"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 มีนาคม 2559
 
All Blogs
 
พระราชนิพนธ์คารมรัก ร.๖ ถึง ๑๐๐ ปีก็ยังไม่ตกยุค มาเป็นเนื้อร้องเพลงฮิตติดอันดับ!!!

โดย โรม บุนนาค

พระราชนิพนธ์คารมรัก ร.๖ ถึง ๑๐๐ ปีก็ยังไม่ตกยุค มาเป็นเนื้อร้องเพลงฮิตติดอันดับ!!!
“พระมหาธีรราชเจ้า”

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระมหาธีรราชเจ้า” ก็เนื่องมาจากผลงานทางวรรณกรรมที่ทรงพระราชนิพนธ์ออกมามากมาย และหลายประเภท ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร้อยแก้วหลายรส ทั้งแนวธรรมะ ตลกขบขัน แนวปลุกใจให้รักชาติ และแนวประวัติศาสตร์

       งานที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้มากอีกอย่างก็คือบทละคร และโปรดการแสดงละครด้วยพระองค์เอง แต่ไม่เคยทรงเลือกรับบทพระเอกเลย โดยมากจะทรงแสดงในบทที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบทตลกที่ทำให้ผู้ดูขบขัน

อย่างเช่นในเรื่อง “พระร่วง” ทรงแสดงเป็น “นายมั่นปืนยาว” ในเรื่อง “กุศโลบาย” ทรงเป็น “คาดิแนล” ในเรื่อง “วิวาห์พระสมุทร” เป็น “นาวาโทไลออน” เป็นต้น

       จุดเด่นอีกอย่างในพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น ทรงใช้สำนวนที่ได้รับความนิยมว่าเป็นวรรณกรรมอันล้ำค่า โดยเฉพาะในตอนสำคัญของเรื่องที่เกี่ยวกับบทสวาทของตัวละคร

บทโต้ตอบระหว่างหญิงชายในการแสดงความรัก หรือบทขับลำนำในลีลาอันกล่าวถึงธรรมชาติแห่งเพศก็ดี ผู้อ่านจะได้อรรถรสที่ซาบซึ้งแสนหวาน ซึ่งเป็นภาษาของกวีผู้เลิศด้วยพระปรีชาสามารถอย่างน่าพิศวง

       พระราชนิพนธ์คารมรักเหล่านี้ นอกจากประทับใจคนอ่านแล้ว ผู้ประพันธ์เพลงในยุคต่อมาหลายท่าน ยังได้นำมาเป็นเนื้อเพลงไทยสากลหลายต่อหลายเพลง ซึ่งล้วนแต่เป็นเพลงที่ฮิตติดอันดับความนิยมอย่างสูง ในความซาบซึ้งคารมรักของเนื้อเพลง

       จมื่นอมรดรุณารักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช) เคยรวบรวมคารมรักเหล่านี้ลงในหนังสือ “วชิราวุธานุสรณ์” เมื่อปี ๒๕๐๖ มาครั้งหนึ่งแล้ว จึงขอนำบทพระราชนิพนธ์ที่ล้ำค่าบางตอน มาย้อนระลึกความประทับใจกันอีกครั้ง

       จากบทละครเรื่อง “ท้าวแสนปม” ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคม ๒๔๕๖ กว่าร้อยปีมาแล้ว พระชินเสน พระเอกของเรื่อง ได้แปลงองค์เป็นท้าวแสนปม แฝงกายเข้าไปพำนักอยู่กับตาเฒ่าคนเฝ้าสวนหลวง จนได้พบปะนางอุษา นางเอก และถวายมะเขือที่จารึกคารมรักเป็นปริศนาไว้ว่า

       ๐ ในลักษณ์ นั้นว่า นิจจาเอ๋ย
       กระไรเลย หัวอก หมกไหม้
       อกผ่าว ราวสุม รุมไฟ
       ทำไฉน จะพ้น ไฟราญ
       เสียแรง เกิดมา เป็นนักรบ
       เผ่าพงศ์ ทรงภพ มหาศาล
       สู้กรากกรำ ลำบาก ยากนาน
       ยอมเป็นปม เป็นปาน เปรอะไป
       ได้เห็น แก้วประเสริฐ เลิศชม
       จะนิยม ก้อนกรวด กระไรได้
       เคยพบ สาวฟ้า สุราลัย
       หรือจะใฝ่ ในชาว ปัถพิน
       โอ้แก้ว แวววับ ช่างจับจิต
       จะใคร่ปลิด ปลดมา ดังถวิล
       โอ้เอื้อม สุดหล้า ดังฟ้าดิน
       จะได้สม ดังจินต์ ฉันใด ฯ

