดอก มั่นใจว่าชอบแล้วก็หิ้วกลับมาบ้าน คนขายก็ไม่รู้ชื่อต้องเอามาถามคุณจิน JinnyTent



ส่วนต้นละ 20/30 บาทก็พอมีดอกให้ชื่นชมได้บ้าง



ยังมีต้นจิ๋วๆให้เลี้ยงต้อยต่อไปอีกราวๆ 10 ต้น กำลังคิดว่าจะซื้อที่มีดอกให้มั่นใจว่าชอบแล้วมาเลี้ยงสักสิบต้นก็คงจะพอมีแรงดูแลกันได้ ไม่อยากมีภาระอะไรมากมายในวัยนี้แล้วค่ะ

Diarist

Create Date :18 พฤษภาคม 2562 Last Update :19 พฤษภาคม 2562 6:14:17 น. Counter : 3735 Pageviews. Comments :53