เรื่องขำๆ ที่เมืองตาก รอบแรกอยู่เมืองตากมาตั้ง 5 ปี มีเรื่องตลก ๆ ขำ ๆ เยอะ คนอื่นอาจจะไม่ขำ แต่เราก็ขำของเราน่ะ จังหวัดตาก จะเหนือก็ไม่ใช่ จะกลางก็ไม่เชิง ก็เลยเป็นครึ่ง ๆ กลาง ๆ จนผู้ว่าฯ บอกว่าสำเนียงคนตากเวลาพูดเหนือ มันเหมือนเหนือปนอิสานยังไงก็ไม่รู้ เพราะว่ามันไม่ไพเราะ เสนาะหู เหมือนกับชาวเหนือแต๊ ๆ คนที่จะพูดเหนือก็จะอยู่ อ.สามเงา อ.บ้านตาก เพราะอยู่ติดกับ จ.ลำปาง ส่วนอำเภออื่น ๆ ก็ไม่ค่อยพูดกัน บ้านเช่าที่ตาก ก็ย้ายหลายครั้ง ตอนแรกอยู่หอพักเด็กนักเรียนมัธยม แล้วก็ย้ายมาอยู่หอพักนักเรียนเทคนิค ต่อมาก็ย้ายอีกไปเป็นบ้านเช่า ซึ่งป้าเจ้าของบ้านแกมีห้องว่างแบ่งให้เช่า 2 ห้อง ก็เลยเช่าอยู่กับเจ้าติ๋มคนละห้อง ลุงเจ้าของบ้านเวลาวันเสาร์ อาทิตย์แกชอบเข้าป่า ล่าสัตว์ วันดีคืนดีแกก็จับตัวตะกวดได้ ก็เอามันมาผูกไว้ในห้องน้ำ เวลาเข้าห้องน้ำทีก็วิ่งกันกระเจิง โดนป้าว่าบ่อย ๆ ว่า เอามาผูกในนี้ทำไม ให้เอาไปไว้ใต้ถุนบ้าน ตัวมันไม่ใช่เล็ก ๆ นะ ขอบอก อีกอย่างที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คือแย้ เวลาไปตลาดนี่ แม่ค้าเค้าจะผูกเอาไว้เป็นพวง ๆ ยังวิ่งไปวิ่งมาอยู่เลย เดินตลาดเพลิน ๆ เจอเจ้าพวกนี้เข้า กระโดดตัวลอยเลย แม่ค้าหัวเราะชอบใจกันใหญ่ บางทีเจ้าติ๋มก็ซื้อมา ถามว่าจะเอามาทำอะไร พี่ไม่กินนะ เจ้าติ๋มบอกว่า จะส่งไปให้พ่อที่ จ.อุตรดิตถ์ ก็ถามว่าจะส่งไปยังไง เจ้าติ๋มก็บอกว่า ส่งทางพัสดุไปรษณีย์ เจาะรูให้มันหายใจ ก็เลยบอกว่า แล้วมันก็ดิ้นขลุกขลักกันอยู่อย่างนี้นะ บุรุษไปรษณีย์คงนึกในใจ ตัวอะไรอยู่ในนี้หว่า หุหุ... แต่ก็มีสัตว์ชนิดหนึ่งที่มากินเป็นตอนอยู่ตาก เพราะเจ้าติ๋มทำให้กิน ก็คือกบทอดกระเทียมพริกไทย ตอนมันเป็น ๆ ขายอยู่ที่ตลาดก็ไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไหร่ แต่พอเอามาทอดกระเทียม โห...อร่อยมาก แต่ก็กินได้อย่างเดียวเท่านั้น บางคนกินแย้ งูสิงห์ ฯลฯ แต่เรากินเป็นอย่างเดียวก็พอนะ จากบ้านเช่าหลังนี้ ก็ย้ายไปอยู่บ้านเช่าอีกหลังหนึ่ง เดินไปทำงานได้ ถ้าเดินลัดสนามกีฬา อยุ่รวมกันหลายคน มี 1 ครอบครัว 5 สาว 1 หนุ่ม อยู่กันคนละหน่วยงาน ครอบครัวทำงานอยู่สรรพสามิต 2 สาว 1 หนุ่ม นี่อยู่แรงงาน ส่วนอีก 3 สาว อยู่สำนักงานจังหวัด ตกเย็นก็ทำกับข้าวกินกัน