ขนำน้อยกลางทุ่งนา
ผู้แต่ง: จำลอง ฝั่งชลจิตร สำนักพิมพ์: แพรวสำนักพิมพ์ << พิมพ์ครั้งที่ 8 สิงหาคม 2549 ราคา 139 บาท
ขนำน้อยกลางทุ่งนา เล่มนี้ เป็นนวนิยายที่แสดงภาพชีวิตของเด็กๆ ในชนบทภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อย่างชัดเจน เล่มนี้มีกลวิธีในการแต่งเรื่องที่งดงามไปด้วยวรรณศิลป์ มีฉากและตัวละครที่สมจริง ผู้อ่านจะได้รับคุณค่าทั้งทางด้านอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ จากตัวละครและได้สาระด้านต่างๆ ในการดำรงชีวิตจากนวนิยายเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์
ทั้งยังได้สอดแทรกเรื่องราวให้เด็กๆ ได้รู้ถึงคุณธรรมด้านต่างๆ มากมายหลายด้าน ทำให้พวกเขาเข้าใจชีวิตในแง่ที่ควรจะเข้าใจ และทำให้พวกเขาเห็นถึงความสำคัญของการศึกษา เป็นนวนิยายดีเด่นอีกเรื่องหนึ่งที่เด็กๆ ไม่ควรพลาด
Credits: - รางวัลหนังสือดีเด่นสำหรับเยาวชน จากสำนักนายกรัฐมนตรี ปี ๒๕๒๔ - รางวัลดีเด่นประเภทนวนิยายสำหรับเยาวชนก่อนวัยรุ่น จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กรมวิชาการ ปี ๒๕๒๔
* * * * * * *
เล่มนี้ 'งดงามไปด้วยวรรณศิลป์' จริงอย่างคำโฆษณาค่ะ จขบ. อยากให้เด็กและผู้ใหญ่ทุกคนได้อ่านเล่มนี้ เผื่อจะช่วยกันเห็นความงามของผืนแผ่นดินและธรรมชาติมากขึ้น
(วันก่อนไปเห็น กระทู้ เกี่ยวกับโครงการตัดมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ "ทางลัดสู่ภาคใต้" โดยเวนคืนพื้นที่สวนผลไม้เดิมในสมุทรปราการ ... จขบ. ไม่รู้เรื่องภูมิประเทศหรือเส้นทางคมนาคมหรอก แต่พอได้ยินว่าจะเอาพื้นที่เกษตรไปทำถนนนี่ มันคันในหัวใจอย่างไรพิกล ถนนใหม่จำเป็นมากเสียจนต้องทำลายพื้นที่สีเขียวเลยเหรอ? เกษตรกรรมเป็นจุดแข็งของประเทศเรานะ) ตัวละคร: เรื่องเริ่มจากการแนะนำเพื่อนรัก 3 คนคือเด่น ชอบ บ่าว
เด่นเป็นเด็กที่ห่วงแต่เล่น ไม่เห็นความจำเป็นในการศึกษาต่อระดับสูง เมื่อโดนแม่บังคับให้เดินทางไกลไปเรียนชั้นประถมปีที่ 5 กับชอบเพื่อนรัก เขาก็หาเหตุอู้เล่นอยู่กลางทาง ไปไม่ถึงโรงเรียนอยู่เสมอ จนในที่สุดพ่อแม่ก็จำใจปล่อยให้หยุดเรียน เพราะเด็กเกลียดโรงเรียนจริง
ชอบจึงเดินไปเรียนคนเดียว บ้านของชอบค่อนข้างมีฐานะพอจะส่งลูกชายได้ แต่ชอบก็เป็นเด็กดี กลับจากโรงเรียนก็ลงมือช่วยงานแม่เท่าที่ทำได้ สร้างความชื่นใจให้แม่นัก
