
วันวานที่พากเพียร วันเกษียณที่ภาคภูมิ
คำว่า“เกษียณ” แปลว่าสิ้นไป ซึ่งในทางราชการจะใช้คำว่า “เกษียณอายุราชการ”หมายถึงครบกำหนดอายุรับราชการ เมื่ออายุตัวครบ 60 ปี แต่ถ้าใช้เกษียณอายุ สั้น ๆ ก็อาจแปลความหมายว่า อายุสิ้นไปทำให้คนเข้าใจผิดได้
การเกษียณอายุราชการเป็นการสิ้นสุดอาชีพเดิม แต่ เป็นการเริ่มชีวิตใหม่ ชีวิตที่เรากำหนดได้เองไม่ต้องไปขึ้นกับหัวหน้าลูกน้องหรือกฎระเบียบราชการ อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่อยากจะทำอะไรก็ไม่ต้องทำจนมีผู้ตั้งชื่อช่วงอายุนี้ว่า วัยทอง ส่วนจะเป็นทองคำ หรือ ทองเหลืองก็ต้องติดตามกันต่อไป
ผู้ที่พึ่งเกษียณอายุราชการ มักประสบปัญหา 3 ประการคือ
1. ใจ
มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปเมื่อถึงวันต้องเกษียณที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ได้ทำงานเหมือนที่เคยทำมานานเกือบตลอดชีวิต คนที่เคยเป็นใหญ่เป็นโตเป็นผู้บัญชาการทหาร เป็นปลัดกระทรวง เป็นอธิบดี ก็ต้องทำใจให้ได้ เพราะอำนาจต่างๆ ที่เคยมีหายวับไปโดยพลัน หากทำใจไม่ได้ก็จะห่อเหี่ยวหัวใจไปจนตาย อีกทั้งสิทธิพิเศษที่เคยมีจะถูกหลวงยึดกลับคืนไปจนหมดเช่น รถหลวงบ้านหลวง โทรศัพท์หลวง เป็นต้นมีอย่างเดียวที่หลวงไม่ยอมยึดกลับก็คือ เมียหลวง
ถ้าต้องการมีความสุขหลังเกษียณจะต้องเข้าใจชีวิตว่า เกิดมาเป็นคนก็เป็นเช่นนี้แล คือ โชคดีบ้าง โชคร้ายบ้างสบายบ้าง ลำบากบ้าง เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเองก็อย่าไปกังวลเพราะความทุกข์จะอยู่กับเราไม่นาน เช่นเดียวกับความสุขก็อยู่กับเราไม่นานเช่นกัน ทุกคนเกิดมาจะต้องมีวิถีการเดินทางของชีวิตเหมือนกันคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงควรอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดโดยตัดความกังวลทุกอย่างออกไป และถ้าไม่อยากแก่มากกว่านี้ทำง่ายนิดเดียวคือให้รีบตายเสียก่อน
พระมหาสมปอง บอกว่าอย่าได้คิดเด็ดขาดว่าชีวิตไร้ค่าหรือเป็นภาระให้กับลูกหลานต้องเลี้ยงดู??