มีพวกพี่ ๆ เพื่อน ๆ ชายโสด แต่ไม่สด หมายถึงโสดที่นี่ มาฝากท้องกินข้าวที่บ้านด้วย เพราะฉะนั้นตอนเย็นบ้านจะคึกคักมาก สาว ๆ แต่ละคนก็ทำกับข้าวกันอร่อย ๆ ทั้งนั้น ที่ทำอร่อยเพราะทำกับแกล้ม กินเหล้ากันเป็นประจำ ยกเว้นเราคนเดียวที่กินเหล้าไม่เป็น ส่วนเราที่ทำอร่อยคือ กุ้งแช่น้ำปลา ถูกใจบรรดาคอเหล้าทั้งหลาย พี่ ๆ ที่ทำงานยังถามเลยว่า อยู่กับเค้าได้ยังไง แต่ละคนทั้งเที่ยว ทั้งกินเหล้า เล่นไพ่ก็มี ก็บอกว่า เค้าก็กิน เล่น เที่ยวกันบ้างเป็นบางเวลา แล้วน้อง ๆ ก็เกรงใจเรา เพราะเราเป็นพี่รองในบ้าน ไปเที่ยวมา กลับดึก ๆ ดื่น ๆ จะย่องเข้าบ้านกันอย่างเงียบกริบ เพราะเคยบอกไว้ว่า บ้านเราไม่ได้อยู่กลางป่า กลางเขา นึกจะทำอะไร จะส่งเสียงดังก็ทำได้ตามใจ ต้องเกรงใจบ้านใกล้เรือนเคียงเค้าบ้าง น้อง ๆ พวกนี้ชอบเล่นไพ่ป๊อกเด้งกันมาก ไม่ได้เอาตังค์กันหรอก จดแต้มเอา บางทีก็เอาตังค์นิด ๆหน่อย ๆ พอสนุก ๆ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ นั่งเล่นกันได้ทั้งคืน ไม่หลับไม่นอน เราตื่นขึ้นมายังนั่งเล่นกันอยู่เลย ป๊อกเด้งต้องเล่นกันสี่ขา บางทีขาขาด ก็เอาเรามาเล่น สอนให้เราเล่น เราก็บอกว่า ถ้าเราเล่นได้ เราเอาตังค์ ถ้าเราแพ้ ห้ามเอาตังค์เรานะ ทุกคนตกลง บางทีก็น๊อคตั้งหลายครั้ง แต่ไม่รู้ จนน้องมันมาดูให้ หัวเราะกันก๊ากเลย ก็เล่นไม่เป็นจริง ๆ นี่ อยากเอาเรามาขัดขาทำไมล่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่ง วันลอยกระทง น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ก็เล่นป๊อกเด้งกัน มีการเล่นเอาตังค์กันด้วย เราออกไปเที่ยวงานกับน้องอีกคนหนึ่ง ขากลับซื้อลูกกระเทียม ที่ปาลงพื้นแล้วจะมีเสียงดังมาด้วย พอมาถึงบ้าน เห็นบ้านปิดเงียบ นึกในใจเล่นป๊อกเด้งกันแหง ๆ เลย ก็เลยตะโกนกับน้องว่า ตำรวจมา แล้วก็เอาลูกกระเทียมปาลงพื้นดังสนั่น พวกในบ้านวิ่งหลบกันกระเจิง อิอิ ...ได้แกล้งเค้าสนุกดี คนอื่นเค้าบอกว่า..เรานี่ก็แสบเหมือนกันนะ บ้านใกล้เรือนเคียงฝั่งตรงข้ามกับบ้านเช่า เป็นอาจารย์ หน้าตาดี หล่อเชียวล่ะ ตอนย้ายมาอยู่กันใหม่ ๆ สาว ๆ บ้านเราก็แอบมองเค้า เค้าก็แอบมองบ้านเรา มองกันไปมองกันมา สาว ๆที่บ้านต่างก็คุยกันว่า เค้าแอบสนใจใครหนอ จนกระทั่งวันหนึ่ง ความจริงก็เปิดเผย เพราะพวกเราได้ยินเค้าร้องวี๊ดว๊าย อยู่ในบ้าน ที่แท้..