bloggang.com mainmenu search

Diarist
ประสบการณ์งานครัว

ร่วมกิจกรรม "3F: Hot Wok Misson #33:
เมนูประหยัด" - แกงขี้เหล็กกับหมูย่าง
กว่าจะแกงเสร็จเป็นมหากาพย์ทีเดียว
โจทย์โดยคุณ Sai Eeuuและคุณ เริงฤดีนะ

โจทย์นี้โหดมากนะคะ งบแค่นี้น่าจะทำมื้อดีๆได้เพียงพอกินคนเดียว แต่จขบ.จะหาญกล้าอาศัยว่าปลูกต้นไม้และทำสวนครัวเอง ประหยัดเครื่องปรุงที่เหลือจากทำมื้ออื่นแล้วแช่แข็งไว้อีกด้วย แกงขี้เหล็กครั้งนี้ตักได้ 6 ชามแกง ซื้อ street food ก็ถุงละ 30 บาทอย่างถูกที่สุด รสชาติก็ไม่ได้เป็นสรรพรสอย่างใจเราที่ใช้เครื่องปรุงเต็มที่และดีที่สุด แต่ของเราถ้าขายตั้งราคาไว้เลยว่า กันเองถุงละ 50 บาท ระดับนี้ขึ้นร้านดังก็ไม่หนี 100 บาท เราไม่ต้องคิดค่าแรงและค่าร้านนี่นา ลูกมือก็ไม่มี ทำคนเดียวล้วนๆ คงต้องขายปีละหนเดียว ต้องจองข้ามปีเพราะมีแค่ 6 ถุง สรุปแล้ว 6 ถุงก็จะขายได้ 300 นะคะ เดี๋ยวมาดูต้นทุนกัน สิ่งใดไม่ต้องซื้อ สิ่งใดต้องซื้อก็คิดไปเลยง่ายๆเต็มๆ

อีกหนึ่งความประหยัดในการทำอาหาร บางครั้งก็อยู่ที่ทำจำนวนมากแล้วฟรีซเก็บไว้กินได้หลายมื้อ เพราะแกงนี้ถ้าจะเก็บกันจริงๆก็อยู่ได้นานเป็นปี แต่จากประสบการณ์ อยู่ได้อย่างเก่งแค่สามเดือน

แกงขี้เหล็กที่จะทำวันนี้ได้ดอกขี้เหล็กจากต้นที่บ้านป่าเมื่อต้นหนาวปีที่แล้ว (ยังกะรู้สึกว่าหนาวตอนไหน) ได้มาประมาณ 8 กำแบบที่เขาขายกำละ 10 บาท แต่แบ่งให้เพื่อนบ้านไปครึ่งหนึ่ง ที่เหลือล้างแล้วรูดไปต้มเก็บแช่แข็งไว้ 4 กำ นี่ถ้าซื้อก็กำละ 10 บาท ประหยัดได้แล้วเป็นเงิน 40 บาทเห็นๆ

ที่ต้องต้มแช่แข็งไว้ก็เพื่อรอให้ต้นที่ตัดกิ่งลงมาเอาดอกนั้น แตกใบอ่อนให้เก็บมาผสมกับดอกได้เมื่อต้นเดือนนี้ เก็บมาประมาณ 4 กำก็อีก 40 บาท ไม่ได้เก็บทั้งหมด ปล่อยให้มีเติบโตไปออกดอกให้เก็บกินอีกในปีต่อไป แกงปีละครั้ง แบ่งกินได้หลายครั้ง ได้ใส่บาตรด้วย จขบ.ไม่มีกำลังแกงยากๆหม้อใหญ่ๆได้ภายในวันเดียวแล้ว ก็เก็บโน่นคอยนี่ไปเรื่อยๆ พร้อมจะแกงเมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ ใครคอยกินก็ลำบากชะเง้อไปก่อน รอนานพาลให้อาหารอร่อยนะ ถ้าไม่โมโหหิวเสียก่อน

กะทิใช้สูตรหัวกะทิ กล่องละ 24 บาท ใช้กล่องเดียวเพราะมีมะพร้าวขูดที่ขอปันมาจากแม่ค้าข้าวแกงเจ้าประจำใกล้บ้านป่า ขอปันมาทำขนมเพียงเล็กน้อย เขาไม่เอาตังค์เพราะเป็นลูกค้ากันมานาน แถมให้มาเยอะ เหลือจากทำขนมเลยเก็บแช่แข็งไว้ เอาออกมาคั้นใช้ร่วมกัน ประหยัดค่ากะทิไปอีก 24 บาท เพราะปริมาณที่ต้องใช้แกงจะเป็นกะทิ 2 กล่อง

ข้างล่างนี้คือขี้เหล็กทั้งดอกและใบที่ต้มไว้ เราไม่ต้มหลายครั้งเพราะชอบให้ขม ใบนั้นบีบน้ำออกจนเหลือก้อนนิดเดียว แกงแล้วก็ได้เยอะ ซอยเสียบ้างก็ได้ ใบจะได้ไม่ลอยเป็นแพ ชอบให้แกงแล้วดูเป็นครีมข้นๆ ราดขนมจีนอร่อยมาก แต่หม้อนี้ไม่ได้ซอยใบเพราะใบสดอ่อนมาก กว่าจะแกงเสร็จก็เปื่อยย่อยพอดีแล้ว


