"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
รายการโชว์ต้อนรับแขกเมือง ๓ ยุค อาคันตุกะจากยุโรปตื่นตะลึงทุกยุค!!!

โดย โรม บุนนาค






การแสดงช้างสู้กับเสือในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช





ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเป็นยุคที่อังกฤษและฮอลันดาแผ่อิทธิพลเข้ามาคุคามย่านนี้ จึงทรงดำเนินกุศโลบายคานอำนาจด้วยการเปิดสัมพันธไมตรีอย่างแน่นแฟ้นกับพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งฝรั่งเศส

กรุงศรีอยุธยาจึงมีโอกาสได้ต้อนรับคนสำคัญจากยุโรปหลายคณะ รายการสำคัญที่ทรงจัดต้อนรับแขกเมืองในยุคนั้น มักหนีไม่พ้นการแสดงของช้างที่ชาวยุโรปตื่นเต้นกันมากเมื่อได้เห็น

รายการเหล่านี้ นอกจากเป็นการแสดงจับช้าง-คล้องช้างแล้ว ยังมีการเอาช้างชนกันให้ดูด้วย ซึ่งบาทหลวงตาชารด์ ชาวฝรั่งเศส ได้เล่าไว้ในหนังสือ “จดหมายเหตุการเดินทางสู่ประเทศสยาม”ตอนหนึ่งว่า

“...เราตามเสด็จพระราชดำเนินไปจนถึงทุ่งใหญ่แห่งหนึ่ง ห่างจากตัวเมืองสักร้อยก้าว พระเจ้าแผ่นดินประทับบนหลังช้างพระที่นั่ง โดยมีท่านราชทูตอยู่ทางเบื้องขวาของพระองค์ ห่างกันราวสิบห้าหรือยี่สิบก้าว

ม.ก็องสตังช์อยู่ทางเบื้องซ้าย และมีขุนนางเป็นอันมากหมอบอยู่ด้วยความเคารพรายรอบช้างพระที่นั่ง ชั้นแรกได้ยินเสียงแตรชนิดหนึ่งเสียงกระด้างๆ และไม่มีเสียงสะท้อนกลับ

ครั้นแล้วช้างทั้งสองเชือกที่จัดไว้ให้ต่อสู้กันก็ส่งเสียงอย่างน่ากลัว มันถูกผูกขาหลังไว้ด้วยเชือกเส้นใหญ่ มีคนหลายคนยึดหางเชือกไว้ เพื่อดึงมันถอยหลังเมื่อมีการปะทะกันรุนแรงเกินไป

เขาปล่อยให้มันเข้าใกล้กันในระยะที่ประสานงากันได้โดยไม่ทำให้บาดเจ็บ ว่ากันว่าบางทีมันปะทะกันรุนแรงจนงาหักก็มี จนงาแตกกระเด็นว่อนไปทุกทิศทาง แต่ช้างทั้งสองเชือกนี้มิได้ต่อสู้กันรุนแรงนัก

มีการประสานงากันสี่หรือห้าครั้งเท่านั้น แล้วเขาก็แยกมันออกจากกันไปเสีย และการต่อสู้นั้นสั้นเหลือเกิน จนเราเชื่อกันว่า ที่พระเจ้าแผ่นดินโปรดให้มีการประลองยุทธครั้งนี้

ก็เพื่อหาโอกาสอันรื่นรมย์ในการที่จะพระราชทานของขวัญให้แก่ ม.เดอโวดรีกูรด์ เป็นการขอบใจ ที่เขาได้นำราชทูตสยามสองนายกลับมา และจักเป็นผู้นำราชทูตของพระองค์อีกหลายนายไปสู่ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น”

“ม.ก็องสตังช์” ก็คือ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ อัครมหาเสนาบดีชาวกรีกของสมเด็จพระนารายณ์นั่นเอง

การแสดงที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างก็คือ การแสดงช้างสู้กับเสือ คนฝรั่งเศสเคยเห็นแต่เสือดาวที่ไปเอามาจากอาฟริกา ซึ่งตัวเล็กกว่าเสือลายพาดกลอนมาก พอมาเห็นเสือโคร่งจึงตื่นเต้น บาทหลวงตาชารด์เล่าว่า

“จากตัวเมืองไปประมาณหนึ่งในสี่ของลิเออ (ลิเออเป็นมาตราวัดโบราณ ๑ ลิเออเท่ากับ ๔ กม.) เขาสร้างรั้วไม้ไผ่สูงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละร้อยก้าว ตรงกลางลานนั้นมีช้างสามเชือกเข้าไปรอการต่อสู้กับเสืออยู่