ไอ้ที่มอง ๆ น่ะ ไม่ใช่สาวเสยคนใดในบ้านหรอก หากแต่เป็นหนุ่มเดียวในบ้านเราต่างหาก หุหุ ...หมดกัน ทำม๊าย ทำไม คน ๆ หล่อ มักจะเป็นแบบนี้กันซะส่วนใหญ่น๊อ...เฮ้อ ...แต่ว่าเวลาเค้าแต่งเครื่องแบบ เค้าดูดีมากเลย ตอนหลังทราบมาว่า เค้าลาออกจากเป็นอาจารย์ มาเป็นสไตล์ลิส พูดถึงหนุ่มเดียวในบ้านเช่า คงสงสัยกันล่ะซิว่ามาอยู่รวมกับสาว ๆ ได้ไง ก็เพราะเค้าบรรจุมาพร้อมกันสามคน มาอยู่ที่สำนักงานแรงงานจังหวัด สองสาว หนึ่งหนุ่ม เพื่อนๆก็ไม่อยากทิ้ง ก็เลยขอให้มาอยู่ด้วย เค้าก็เรียบร้อยดี ตัวสูง ๆ ขาว ๆ เป็นคนเชียงใหม่ ชื่อใหญ่ เค้าเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาอยู่ที่นี่ เค้าอยู่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ แต่ยังไม่ค่อยชอบงานที่ทำอยู่ ก็เลยมาสอบที่แรงงาน แต่ความจริงแล้วเค้าอยากเป็นตำรวจมาก ทำงานได้สักพัก เค้าก็สอบเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ ไปบรรจุที่สำนักงานจังหวัดพิจิตร พอต่อมาเค้าก็ส่งข่าวมาว่า เค้าโอนไปอยู่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดลำปางแล้ว ต่อมาไปอยู่ขนส่งจังหวัดสุโขทัย โอนไปอยู่กรมสรรพสามิตในส่วนกลาง เค้าเป็นคนหัวดี เรียนเก่ง สอบที่ไหนก็ได้ และข่าวคราวล่าสุดเค้าได้เป็นตำรวจสมใจ และบอกกับเราว่า เค้าจะไม่โอนไปที่ไหนแล้ว ตอนนี้น่าจะอยู่ จ.ชลบุรี ทำงานเกี่ยวกับงานพิสูจน์หลักฐาน เพราะเคยอ่านข่าวเจอบ่อย ๆ ตอนเช้า ๆ ในซอยบ้าน จะเป็นทางลัดที่เด็กนักเรียนจะเดินผ่านไปโรงเรียนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน มีอยู่ช่วงหนึ่ง ข้าราชการต้องแต่งเครื่องแบบทุกวัน พี่รัช ชอบแกล้งเด็ก ตอนเช้า พอเด็ก ๆ เดินผ่านหน้าบ้าน แกก็จะออกมายืนหน้าบ้าน เด็ก ๆ ก็นึกว่าเป็นคุณครู ยกมือไหว้ เดินแถวกันไปอย่างเรียบร้อย เราก็เลยร่วมแจมด้วย มายืนด้วยกัน สงสารเด็ก ..ว่ามั๊ย คุณครูตั้งสองคน พอใกล้ ๆ 8 โมงเช้า ก็จะเดินลัดสนามกีฬาไปทำงานกับเจ้าติ๋ว น้องที่อยู่ห้องแรงงาน ไปทำงานทุกเช้าจะมีคนไปส่ง เอ๊ะ... ไม่ใช่คนซิ มันคือสุนัขของน้องข้างบ้าน ชื่อเจ้า dark มันต้องไปส่งเราถึงหัวบันไดศาลากลางจังหวัดทุกวัน พอเราขึ้นบันไดไป มันก็กลับ น่ารักจริง ๆ นะ เจ้านี่ วันหลังเวลาเดินไปทำงาน ก็มักจะร้องเพลงกับเจ้าติ๋วว่า ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไป จะไปหนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่หมานำ จะเดินก้าวตาม ตามหมาเดิน ชีวิตฉันแสนจะเพลิดเพลิน .... อิอิ แหล่งบันเทิงของชาวตากสมัยก่อน นอกจากรร.