( ภาพขณะฝึกการพูด  .. เครดิต ผู้ถ่ายภาพ อ.จันทินี อภัยราช )

ท่านพิธีกร สมาชิกสโมสรฯ และผู้มีเกียรติทุกท่าน

บ้านคือวิมานของเราเราซื้อเราเช่า เราปลูกของเราตามใจ ...

เพลงบ้านของเรา ขับร้องโดย คุณ สวลี ผกาพันธ์เป็นเพลงที่โด่งดังมากในอดีต เนื้อหาของเพลงก็ถ่ายทอดความรู้สึกดี ๆ เกี่ยวกับบ้านเปรียบเทียบว่า บ้าน คือ วิมาน

บ้าน คือ มาร ของเรา ฟังแล้วอาจขัดหู   แล้ว บ้านแบบไหนละครับ แทนที่จะเป็นวิมาน คนในบ้านอยู่อย่างมีความสุข บ้าน กลับกลายเป็น มารความสุข

บ้าน ที่เป็น มารความสุข ได้แก่ ...บ้าน ใหญ่ แย่ เยอะ

๑.ใหญ่ เกินตัว

ผู้ที่มีบ้าน โดยมีภาระค่าใช้จ่ายที่เกินตัวกู้หนี้ยืมสิน เพื่อมาสร้างบ้านใหญ่โตเกินฐานะรายได้ของตนเอง บ้านก็จะกลายเป็น มาร ขัดขวางความสุขในชีวิตเพราะ ต้องคิดหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ย จ่ายเงินต้น กลัวว่าบ้านจะถูกยึด กลัวเจ้าหนี้มาทวง ไม่มีเวลาที่จะพักผ่อนในบ้านอย่างสบายใจ

บ้านขนาดใหญ่ หรูหราราคาแพง ยังเป็น มารความสุขสำหรับคนที่ต้องทำความสะอาดบ้านเอง เพราะแทนที่จะได้นั่งอยู่บ้านสบาย ๆกลายเป็นต้องมา ปัดกวาดเช็ดถูสารพันงานบ้าน ที่ต้องทำทุกวัน ไม่มีวันหมดไม่ทำก็รกหูรกตา อดไม่ได้ แถมบางคน บ้านหรูหรามีทรัพย์สินเยอะ กลับกลายสภาพเป็นเหมือน คุก เพราะ ไม่กล้าไปไหนกลัวขโมยเข้าบ้านเลยต้องอยู่เฝ้าบ้านตลอดเวลา

๒. แย่ ออกแบบแย่ ก่อสร้างแย่

บ้านที่ ก่อสร้างแย่ ไม่ได้คุณภาพ ฝนตกหลังคารั่วแดดออกก็ร้อนอบอ้าว นั่งอยู่ในบ้านก็สุก แต่เป็น สุก กอ ไก่

บ้านที่ออกแบบแย่ ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มแขนขาหักเกิดขึ้นในบ้านมากกว่านอกบ้าน ห้องที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ก็คือ ห้องนอน และ ห้องน้ำ

ผู้ที่คิดจะสร้างบ้าน จึงต้องคิดวางแผนให้รอบคอบโดยเฉพาะ บ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่สร้างบ้านแล้วคิดว่าจะอยู่บ้านหลังนี้ จนกลายเป็นสูงอายุต้องคิดวางแผนออกแบบบ้านให้เหมาะกับผู้สูงอายุ เช่น บ้านชั้นเดียว พื้นบ้านทางเดินภายในบ้าน เรียบเสมอกัน ไม่มีการเล่นระดับสูงต่ำ ถ้ามีบันไดก็ต้องไม่ชันและมีราวจับ พื้นบ้านพื้นห้องน้ำปูด้วยวัสดุไม่ลื่น มือจับปิดเปิดประตูหรือก๊อกน้ำต้องใช้แบบเขาควาย ก้านโยก ไม่ควรใช้แบบลูกบิด ประตูกว้างกว่าปกติเผื่อว่าต้องใช้รถเข็น หรือ อุปกรณ์ช่วยเดิน วอร์คเกอร์ (สี่ขา) ไฟแสงสว่างไม่สว่างจ้าเกินไป ห้องน้ำ ควรมีราวจับ กว้างพอที่จะเพิ่มที่นั่งอาบน้ำหรือนำรถเข็นเข้าไปได้ เตียงนอนเก้าอี้ สูงระดับเข่า เป็นต้น