ส่วนหมูย่างนั้น ใช้สันนอกเพราะไม่ชอบมันๆ ใช้สองชิ้นสเต็กขนาดย่อมๆ


ส่วนเครื่องแกงก็คือเครื่องแกงเผ็ด เติมกุ้งแห้งป่น (พ่อบ้านของเราไม่ชอบปลาป่น) และกระชาย เครื่องแกงสดได้มาจากสวนครัวทั้งหมด ปลาเค็มเหลือจากซื้อมาทอดแนมแกงเผ็ดครึ่งชิ้น คิด 20 บาท


จขบ.ชอบตำเครื่องแกงเอง แต่เดี๋ยวนี้กว่าจะตำเสร็จสักครกก็เมื่อยแขนมาก ลูกเลยซื้อเครื่องผสมอาหารมาให้ใช้ ก็ปั่นๆๆๆๆกันไป


ปั่นจนได้เครื่องแกงละเอียดเนียนดีแล้วก็เริ่มแกง โดยเคี่ยวหัวกระทิให้พอแตกมันแล้วจึงใส่เครื่องแกงที่ปั่นไว้ ผัดให้หอม แล้วจึงใส่ใบและดอกขี้เหล็ก รวมทั้งหมูย่าง เติมหางกะทิเล็กน้อย พอเดือดอีกครั้ง ลดไฟเคี่ยวไปรุมๆสักสิบห้านาที ถ้าน้ำจะแห้งก็ค่อยๆเติมหางกะทิไปเรื่อยๆ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลเล็กน้อย






ถ้าหางกะทิหมดแล้วยังไม่ได้ที่แต่แห้งไปมากก็เติมน้ำทีละน้อยๆ ถ้ามีน้ำต้มไก่ต้มหมูก็กำจัดไขมันเสียก่อนแล้วนำมาเติมแทนน้ำเปล่า ระหว่างการเคี่ยวไฟรุมๆ ต้องหมั่นคนด้วย มิฉะนั้นจะติดก้นหม้อได้

กว่าแกงได้ที่ รสดีถูกใจ ตักเสิร์ฟได้ ก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง แต่เราใช้มากกว่านั้น


สรุปค่าเครื่องปรุงที่ไม่ต้องซื้อ
ดอกและใบขี้เหล็ก 80 บาท
มะพร้าวขูดคั้นมาใช้แทนกะทิกล่อง 1 กล่อง 24 บาท
เครื่องแกงสด 5 บาท
กระชาย 5 บาท
**รวม 114 บาท

เครื่องปรุงที่ต้องซื้อ
กะทิกล่อง 24 บาท
เนื้อหมู 38 บาท
พริกแห้ง 2 บาท
ปลาอินทรีเค็ม 20 บาท
กุ้งแห้ง 20 บาท
เครื่องปรุงรส: กะปิ เกลือ น้ำตาล น้ำปลา 5 บาท
**รวม 81 บาท

ต้นทุน 81 บาท ขายได้ 300 บาท ฝันเฟื่องเรื่องนี้ไม่ได้นาน พี่ปูรู้โดนดับฝันแน่ๆ ชีจะกลัวกำไรไม่พอค่าหมอ

แกงได้ 6 ชาม ตกราคาชามละ 13.50 บาท รับประทานได้ 1 มื้อ สองคน เหลือ 16.50 บาท ซื้อไข่เค็ม 1 ฟอง 6 บาทแบ่งกันคนละครึ่ง ที่เหลือเป็นค่าข้าวสุกหรือขนมจีนก็แล้วกัน ลงทุน 30 บาทกินได้หนึ่งมื้อสองคน ช่วงเวลา 50 กว่าปีของชีวิตคู่ ประหยัดค่าอาหารได้มากเลยนะ ไม่เคยลองคิดมาก่อนเลย ขอบคุณโจทย์นี้มากๆค่ะ

แกงหม้อนี้ประหยัดได้มากก็เพราะไม่ต้องซื้อเครื่องปรุงราคาแพงหลายอย่าง และแม้อาหารทำเอง คนทำจะไม่ได้ค่าแรง แต่ได้กินรสชาติที่ถูกใจก็มีความสุข คนในครอบครัวดีใจที่ได้กินก็มีความสุขต่อที่สอง แม่บ้านที่เป็นแม่ครัวเองจะสุขใจกับอะไรได้มากไปกว่านี้ เอนทรี่นี้ก็เขียนมาเรื่อยๆอย่างมีความสุข เพราะจริงๆแล้วไม่ใช่แค่เขียนเรื่องสูตรและวิธีทำอาหาร แต่เป็นเรื่องราวของประสบการ์การทำครัวแบบประหยัดที่ได้ฝึกฝนมานาน

เดี๋ยวนี้จขบ.อ่านเขียนไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไร เหมือนความจำจะเหลือไม่มากแล้ว บางทีก็ย้ำความไปๆมาๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ

 
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต

Diarist

Create Date :14 มีนาคม 2562 Last Update :14 มีนาคม 2562 9:34:22 น. Counter : 1810 Pageviews. Comments :43