"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!

โดย โรม บุนนาค

ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!
พระอุโบสถวัดบรมนิวาส

การเมืองไทยในสมัยช่วงปลายรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นับว่าอึมครึมพอควร นอกจากจะมีข่าวแพร่สะพัดว่าอังกฤษเตรียมจะบุกไทยแล้ว การเมืองภายในยังสับสน เนื่องจากการวางตัวรัชทายาทที่จะสืบราชบัลลังก์ไม่ลงตัว

       การเตรียมรับมือกับกองเรือรบของฝรั่ง ทำให้เมืองไทยตกอยู่ในบรรยากาศของสงคราม มีการสร้าง “ป้อมเสือซ่อนเล็บ” ขึ้นที่บางจะเกร็ง ปากน้ำเจ้าพระยา สั่งซื้อปืนใช้กระสุนขนาด ๑๐ นิ้วเข้ามาถึง ๑๐๐ กระบอก

ส่วนในพระนครก็สร้างป้อมเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายป้อม ทั้งยังต่อกำปั่นรบและกำปั่นลาดตระเวนขึ้นอีก ๑๒ ลำ มีการเตรียมกระสุนไว้จำนวนมาก จับคนที่ไปทำงานเป็นคนใช้และสอนภาษาไทยให้ฝรั่ง

ทำให้ชาวต่างประเทศในเมืองไทยตื่นตระหนก ขึ้นเรือหนีออกไปก็มาก ที่ยังอยู่ก็เตรียมพร้อมที่จะเผ่นทันทีเมื่อมีสงคราม

       ส่วนทางด้านการเมืองภายใน หลังจากกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์สวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่อาจตัดสินพระทัยให้พระราชวงศ์องค์ใดขึ้นเป็นรัชทายาทได้ แม้กระทั่งตอนที่ประชวรหนัก ก็ยังรับสั่งถึงพระอนุชาทั้ง ๓ องค์ว่า

       กรมขุนพิชิตภูเบนทร์ ไม่รู้จักเรื่องการงาน คิดแต่จะเล่นอย่างเดียว

       เจ้าฟ้ามงกุฎ ซึ่งทรงผนวชมาตลอดรัชกาล มีสติปัญญาพอจะรักษาบ้านเมืองไว้ได้ก็จริง แต่ทรงรังเกียจที่ผิดประเพณีสงฆ์เดิม สร้างนิกายสงฆ์ใหม่ครองผ้าแบบมอญ ถ้าขึ้นครองราชย์อาจจะให้สงฆ์ครองผ้าแบบมอญทั้งแผ่นดิน

       ส่วนเจ้าฟ้าน้อย กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระอนุชาร่วมครรภ์มารดากับเจ้าฟ้ามงกุฎ มีความรู้ทางช่างและการทหาร แต่ก็ไม่พอใจทำราชการ รักสนุกเอาแต่เล่น

       จึงไม่ทรงมอบความไว้วางพระราชหฤทัย ให้องค์หนึ่งองค์ใดขึ้นเป็นรัชทายาท เกรงว่าจะไม่เป็นที่พอใจของขุนนางข้าราชการ ทรงอนุญาตให้ตามใจคนทั้งปวงสุดแต่จะเห็นพ้องต้องกัน

ขอให้ขุนนางทั้งหลายจงมีความสามัคคีสโมสรร่วมปรึกษาหารือกัน เมื่อเห็นว่าพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใด มีวัยวุฒิปรีชารอบรู้ราชนุวัตร ปกป้องไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ รักษาแผ่นดินให้เป็นสุขได้ ก็ให้พร้อมใจกันยกพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์นั้นขึ้นครองราชย์

อย่าได้เกรงพระราชอัธยาศัย ขอแต่ให้เป็นสุขกันทั่วหน้า อย่าได้เกิดรบราฆ่าฟันกันให้ราษฎรต้องเดือดร้อน

       ความอึมครึมที่ยังไม่รู้ว่าพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใด จะขึ้นครองราชย์นี้ ทำให้เจ้านายหลายพระองค์หวั่นวิตกว่า ถ้าองค์ที่ไม่ต้องอัธยาศัยกันขึ้นเป็นใหญ่ ก็อาจจะมีภัยมาถึงตนได้ จึงคิดหาทางป้องกันพระองค์

       สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส หรือพระองค์เจ้าวาสุกรี ซึ่งเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงผนวชเป็นสามเณรมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ และผนวชเป็นพระภิกษุในรัชกาลที่ ๒ จำพรรษาอยู่ที่วัดพระเชตุพนมาตลอด

เป็นที่เคารพนับถือของเจ้านายหลายพระองค์และราษฎรทั่วไปก็จริง แต่ก็ทรงวิตกว่าจะมีภัยถ้าราชบัลลังก์ได้แก่เจ้านายบางพระองค์ จึงทรงปรึกษากับเจ้าฟ้ามงกุฎ ซึ่งผนวชมาตั้งแต่สิ้นรัชกาลที่ ๒ และจำพรรษาอยู่ที่วัดบวรนิเวศ

ดำริที่จะสร้างวัดเล็กๆ ไว้ในสวนอีกองค์ละวัด ถ้ามีเหตุคับขันเกิดขึ้นจะได้เสด็จไปหลบอยู่ที่วัดนั้น ให้ห่างไกลจากเรื่องยุ่งเหยิงในพระนคร อย่าให้เป็นที่กีดขวางแก่ราชการบ้านเมือง

       เมื่อทรงดำริพร้อมกันเป็นความลับเช่นนี้แล้ว สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิต ซึ่งขณะนั้นดำรงพระอิสริยศเป็น กรมหมื่นนุชิตชิโนรส จึงไปสร้าง “วัดชิโนรส” ไว้ในสวนที่ริมคลองมอญ

       ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎ ไปสร้าง “วัดบรมนิวาส” ไว้ในสวนลึกฝั่งพระนคร ไม่มีถนนเข้าไปถึงตอนนั้นเรียกกันว่า “วัดนอก”

       เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯประชวรหนักจนสวรรคตในวันที่ ๒ เมษายน ๒๓๙๔ สถานการณ์ที่อึมครึมก็ตรึงเครียดหนัก พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ต่างเกรงภัยในการเปลี่ยนราชบัลลังก์จะมาถึงตน

บ้างก็มีการเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันพระองค์ อย่างกรมขุนพิชิตภูเบนทร์ ที่ข้าในกรมเคยอวดอ้างเบ่งบารมีไว้มาก เกรงว่าเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) กับพระยาศรีพิพัฒน์ (ทัด บุนนาค) จะเอาผิดตอนเปลี่ยนรัชกาล

จึงระดมข้าสวามิภักดิ์มารักษาพระองค์จนล้นวังที่สะพานหัวตะเข้ ริมคูเมืองไม่มีที่ให้อยู่ ต้องไปอาศัยพักตามศาลาวัดพระเชตุพน

       ครั้นความทราบถึงเจ้าพระยาพระคลัง ซึ่งว่าที่พระสมุหกลาโหมด้วย จึงส่งบุตรชาย ๒ คน คือพระยามนตรีสุรวงศ์ (ชุ่ม) ซึ่งตอนนั้นยังเป็น นายพลพัน หุ้มแพร กับเจ้าพระยาภาณุวงศ์ฯ (ท้วม) ซึ่งตอนนั้นยังเป็นมหาดเล็ก

ให้ไปสืบดูเหตุการณ์ว่าเท็จจริงเพียงใด ครั้นไปเห็นผู้คนชุมนุมอยู่ในวัดโพธิ์มากมาย ไต่ถามดูก็ทราบว่าเป็นข้าของกรมขุนพิชิตภูเบนทร์ทั้งสิ้น

       เจ้าพระยาพระคลังจึงเรียกบุตรชายคนโต คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) ซึ่งตอนนั้นยังเป็นพระยาศรีสุริยวงศ์ ไปสร้างป้อมค่ายและต่อกำปั่นรบอยู่ที่ปากน้ำสมุทรปราการ มาปรึกษา

พระยาศรีสุริยวงศ์ให้สงบเฉยไว้ แล้วกลับไปปากน้ำทันที จากนั้นก็ขนทหารติดอาวุธมาเต็มลำสำเภาเดินทางมาในคืนนั้น พอรุ่งเช้าก็เข้าจอดที่ท่าเตียน แล้วไปเข้าเฝ้ากรมขุนพิชิตฯด้วยตัวเอง