       นางอุษาก็เขียนตอบมาในพลูจีบ ประทานให้เจ้าของมะเขือว่า

       ๐ ในลักษณ์ นั้นว่า น่าประหลาด
       เป็นเชื้อชาติ นักรบ เก่งกล้า
       เหตุไฉน ย่อท้อ รอรา
       ฤาจะกล้า แต่เพียง วาที
       เห็นแก้ว แวววับ ที่จับจิต
       ไยไม่คิด อาจเอื้อม ให้เต็มที่
       เมื่อไม่เอื้อม จะได้ อย่างไรมี
       อันมณี หรือจะโลด ไปถึงมือ
       อันของสูง แม้ปอง ต้องจิต
       ถ้าไม่คิด ปีนป่าย จะได้หรือ
       ไม่ใช่ของ ตลาด ที่อาจซื้อ
       ฤาแย่งยื้อ ถือได้ โดยไม่ยอม
       ไม่คิดสอย มัวคอย ดอกไม้ร่วง
       คงชวดพวง บุปผชาติ สะอาดหอม
       ดูแต่ ภุมริน เที่ยวบินตอม
       จึ่งได้ดอม อบกลิ่น สุมาลี ฯ

       พระชินแสนผู้คลั่งรักอย่างล้นหัวใจ จึงดอดเข้าไปแฝงตัวอยู่ในสวน ก็ได้ยินนางระบายอารมณ์รักออกมาว่า

       ๐ โอ้ว่า ดวงใจ อยู่ไกลลิบ
       เหลือจะหยิบ มาชม ภิรมย์สันติ์
       เหมือนดวงดาว วาววาว อยู่ไกลครัน
       ชิดสวรรค์ สุดเอื้อม มาเชยชม
       เสียแรง ชื่ออุษา นารี
       ไยไม่มี เทวา มาอุ้มสม
       ปล่อยให้นั่ง ฟูมฟก อกตรม
       ร้อนระบม อนาถ จะขาดใจ
       รสใด ไม่เหมือน รสรัก
       หวานนัก หวานใด จะเปรียบได้
       แต่มิได้ เชยชม สมใจ
       ชมใด ไม่เทียบ เปรียบปาน
       อ้าองค์ เทวา สุรารักษ์
       ทรงฤทธิ์ สิทธิศักดิ์ มหาศาล
       ช่วยดลใจ ให้ชู้ คู่ชีวาน
       เซียวซ่าน รักบ้าง อย่างข้านี้ ฯ

       คนรุ่นก่อนจะจำเพลงเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เพราะฮิตติดอันดับอยู่นาน

       จากละครเรื่อง “เวนิสวานิช” ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเดือนธันวาคม ๒๔๕๙ ทรงแปลมาจากบทประพันธ์ของ วิลเลียม เชคสเปียร์ หัวใจของเรื่องนี้เป็นเล่ห์ของพ่อค้ายิว แต่ก็มีบทคารมรักจับใจ ซึ่งกลายมาเป็นเนื้อร้องเพลงไทยสากลฮิตติดอันดับเช่นกัน คือ

       ๐ ความเอย ความรัก
       เริ่มสมัคร ชั้นต้น นั้นหนไหน
       เริ่มเพาะ เหมาะกลาง หว่างหัวใจ
       หรือเริ่มใน สมอง ตรองจนดี
       แรกจะเกิด เป็นไฉน ใครรู้บ้าง
       อย่าอำพราง ตอบสำนวน ให้ควรที่
       ใครถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงระตี
       ผู้ใดมี คำตอบ ขอบใจเอย ฯ


       ๐ ตอบเอย ตอบถ้อย
       เกิดเมื่อเห็น น้องน้อย อย่าสงสัย
       ตาประสบ ตารัก สมัครไซร้
       เหมือนหนึ่งให้ อาหาร สำราญครัน
       แต่ถ้าแม้ สายใจ ไม่สมัคร
       เหมือนฆ่ารัก เสียแต่เกิด ย่อมอาสัญ
       ได้แต่ชวน เพื่อนยา มาด้วยกัน
       ร้องรำพัน สงสารรัก หนักหนาเอย ฯ

       นอกจากนี้ยังทรงพระราชนิพนธ์เป็นกลอนสุภาษิต ซึ่งเป็นบทเกี้ยวพาราศีที่สนุกและขบขัน ทั้งไพเราะในคำประพันธ์ ซึ่งก็เป็นเนื้อเพลงฮิตติดอันดับในเวลาต่อมาเช่นกัน คือ

