bloggang.com mainmenu search
ช่วงปีใหม่ได้เดินทางไปเชียงใหม่กับครอบครัว ไม่ได้ไปเชียงใหม่มานาน 5 ปีแล้ว เป็นการเดินทางแบบกระทันหัน ไม่ได้มีการนัดหมายกันก่อน เพราะนัดทีไรก็มักจะเหลวทุกที











ออกจากกรุงเทพฯประมาณ 2 ทุ่ม ของคืนวันที่ 30 ธันวา ก็ขับรถมาเรื่อย ๆ รถติดตลอดทางไปจนถึงถนนสายเอเชีย พอแยกสายอีสานกับสายเหนือ ก็ขับรถวิ่งได้สบาย ๆ ขับไปหยุดพักไป ไม่ได้รีบร้อน คนขับก็ขับคนเดียว เพราะเราขับรถไม่เป็น ส่วนลูกสาวก็หลับสบายอยู่เบาะหลัง สังเกตเห็นว่า ปั๊ม ปตท. คนมักจะแน่นทุกปั๊ม มาหยุดพักนอนหลับเอาแรงสักงีบ ตอนประมาณตีสอง เกือบถึงกำแพงเพชรแล้ว พอตี 4 ก็ออกเดินทางต่อ ผ่านจังหวัดตาก ที่เราเคยอยู่ เคยทำงานที่นี่เมื่อ 25 ปีก่อน ตาก ณ วันนี้ เปลี่ยนแปลงไปมากเลย ผ่านเส้นทางที่เราเคยมาวิ่งออกกำลังตอนเย็น ๆ หลังเลิกงาน วิ่งไปเก็บพุทราป่ากินไปเรื่อย ตอนนี้ต้นพุทราไม่มีแล้ว ถูกตัดทำถนน ขยายถนนหมดแล้ว ผ่านจังหวัดตาก หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง มันมีความรู้สึกเหมือนได้กลับมาบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่ ภาพในอดีตเริ่มกลับเข้ามาเด่นชัดในใจอีกครั้ง





เมื่อ 20 กว่าปีก่อน พอเรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ก็เดินวิจัยฝุ่นอยู่เกือบ 2 ปี เพราะไม่ได้ไปสมัครงานตามบริษัทเอกชนเลย มุ่งแต่สอบเข้ารับราชการอย่างเดียว ไปสอบ ก.พ. ได้ลำดับที่ 200 จากคนที่สมัครสอบในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเทศน์สัมพันธ์ รวม 4,000 คน ขึ้นบัญชีไว้ 400 คน สมัยก่อนคนสมัครเข้ารับราชการเป็นพันคนก็ว่าเยอะแล้วนะ สมัยนี้เป็นหมื่นเป็นแสน การแข่งขันยิ่งสูงกว่าเมื่อก่อนหลายร้อยหลายพันเท่า น่าเป็นห่วงเด็กรุ่นหลัง ๆ จริง ๆ หลังจากที่สอบ ก.พ.ได้ปีกว่า ๆ ก็มีการเรียกตัวไปสัมภาษณ์ ก่อนหน้านี้ก็มีส่วนราชการอื่น ๆ ที่ขอใช้บัญชีของ ก.พ.เรียกไปสอบอยู่หลายครั้ง ไปสอบข้อเขียนใหม่ก็มี แต่ก็ไม่ได้ จนครั้งล่าสุด ก.พ.เรียกไปสอบสัมภาษณ์ ดวงคนเรานะ มันจะต้องไปทางนี้ แค่สัมภาษณ์อย่างเดียว พอวันประกาศผลสอบ ปรากฏว่าสอบได้ที่ 2 ตอนนั้นเท่าที่รู้ เค้ามีตำแหน่งว่างอยู่ต่างจังหวัดทั้งนั้น พี่สาวบอกว่าให้เลือกไปศูนย์รับผู้อพยพ อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์เลย ตอนนี้เรายังเด็กไปอยู่ไกล ๆ หาประสบการณ์ชีวิตดีกว่า วันที่ ก.พ.ให้ไปรายงานตัว เราได้เลือกเป็นคนแรก เพราะคนที่สอบได้ที่ 1 สละสิทธิ์ วันนั้นก็ได้รู้เพิ่มเติมว่า มีตำแหน่งว่างใน กทม.ด้วย พี่ของสำนักงาน ก.พ. ก็บอกให้พวกเรามาคุยกันก่อน เพราะบางคนอาจจะไปต่างจังหวัดไม่ได้ บางคนไปได้ไม่มีข้อขัดข้อง ก็ให้มาคุยกัน ตกลงกันซะให้ดี ก็ปรากฏว่ามีคนหนึ่งเค้าคงคิดว่าเราคงเลือกสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมแน่ ๆ เพราะอยู่ใน กทม. ก็มาคุยกับเรา บอกว่าเค้าไปต่างจังหวัดไม่ได้ ทางบ้านคงไม่ให้ไป ถ้าหากเค้าไม่ได้ลงใน กทม.ก็คงต้องสละสิทธิ์ แต่มันก็น่าเสียดายมาก ก็เลยบอกเค้าว่า สบายใจได้ เราเลือกศูนย์รับผู้อพยพ อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ พอพี่ที่ ก.พ.ถามเราว่าจะเลือกลงที่ไหน เพราะเป็นคนแรกที่มีโอกาสได้เลือกก่อน พอเราบอกว่าศูนย์รับผู้อพยพ อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ทุกคนในห้องร้องโอ้โห เพราะเราตัวเล็กนิดเดียว พี่เค้าบอกว่า เก่งจัง ไปอยู่ได้แน่นะ เพราะที่นั่นติดชายแดนประเทศลาว ส่วนคนนั้นเค้าก็เลือกลงสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เห็นมั๊ย win - win กันทั้งคู่เลย แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยที่ได้มาอยู่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยจนกระทั่งทุกวันนี้