" เกษียณตัวได้แต่อย่าเกษียณใจ อย่าเกษียณจากการทำความดี”เพราะการเกษียณจากการทำงานทำให้สามารถปล่อยวางจากความวุ่นวาย ทั้ง 3 กคือ ก. การ= การดิ้นรน ก. กิน = การแสวงหาและ ก.เกียรติ = การแบกหาม เป็นวัยที่เหมาะสำหรับการเริ่มพัฒนาจิตใจกันอย่างจริงจังเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร วัยนี้เรียกได้ว่าเป็น “วัยสะสมบุญและสร้างกุศลไว้ให้เป็นที่จดจำ” ต่อให้ร่างกายและอายุบ่งบอกว่าชราแค่ไหนแต่ถ้าหัวใจเข้มแข็งและเต็มไปด้วยพลังความดี ชีวิตจะยืนยาว ไม่เกษียณอายุง่ายๆแน่นอน
2. เจ็บ อายุมากขึ้น สังขารย่อมทรุดโทรม ให้ยึดหลัก5 อ.ไว้ คือ
อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
อากาศปลอดโปร่งบริสุทธิ์
ออกกำลังกายทุกวัน
อุจจาระให้เป็นเวลาทุกเช้า
อารมณ์ให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
การปลูกต้นไม้ ปฏิบัติธรรม ออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว และ ช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอำนวย
อ.หมอเสกกล่าวว่า ท่านที่ประสงค์จะมีอายุยืนยาว 150ปีชีวีสุขสันต์ ให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ 5 ประการคือกินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินกล้วยน้ำหว้าเป็นของว่าง เดินทางวันละ 5,000 ก้าว คุยกับหนุ่มสาวทุกวัน
3.จน เมื่อก่อนเคยรับเงินเดือนใช้สบาย แต่พอมารับเงินบำนาญจะจนทันทีเพราะจะได้รับเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของเงินเดือน จึงควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวังยึดหลักประหยัดและประโยชน์เป็นสำคัญ อย่าให้คนอื่นกู้เงินถ้ามีให้ทวงคืนมาให้หมด เพราะนานไปจะไม่ได้คืน และให้ระวังการหลอกลวงอะไรที่รู้สึกว่าจะทำให้ได้เงินมาง่าย รวยเร็ว ก็หยุดคิดสักนิดว่า ถ้ามันง่ายมันดี จริง ป่านนี้ คนทำคงรวยไปหมดแล้ว อะไรที่รู้สึกว่ามันดีเกินจริงก็ให้ระวังไว้ โดยเฉพาะ พวกอาหารเสริมต่าง ๆ ขวดละ สองสามพันกินแล้วหายทุกโรคดีทุกอย่าง ถ้าหลงเชื่อไปซื้อมากิน นอกจากเสียเงิน เสียรู้แล้ว อาจหายไปจากโลกด้วย
ฝากไว้ขำ ๆ .. แต่ถ้าเกิดกับตัวเอง คงขำไม่ออก ..
ที่สุดของความเสียดาย คือ...ตายไปแล้ว ยังใช้เงินไม่หมด
ที่สุดของความสลด คือ...ใช้เงินหมดแล้วยังไม่ตาย
- Comment
โดย: surya21 (surya21
สูตรเกษียณเหรอ
1. จัดเวลาเพื่อตัวเองวันละ 1-2 ชั่วโมง ทุกวัน
ตอนเช้าหลังตื่นนอนใหม่ๆดีที่สุด #เพื่อออกกำลังกายและฝึกสมาธิ ข้อนี้สำคัญที่สุด
