bloggang.com mainmenu search
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น เปิดคำร้องฝากขังแฉพฤติการณ์ “พงศ์พัฒน์” ซื้อ-ขายตำแหน่ง รับส่วยค้าน้ำมันเถื่อน เปิดบ่อนแอบอ้างเบื้องสูง เจ้าหน้าที่นำตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เข้าฝากขัง
เปิดคำร้องฝากขังแฉพฤติการณ์ “พงศ์พัฒน์” ซื้อ-ขายตำแหน่ง รับส่วยค้าน้ำมันเถื่อน เปิดบ่อนแอบอ้างเบื้องสูง
เปิดคำร้องฝากขังแฉพฤติการณ์ “พงศ์พัฒน์” ซื้อ-ขายตำแหน่ง รับส่วยค้าน้ำมันเถื่อน เปิดบ่อนแอบอ้างเบื้องสูง
เปิดคำร้องพนักงานสอบสวน ระบุพฤติการณ์ “พงศ์พัฒน์” และ พวก รับเงินซื้อตำแหน่ง 3 - 5 ล้าน รวมกว่า 50 ล้าน เรียกรับส่วยค้าน้ำมันเถื่อนอู้ฟู่ เดือนละ 1 - 2 ล้าน รวมแล้ว กว่า 150 ล้าน แถมเปิดบ่อนแอบอ้างเบื้่องสูง พร้อมคัดค้านประกันตัวเกรงผู้ต้องหาหลบหนี

       วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ควบคุมตัว พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อดีต ผกก.4 บก.ปคบ. ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ผู้บังคับหมู่ บก.ปพ. ซึ่งเป็นคนขับรถของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ด.ต.ฉัตรินทร์ หรือ จักรินทร์ เหล่าทอง ผู้บังคับหมู่ บบก.ปพ. ผู้ต้องข้อหา คดีเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149 และ 157 และ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

       ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 และ 47 และ นายชอบ กับ นางปิยพรรณ ชินนะประภา สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ ซึ่งเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา มาเพื่อจะยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. - 5 ธ.ค. 57 เนื่องจากยังสอบปากคำพยานไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งยังต้องรอผลตรวจประวัติผู้ต้องหา และอื่นๆ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษร้ายแรง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

       อย่างไรก็ดี เมื่อจะดำเนินการต่อศาล ปรากฏว่า ในส่วนของนายชอบ และ นางปิยพรรณ พนักงานสอบสวนยังทำสำนวนคำร้องไม่เป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งสองกลับไปควบคุมตามกฎหมาย ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงก่อน และจะนำตัวมายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกใหม่ในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.)

       ขณะที่ศาลได้พิจารณาคำร้องฝากขัง พ.ต.อ.วุฒิชาติ, ด.ต.สุรศักดิ์, ด.ต.ฉัตรินทร์ และ นางสวงค์ ผู้ต้องหาทั้งสี่แล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาเวลา 16.30 น. ญาติของนางสวงค์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ มูลค่า 1 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และระหว่างรอการพิจารณา ศาลอออกหมายขังส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

       ภายหลัง พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.อคฝ. กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายให้นำตัวผู้ต้องหามาฝากขังเพียง 4 คน ส่วนที่เหลือได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจชาติว่าไม่ประสงค์จะนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาล เข้าใจว่าคงได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนแล้ว

       ต่อมาเวลา 17.45 น. พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ, เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ, เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149 และ 157 และ พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 โดยใช้รถตู้สีขาวสามคัน มีรถวิทยุ 191 นำหน้าและปิดท้ายขบวน ขณะที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งสวมชุดลำลองเสื้อคอกลมสีขาว มีสีหน้าเคร่งเครียด เดินลงจากรถตู้มาคนแรก และถูกคุมตัวเข้าห้องพิจารณาฝากขังทันที

       โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2553 – 11 พ.ย. 2557 ขณะที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสอบสวนกลาง มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ได้สมรู้ร่วมคิดกับพล.ต.ต.บุญสืบ พ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิ่มรัตน์ อดีต ผกก.1 ป. และ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เรียกรับเงินจากข้าราชการตำรวจที่ประสงค์จะไปดำรงตำแหน่งสำคัญๆ รายละ 3 - 5 ล้านบาท เพื่อที่จะไปรับตำแหน่ง โดยจะมีการส่งเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นรายเดือน รวมแล้วเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท ส่วนพล.ต.ต.บุญสืบ พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ธ.ค. 2554 - 18 ก.ค. 2557 ขณะที่ผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ ได้มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าส่วยน้ำมันเดือนละ 1 - 2 ล้านบาท ส่งเงินให้กับ พล.ต.ต.โกวิทย์ จำนวน 35 ล้านบาท และส่งเงินให้กับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นเงินจำนวน 118 ล้านบาท

       ขณะที่ พล.ต.ต.โกวิทย์ พนักงานสอบสวนระบุว่า มีพฤติการณ์เปิดบ่อนการพนัน (ถั่วครอบ) ย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนยังจะต้องสอบปากคำพยานกว่า 50 ปาก รอผลการตรวจประวัติผู้ต้องหา จึงขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. - 5 ธ.ค. 2557 โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสอนได้คัดค้านการประกัน เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพนักงานสอบสวน

       ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ราขทัณฑ์ได้นำตัว พล.ต.ต.โกวิทย์ และ พล.ต.ต.บุญสืบ และผู้ต้องหาชายที่ไม่ได้ประกันรวม 5 คน ไปควบคุมตัวต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

       ส่วน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ผู้ต้องหาอีกราย เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจนครบาล โดยไม่ระบุพื้นที่ว่าจะนำไปสน.ใด และหลังจากสอบสวนเสร็จแล้วจะส่งตัวเข้าไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป ขณะที่นางสวงศ์ ผู้ต้องหาหญิงนั้นจะนำไปควบคุมตัวที่ทัณทสถานหญิงกลาง
Create Date :24 พฤศจิกายน 2557 Last Update :24 พฤศจิกายน 2557 21:47:02 น. Counter : 1700 Pageviews. Comments :0