พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เจ้าของคดีฆ่าเผาอำพรางเผยเตรียมเข้าสอบปากคำสองผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าเผาอำพรางในอพาร์ตเมนต์ภายในซอยย่อยนาทอง 8 หลังสาวข้างห้องที่สำลักควันไฟ นอนพักรักษาตัวที่ รพ.พระราม 9 เสียชีวิตแล้ว คาดข้อเท็จจริงใกล้ปรากฏ รอแพทย์อนุญาตให้เข้าสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งสองได้ หากพบมีความเกี่ยวข้องเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาหนักเพิ่มอีกกระทง

       เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) ร.ต.ท.ปวิณวิช เสนาแปลง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เจ้าของคดี กล่าวถึงกรณีจากกรณีเหตุเพลิงไหม้ห้องพักเลขที่ 306 ชั้น 3 อพาร์ตเมนต์เลขที่ 658 ถนนรัชดาภิเษก 7 ซอยย่อยนาทอง 8 แขวงและเขตดินแดง ทำให้นายจิรายุ เวชจันทร์ อายุ 26 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโกเสียชีวิต โดยมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่บริเวณแผ่นหลังกว่าสิบแผลและยังมีแกลลอนทินเนอร์ จำนวน 2 แกลลอนอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ประกอบด้วยนายรังสรรค์ ปัญญาสืบ อายุ 22 ปี ถูกไฟคลอกตามร่างกายทั่วร่าง 80 เปอร์เซ็นต์ นำส่ง รพ.จุฬาฯ, น.ส.กัญญ์ณัฐ ญาณ์สังข์ชัย หรือชื่อใหม่ น.ส.ศิวัชญา เสียงสง่า อายุ 19 ปี ถูกไฟคลอกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ นำตัวส่ง รพ.เลิดสิน ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่มาพักกับผู้ตาย และ น.ส.นุสรา นัยเนตร อายุ 28 ปี ผู้พักอาศัยห้องข้างเคียงในอพาร์ตเมนต์ มีอาการสำลักควันจนหมดสติ ถูกนำตัวส่ง รพ.พระรามเก้า ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายจิรายุน่าจะถูกฆ่าและเผาอำพรางคดี โดยตั้งประเด็นสังหารว่าเป็นเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับการหยิบยืมเงิน เนื่องจากนายจิรายุกับนายรังสรรค์เป็นเพื่อนสนิทกัน และนายรังสรรค์เคยยืมเงินนายจิรายุหลายครั้งรวมกว่า 2 หมื่นบาท โดยก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นนายรังสรรค์กับ น.ส.ศิวัชญา เดินทางมารอพบนายจิรายุ ก่อนจะมีปากเสียงกันหลายครั้งตั้งแต่ด้านหน้าหอพักจนเดินขึ้นห้องพักของผู้ตาย ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้

       จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ที่บริเวณปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ย่านเทียนร่วมมิตร สามารถจับภาพนายรังสรรค์กับ น.ส.ศิวัชญาไว้ได้ขณะที่ขับขี่จักรยานยนต์ไปซื้อน้ำมันภายในปั๊มดังกล่าว จึงทำการอายัดตัวทั้งคู่ไว้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย คือ นายรังสรรค์ พักรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ มีอาการสาหัสจากการถูกไฟไหม้ทั่วร่างกาย รวมถึงบริเวณปากทำให้ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ ส่วน น.ส.ศิวัชญาอยู่ในห้องปลอดเชื้อเช่นกัน โดยมีอาการดีขึ้นมากสามารถพูดคุยได้บ้างแล้ว จึงมอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลทางคดี ทั้งนี้หากผลการสอบสวนชี้ชัดว่าทั้งสองคนมีส่วนในการก่อเหตุ ก็เตรียมที่จะแจ้งข้อหาร่วมกันวางเพลิงโรงเรือนผู้อื่นทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเพิ่มเติมต่อไป เนื่องจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันเสียชีวิตแล้ว

       ด้าน พ.ต.ท.รณกร วงศ์ภู่มณี สว.สส.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า หลังได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดบริเวณปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องบริเวณซอยรัชดาภิเษก 7 กับ 10 เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ดียังต้องรอผลการชันสูตรศพจากทางนิติเวชก่อน ส่วนการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นขณะนี้ทางแพทย์ยังไม่อนุญาตให้สอบปากคำได้เนื่องจากเกรงว่านายรังสรรค์กับ น.ส.ศิวัชญาจะติดเชื้อ จึงต้องรอให้อาการดีขึ้นมากกว่านี้ โดยในรายของ น.ส.ศิวัชญาคาดว่าจะดีขึ้นและสอบปากคำได้ภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้หากสามารถสอบสวนทั้งสองและได้ผลตรวจทางนิติเวชทั้งเรื่องศพและคราบเลือดบนเสื้อผ้าที่พบ คดีก็จะชัดเจนขึ้น