#ถ้าคุณทำข้อนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปอ่านข้ออื่น เพราะถ้าคุณทำข้อนี้ไม่ได้แสดงว่าคุณเป็นทาสความคิดของคุณเองจนโงหัวไม่ขึ้นกู่ไม่กลับไปเสียแล้ว
เพราะลูกเล่นที่ความคิดของคุณจะใช้กีดกันไม่ให้คุณเข้าถึงความรู้ตัวก็คือการพยายามบอกว่าคุณไม่ว่าง คุณไม่มีเวลา แม้คุณเกษียณแล้วความคิดมันยังพร่ำบอกคุณว่าคุณไม่มีเวลา ถ้าทั้งๆที่คุณได้เวลามาวันละ 8 ชั่วโมงสัปดาห์ละ 5 วันแล้วคุณยังเชื่อความคิดของคุณอยู่อีกว่าคุณไม่มีเวลา ผมก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้แล้ว เพราะคุณได้ตกเป็นทาสความคิดของคุณโดยสมบูรณ์แบบเสียแล้ว
อนึ่ง ในการออกกำลังกาย ถ้าเบื่ออย่างหนึ่งคุณก็เปลี่ยนไปทำอีกอย่างหนึ่ง เปลี่ยนจนคุณพบวิธีที่ถูกใจทำแล้วสนุก
2. #เมื่อฝึกสมาธิให้มุ่งวางความคิด
นอกจากวางความคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้แล้ว ให้วางความเป็นบุคคลว่าตัวฉันชื่อนี้อยู่บ้านเลขที่นี้จบเมืองนอกเมืองนามาอย่างนั้นอย่างนี้ วางไว้ก่อน วางความเป็นเจ้าของร่างกายนี้ว่านี่มันเป็นร่างกายของฉัน วางไว้ก่อน วางให้หมดชั่วคราว
#ให้เหลือแต่ความรู้ตัวที่เป็นความว่างแต่ตื่นอยู่และพร้อมรับรู้ อย่าหวังพบเห็นหรือบรรลุอะไรจากการฝึกนั่งสมาธิเป็นอันขาด เพราะนั่นคือช่องทางไปสู่ความบ้า แค่ให้จิตใจได้สงัดจากความคิดจนความเบิกบานที่ก้นบึ้งของจิตมีโอกาสได้โผล่ขึ้นมาบ้างก็พอแล้ว
3. #ยอมจำนนต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตรงหน้า (surrender)
ยอมรับทุกอย่าง อย่างที่มันเป็น แยกความรู้ตัวซึ่งเป็นผู้ดู ออกจากสถานะการณ์ชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกดู ความได้เปรียบของคนแก่ก็คือไม่ต้องรู้สึกผิดว่าตัวเองละเลยสังคม เพราะใจมันยอมรับข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่าเดี๋ยวตัวเองก็จะตายแล้ว
อย่าผูกขาดการแก้ปัญหาไว้คนเดียวเลย ทิ้งปัญหาไว้ให้เด็กรุ่นหลังเขาแก้กันเองบ้างเถอะ การปลดทิ้งความรู้สึกผิดแบบนี้เสียได้เป็นการเพิ่มโอกาสที่ใจจะยอมรับทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่มากขึ้น โอกาสบรรลุอิสรภาพทางใจก็มากขึ้น
4. เมื่อมีปัญหาระดับจะเป็นจะตายเกิดขึ้น..อย่าคิด หายใจเข้าออกลึกๆ กลับไปสู่ความรู้ตัวอย่างน้อยสักสองสามนาทีก่อน
อย่ารีบตัดสินใจหรือลงมือทำอะไร ปล่อยปัญหาทุกอย่างให้คลี่คลายตัวมันไปเอง เฝ้าดูอยู่นิ่งๆ อย่ายึกยัก อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แค่คอยรับมือเฉพาะส่วนเล็กๆเฉพาะหน้าที่แก้ไขได้ไปทีละช็อตๆ เรื่องใหญ่ๆที่แก้ไขไม่ได้ปล่อยไว้รอให้พระพรหมมาจัดการเอง
