"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 มีนาคม 2559
 
All Blogs
 
เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!

 โดย โรม บุนนาค

 

เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
สถานีต้นทางของรถไฟสายปากน้ำ

       

สถานีต้นทางของรถไฟที่ออกจากกรุงเทพฯ ไม่ได้มีแต่ที่สถานีหัวลำโพงขณะนี้ หรือสถานีบางกอกน้อยเท่านั้น ที่วงเวียนใหญ่ก็ยังมีสถานีต้นทางของรถไฟสายโดดเดี่ยว วิ่งไปแม่กลองไม่เชื่อมต่อกับสายไหน

ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ทุกวันนี้ก็ยังวิ่งอยู่ แต่ก่อนสถานีต้นทางอยู่ริมแม่น้ำที่ปากคลองสาน ถูกตัดสั้นเหลือแค่วงเวียนใหญ่ และยังมีอีก ๒ สายที่เหลือเป็นตำนาน ทิ้งร่องรอยที่เป็นถนนให้รถยนต์วิ่งแทนอยู่ในขณะนี้

       สายหนึ่งเป็นสายแรกสุดของเมืองไทย แต่ทางการถือกันว่ารถไฟสายแรกของไทย คือสายกรุงเทพฯ-อยุธยา ซึ่งเป็นส่วนแรกของรถไฟหลวงสายเหนือ เริ่มเปิดเดินรถเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๓๙

และถือเอาวันนี้เป็นวันสถาปนากิจการรถไฟไทยด้วยนั้น แต่ในวันนั้นประเทศไทยมีรถไฟสายหนึ่งเปิดให้บริการมาแล้ว ๓ ปี ออกจากสถานีต้นทางที่หัวลำโพงเหมือนกัน สถานีอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีหัวลำโพงในปัจจุบัน

ริมถนนพระราม ๔ ซึ่งตอนนั้นมีชื่อว่า “ถนนตรง” และยังมีคลองขนานไปตลอด เรียกว่า “คลองถนนตรง” เหมือนกัน เป็นรถไฟของบริษัทเอกชน

       ในปี ๒๔๒๙ รัฐบาลสยามได้ให้สัมปทาน ๕๐ ปีแก่บริษัทของชาวเดนมาร์ค คือนาย เอ.ดูเปล ริเดธิเชอเลียว ซึ่งรับราชการเป็นกัปตันเรือพระที่นั่งเวสาตรี กับพวก สร้างทางรถไฟสายปากน้ำ จากกรุงเทพฯไปสมุทรปราการ เป็นระยะทาง ๒๑ กิโลเมตร

และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำพิธีเริ่มการก่อสร้างเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๔๓๔ ทั้งได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำพิธีเปิดเดินรถในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๔๓๖ พระราชดำรัสในครั้งนั้นมีความตอนหนึ่งว่า

       “...เรามีความยินดีที่ได้รับหน้าที่อันเป็นที่พึงใจ คือจะได้เป็นผู้เปิดรถไฟสายนี้ ซึ่งเป็นที่ชอบใจและปรารถนามาช้านานแล้วนั้น ได้สำเร็จสมดังประสงค์ลงในครั้งนี้

เพราะเหตุว่าเป็นรถไฟสายแรกที่จะได้เปิดในบ้านเมืองเรา แล้วยังจะมีสายอื่นต่อๆไปอีกเป็นจำนวนมากในเร็วๆนี้ เราหวังใจว่าจะเป็นการเจริญแก่ราชการและการค้าขายในบ้านเมืองเรายิ่งนัก...”

       รถไฟสายปากน้ำมี ๑๒ สถานี คือ บางกอก ศาลาแดง คลองเตย บ้านกล้วย พระโขนง บางจาก บางนา สำโรง จรเข้ บางนางเกรง มหาวง และสถานีปากน้ำที่อยู่ตรงท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงปลายทางของรถไฟสายนี้อยู่ตรงนั้น

       กิจการรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปากน้ำประสบกับการขาดทุน ทางราชการจึงได้ให้กู้ยืมเพื่อให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ให้บริษัทต่างชาติกู้เงิน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้รถไฟสายแรกของไทยต้องล้มเหลวแล้ว

ทางรถไฟสายนี้ยังถือเป็นสายยุทธศาสตร์ป้องกันปากน้ำเจ้าพระยาด้วย ในคราวที่ฝรั่งเศสส่งเรือรบ ๒ ลำฝ่าการป้องกันของป้อมพระจุลจอมเกล้าเข้ามาเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๔๓๖ ที่เรียกว่า “เหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒”

ซึ่งรถไฟขบวนสุดท้ายในคืนนั้น ถูกลูกหลงไม่ทราบว่าของฝ่ายไหน มีผู้โดยสารเสียชีวิตหนึ่งราย บาดเจ็บหนึ่งราย และแม่เฒ่าตกใจตายไปอีกหนึ่งราย นาย เอ.ดูเปล ริเดธิเชอเลียว ซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พล.ร.ต.พระยาชลยุทธโยธิน ผู้อำนวยการป้องกันปากแม่น้ำ

ซึ่งใช้ปืนป้อมพระจุลฯ ยิงเรือนำล่องของฝรั่งเศสจมแล้ว ยังได้ขึ้นรถไฟสายนี้ตามเรือรบฝรั่งเศสที่ฝ่าด่านเข้ามาได้ หวังจะเอาเรือพระที่นั่งมหาจักรีพุ่งชน แต่ทางการไทยไม่ต้องการจะก่อปัญหากับฝรั่งเศสอีก จึงใช้วิธีเจรจาแทน