เวียงตาก ซึ่งจะมีไนท์คลับให้เต้นรำแล้ว ก็ไม่ค่อยมีอะไร ไนท์คลับเวียงตาก ในช่วงหัวค่ำ จะเป็นลีลาศ แต่พอเที่ยงคืนถึงตีสองจะเป็นการดิ้นตามสไตล์ใครสไตล์มัน พี่ ๆที่ทำงานชอบพาเราไปเหมือนกัน บอกว่าให้ไปเปิดหูเปิดตาซะมั่ง เต้นลีลาศก็เป็นอยู่จังหวะเดียวคือรุมบ้า แล้วก็มีพี่อยู่คนหนึ่ง ชื่อพี่โย่ง ทำงานอยู่สำนักงานโยธาฯ ไม่รู้แกเป็นอะไร ชอบชวนเราไปเต้นลีลาศคู่กับแก ตัวแกก็โย่งสมชื่อ ไอ้เรารึ ก็เตี้ย เวลาไปเต้นลีลาศ มีความรู้สึกว่าตัวเองเหมือนลูกลิงชิมแปนซียังไงยังงั้นเลย นึกภาพออกมั๊ย แทนที่จะจับไหล่ พอสวยงาม เรากลับต้องยืดแขนจนสุด แต่แกก็มีความสุขมากจริง ๆ ไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่เรากลับรู้สึกสมเพชตัวเองจัง พอถึงเวลาดิ้น เราก็ดิ้นไม่เป็น แข็ง ๆ ทื่อ ๆ จนใคร ๆ บอกว่าเหมือนหุ่นยนต์ ก็อ่ะนะ ใจมันไม่ชอบน่ะ ไม่ค่อยชอบสถานที่แบบนี้เท่าไหร่ เพราะไม่กินเหล้า เหม็นกลิ่นบุหรี่ หนวกหู คุยอะไรกันก็ไม่ได้ยิน ต้องตะโกน มีอยู่ครั้งนึง ไปกับน้อง ๆ ที่บ้าน เค้าออกไปดิ้นกันหมด เรานั่งเฝ้าโต๊ะ เราก็เลยขอกระดาษจากพนักงาน เขียนโน้ตทิ้งไว้ว่า กลับบ้านแล้ว แล้วก็นั่งสามล้อกลับบ้านนอนดีกว่า ตอนหลัง ๆ ก็เลยไม่มีใครคะยั้นคะยอให้ไป ถ้าเราอยากไป เราก็จะไปเอง นอกจากแหล่งบันเทิงที่ว่าแล้ว ก็จะมีงานบอลล์ ซึ่งมักจะจัดโดยชมรมศิษย์เก่าสถาบันต่าง ๆ มีการขายบัตร ลีลาศ เต้นรำ ประกวดขวัญใจ อะไรทำนองนี้ ความที่มีเจ้านายหลายคน แต่ละคนก็จบคนละสถาบัน ถ้าอยู่สำนักงานจังหวัดก็จะต้องไปช่วยหน้างาน แจกของชำร่วยบ้าง อื่น ๆ บ้าง หลายสถาบัน เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร รามคำแหง ม.