บ่าวเป็นเด็กที่ยากจนที่สุดในกลุ่ม อยากเรียนแต่ไม่มีเงิน ที่บ้านหาเงินได้แทบไม่พอยาไส้ แม่เขาออกอุบายให้เขาไปเป็นเด็กวัดติดตามหลวงพี่ยุทธ..ลูกชายที่เพิ่งบวชของป้าแจ่ม จึงได้อาศัยข้าวก้นบาตรเจียดมาเลี้ยงน้องที่บ้านด้วย
จากเรื่องราวของเด็ก 3 คน เราได้รู้จักตัวละครอีกมากมาย ทั้งป้าแจ่มกับลุงเพียร พ่อแม่ของพระยงยุทธ ซึ่งเป็นครอบครัวใจอารี พร้อมจะแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีเหลือเฟือให้คนอื่น ผิดกับครอบครัวป้าขาวกับลุงปลอด ผู้เห็นแก่ได้ ชอบเอาเปรียบชาวบ้าน
ฉาก/การเดินเรื่อง: เป็นบรรยากาศบ้านนาอย่างที่หาอ่านจากหนังสือรุ่นหลังได้ยากแล้ว (ในชีวิตจริง ฉากอย่างที่เล่าก็หาดูได้ยากแล้วเช่นกัน) บางช่วงบรรยายได้ดีเสียจนเหมือนนั่งอ่านอยู่กลางทุ่งข้าวที่ใบเขียวเอนลู่ลมเป็นลูกคลื่นตามสายลมโชยเลยทีเดียว
เนื้อเรื่องจะแทรกเหตุการณ์ในชีวิตบ้านนาไว้ตลอด แม่บ้านหุงข้าวท่ามกลางเสียงลูกร้องไห้, พ่อสานไซ ไม่ก็จับปลาขาย, ลูกหนีหน้าแม่ไปค้างบ้านอื่นเพราะกลัวแม่ดุที่เฝ้าจนเป็ดหาย, ยามน้ำลด คนออกไปจับปลาที่เกยตื้นอยู่ในนา, ชาวบ้านนัดกันมาคั่วข้าวเม่า ตำข้าวเหนียว, ควายได้กินซังข้าวหลังหน้าเก็บเกี่ยว, เด็ก ๆ เหลาไผ่ออกไปปักธง จับปลาได้ก็เปิดไซดูว่าใครได้อะไรมา เป็นเชิงแข่งกันในที >> ฉากเหล่านี้ ถึงจะเล่าอย่างงดงาม แต่ก็ไม่ได้มองข้ามความยากจน การเอาเปรียบและนิสัยเห็นแก่ตัวของคนไปเลย
หลังจากเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่เพลิน ๆ ทะยอยแนะนำตัวละครออกมาครบ เรื่องก็ค่อย ๆ ขมวดเข้าไคลแมกซ์ได้อย่างนิ่ม ๆ โดยมีขนำน้อยกลางทุ่งเป็นจุดเปลี่ยนเหตุการณ์ทั้งหมด
เล่มนี้ฉากและบรรยากาศอบอุ่น อ่านแล้วสบายใจ นอกจากจะมีพล็อตคนดี-คนร้ายให้ลุ้นแล้ว เรื่องยังแฝงบทเรียนไว้มากมาย ทั้งเรื่องความมีน้ำใจให้กัน ความสำคัญของการศึกษา การดำรงตนเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ฯลฯ
แนะนำให้มีเก็บไว้บนหิ้งค่ะ
พิมพ์ครั้งที่ 7 ปี 2543 >> อยากได้ปกนี้จังเลย
สงสัยนิดหน่อย: หน้า 158 (เวอร์ชั่นล่าสุด) บรรยายว่า "เด่นกับบ่าวดำพอ ๆ กัน ผิดแต่ว่าจมูกของเด่นโด่งผมซื่อ ส่วนบ่าวผมหยิก..." >> "ผมซื่อ" คืออะไร? มันน่าจะเป็น "สมชื่อ" รึเปล่า? งง
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2549 2:39:15 น. |
Counter : 3771 Pageviews. |
|
|
|
|
ตรงที่พี่ท้วงมา ถ้าจำไม่ผิด มันคือสมชื่อจริงๆค่ะ