28 ปี มาแล้ว ที่พ่อจากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ จากไปโดยไม่มีสัญญาณใดๆ เตือนล่วงหน้า พ่อขึ้นไปนอนฟังวิทยุข้างบนห้องนอน เหมือนที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน พ่อชอบนอนเล่นเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ ฟังข่าววิทยุช่วงหัวค่ำ พ่อไม่ค่อยชอบดูทีวี แต่ใครจะคาดคิดว่า พ่อหลับอยู่บนเก้าอี้นั้นและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
เรากับพ่อ จะสนิทกันมาก คงเป็นเพราะว่าเราเป็นลูกคนเล็ก ตอนเด็กๆ เวลาไปไหน พ่อมักจะหอบหิ้วกระเตงเราไปด้วยเสมอ เราชอบมากที่สุด เวลาฝนตก เพราะหมายถึงเราจะได้ขี่หลังพ่อให้พาไปส่งที่โรงเรียน สมัยก่อนฝนตก น้ำท่วมถนน ปกติเราจะเดินไปโรงเรียน เพราะบ้านกับโรงเรียนก็ไม่ไกลกันนัก
พ่อเป็นคนดุ แต่ไม่เคยตีลูกคนไหน แค่สายตามอง พวกเราก็ร้อนๆ หนาวๆ กันหมดแล้ว
พ่อเกิดที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พ่อเคยทำงานมาหลายอาชีพ เป็นครู ล่าม ช่างทำรองเท้า วิทยุการบิน จนสุดท้ายก่อนเกษียณ พ่อทำงานที่ UN ตอนที่พ่อไปทำงานที่เนปาล เรากับแม่ก็ตามไปอยู่ด้วย ตอนนั้นเรายังเล็กอยู่
เรากับพ่อชอบทานน้อยหน่าเหมือนกัน แล้วก็ชอบแย่งกันจนแม่ต้องหัวเราะ แต่พ่อไม่ชอบเปลือกของขนุน พ่อบอกว่า เห็นแล้วมันขยะแขยง ชวนขนลุก เรามีกัน 5 คนพี่น้อง ทุกๆ เย็น พ่อจะต้องบังคับให้ทุกคนนั่งอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ อ่านแล้วก็ต้องแปลให้ฟังด้วย เวลาเราแปลภาษาอังกฤษทีไร พ่อต้องหัวเราะก๊ากทุกที พ่อบอกว่า ไอ้นี่ มันมั่วเก่ง เพราะว่าแปลไปคนละทิศละทาง จนพี่ๆ เค้าโตกันหมด เหลือเรานั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว วันไหนพ่อมีแขกมาหาที่บ้าน วันนั้นเราไม่ต้องอ่านหนังสือ ดีใจที่สุดเลย
พ่อชอบร้องเพลง กุหลาบในมือเธอ แล้วก็ชอบร้องให้ฟัง เราฟังทีไร ต้องบอกว่า ไม่เห็นจะเพราะเลย พ่อชอบเล่าเรื่องสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ฟัง จนพวกเรานั่งอ้าปากหวอกันเป็นแถวๆ ความโหดร้ายทารุณของสงคราม เหมือนในนิยายเรื่อง คู่กรรม ไม่มีผิดเลย
พ่อเคยผ่าตัดหัวใจ ตอนแรกใครๆ ก็คิดว่าคงจะไม่รอด แต่พ่อก็อยู่ต่อมาอีกหลายสิบปี เหล้า บุหรี่ พ่อเลิกหมด กินแต่อาหารจำพวกผัก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พ่อเคยเป็นครูสอนรำมวยไทเก๊กที่วัดราชนัดดา หลังเลิกงานพ่อจะต้องไปเป็นประจำ พ่อเคยให้เราอ่านตำรา รำไทเก๊ก อัดเสียงใส่เทป เพื่อจะไปเปิดให้คนอื่นทำตาม ตอนแรกๆ ก็ดีอยู่หรอก แต่เพราะความเป็นเด็ก เริ่มขี้เกียจ อ่านซะเร็วปรื๋อ จนพ่อบอกว่า อ่านซะเร็วปรื๋อแบบนี้ ใครเค้าจะไปทำตามได้ทัน เป็นลมตายกันหมดพอดี เราก็เลยไม่ต้องอ่าน นิสัยไม่ดีนะนี่...