       (หญิง) เป็นผู้หญิง แท้จริง แสนลำบาก
       (ชาย) เป็นผู้ชาย ยิ่งยาก กว่าหลายเท่า
       (หญิง) หญิงต้องเจียม กายา มาแต่เยาว์
       (ชาย) ชายต้องเฝ้า วิงวอน ให้หล่อนรัก
       (หญิง) หญิงถึงรัก ต้องแกล้ง แสร้งทำเฉย
       (ชาย) หวังให้ชาย อยากเชย ยิ่งขึ้นหนัก
       (ชาย-หญิง) ต่างคนต่าง รักกัน น่าขันนัก
       ที่แท้ต่าง สมัคร จะรักกัน
       (หญิง) วิสัยหญิง ย่อมอาย
       (ชาย) ยั่วชายชิด
       (หญิง) หญิงย่อม ดัดจริต
       (ชาย) จิตชายสั่น
       (ชาย-หญิง) ถ้าแม้รัก จริงแล้ว ไม่แคล้วกัน
       เสน่ห์พัน ผูกสนิท ชิดชมเอย ฯ

       คารมรักเหล่านี้ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อยังทรงครองความเป็นโสด เมื่อพระองค์มีความรัก คารมรักจากพระราชหฤทัยในยามเมื่อเผชิญกับอารมณ์และอำนาจแห่งความรัก ซึ่งเป็นเรื่องจริงของชีวิต ยิ่งไพเราะอ่อนหวานประทับใจยิ่งกว่า

       รักแรกของ ร.๖ เกิดขึ้นในปี ๒๔๖๓ ทรงประกาศหมั้นกับ ม.จ.วรรณวิมล วรวรรณ พระธิดากรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ พร้อมกับได้พระราชทานพระนามให้ใหม่ว่า หม่อมเจ้าวัลลภาเทวี

       ในบทพระราชนิพนธ์เรื่อง “ศกุนตลา” ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ตอนความรักสดชื่นนี้ มีตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า

       ๐ นาฏกะ กลอนนี้ ฉันมีจิต
       ขออุทิศ แด่มิ่ง มารศรี
       ผู้ยอด เสน่หา นารี
       วัลลภา เทวี คู่ชีวัน
       ขอให้หล่อน รับพลี ไมตรีสมาน
       เป็นพยาน ความรัก สมัครมั่น
       เปรียบเหมือนแหวน แทนรัก ทุษยันต์
       ให้จอมขวัญ ศกุน- ตลาไซร้
       แต่ผิดกัน ตัวฉัน ไม่ลืมหล่อน
       จนสาคร เหือดแห้ง ไม่แรงไหล
       จนตะวัน เดือนดับ ลับโลกไป
       จะรักจอด ยอดใจ จนวันตาย ฯ

       รักต่อมาของพระมหาธีรราชเจ้า ก็คือพระน้องนางต่างพระมารดาของหม่อมเจ้าหญิงวรวรรณวิมล คือ “ท่านหญิงติ๋ว” หม่อมเจ้าวรรณพิมล วรวรรณ พระชันษา ๒๑ พรรษา และพร้อมๆกับที่ทรงสถาปนาหม่อมเจ้าวรรณวิมลขึ้นเป็นพระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี

ก็ทรงพระกรุณาพระราชทานพระนามใหม่ให้หม่อมเจ้าวรรณพิมลเป็น “หม่อมเจ้าลักษมีลาวัณ” ด้วย และต่อมาทรงสถาปนาขึ้นเป็น พระนางเธอลักษมีลาวัณ

       ในพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งทรงฉายคู่ในลักษณะสอดพระกรคล้องกับท่านหญิงติ๋วนั้น ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานว่า

       “ให้แม่ติ๋วยอดชีวิตของโต ด้วยความรักยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวันที่ได้ชื่นใจมากที่สุดครั้งแรกในชีวิต คือวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๓
       แต่พี่ผู้คิดถึง
       ราม ร.”