มีแผงใหญ่ทำเป็นรูปหน้ากากสวมหัวและบังงาส่วนหนึ่งเข้าไว้ พอเราไปถึง เขาก็ปล่อยเสือตัวหนึ่งออกมาจากในกรง หน้าตาและสีสันของมันออกจะใหม่ตาอยู่สำหรับชาวฝรั่งเศสซึ่งไปชมอยู่ ณ ที่นั้น

นอกจากว่าตัวของมันจะใหญ่กว่าพีกว่า และรูปร่างไม่เพรียวเหมือนที่เคยเห็นมาในประเทศฝรั่งเศสแล้ว หนังของมันยังมีแต้มจุดไม่เหมือนกันอีกด้วย และแทนที่แต้มจุดอย่างไม่เป็นระเบียบเหล่านั้น มันมีแถบยาวและใหญ่พันรอบตัว

แถบเหล่านี้เริ่มต้นบนสันหลังไปบรรจบกันที่ใต้ท้อง และเป็นเช่นนี้ตลอดไปจนกระทั่งหาง มองดูเป็นปล้องๆ ในชั้นแรกทีเดียว เขายังไม่ปล่อยให้เสือออกไปสู้ หากใช้เชือกสองเส้นผูกรั้งตัวตัวเข้าไว้จนไม่อาจที่จะเผ่นออกไปได้

ช้างเชือกแรกตรงเข้าไปหามัน ใช้งวงฟาดลงบนหลังสองหรือสามที การฟาดนี้รุนแรงถึงขนาดเสือล้มหงายไปทีเดียว และนิ่งอยู่กับที่เป็นครู่ ไม่กระดิกกระเดี้ยคล้ายกับว่าตายไปแล้วฉะนั้น แต่พอเขาแก้เชือกให้มัน

ทั้งๆที่การปะทะครั้งแรกนั้นได้ลดความดุร้ายของมันลงไปมากก็ตาม มันก็ส่งเสียงร้องอย่างน่ากลัว และโผนเข้าตะปบงวงช้างที่รี่จะเข้าไปฟาดมันอีก แต่ช้างก็ม้วนงวงอย่างรวดเร็ว และปล่อยงาโร่ออกมาทิ่มแทงเสือพอดี

จนเสือต้องโดดเสียตัวลอยขึ้นไปในอากาศ และงงงันไปทีเดียวไม่กล้าเข้าไปใกล้ช้างอีก มันเดินวนเวียนอยู่ในลานเพนียดนั้นหลายรอบอยู่ และโจนเข้าใส่ผู้คนที่อยู่ตามช่องทางเดินเป็นครั้งคราว

คราวนี้เขาปล่อยช้างออกไปพร้อมๆกันทั้งสามเชือกผลัดกันเข้าแทงเสือเป็นการใหญ่ มันก็แกล้งทำเป็นตายเสียอีกครั้งหนึ่งและมิคิดที่จะเข้าปะทะกับช้างอีก ช้างคงจะฆ่าเสือตายไปจริงๆ เป็นแน่ ถ้าท่านราชทูตจะไม่ขอชีวิตมันไว้จาก ม.ก็องสตังช์ ซึ่งสั่งให้ยุติการต่อสู้ทันที”

ตามที่บาทหลวงตาชารด์เล่า มีการปล่อยช้างถึง ๓ เชือกลงไปสู้กับเสือตัวเดียว ใหญ่กว่าแล้วยังรุมอีก เจ้าป่าจึงต้องเล่นบทมารยาแกล้งทำเป็นตาย ในหนังสือ“ช้างต้น” ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ช้างต้น

บอกว่าช้างที่มาสู้กับเสือนี้จะคัดเลือกแต่ช้างงาตรง ไม่ใช้ช้างงางอน เพื่อแทงเสือได้ถนัด และมีภาพเขียนคนอีก ๒ คนอยู่บนหลังช้าง ช่วยกันเอาหอกแทงเสือด้วย แบบนี้ถ้าเสือเข้าถึงตัวช้างก็คงโดนหลายรูแน่

มาถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ช้างก็ยังเป็นตัวเอกในรายการโชว์ แต่แค่เป็นการคล้องช้าง จับช้าง ซึ่งจัดขึ้นหลายครั้งทั้งที่เพนียดลพบุรีและอยุธยา