เขียนวันนี้ ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงพ่อเท่านั้นเอง เพราะนี่ก็จะครบถึงวันที่พ่อจากไปแล้ว วันที่นำร่างของพ่อใส่โลงสี่เหลี่ยมสีขาว เรายังใส่รองเท้าผ้าใบให้พ่อ แล้วก็บอกกับพ่อว่า พ่อจะได้เอาไว้ใช้ ตอนไปสอนเทวดารำมวยไทเก๊กบนสวรรค์...ป่านนี้ เทวดาคงรำมวยไทเก๊กกันเก่งหมดแล้วเนอะ..พ่อเนอะ
โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 21 กันยายน 2554 13:43:01 น.
โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 21 กันยายน 2554 13:43:41 น.
ปอยก็เป็นเช่นนั้นค่ะคุณอา
แต่พ่อปอยไม่ดุนะค่ะ และไม่เคยดุไม่เคยตีปอยแม้แต่ครั้งเดียวด้วย
ตอนเด็กๆ พ่อมักพาปอยกระเตงๆ ไปโน่นนี่ค่ะ
พ่อชอบปั่นจักรยานและปอยก็จะซ้อนท้ายในทุกๆ เย็น
การจากลาของคนที่เรารัก
มักเป็นความทรงจำดีดีเสมอค่ะคุณอา
ปอยก็มักจะคิดถึงพ่อเสมอค่ะ
ไม่คิดเหมือนกันว่าพ่อจะไปและไม่กลับมา
สักวันเราก็คงจะเป็นเช่นนั้นค่ะ .... โอว้ อนิจจัง
โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 21 กันยายน 2554 13:50:37 น.
พ่อเราสองคนคล้าย ๆ กันเลยค่ะ
พ่อจะจ้างครูพิเศษมาสอนภาษาจีนที่บ้านทุกวันหลังเลิกเรียน ตอนนั้นเบื่อมากแต่ก็ทำให้เราเรียนวิชาภาษาจีนได้เกรด 4 ในระดับอุดมศึกษา แต่ตอนนี้ก็ลืมหมดแล้วค่ะ
คิดถึงพ่อเนอะ เขียนบล๊อกไว้เหมือนกันแต่เก็บไว้อ่านคนเดียวค่ะ เพราะมีเรื่องต้องคุยกับพ่อเยอะแยะ
ลูกเดือยเปียกเผือกที่พี่เปี๊ยกบอกมา คิดว่าเปลี่ยนเป็นลูกเดือยเปียกแปะก๊วยมะพร้าวอ่อนจะดีกว่ามั๊ยคะ
โดย: เนินน้ำ 21 กันยายน 2554 17:39:12 น.
พ่อเราต้องอยู่ถึง 100 เราห้ามพ่อ
ไปก่อนนั้น ตัวลืมห้ามใช่ม้า..
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) 21 กันยายน 2554 19:54:02 น.
แต่ก่อนมีบัณฑิตผู้มีความรู้สูงคนหนึ่ง เนื่องจากอยากหาความรู้ทางด้านการนั่งฌานสมาธิ จึงไปเยี่ยมคำนับพระอาจารย์ผู้ชำนาญทางฌานสมาธิ พระอาจารย์เห็นบัณฑิตมีความสนใจทางนี้ก็มีความยินดี จึงต้อนรับบัณฑิตผู้คิดว่าตนเองมีความรู้สูงด้วยน้ำชาจีน พระอาจารย์ได้รินน้ำชาใส่จอกให้บัณฑิต แม้ว่าน้ำชาจะเต็มจอกแล้ว แต่ท่านก็ยังรินใส่ไปเรื่อย จนล้นจอกแล้วก็ยังไม่มีทีที่ท่าว่าจะหยุดริน จนบัณฑิตอดรนทนไม่ไหวจึงพูดขึ้นว่า อาจารย์ครับ น้ำชาล้นจอกแล้วอย่ารินอีกเลย พระอาจารย์หัวเราะกล่าวว่า โยมเอ๋ย ฌานสมาธิเป็นวิชาที่ยากจะเข้าใจอย่างหนึ่ง ไม่เหมือนกับวิชาทางโลก ดังนั้นการจะถามฌานสมาธิ ขั้นแรกจะต้องปล่อยใจให้ว่างเปล่า อย่างเช่นโยมขณะนี้สมองเต็มไปด้วยวิชาความรู้ และความคิดเห็นของตนเอง แบบนี้จะให้อาตมาสอนอะไรได้อีกเล่า เว้นแต่ว่าโยมจะสามารถทำสมองให้ว่างเปล่าจากทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในขณะนี้เสียก่อน มิเช่นนั้นอาตมาก็ไม่มีทางสอนอะไรให้ได้ ถึงแม้ว่าอาตมาสอนก็คงเหมือนเช่นเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ สุดท้ายก็ไม่เกิดประโยชน์ โยมลองนึกคิดดูสิ น้ำชาเต็มจอกแล้วยังสามารถจะใส่น้ำชาได้อีกไหม?