หลังจากนั้นพวกเราที่เลือกลงบรรจุเข้ารับราชการที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ประมาณ 30 คน ก็ต้องมาปฐมนิเทศก่อนแยกย้ายกันไปทำงานตามที่ตัวเองเลือก ที่ศูนย์สื่อสาร วิสุทธิกษัตริย์ เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 - 26 กันยายน 2527 ก็มีพี่ๆ มาให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ แก่พวกเรา เช่น สิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ ระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับข้าราชการพลเรือน ส่วนเราและเพื่อน ๆ ต่างก็ศึกษาหาข้อมูลของจังหวัดที่ตัวเองจะต้องไปทำงาน เราเองก็ศึกษาว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชื่ออะไร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดชื่ออะไร อะไรเป็นของดีของเด่นของจังหวัด คำขวัญ ฯลฯ แล้วก็ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปอุตรดิตถ์เรียบร้อยโดยมีพี่สะใภ้ไปเป็นเพื่อนครั้งนี้





จนกระทั่งวันสุดท้ายของการปฐมนิเทศ กองการเจ้าหน้าที่ ก็แจกหนังสือส่งตัว ปรากฏว่าเราได้รับหนังสือที่เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เรางงมาก ก็เลยถามพี่เค้าว่า เราเลือกไปอุตรดิตถ์ ทำไมถึงได้รับหนังสือให้ไปตาก พี่เค้าก็บอกว่า อ้าว...ไม่มีใครบอกน้องเลยหรือว่า ศูนย์รับผู้อพยพ อ.ฟากท่า น่ะ มันยุบไปแล้ว เวร..ล่ะซิ ต้องเดินทางคืนนี้ เพราะต้องเดินทางไปรายงานตัวที่จังหวัดวันที่ 27 กันยายน ก็เลยต้องรีบไปเปลี่ยนตั๋ว มาลงที่สุโขทัย แล้วก็ต่อรถไปตากอีกทีนึง ไปถึงตากตอนเช้า ก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดข้าราชการ เพื่อรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา ตอนที่เอาหนังสือส่งตัวมาให้ที่งานสารบรรณลงรับ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาเลียบ ๆ เคียงๆ อยู่ เป็นคนตัวสูงใหญ่ สูงประมาณ 180 กว่า เมื่อเราซึ่งสูงเพียง 145 ซม. มายืนเทียบกัน แลดูตัวเล็กไปเลย หลังจากนั้นก็ขึ้นไปที่ห้องสำนักงานจังหวัดตาก พอเดินเข้าไปพวกผู้ชายที่ยืนจับกลุ่มตรงโต๊ะข้างหน้า ก็พากันแตกฮือ เราก็ไม่ได้สนใจ แต่ก็นึกอยู่ในใจเหมือนกันว่าเค้าเป็นอะไรกัน มารู้ทีหลังจากการไขข้อสงสัยจากพี่แมว เจ้าหน้าที่การเงินฯ เค้าเล่าให้ฟังว่า เจ้าต๋อง(ชายตัวสูง) เที่ยวมาบอกใคร ๆ ในห้องสำนักงานจังหวัดว่า คนที่มาใหม่ รูปร่างสูง เพรียว สวยน่ารักเชียวล่ะ พวกพี่ๆผู้ชายก็เลยจับกลุ่มคุยกัน แต่พอเราเดินเข้าห้องมา ก็แตกฮือ เพราะตรงกันข้ามกับเจ้าต๋องบอกโดยสิ้นเชิง ไอ้ต๋องบ้า....อยากจะกระโดดเตะก้านคอนายนัก (แต่ก็เตะไม่ถึง) ต่อมาภายหลังเราสองคนกลายเป็นเพื่อนซี้กันไปเลย เพราะเราทำงานอยู่ฝ่ายกิจการพิเศษ (งานเกี่ยวกับผู้อพยพและชนกลุ่มน้อย) เหมือนกัน












