bloggang.com mainmenu search
Diarist

ถนนสายนี้มีตะพาบก.ม.ที่ 225 "เฝ้ารอ"
โจทย์โดยคุณ Jinny Tent
เบื้องหลังชีวิตจริง


การรอคอยมักเกิดกับทุกช่วงชีวิต ทุกรูปนาม จะว่าไปแล้วโจทย์นี้ตอบได้ทุกรูปแบบ ทั้งรัก เหงาเศร้าเคล้าน้ำตา หรือแม้แต่เกิดมาเพื่อรอวันตาย แต่ถึงกับเฝ้ารอแล้วบอกได้เลยว่าทรมานจิตใจมาก แม้บางเรื่องที่ไม่ถึงกับทรมานใจ แต่ก็บอกได้อีกว่า สิ้นเปลืองเวลาที่ควรได้เอาไปทำอะไรที่มีประโยชน์มากกว่านั้น เช่น การยืนรอให้น้ำในกาบนเตาเดือด ทุกคนคงเคยทำ ความที่เรารีบ อยากให้น้ำเดือดเร็วๆ เราก็ยืนเฝ้าไว้ เพื่อว่าทันทีที่น้ำเดือด จะได้ยกกาเทลงถ้วย จะชงชาหรือกาแฟอะไรก็ทันใจ ทั้งที่นี่เป็นเรื่องที่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ฝรั่งมีคำคมว่าไว้ว่า A watched kettle never boils. (กาน้ำที่เฝ้าไว้จะไม่เดือด) ก็คงไม่ถึงกับไม่เดือดหรอก แต่ความที่คนเฝ้าต้องรออย่างกระวนกระวายใจทำให้รู้สึกว่าใช้เวลามากกว่าที่ควร อาจถึงกับคิดว่า แล้วแม่งจะเดือดไหมฟระ หรือร้องว่า ช้าจริงว้อย!!! ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นเวลาเท่าที่ควรจะเป็นนั่นแหละ ถ้าประมาณเวลาไว้แล้วไปทำเรื่องอื่นเสีย ก็จะไม่ต้องเสียเวลายืนเพ่งกสิณสะกดน้ำในกาให้เดือด... อ้าว น่าจะคนละเรื่องซะแล้ว

ทั้งหลายทั้งปวงนั้นก็เพื่อเป็นอารัมภกถา(ง่ายๆคือ คำนำ แล้วทำไมต้องทำให้ยาก) ก่อนจะวิสัชนาเรื่องการเฝ้ารอของตัวเองสักเรื่อง วันนี้พยายามจะมาแบบธรรมะธรรมโม จะรอดไหมไม่รู้ค่ะ เริ่มจะติงต๊อง โรคนี้รักษาไม่เคยหายขาด นึกว่าไม่มีพี่หนูหล่อแล้ว คนอ่านจะไม่รำคาญหู อ่ะนะคะ ทนๆหน่อย

ตัดชั้บมาขึ้นเรื่องใหม่
ย้อนกลับไปชีวิตจขบ.ตอนเฮี้ยวจัด (ที่ต้องย้อนเพราะจะเขียนเป็นไดอารี่ อิอิ) ที่เฮี้ยวจัดเพราะปวดหัวกับเรื่องเรียนของตัวเองและชีวิตคู่ของบุพการีที่ไม่ค่อยน่าชื่นชม เชื่อเหอะ บ้านไหนพ่อบ้านมีเมียมากกว่า 1 คน บ้านนั้นร้อนเป็นไฟ เราเลยเลิกเรียนหนังสือ เที่ยวทุกวัน ไปมันเรื่อย ในที่สุดพ่อถามว่า ยังจะเรียนหนังสือไหม เราก็ตอบตามตรงว่า ถ้าสภาพแวดล้อมน่าเรียนก็เรียน พ่อถามว่า อังกฤษเป็นงัย เรารู้เลยว่ากำลังจะถูกปล่อยเกาะ เพราะเวลาพ่อแม่มีปากเสียงกัน เราเข้าข้างคุณแม่ แต่ก็ตอบพ่อว่า ดี

พ่อมีเงื่อนไขว่า ต้องไปอยู่เพื่อเรียน ห้ามเที่ยว ได้ pocket money เท่าเด็กอังกฤษ เราถามว่าเด็กขนาดไหน พ่อบอก ม.ต้น จ๊ากกกก ตอนนั้นเราอายุกว่า 20 ไปแล้วจ้าาาา เด็กขนาดนั้นได้เดือนละ 5 ปอนด์นะจ๊ะ ตอนนั้นปอนด์ละ 60 บาท เท่ากับเดือนละ 300 บาท เราแอบหัวเราะในใจ พ่อก็เกินไป๊ แต่พ่อเอาจริง ค่าใช้จ่ายทั้งปวงผ่านก.พ.หมด แม้แต่ไอ้เดือนละห้าปอนด์นั่นก็ผ่านก.พ. อยู่ที่นั่นได้เดือนละห้าปอนด์เนี่ย เพื่อนทั้งไทยและเทศฮามาก เงินเดือนออกจะโดนตอแยให้เลี้ยง เด็กม.ต้นที่นั่นได้เดือนละห้าปอนด์ เค้าอยู่กับพ่อแม่ มีอาหารถูกปากกิน ส่วนเรามีอาหาร canteen ทุกมื้อก็จริงแต่มันแหลกไม่ค่อยล่าย