พระอาจารย์กล่าวต่อว่า "ดังนั้นขอให้โยมวันหลังค่อยมาใหม่ เมื่อถึงเวลานั้นอาตมาเชื่อว่าโยมจะได้รับความรู้ยิ่งกว่าวันนี้" บัณฑิตหัวเราะกล่าวว่า วันนี้ผมก็ได้รับความรู้ไม่น้อยแล้ว ว่าแล้วก็นมัสการลากลับไป
โดย: พันคม 21 กันยายน 2554 23:37:58 น.
กะเต็งคุณเปี๊ยกไปด้วย อยากจะมี
แบบนั้นบ้าง. ความใกล้ชิด ทำ
ให้ได้ความรู้จากคุณพ่อเยอะมา เท่า
ที่คุณเปี๊ยกเล่าให้ฟังนะครับ.
ส่วนผมแหะ ๆ จำไม่ได้ครับ นานแสน
นานไปแล้ว.
เมื่อกี้แว๊ปเข้าไปอ่าน วัยหวาน จำได้
เลยว่า ผมเคยเข้าไปอ่านนานมาแล้ว
เท่ากับผมรู้จักคุณเปี๊ยกนาน ยังจำเรื่อง
การส่งกระเป๋าได้ดี น่ารักครับ.
โดย: ไวน์กับสายน้ำ 22 กันยายน 2554 5:37:51 น.
ช่วงนี้ฝนตกทุกวันเลย
บางวันเนี่ย ตกทั้งวันทั้งคืน
ทำเอาแอบเซ็งเหมือนกันนะคะเนี่ย
เพราะมันรู้สึกว่าเฉอะแฉะยังไงก็ไม่รู้แฮะ
มีความสุขกับเดือนสุดท้ายของปีค่ะ
โดย: fonrin 22 กันยายน 2554 7:06:35 น.
ลูกเดือยเปียกแปะก๊วยมะพร้าวอ่อน รอคิวนิดนึงนะคะพี่ ไม่เกินช่วงกินเจแน่นอนค่ะ เพราะตอนนี้เมนูในดร๊าทป์มีเป็นสิบแล้วค่ะพี่ ช่วงนี้ต้องชะลอของหวานบ้างค่ะ
โดย: เนินน้ำ 22 กันยายน 2554 8:17:33 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่เปี๊ยก
คุณพ่อท่านก็คงคิดถึงเราเหมือนกัน
ผมก็คิดถึงพ่อครับ
โดย: panwat 22 กันยายน 2554 8:49:25 น.
น้องปอย (คนสวยสิเน่หา อิอิ)
+====================+
ขอร่วมแสดงความระลึกถึงคุณพ่อ จขบ.
และขอบคุณที่คิดถึงกันเสมอมาค่ะ
ณ บ้านนอก น้ำบ่ท่วม.. แต่ฝนเริ่มตกกระหน่ำ
(ตามพยากรณ์ลมฟ้าอากาศที่แม่นยำ อิอิ)
ซึ่งอยู่เย็นเป็นสุขดีท่ามกลางสายพิรุณ
สาย ๆ จะออกไปคืนหนังสือนิยายที่ ห้องสมุด ปชช.
แล้วก็จะเลยไปตัดผมสั้นกว่าเดิม
ทรงเดียวกับมาร์กี้ + โดนัทประมาณนี้ค
(อาเปี๊ยก จะได้จิ้นตามภาพถูกค่ะ อะคึ่ ๆ )
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 22 กันยายน 2554 9:15:26 น.
+===================+
สถานการณ์(ระเบิด) แถวบ้านปกติสุขดีแล้วหรือยังคะ
จนท. สรุปสาเหตุเกิดจากอะไร
ช่วยส่งข่าวให้ทราบด้วยค่ะ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 22 กันยายน 2554 17:09:09 น.