       ทรงระบายความในพระราชหฤทัยเป็นบทกลอนอันซาบซึ้งถึงท่านหญิงติ๋วไว้ว่า

       ๐ นั่งคำนึง ถึงน้อง ผู้ต้องจิต
       แม่มิ่งมิตร ยอดรัก ลักษมี
       ความรักรุก ทุกทิวา และราตรี
       บ่ได้มี สร่างรัก สักเวลา
       ในกลางวัน สุริยัน แจ่มกระจ่าง
       เป็นหน้าน้อง ฟ่องกลาง หว่างเวหา
       ยามราตรี พี่พินิจ พิศนภา
       ก็เห็นหน้า โฉมตรู อยู่แทนจันทร์
       ถึงยามนอน พี่นอน ถอนใจใหญ่
       แว่วเสียงใส แว่วขยับ ขึ้นรับขวัญ
       เห็นรูปนาง ข้างเตียง เคียงหมอนนั้น
       หายโศกศัลย์ นอนยิ้ม กระหยิ่มใจ
       เมื่อลมโชย โรยกลิ่น ผกากรอง
       มาถูกต้อง นาสา พาฝันใฝ่
       ถึงยามเมื่อ ประโลม โฉมอุไร
       หอมชื่นใจ ยอดมิ่ง ยิ่งมาลี
       นึกถึงตา วนิดา เมื่อแลจับ
       นึกถึงโอษฐ์ ยิ้มรับ สำรวลพี่
       นึกถึงแก้ม นางแฉล้ม ราวสุรีย์
       นึกถึงองค์ ราวสำลี ที่นิ่มนวล
       เมื่อยามกอด ยอดชีวิต ติดอุรา
       ชื่นนาสา สูดดอม กลิ่นหอมหวน
       จุมพิตโอษฐ์ ราวโภช- นาชวน
       ให้ลิ้มรส เสน่ห์ยวน เย้ากมล
       เมื่อไรจูบ ลูบประโลม โฉมเฉลา
       ก็ยิ่งเร้า ให้ตระกอง น้องอีกหน
       ยิ่งเห็นยิ่ง งามมาก ยิ่งอยากยล
       ยิ่งได้เชย นิรมล ยิ่งอยากเชย
       ชมกลางวัน มิทัน จะสิ้นสรรพ
       ตะวันลับ ล่วงทิวา นิจจาเอ๋ย
       ชมกลางคืน มิทันชื่น อุราเชย
       เวลาเลย ล่วงดึก นึกขัดใจ
       ถึงวันยาว เท่ากับเดือน จึงเลื่อนลี้
       ถึงเดือนยาว เท่ากับปี หนึ่งนี้ได้
       ถึงปียาว เท่ากับร้อย ฉนำไซร้
       ก็ยังไม่ นานพอ เพื่อกรอรัก
       ตลอดชาติ มิขอคลาด เสน่ห์น้อง
       ขอประคอง เคียงคู่ ผู้สมศักดิ์
       ขอจุมพิต ชิดอุรา ยุพาพักตร์
       ขอจูบกอด ยอดรัก รื่นฤดี
       ขอเอนเอียง องค์แอบ อยู่แนบข้าง
       ขอเชยคาง พิศพักตร์ ลักษมี
       ขอแนบเนื้อ นิ่มนวล ยอดยวนยี
       ขอสดับ วาที ที่จับใจ
       รักสมร ย้อนคะนึง แสนซึ้งจิต
       ที่คิดผิด มาแต่ก่อน ถอนใจใหญ่
       แม้นมิมัว หลงเลย เชยอื่นไป
       ก็คงได้ ชื่นอุรา มานานวัน
       ต่อแต่นี้ ขออย่ามี จิตสงสัย
       ไม่ขอไกล โฉมตรู ผู้จอมขวัญ
       ขอเอารัก ผูกรัก สมัครกัน
       จนกระทั่ง ชีวัน พี่บรรลัย ฯ

       บทพระราชนิพนธ์ในด้านคารมรัก ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระมหาธีรราชเจ้า” นี้ นับเป็นเพชรเม็ดงาม และเป็นสมบัติอันล้ำค่าของวงวรรณกรรมไทยตลอดมา 



พระราชนิพนธ์คารมรัก ร.๖ ถึง ๑๐๐ ปีก็ยังไม่ตกยุค มาเป็นเนื้อร้องเพลงฮิตติดอันดับ!!!
ร.๖ ทรงแสดงในบท “นายมั่นปืนยาว”


พระราชนิพนธ์คารมรัก ร.๖ ถึง ๑๐๐ ปีก็ยังไม่ตกยุค มาเป็นเนื้อร้องเพลงฮิตติดอันดับ!!!
ซ้าย ร.๖ กับ ม.จ.วัลลภาเทวี ขวา ม.จ.ลักษมีลาวัณ กับเจ้าพระยารามราฆพ (ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ) ในละครเรื่อง “โพงพาง”

     
                  

ขอบคุณ MGR Online  

คุณโรม บุนนาค 

ภุมวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    




Create Date : 22 มีนาคม 2559
Last Update : 22 มีนาคม 2559 18:36:24 น. 0 comments
Counter : 1441 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.