หลังจากที่รายงานตัวกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ( กาจ รักษ์มณี) แล้ว ก็ไปหาบ้านเช่า ก็ได้หอพักนักเรียนมัธยม ใกล้ ๆ ศาลากลางจังหวัด ตรงข้ามโรงเรียนผดุงปัญญา (ตาก) เดินมาทำงานได้สบาย ๆ ช่วงนั้น เป็นช่วงปิดเทอมพอดี หอพักก็เลยเงียบมาก เป็นหอพักไม้เก่า ๆ ห้องน้ำก็อยู่นอกอาคาร ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ แล้วก็มีสัตว์ (ที่ไม่ได้) เลี้ยงเยอะ (ตุ๊กแกไง) ไปห้องน้ำที สายตาก็ต้องสอดส่องไปทั่ว เพราะเห็นแล้วมันสยอง ชวนขนลุกยิ่งนัก กลางคืนก็มีเสียงเจ้านี่ขับกล่อม ทำลายความเงียบดีนักแล บางวันก็มีหนูมาวิ่งเล่นผสมโรงอยู่ด้วย สนุกสนานกันจริงๆ





รายงานตัววันพฤหัสฯ หัวหน้าบอกว่าให้เริ่มมาทำงานอาทิตย์หน้าละกัน เรา พี่สะใภ้แล้วก็พี่ใหญ่ (พี่สาว) ที่มาจากลำปาง ก็เลยไปเที่ยวแม่สอดกัน พอวันอาทิตย์พี่ ๆ กลับกันไปหมด ก็เข้าสู่ภาวะแห่งความเหงา มาอยู่ตัวคนเดียว ในที่ที่ไม่เคยรู้จัก เป็นการอยู่คนเดียวครั้งแรกในชีวิต นึกในใจว่าต้องอยู่ให้ได้สิน่า แต่ก็อ่ะนะ.. มันเงียบมาก กลางวันก็ไม่เป็นไร อยู่ที่ทำงาน ถึงจะไม่ใช่คนช่างพูด แต่มันก็มีอะไรให้ทำ แต่พอเลิกงาน กลับมาที่หอ เหมือนอยู่ตัวคนเดียว เหมือนเป็นเจ้าแม่หอ เพราะไม่มีเด็ก ๆ อยู่เลย แต่ก็ดีนะ..บ้านตรงข้าม เป็นบ้านพักของนายช่างโยธา เค้ามีลูกสาวเล็ก ๆ เด็ก ๆ มักจะตะโกนถามว่า พี่อยู่ได้มั๊ยคะ ให้หนูไปนอนเป็นเพื่อนมั๊ย พ่อกะแม่เค้าคงบอกให้ลูกเค้าถามอีกทีน่ะ ช่างน่ารักซะจริง ครอบครัวนี้ นี่แหล่ะน๊า...ความเอื้ออาทรของคนต่างจังหวัด





ช่วงที่ไปตากตอนนั้น เป็นช่วงสิ้นปีงบประมาณ ใคร ๆ ก็เลยพากันยุ่งไปหมด เพราะต้องปิดงบ ก็เลยไม่ค่อยได้มีใครมาสอนงานเราเท่าไหร่ ก็ได้แต่มองพี่ ๆ ช่วยเค้าทำมั่งแล้วแต่เค้าจะให้ช่วยอะไร อาทิตย์แรก บ่ายวันศุกร์ ก็ขอ หัวหน้าลากลับ กทม. หน.ก็ใจดี๊ ใจดี ให้กลับ คงเป็นเพราะเอ็นดู เพราะเราเป็นน้องเล็กของที่ทำงาน อีกอย่างเห็นมันนั่งหงอย ๆ มาเกือบอาทิตย์แล้ว กลับรถเที่ยวบ่าย มาถึงหมอชิตก็ค่ำพอดี ตากห่างจาก กทม. 421 กม. รถวิ่งประมาณ 6 ชม. กลับมาถึงบ้าน แม่ทักเลยว่าทำไมผอมลง น้ำหนักลดลงตั้ง 2-3 กก. แค่ไปอยู่ตากได้อาทิตย์เดียว ก็แหม...แม่ ที่โน่นไม่มีอะไรอร่อย ๆ แบบที่แม่ทำเลย กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ แม่ก็เลยทำแกงส้ม กะต้มข่าไก่ ของโปรดให้กินซะหนำใจ แถมยังทำน้ำพริกเผาไปให้กระปุกใหญ่ ๆเลย ไม่มีอะไรกิน ก็คลุกข้าวกินก็ได้ ทาขนมปังก็ยังได้นะ











Create Date :22 กันยายน 2553 Last Update :22 กันยายน 2553 17:09:17 น. Counter : Pageviews. Comments :33