bloggang.com mainmenu search


ศาลอุทธรณ์จำคุก 1 ปี แต่ให้รอลงอาญา “สีกาแอน” ภรรยาอดีตพระมิตซูโอะ ปลอมแปลงสัญญาจ้างออกแบบสถาปัตยกรรมคอนโดมิเนียม

       ที่ศาลอาญา วันนี้ (21 พ.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ อ.2289/2552 ที่ นายกมล เอี้ยวศิวิกูล อาชีพนักธุรกิจ เป็นโจทก์ฟ้องนางสุธาสินี มุตตามระ หรือเสตะพันธุ์ หรือสีกาแอน อายุ 52 ปี ภรรยาของนายมิตซูโอะ ชิบาฮาชิ หรืออดีตพระมิตซูโอะ เป็นจำเลยในความผิดฐานยักยอก ปลอมและใช้เอกสารปลอม และ พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม มูลนิธิ พ.ศ. 2499

       โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 พ.ย. - 28 ธ.ค. 2550 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันปลอมสัญญาว่าจ้างออกแบบงานสถาปัตยกรรมคอนโดมิเนียมของบริษัท ควอลิตี้ เวเคชั่น คลับ จำกัด ทั้งฉบับ โดยอ้างว่าบริษัทดังกล่าวได้ตกลงว่าจ้างบริษัท ต้นศิลป์ สตูดิโอ จำกัด จะทำการก่อสร้างตกลงค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้าง 12 ล้านบาท สัญญาดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม เนื่องจากบริษัท ควอลิตี้ฯ ไม่เคยว่าจ้างบริษัท ต้นศิลป์ เป็นเหตุให้บริษัทควอลิตี้และโจทก์ในฐานะผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย

       โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2555 ลงโทษจำคุกจำเลยฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม 2 ปี และฐานเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทจำกัด กระทำการหรือยินยอมให้กระทำการเพื่อลวงให้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 3 ปี ไม่รอการลงโทษ จำเลยยื่นอุทธรณ์

       ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยอุทธรณ์ว่าขาดเจตนาในการลงชื่อในสัญญาว่าจ้างดังกล่าว เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นสัญญาว่าจ้าง 7 ฉบับของบริษัทอื่น และไม่ได้เป็นผู้ประทับตราของบริษัทในสัญญาว่าจ้าง เห็นว่าจำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท ควอลิตี้ ย่อมต้องใช้ความระมัดระวังในการลงชื่อ การว่าจ้างบริษัท ต้นศิลป์ 12 ล้านบาท หากเป็นการสำคัญผิด จำเลยสามารถอ้างเพื่อยกเลิกสัญญาได้แต่จำเลยไม่ได้ดำเนินการ กลับจ่ายค่าจ้างให้แก่บริษัท ต้นศิลป์ เป็นเจตนาว่าจำเลยว่าจ้างบริษัท ต้นศิลป์ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

       มีประเด็นวินิจฉัยอุทธรณ์สมควรลงโทษสถานเบาหรือไม่ เห็นว่า เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องถึงรายละเอียดของการว่าจ้างและอื่นๆ ทำให้อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 จึงเห็นควรแก้โทษให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี อีกทั้งโจทก์และจำเลยสามารถตกลงยอมความกันและถอนฟ้องคดีที่ต่างฝ่ายต่างยื่นฟ้องกันและกัน แต่ความผิดคดีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดินไม่สามารถถอนฟ้องได้ นอกจากนี้จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้รอการลงโทษจำเลย

       พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดฐานทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคแรก 268 วรรคสอง ลงโทษจำคุก 1 ปี โทษจำคุกรอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี ความผิดฐานอื่นให้ยกฟ้อง


//www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000144788
Create Date :22 พฤศจิกายน 2556 Last Update :22 พฤศจิกายน 2556 21:18:45 น. Counter : 1526 Pageviews. Comments :0