เชียงใหม่ คนที่ไปงานก็คนรู้จักกันทั้งนั้น ก็ข้าราชการที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนั่นแหล่ะ พอเจอเรา เค้าก็มักจะแซวเราว่า นี่จบสถาบันไหน เห็นทุกงานเลย เราก็เลยบอกว่า เราอยู่ทบวงมหาวิทยาลัย ครอบคลุมทุกสถาบัน อิอิ... น้อง ๆ ที่เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน มักจะมีเรื่องจากการทำงานมาเล่าให้ฟังบ่อย ๆ แต่ที่รู้สึกสนุก มีรสชาติที่สุด ก็เห็นจะเป็นเรื่องของชาวสรรพสามิต เพื่อน ๆ ของน้องที่เช่าบ้านอยู่ เป็นนายตรวจสรรพสามิต มักจะมากินข้าวเย็นที่บ้าน ก็มาเล่าให้ฟังว่า เค้าไปทำอะไรมาบ้าง การจับการต้มเหล้าเถื่อน พวกนายตรวจมักจะเดินไปตามคันนา มีไม้คนละอัน ทิ่มไปตามคันนา ถ้ามีเสียงดัง โผล๊ะ เมื่อไหร่ นั่นแหล่ะ ไหเหล้าฝังอยู่ตรงนั้น ขุดลงไป รับรองว่าเจอ นายตรวจสรรพสามิตก็มีผู้หญิงเหมือนกัน มักจะให้เป็นสายล่อซื้อซะมากกว่า ทำทีไปหาซื้อเหล้า จะเอามาเลี้ยงในงานที่บ้าน พอเอาไหเหล้ามาให้ ก็ใส่กุญแจมือฉับเลย ของกลางอยู่เห็น ๆ น้องผู้หญิงเล่าให้ฟัง ป้าแกโวยวาย บอกว่า กูนึกแล้ว กูนึกแล้ว บางทีเค้าก็มีเรื่องน่าตื่นเต้นเล่าให้ฟังเหมือนกัน ออกจับคนต้มเหล้าเถื่อน พวกต้มเหล้าหนีข้ามไปฝั่งพม่า ซึ่งมันข้ามง่ายอยู่แล้ว เพราะแม่น้ำเมยตื้น ๆ แคบ ๆ ก็ข้ามตามไป นายตรวจสรรพสามิต พกอาวุธปืนได้ เป็นเหมือนเจ้าพนักงาน ก็เกิดการยิงต่อสู้กัน แต่พวกนั้นมีอาวุธร้ายแรงกว่า พวกมากกว่า หัวหน้าของน้องคนนี้จึงให้พวกลูกน้อง รีบหนีข้ามกลับมาฝั่งไทย ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วย ส่วนตัวแกถูกยิงเสียชีวิตที่ฝั่งพม่า กว่าจะข้ามไปเอาศพมาได้ก็เย็น เวลาน้องเค้าเล่าเรื่องนี้ทีไร ก็น้ำตาซึมทุกที เอ..หัวข้อว่าเรื่องขำ ๆ แต่ทำไมจบด้วยเรื่องเศร้า ๆ ก็ไม่รู้ Free TextEditor Create Date :17 กรกฎาคม 2552 Last Update :2 สิงหาคม 2553 11:18:12 น. Counter : Pageviews. Comments :11 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก คนตากแวะมาเยี่ยมบ้านคะอยู่ตากตั้งนาน อาจจะเคยเห็นหน้ากันก็ได้นะคะ โดย: mampopularity 17 กรกฎาคม 2552 11:33:25 น.สวัสดีค่ะ อ่านแล้วเพลินเลยคิดถึงตากจังถ้ากลับไปเมืองไทยคราวนี้จะไปเที่ยวแม่สอดและตากค่ะ โดย: fleuri 18 กรกฎาคม 2552 5:24:57 น.ยายเก๋ามาอ่านเรื่องเมืองตาก เป็นเรื่องใหม่ สมัยนั้น ยังไม่เกิดเพราะตอนยายไปอยู่ ยังไม่มีไนท์คลับแต่มีงานบอล ชมรมจุฬา ธรรมศาสตร์มีเต้นรำ ยังคิดถึงจนทุกวันนี้ อยากไปเที่ยว แต่เพื่อนเก่าๆไม่รู้อยู่ไหนกันบ้างถ้ามาคงไม่พบเจอใคร ส่วนใหญ่เกษียณไปหมดแล้ววันหลังจะมาอ่านต่อ โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 19 กรกฎาคม 2552 22:13:51 น.