แต่เรื่องมีกินมีใช้ตามใจชอบของเราก็ทำได้ไม่ยาก เพราะเราทำการค้าอสังหาฯกับคุณแม่มานานแล้ว เวลาได้กำไร คุณแม่ก็จะแบ่งให้เข้าบัญชีเราไว้ เผื่ออยากได้อะไรก็จะซื้อได้เอง คุณแม่ทันสมัยมาก บอกว่า ทำงานต้องได้ค่าแรง เรามีเงินติดตัวไปด้วยมากอย่างที่พ่อนึกไม่ถึง อย่าคิดว่าไม่ให้เงินแล้วจะไม่เสียคนนะพ่อน้า คนสิ้นคิดถึงกับขายตัวก็มีไม่น้อย พ่อคงลืมข้อนี้ไป

แต่เราอยากให้ได้อย่างใจพ่อ เราก็ไม่ค่อยได้ใช้เงินเกินห้าปอนด์นอกจากเรื่องจำเป็นจริงๆ เราอยู่ที่นั่นใช้เงินน้อย เพราะตัวเล็ก ฝรั่งนึกว่าเด็ก ได้ราคาเด็กตลอด เราไม่จำเป็นต้องโกหก เค้าเห็นเราเค้าก็ขายราคาเด็กหมด ไม่ว่าจะดูหนัง ซื้อตั๋วต่างๆ

แต่ถ้าจะทำตามเงื่อนไขของพ่อจริงๆ ก็มีเรื่องหนึ่งที่ต้องเฝ้ารออย่างทรมานใจมาก นั่นคือ พ่อให้ตั๋วเครื่องบินเพียงเที่ยวไป ถ้าไม่เรียนให้ดีก็ไม่ต้องได้เที่ยวกลับ ขนาดนั้น เราฝันร้ายบ่อยๆว่าไม่ได้กลับบ้านทั้งที่เรามีเงินกลับได้เอง บางครั้งตกใจตื่นขึ้นมาเหงื่อเต็มตัวทั้งที่อุณหภูมิเกือบติดลบ

แต่วันหนึ่ง คุณแม่ก็ส่งข่าวไปบอกว่า มีธุระต้องให้ช่วยทำ ให้กลับมาช่วยสักพักแล้วค่อยกลับไปใหม่ เราก็มีหน้าที่รอตั๋วเครื่องบินสิ ถูกไหมล่ะ แต่รอแล้วรออีก ตั๋วก็ไม่ไป จนทนไม่ได้ต้องไปซื้อตั๋วเอง แล้วจึงได้กลับมารู้ว่าทำไมตั๋วจึงไม่ไป พ่อโดนหุ้นส่วนซึ่งต้องดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของเราที่อังกฤษด้วยโกงซะเละสิคะ แถมยังป่วยมากอีกด้วย เราก็เลยได้ใช้เงินส่วนตัวที่เป็นค่าแรงจากคุณแม่ กลับมาล้างเช็ดทุกสภาพเละเทะ แต่กว่าจะล้างเช็ดกลับสู่สภาพเดิมได้ก็ผ่านไปหลายปี จนต้องตัดสินใจทิ้งการเรียนที่อังกฤษไปโดยปริยาย การเรียนของเรากลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหลังอายุผ่านไป 30 ปี เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียน

เป็นอันว่า ชีวิตก็จบไปอีก 1 episode เริ่ม episode ใหม่พร้อมด้วยคนข้างกายทุกวันนี้ ชีวิตสงบสุขจนเหมือนกับว่าจะชดเชยความยากลำบากในครั้งกระโน้น เชื่อเถอะว่า ถ้าเรามีจุดหมายในการใช้ชีวิต และใช้อย่างมีสติ เราจะไม่มีวันอับจน ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง อุปสรรคคือหนทางสำเร็จ ท่านว่าไว้ และเพราะเราถูกหล่อหลอมมาด้วยการอบรมของพ่อแม่ที่มีวิธีการต่างกันจนเป็นเราที่ไม่เคยยอมแพ้ความยุ่งยากในชีวิต ล้มบ้างลุกบ้างก็จะมีเวลายืนได้อย่างมั่นคง

ป.ล.ท้ายเรื่อง
ช่วงนี้เรารู้สึกได้ว่า การร่วมกิจกรรมโหวตเปลี่ยนแปลงไปมาก การแนะนำโหวตมีผลน้อย เพื่อนๆมักโหวตตามที่เห็นสมควร ซึ่งเราก็ว่าดีค่ะ เคยดูผลโหวตในหน้า Top Blogs พบว่า 1 เอนทรี่ของเราได้โหวตตั้ง 3 หมวด สนุกดี ไว้รอดูผลตอนจบ มีลุ้นละที่นี้

ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต

Diarist

Create Date :04 เมษายน 2562 Last Update :16 เมษายน 2562 13:43:50 น. Counter : 1190 Pageviews. Comments :55