ทูลว่าบิดาให้มาทูลถามเหตุที่ระดมผู้คนมามากมายเช่นนี้ มีวัตถุประสงค์อันใด กรมขุนพิชิตฯตอบว่าเกรงจะมีอันตราย จึงเรียกคนมาไว้ป้องกันพระองค์ พระยาศรีสุริยวงศ์จึงทูลว่า

บิดาของท่านกับเสนาบดีทั้งหลายช่วยกันรักษาราชการบ้านเมืองเป็นปกติอยู่ ไม่มีเหตุอันใดที่จะหวาดหวั่นเช่นนั้น ขอให้ไล่คนเหล่านี้กลับไปเสียโดยเร็ว มิฉะนั้นจะให้ทหารมาจับคนเหล่านั้นไปลงโทษ กรมขุนพิชิตฯเลยจนพระทัย ต้องรับสั่งให้คนที่ระดมมากลับไปหมด

       เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของบิดามาตลอด และได้วางแผนร่วมกับน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ) เมื่อครั้งยังเป็นจมื่นราชามาตย์แล้วว่า

ถ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ สวรรคต ราชสมบัติจะต้องตกแก่เจ้าฟ้ามงกุฎ บ้านเมืองจึงสงบร่มเย็น จึงได้ไปทูลเชิญเจ้าฟ้ามงกุฏฯ มาขึ้นครองราชย์ ทรงเกี่ยงว่า ถ้าจะถวายราชสมบัติแก่พระองค์ ก็ขอให้ถวายแก่กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระอนุชาด้วย

       ด้วยเหตุนี้ รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีพระมหากษัตริย์ร่วมรัชกาลกัน ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

       เมื่อพระอนุชาทั้งสองพระองค์ขึ้นครองราชย์ ความอึมครึมทางการเมืองทั้งหลายก็หายไปทันที รวมทั้งอังกฤษที่เตรียมจะบุกไทย ก็เปลี่ยนเป็นส่งทูตเข้ามาเจรจาการค้า และบ่ายหัวกองเรือรบไปพม่าแทน

       เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯก็ทรงสร้างวัดนอกที่ทรงสร้างค้างไว้ต่อจนเสร็จสมบูรณ์ พระราชทานนามว่า วัดบรมนิวาส

       ทรงสถาปนากรมหมื่นนุชิตชิโนรสขึ้นเป็น กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรสในปี ๒๓๙๖

       ต่อมาในปี ๒๔๐๐ วัดชิโนรสารามชำรุดทรุดโทรมลง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯได้โปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายอย่าง เพื่อระลึกถึงพระคุณของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส ซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี ๒๓๙๖ นั้น

       สมเด็จกรมพระปรมานุชิตฯ ทรงเป็นกวีเอกของกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงนิพนธ์บทกวีไว้มากมายหลายเล่ม อาทิเช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ตอนปลาย ซึ่งนิพนธ์ต่อจากที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงนิพนธ์ค้างไว้ กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ลิลิตเตลงพ่าย โคลงยอพระเกียรติ ร.๓ ร่ายยาวมหาชาติ ๑๑ กัณฑ์ เพลงยาวเจ้าพระ เป็นต้น

ทรงมีผลงานอมตะทั้งทางโลกและทางธรรม องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติจึงประกาศยกย่องพระองค์เป็นผู้มีผลงานเด่นทางด้านวัฒนธรรม ซึ่งเท่ากับยกย่องเป็นกวีเอกของโลก เช่นเดียวกับที่สุนทรภู่ได้รับ

       วัดบรมนิวาสเมื่อแรกสร้าง อยู่ในสวนลึกไม่มีถนนเข้าไปนั้น ขณะนี้กลับอยู่ในย่านแออัดที่สุดของกรุงเทพฯ มีถนนตัดเข้าไปเข้าไปถึงวัดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕

       เมื่อไปถามพระภิกษุสงฆ์อาวุโสรูปหนึ่งในวัดบรมนิวาสว่า สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างไว้ มีอะไรเหลืออยู่บ้างในขณะนี้ ท่านบอกว่า

       “ทั้งหมด โยม ยังเหลืออยู่ทั้งนั้น โดยเฉพาะโบสถ์และรอบโบสถ์ก็ยังสมบูรณ์”