สวัสดีค่าาคุณ kapeakขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยียนกันที่บ้านนะคะ อ่านหน้านี้แล้วคิดถึงบรรยากาศต่างจังหวัดจังเลยค่ะ สังคมข้าราชการต่างจังหวัดสบายๆแบบนั้นยังหาได้อยู่หรือเปล่าคะเดี๋ยวนี้? โดย: ลอร่า อิงกัลส์ ~* 20 กรกฎาคม 2552 19:10:13 น.ตุ๊กตาก็เป็นคนจังหวัดตากนะที่บ้านก็พูดเหนือกัน แต่เหนือแปลก ๆ 55 +ตุ๊กตาพูดไม่ได้อ่ะ เกิดและโตที่โน่นแท้ๆ เลยย แต่ถ้าสำเนียงจันท์ รับรองว่าชัดชัวร์555 โดย: ตุ๊กตาซัง 21 กรกฎาคม 2552 20:02:36 น.เด๋วให้เพื่อนพาปัยก็คงปัยได้จ้าคิคิ*แต่ช่วงนี้ตุ๊กตาไม่ค่อยว่างด้วยสิพี่เปี๊ยกเป็นช่วงปิดเทอมได้ไหมค๊ะ โดย: ตุ๊กตาซัง 23 กรกฎาคม 2552 20:32:05 น.สนุกจัง น่าไปสัมผัสด้วยตัวเองนะ โดย: แมงมุม IP: 10.1.2.3, 210.246.86.132 23 ธันวาคม 2552 13:21:21 น.อ่ะ...พี่ยังทะงานอยู่ที่ตากป่ะครัฟ...น้องอยู่ริมน้ำอ่ะ...อิจฉาชีวิตพี่ัจัง...น่าสนุก... โดย: โอ๋ อาสาฯมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดตาก IP: 117.47.93.14 6 กุมภาพันธ์ 2553 16:45:01 น.ตอบน้องโอ๋ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ตากแล้วค่ะ เรื่องที่เล่าเป็นเรื่องสมัยทำงานที่ตากใหม่ ๆ เมื่อปี 2527 ปู๊นนนน (เกิดรึยังเอ่ย) อยู่ริมน้ำแถวไหนคะ ตอนพี่อยู่พักอยู่ตรงข้ามสนามกีฬาจังหวัดค่ะ ใกล้ ๆ ศาลากลางจังหวัด โดย: kapeak 17 กุมภาพันธ์ 2553 10:07:56 น.เคยมาเรียนที่เมืองตากครับ ตั้งแต่ปี 2512 เงียบมากๆ หน้าโรงหนัง จิตรบันเทิง กับ นิวเฉลิมตาก คือแหล่งท่องเที่ยวในยามกลางคืนครับ กลางวันไกลหน่อยก็คือ น้ำตกลานสาง หรือ เขื่อนภูมิพล สมัยนั้นบ้านเช่าไม่แพงครับ เดือนละ 40 บาทเอง ผมเช่า ที่แรกคือที่บ้านแพะ แล้วย้ายไปอยู่ที่ท่าแค เดินทางไปเรียนที่เทคนิคตากไกลหน่อยแต่อบอุ่นใจในน้ำใจของคนท่าแค ยังคงติดต่อผูกพันเหมือนญาติผู้ใหญ่จนถึงทุกวันนี้ ครับ โดย: ศิษย์เก่า วทต. ครับ IP: 182.52.89.126 19 กันยายน 2553 20:47:21 น.คุณศิษย์เก่า วทต. ขอบคุณที่มาเยี่ยมกัน คิดถึงวันเก่าๆ แล้ว มีความสุขที่สุดเลยนะคะ โดย: kapeak 19 กันยายน 2553 20:56:13 น.