๓. เยอะ

บ้านเยอะ ไม่ได้พูดถึง ผู้ที่มีบ้านเล็กบ้านน้อยภรรยาน้อย นะครับ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกันโดยทั่วไป ยิ่งตอนนี้กำลังดังเลยก็คือละครเรื่อง แรเงา ทางช่องสาม ประเด็นนี้จึงขอข้ามไปเลยนะครับ แต่พูดไปก็แปลก หลวง แปลว่า ใหญ่ สามีเห็นว่า อยู่กันมานานแล้วด้วยความรักและเทิดทูน เลยอยากจะยกย่องให้ภรรยามีตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้น จากตำแหน่งภรรยา ยกขึ้นเป็น ภรรยาหลวง ใหญ่ขึ้น แต่ผู้หญิงกลับไม่ชอบ ไม่อยากได้

บ้านเยอะในที่นี้ หมายถึง คนที่มีบ้านหลายหลังซื้อบ้าน ซื้อที่ดินเอาไว้เก็งกำไร เหมือนอย่างบ้านเราตอนนี้ที่ไปทางไหนก็จะเห็นว่ามีการก่อสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ การลงทุนบ้านและที่ดินถ้าอยู่ในทำเลที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี เมื่อเวลาผ่านไป ราคาบ้านและที่ดินก็จะสูงขึ้น ซื้อง่ายขายคล่อง แต่เนื่องจาก คนที่จะซื้อบ้านต้องใช้เงินก้อนใหญ่การตัดสินใจจึงยาก ใช้เวลาศึกษาหาข้อมูล ดังนั้น ถ้าทำเลไม่ดี ราคาแพง ก็ไม่มีใครมาซื้อบ้านกลายเป็นภาระหนี้สิน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นตอนวิกฤตทางเศรษฐกิจเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ ที่เรียกกันว่า วิกฤตต้มยำกุ้งราคาบ้านที่ดินลดลงเกือบครึ่งแต่ก็ยังขายไม่ได้ จนต้องถูกยึด เงินต้นก็สูญแถมเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีก การลงทุนเกี่ยวกับบ้านและที่ดินจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก

บ้านไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย พักผ่อนนอนหลับ เท่านั้น แต่บ้านยังหมายถึงความภาคภูมิใจ การแสดงฐานะ ความมีหน้ามีตาในสังคมอีกด้วย ดังที่เราจะเห็นว่า นักการเมืองไทยหลายคนที่เข้ามาเล่นการเมืองไม่กี่ปี มีบ้านใหญ่โตราคาหลายสิบล้านทั้งที่เงินเดือนไม่กี่หมื่นบาท ถ้ามองในแง่จิตวิทยา คนเหล่านี้ ขาดความมั่นใจขาดความภาคภูมิใจในตนเอง ทำให้ต้องขวนขวายคดโกงหาเงินมาสร้างบ้านใหญ่โต อวดคนอื่นเพื่อให้รู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น แต่หารู้ไม่ว่า การกระทำเช่นนั้น กลับทำให้ตัวเขา ชาติตระกูล ตกต่ำ และปั้นปลาย อาจได้ คุก เป็น บ้าน

กุญแจสำคัญที่จะทำให้บ้านเป็นวิมาน ก็คือ พอเหมาะ ( เหมาะกับฐานะ เหมาะกับการดูแล) พอดี (ดีกับลักษณะการใช้งานของคนในบ้าน) และพอใจ (คนในบ้านพอใจสุขใจ ที่ได้อยู่) ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในบ้านต้องร่วมกันสร้างขึ้นมาไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงินทอง

บ้านของเราซิแท้      คือวิมาน

ใดอื่นบ่สุขสราญ       เทียบได้

ไออุ่นรักสมัครสมาน  พันผูก

เล็กแคบอุดอู้ไซร้      บ่ได้สำคัญ

                                                ( ขอบคุณ //www.oknation.net/blog/dreamcometrue/2009/09/02/entry-2 )