ตามบันทึกกล่าวว่า ครั้งแรกจัดต้อนรับ ดยุ๊คโยฮัน อัลเบิร์ต แห่งเยอรมัน โดยมีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาปราบปรปักษ์ เจ้ากรมพระคชสาร กับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ และพระยาราชวังเมือง เป็นผู้ออกไปต้อนช้างป่าเข้ามาเอง

ครั้งที่ ๒ จัดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๔ เพื่อต้อนรับ แกรนด์ดยุ๊คนิโคลัส ชาร์วิช ขณะดำรงพระยศเป็นรัชทายาทรัสเซีย ซึ่งต่อมาก็คือ พระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ ๒

ครั้งที่ ๓ จัดเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๔ เพื่อต้อนรับการเสด็จกลับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมงกุฎราชกุมาร หลังสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟร์ด

โดยมีทูตต่างประเทศไปชมด้วยเป็นจำนวนมาก และนิตยสาร National Geographic ขอเข้ามาถ่ายทำเป็นภาพชุดเผยแพร่ไปทั่วโลก

การคล้องช้างโชว์ในสมัย ร.๕ นี้นับเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ อย่างครั้งต้อนรับดยุ๊คนิโคลัสซึ่งเคยทอดพระเนตรที่ลังกามาแล้ว แต่มีช้างแค่ ๙ เชือก ส่วนของไทยมีช้างที่ถูกต้อนเข้าเพนียดถึง ๓๐๐ เชือก

โดยพวกควาญจะนำช้างต่อล่วงหน้าออกไปหลายสัปดาห์เป็นหมู่ๆ หมู่หนึ่งไม่ต่ำกว่า ๔๐ เชือก แยกกันไปตามแหล่งที่ช้างป่าออกหากิน แล้วค่อยๆ ต้อนเข้ามาสู่เพนียด

การแสดงคล้องช้างโชว์นี้นับว่ายากกว่าการคล้องตามปกติ เพราะมีคนมาดูเป็นจำนวนมากพากันส่งเสียงโห่ร้องจนช้างป่าตกใจกลัว แต่ควาญช้างและช้างต่อที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

ส่วนการโชว์ต้อนรับแขกเมืองในยุคปัจจุบัน คงจะหารายการแสดงใดๆที่สร้างความตื่นตาประทับใจ เท่ากับกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารคไม่ได้อีกแล้ว ความวิจิตรตระการตาและความยิ่งใหญ่โอฬารของกระบวนเรือ กับแสง สี เสียง

ในรายการแสดงต้อนรับผู้นำกลุ่มประเทศโอเปค เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๖ กับคราวจัดต้อนรับพระราชอาคันตุกะที่มาร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๙ นั้น

ทั้ง ๒ รายการนี้ได้สร้างความตื่นตาประทับใจให้กับองค์พระประมุขและผู้นำประเทศต่างๆ ตลอดจนผู้ชมทางทีวีทั่วโลก เสียงเห่เรือที่ก้องกังวานไปในลำน้ำ กับขบวนเรืออันสง่างามตระการตา

แสดงถึงความเป็นชาติที่มีศิลปวัฒนธรรมอันล้ำเลิศมาแต่โบราณกาล ประกอบกับปราสาทราชวังที่อาบแสงสีอยู่ด้านหลังนั้น ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้มาเยือนเมืองในเทพนิยาย

รายการโชว์แขกเมืองทั้ง ๓ ยุคนี้ รายการในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ถ้าเอามาโชว์ใหม่ก็คงถูกค้านกันเซ็งแซ่ทั่วโลก ว่าเป็นการทารุณสัตว์ ส่วนการคล้องช้างก็เหลือเพียงตำนาน ไม่มีช้างเป็นโขลงๆให้ต้อนเข้าเพนียดอีกแล้ว

แต่กระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยังยืนยงประกาศความเป็นชาติที่สูงส่งด้วยศิลปวัฒนธรรมมาจนถึงวันนี้

ยุคสมัยก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงให้ศิลปวัฒนธรรมไทยด้อยค่าลงไปได้




 
การผูกหน้าร่าห์ที่โคนงวงก่อนช้างลงสู้กับเสือ





การคล้องช้างในสมัยรัชกาลที่ ๕
หน้าพระที่นั่งและอาคันตุกะ



 
ช้างป่าถูกต้อนเข้ามาสู่เพนียด





การแสดงแสง สี เสียง
ของกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารค





ขอบคุณ MGR Online
คุณโรม บุนนาค

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ



Create Date : 23 ธันวาคม 2558
Last Update : 23 ธันวาคม 2558 12:58:12 น. 0 comments
Counter : 1785 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.