มาถึงวัยนี้แล้วควรจะเรียนรู้ได้แล้วว่า #ปัญหาทุกอย่างมันมีวิธีคลี่คลายตัวของมันเอง ไม่มีใครไปยุ่งมันก็จะคลี่คลายตัวของมันเอง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเหตุปัจจัยเป็นกลไกที่จะคลี่คลายตัวของมันเองอยู่แล้ว
ดังนั้นอย่าเป็นคนแก่แบกโลกหรือคนแก่ที่พยายามเข้าไปแก้ทุกปัญหา มิฉะนั้นคุณจะกลายเป็นคนแก่เจ้าปัญหาไปโดยไม่รู้ตัว
5. #ปล่อยวาง
ที่ว่าปล่อยวางนั้นนะ ปล่อยวางอะไรหรือ "ความคิด" นั่นแหละคือสิ่งที่จะต้องปล่อยวาง เพราะสิ่งที่จะทำให้เป็นทุกข์ นอกจากความคิดของตัวเองแล้ว..อย่างอื่นไม่มี เกษียณแล้วยิ่งคิดให้น้อยยิ่งดี ยิ่งเบิกบานมากยิ่งดี
ตัวชี้วัดความสำเร็จของชีวิตวัยเกษียณมีสองตัวเท่านั้น คือ (1) ความคิดน้อยลง (2) ความเบิกบานมากขึ้น
6. #ลดความคาดหวังในตัวคนอื่นลงจนเหลือศูนย์
รวมทั้งความคาดหวังต่อสามีหรือภรรยาหรือลูกหลานด้วย คนสูงอายุมักอดไม่ได้ที่จะมองเห็นคนอื่นเป็นคนโง่ง่าวไม่เอาไหนกิเลสหนากะโหลกกะลาไปหมด เกษียณแล้วให้เปลี่ยนโลกทัศน์ไปมองคนอย่างไม่พิพากษาบ้าง ลองหัดเทคนิคนี้กับหมากับแมวดูก่อนก็ได้ มองมันอย่างไม่พิพากษา อย่าไปเสียเวลาทะเลาะด่าว่าคนอื่น จงให้อภัยแทน คนที่สอนได้ก็สอน คนที่สอนไม่ได้ก็ปล่อยเขาไปตามยถากรรมของเขา
7. #อย่าไปหวังอะไรกับชีวิตที่เหลือ
ในเรื่องนี้ผมอาจจะพูดไม่เหมือนคนอื่นนะเพราะผมพูดจากประสบการณ์ของผมเอง ผมมองว่า "ความหวัง" นี่แหละที่เป็นตัวร้าย มันร้ายพอๆกับ "ความกลัว" เลยทีเดียว
เพราะทั้งความหวังและความกลัวมีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกัน คือมันคอยลากเราหนีหรือลี้ภัยออกไปจากปัจจุบันไปอยู่กับอนาคตซึ่งเป็นเพียงความคิด ทำให้เราหมดโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันซึ่งเป็นวิธีใช้ชีวิตที่ดีที่สุด
ชีวิตที่ดีคือชีวิต ณ ปัจจุบัน วันนี้ ทีละขณะๆ อยู่นิ่งๆ ปล่อยทุกอย่างให้เข้ามาหา ยอมรับมัน ไม่ต้องหนี มาร้าย มาดี ยอมรับหมด มันมาแล้วก็รับมือไปทีละช็อต
การกระเสือกกระสนแสวงหาหลักประกันอนาคต เช่นเพิ่มวงเงินประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ขยันตระเวณหาหมอ ห้าหมอ เจ็ดหมอ ขยันกินยากินวิตามินทีละกำมือ เป็นการแสดงออกของความกลัวที่พาเราหนีไปจากปัจจุบัน ซึ่งวิธีนี้ไม่มีวันที่จะทำให้เรามีสุขภาพดีได้