อยู่ตากตั้งนาน อาจจะเคยเห็นหน้ากันก็ได้นะคะ
โดย: mampopularity 17 กรกฎาคม 2552 11:33:25 น.
สวัสดีค่ะ อ่านแล้วเพลินเลย
คิดถึงตากจัง
ถ้ากลับไปเมืองไทยคราวนี้จะไปเที่ยวแม่สอดและตากค่ะ
โดย: fleuri 18 กรกฎาคม 2552 5:24:57 น.
เพราะตอนยายไปอยู่ ยังไม่มีไนท์คลับ
แต่มีงานบอล ชมรมจุฬา ธรรมศาสตร์
มีเต้นรำ ยังคิดถึงจนทุกวันนี้ อยากไปเที่ยว แต่เพื่อนเก่าๆไม่รู้อยู่ไหนกันบ้าง
ถ้ามาคงไม่พบเจอใคร ส่วนใหญ่เกษียณไปหมดแล้ว
วันหลังจะมาอ่านต่อ
โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 19 กรกฎาคม 2552 22:13:51 น.
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยียนกันที่บ้านนะคะ
อ่านหน้านี้แล้วคิดถึงบรรยากาศต่างจังหวัดจังเลยค่ะ สังคมข้าราชการต่างจังหวัดสบายๆแบบนั้นยังหาได้อยู่หรือเปล่าคะเดี๋ยวนี้?
โดย: ลอร่า อิงกัลส์ ~* 20 กรกฎาคม 2552 19:10:13 น.
ที่บ้านก็พูดเหนือกัน แต่เหนือแปลก ๆ 55 +
ตุ๊กตาพูดไม่ได้อ่ะ เกิดและโตที่โน่นแท้ๆ เลยย
แต่ถ้าสำเนียงจันท์ รับรองว่าชัดชัวร์
555
โดย: ตุ๊กตาซัง 21 กรกฎาคม 2552 20:02:36 น.
คิคิ*
แต่ช่วงนี้ตุ๊กตาไม่ค่อยว่างด้วยสิพี่เปี๊ยก
เป็นช่วงปิดเทอมได้ไหมค๊ะ
โดย: ตุ๊กตาซัง 23 กรกฎาคม 2552 20:32:05 น.
โดย: แมงมุม IP: 10.1.2.3, 210.246.86.132 23 ธันวาคม 2552 13:21:21 น.
น้องอยู่ริมน้ำอ่ะ...
อิจฉาชีวิตพี่ัจัง...น่าสนุก...
โดย: โอ๋ อาสาฯมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดตาก IP: 117.47.93.14 6 กุมภาพันธ์ 2553 16:45:01 น.
โดย: kapeak 17 กุมภาพันธ์ 2553 10:07:56 น.
โดย: ศิษย์เก่า วทต. ครับ IP: 182.52.89.126 19 กันยายน 2553 20:47:21 น.
โดย: kapeak 19 กันยายน 2553 20:56:13 น.