       พระอุโบสถ รัชกาลที่ ๔ ทรงสร้างเมื่อปี ๒๓๗๗ หน้าบันมีลายปูนปั้นรูปมงกุฎ ซึ่งเป็นตราประจำพระองค์ ล้อมรอบด้วยลายดอกไม้ บานประตูภายในเป็นภาพทหารจีนสอดสี บนหน้าต่างภายในเป็นภาพเครื่องบูชาแบบจีน

กรอบหน้าต่างเป็นภาพเปรียบเทียบอุปมัย ถึงวิธีการที่พระบรมศาสดาได้ทรงใช้ในการอบรมสั่งสอนบุคคลชั้นต่างๆ มีรูปชาวยุโรปเครื่องแต่งกายและบ้านเรือนเป็นฝรั่งหมด เขียนโดยช่างสมัยรัชกาลที่ ๔ รูปตอนล่างช่างกรมศิลปากรซ่อมแซมและเขียนตามแบบยุโรป บรรยายวัฒนธรรมและประเพณีทำบุญต่างๆของชาวพุทธ

       พระเจดีย์ ทรงสร้างไว้เมื่อปี ๒๓๗๗ เช่นกัน ตั้งอยู่หลังพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงกลม ฐานเหลี่ยม สูง ๑๕ วา ภายในทำเป็นห้อง มีประตูทางเข้าตรงกับโบสถ์ บานประตูด้านนอกลงรักประดับมุก เป็นรูปราชกกุธภัณฑ์ มีฉัตรทั้ง ๙ ชั้น และ ๕ ชั้น พระมหาพิชัยมงกุฎอุณหิส วาลวิชนี ฉลองพระบาท หีบพระโอสถ

พระประธานในพระอุโบสถปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๔ นิ้ว สูงถึงยอดพระรัศมี ๑ วา ๕ นิ้ว พระอัครสาวกยืนซ้ายขวาข้างละองค์ หล่อในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สูง ๒ ศอก ๑ คืบ ๙ นิ้วทั้งสององค์

       ด้านหน้าพระอุโบสถมีพระเจดีย์ใหญ่ สร้างมาในสมัยเดียวกับพระอุโบสถ สูง ๑๔ วาองค์เจดีย์ย่อมุม ๕ เหลี่ยม ฐานล่างย่อ ๖ เหลี่ยม มีมารแบก ๖ ตน

       นี่ก็เป็นที่มาของวัดทั้ง ๒ ซึ่งเมื่อกว่า ๑๘๐ ปีมาแล้วอยู่ในสวนลึก สร้างไว้เพื่อให้เห็นว่าผู้สร้างไม่ปรารถนาจะเกี่ยวกับทางโลกอันยุ่งเหยิง หลบลี้มาอยู่ห่างไกลจากผู้คนทั้งหลาย ให้ขาดการติดต่อถึงกันได้สะดวก

แม้ว่าในยุครัตนโกสินทร์จะไม่ปรากฏการช่วงชิงอำนาจ เหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีการฆ่าฟันกันอย่างไม่มีญาติ มีพี่มีน้อง บางครั้งก็ไม่มีแม้แต่พ่อกับลูก แต่ความหวาดระแวงจากภาพหลอนเก่าๆ ก็อาจมีอยู่

การป้องกันตัวด้วยความไม่ประมาท ประกาศให้รู้ว่าจะไม่ยุ่งทางโลกด้วย จึงเป็นวิธีการของผู้มุ่งแสวงธรรมทั้งสองพระองค์ทรงใช้ปฏิบัติ



ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!
จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ


ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!
จิตรกรรมฝาผนังแสดงแสดงให้เห็นเรือสำเภาและฝรั่งที่เริ่มเข้ามามากในสมัย ร.๔


ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!
จิตรกรรมฝาผนังสมัยรับอารยธรรมตะวันตกสมัย ร.๔


ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!
กรมพระปรมานุชิตฯ


ร.๔ และ กวีเอกของโลก สร้างวัดไว้ลี้ภัยการเมืองในสวนลึก!!!
พระอุโบสถวัดชิโนรส

ขอบคุณ MGR Online  

คุณโรม บุนนาค

ภุมวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    




Create Date : 08 ธันวาคม 2558
Last Update : 8 ธันวาคม 2558 8:51:21 น. 0 comments
Counter : 1041 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.