เพราะสุขภาพจะดีก็ต่อเมื่อเราได้ใช้ชีวิตในวันนี้อย่างเบิกบาน ไม่ใช่ใช้ชีวิตแบบอยู่กับความหวาดกลัวและเอาแต่หนี
8. #หมั่นให้ทาน
สละทรัพย์ แบ่งปันให้ผู้อื่น ลูกหลานจะว่าคุณเป็นคนแก่เลอะหลงใช้เงินไม่เป็นก็อย่าไปสนใจ เงินของคุณไม่ใ่ช่เงินของพวกเขา ถ้าพวกเขาอยากอดออมให้พวกเขาอดออมของเขาเอง อย่ามาบังคับให้คุณอดออมแต่พวกเขาจ่ายเงิน อย่าหวงเก็บเงินไว้ให้ลูกหลาน เพราะการหวงเงินไว้ให้ลูกหลานก็คือการหวงเงินไว้ให้อีโก้หรือตัวตนของคุณเองนั่นแหละ มันจะส่งผลให้คุณกลายเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไปไหนไม่รอดโดยไม่ทันรู้ตัว
การวางแผนการเงินเป็นสิ่งที่ดีหากวางแผนและทำตามแผนโดยไม่คิดกังวลต่อยอด แต่การบ่มเพาะความกังวลว่าวันหน้าจะมีเงินไม่พอใช้จะทำให้คุณต้องอยู่กับความกังวลนั้นตลอดไปจนตายไม่ว่าคุณจะมีเงินกี่แสนกี่ล้าน
#เพราะวันหน้ามันไม่มีอยู่จริงดอก
แต่ความกังวลและหวงทรัพย์สมบัติมันมีผลลบต่อคุณในวันนี้แล้ว ผมจึงเชียร์ให้คุณขยันสละทรัพย์โดยไม่หวังอะไรกลับมา ทุกครั้งที่คุณสละทรัพย์ ความยึดถือในทรัพย์สมบัติของคุณจะลดลงไป ความพร้อมที่จะตายของคุณจะค่อยๆเพิ่มขึ้น
9. #เมื่อคิดจะทำอะไรให้คิดทำเพื่อผู้อื่นหรือเพื่อโลก
ไม่ว่าจะเป็นทำธุรกิจ ทำงานอดิเรก หรือทำงานจิตอาสา ให้คิดว่าทำเพื่อให้คนอื่นได้ประโยชน์ จะปลูกดอกไม้ก็เพื่อให้คนอื่นได้มาชื่นตาชื่นใจ จงใจเลือกทำเฉพาะเรื่องที่คุณทำแล้วมีความสุข
เวลาทำให้ทำด้วยความตั้งใจจดจ่อราวกับเจ้าสาวตั้งใจทอเสื้อให้ชายคนรักใส่ แต่อย่าหวังผลว่าจะสำเร็จอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่องานเสร็จแล้วก็วาง ไม่ว่าสำเร็จหรือล้มเหลวก็วาง ไม่ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลงาน
ไม่ต้องแสวงหาชื่อเสียงยามแก่ เพราะชื่อเสียงเป็นอีโก้ที่จะทำให้คุณเข้าถึงความรู้ตัวอันเป็นแหล่งของความสงบสุขที่ภายในยากยิ่งขึ้น
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิตในวันนี้ทุกๆคนนะครับ แค่วันนี้วันเดียว ก็เหลือแหล่แล้ว
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
https://drsant.com/2017/05/blog-post_12-19.html
โดย: หมอหมู
29 กรกฎาคม เวลา 18:12 น. ·
เกษียณแล้ว ทำไงต่อดี?...คำถามยอดฮิต เตรียมพร้อมวัยเกษียณ
วันนี้รวมมาให้แล้วกับเรื่องน่ารู้ วางแผนหลังเกษียณ
๐ เกษียณ..."สุข"
https://wealthmeup.com/21-06-28-happyretirement/
๐ ตั้งเป้าหมายเกษียณยังไงให้เหมาะสม
https://wealthmeup.com/22-02-20-retirementplan/
๐ วัยเกษียณ...ต้องสู้!
https://wealthmeup.com/21-06-07-retirement/
๐ ไอเทมต้องพร้อม รับวัยเกษียณ
https://wealthmeup.com/21-05-31-retirement/
๐ วิธีแก้ไข เมื่อแผนเกษียณพลาด
https://wealthmeup.com/20-11-17-retirementplan/
๐ 4 อย่างที่คนวัยเกษียณ "จ่ายน้อยลง"
https://wealthmeup.com/20-12-01-retirement/
๐ 5 เงินก้อนที่ "คนวัยเกษียณต้องมี"
https://wealthmeup.com/20-10-28-retirement/
๐ เทคนิคบริหารเงินหลังเกษียณ
https://wealthmeup.com/20-10-01-retirementplan/
#WealthMeUp #ให้เงินทำงาน
- - - - - -
แอดไลน์ Wealth Me Up ได้ที่ https://line.me/R/ti/p/%40wealthmeup
Subscribe ได้ที่ https://www.youtube.com/channel/UCAXA-wPncTP9QXJlUk9CqLw
ติดตามทาง TikTok ได้ที่ https://www.tiktok.com/@wealthmeup
โดย: หมอหมู
30 ก.ย. 2565 เวลา 16.30 น. เป็นเวลาผู้ที่เกษียณจะทำงานครั้งสุดท้ายก่อนที่พรุ่งนี้จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข ผมมีของฝากสำหรับผู้เกษียณที่จะต้องเตรียมพร้อมเริ่มแรกเลยคงต้อง
1.เตรียมใจนะครับทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่วันใดวันหนึ่งคงต้องพักผ่อนนะครับ
2.เตรียมกายเรื่องนี้สำคัญที่สุดนะครับ การมีสุขภาพดีและแข็งแรงต้องเตรียมตัวและใช้เวลานาน ต้องดูแลสุขภาพตลอดช่วงวัยนะครับเมื่อหลังเกษียณแล้วผลของการดูแลสุขภาพที่ผ่านมาจะทำให้เราเกษียณแบบแข็งแรงนะครับ
3.เตรียมแผนการใช้เวลา หลังเกษียณเป็นช่วงเวลาที่จะว่างมากขึ้นแบบไม่เคยคิดมาก่อน ต้องหาอะไรทำเพื่อให้สมองและร่างกายไม่หยุดอยู่กับที่นะครับ
4.เตรียมครอบครัว เป็นส่วนสนับสนุน สภาพจิตใจ สภาพสังคม ให้ผู้ที่เกษียณได้ใช้เวลากับครอบครัวแบบมีคุณค่า รวมถึงต้องเตรียมสภาพบ้าน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยด้วยนะครับ
5.เตรียมเพื่อน เราอาจจะมีรุ่นพี่ที่เกษียณไปก่อนแล้ว หรือเพื่อนรุ่นน้องที่จะเกษียณตามมาการมีสังคม ในรูปแบบต่างๆเช่น ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย สังสรรค์ในรูปแบบต่างๆ เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้นนะครับ แต่หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเร็ว เช่น การออกลำลังกายที่หนักมากเกินไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มากเกิน เป็นต้น
6.เตรียมแผนการใช้เงิน วางแผนให้เงินก้อนสุดท้ายทำงาน เพื่อความมั่นคงหลังเกษียณ แบ่งเป็น 4 Step นะครับ
STEP 1 : เตรียมพร้อมสู่ชีวิตหลังเกษียณ
STEP 2 : เทคนิคบริหารเงินหลังเกษียณ
STEP 3 : จัดพอร์ตลงทุนหลังเกษียณ
STEP 4 : วางแผนมรดกให้ลูกหลาน
การเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือการเตรียมทั้งหมดที่กล่าวมาแต่เนิ่นๆ บางครั้งอาจซ้อมตั้งแต่อายุ 55 ปี ว่าเมื่อถึงเวลานั้นเราพร้อมไหมที่จะ เตรียมใจ เตรียมกาย เตรียมแผนการใช้เวลา เตรียมครอบครัว เตรียมเพื่อน และเตรียมแผนการใช้เงิน
สุดท้ายนะครับไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดสร้างสมดุลย์ชีวิตนะครับด้วย Great Happy with good Health and Wealth
หมอหนุ่ม( Financial Freedom by Ronny) 30 ก.ย. 2565
ผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์(Investment Consultant,IC)
ที่ปรึกษาการเงิน (Associate Financial Planner Thailand, AFPT™)
Ronnaphob Uaphanthasath
https://www.facebook.com/ruaphant/posts/pfbid02CiXcpuFr4wDpd2rJPjY7RvJLodCVk2Nm57HeWJ5JrmcG7Qq3Ye75Vp1RzAWJATHql
30 ก.ย. 2565 เกษียณสุข .. หมอหนุ่ม (นำมาฝาก)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=01-10-2022&group=8&gblog=155
โดย: หมอหมู