       ต่อมารถไฟสายกรุงเทพฯ-ปากน้ำ ได้เลิกใช้หัวรถจักรไอน้ำ เปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้า เช่นเดียวกับรถรางในกรุงเทพฯ ซึ่งนาย เอ.ดูเปล ริเดธิเชอเลียวกับพวกได้รับสัมปทานเช่นกัน

       หลังสิ้นสุดสัมปทานรถไฟสายปากน้ำ กรมรถไฟได้ดำเนินกิจการต่อ จนกระทั่งเลิกไปเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๓ ในรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และรื้อทางรถไฟ ถมคลอง ขยายเป็นถนนพระราม ๔ ร่องรอยของเส้นทางรถไฟสายนี้ที่ยังเหลืออยู่ ก็คือเส้นทางรถยนต์ที่เรียกว่า “ถนนทางรถไฟสายเก่า” นั่นเอง

       อีกสายที่จะเปิดตำนานมาเล่ากันในวันนี้ คนทุกวันนี้รู้จักกันน้อยเต็มที เพราะเลิกกิจการไปหลายปีจนลืมกันไปหมดแล้ว ทิ้งไว้แต่ร่องรอยที่เคยเป็นเส้นทางให้รถยนต์ได้ใช้แทนเหมือนกัน

       รถไฟสายนี้มีชื่อเป็นทางการว่า “รถไฟสายบางบัวทอง” สถานีต้นทางอยู่ที่ท่าน้ำวัดลิงขบ หรือวัดบวรมงคล ฝั่งธนบุรี ตรงข้ามท่าเรือเทเวศร์ ไปสุดทางที่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หรือเรียกกันว่า “รถไฟสายเจ้าคุณวรพงศ์ฯ”

เพราะเจ้าของคือ เจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์ (ม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา) คนที่ชอบเรื่องเครื่องยนต์กลไกและงานช่าง ตอนที่เข้ารับราชการในสมัยรัชกาลที่ ๕ เงินเดือน ๑๒ บาท พอขึ้นไปเป็น ๓๐ บาท

ท่านเก็บหอมรอมริบไปซื้อรถเมล์เก่าๆมาได้ ๒ คัน ซ่อมออกรับผู้โดยสาร จนเกิดติดใจธุรกิจประเภทนี้ที่ขนเงินเข้าบ้านทุกวัน สิบสลึงบ้าง สามบาทบ้าง บ้านเมืองก็เจริญขึ้นมากจนคนเดินกันไม่ทันใจแล้ว

       เรื่องนี้อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดรถไฟสายบางบัวทองขึ้น

       เหตุที่ท่านไปเลือกทำรถไฟไปบางบัวทอง ก็เพราะในสมัยนั้นมีงานก่อสร้างมาก ทั้งวังและคฤหาสน์ขุนนาง ท่านจึงไปเช่าเตาเผาอิฐที่บางบัวทองผลิตอิฐชั้นดีมาใช้ในการก่อสร้าง และเห็นว่าบางบัวทองกำลังเจริญ มีธุรกิจคึกคัก

       การวางรางรถไฟสายนี้มีปัญหายุ่งยากมาก เพราะตอนนั้นยังไม่มีพระราชบัญญัติคุ้มครองการสร้างทางรถไฟ ต้องให้กำนันผู้ใหญ่บ้านไปอ้อนวอนขอแบ่งที่ชาวบ้านให้ บางรายก็ไม่ยอมแบ่ง ให้ซื้อยกแปลง บางรายก็ไม่ยอมขาย เลยต้องย้ายแนวหลบ ทำให้ทางรถไฟสายนี้คดไปคดมา

       รถไฟสายบางบัวทอง-วัดลิงขบ ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ก่อตั้ง “บริษัท รถไฟบางบัวทอง จำกัดสินใช้” เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๑ และเริ่มวางรางในปี ๒๔๕๒ เปิดเดินรถได้ในปี ๒๔๕๘ ด้วยขนาดรางกว้าง ๗๕ เซนติเมตร

       ต่อมาในปี ๒๔๗๓ ได้ขยายเส้นทางจากบางบัวทองไปถึงทุ่งระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว ตอนนี้มีพระราชบัญญัติคุ้มครองการสร้างทางรถไฟออกมาแล้ว ทางช่วงนี้จึงสร้างได้ตรง พร้อมกับได้ย้ายรางที่แยกไปลงท่าน้ำวัดเฉลิมพระเกียรติ ไปสร้างลงท่าน้ำแห่งใหม่

ที่เรียกว่า “ท่าน้ำนนทบุรี”ในปัจจุบัน ตามศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ที่ย้ายจากตลาดขวัญ ตรงข้ามวัดเฉลิมพระเกียรติ ไปอยู่ที่บางขวาง ตรงข้ามท่าน้ำนั้น

       ในตอนแรกที่เริ่มเดินรถ ใช้หัวรถจักรไอน้ำ แต่ต่อมาฟืนหายากขึ้น เลยหันมาใช้หัวรถจักรดีเซล ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ จึงประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทั้งยังมีเรือของบริษัทฝรั่งที่เรียกกันว่า “มอเตอร์โบ๊ท”

มาเปิดรับผู้โดยสารระหว่างบางบัวทองกับท่าเขียวไข่กา บางกระบือ ทำให้รายได้รถไฟลดลง จึงประกาศเลิกกิจการในวันที่ ๑๖ กรกฎาตม ๒๔๘๕ และเริ่มรื้อถอนรางในเดือนกันยายน

ขายให้บริษัทน้ำตาลวังกะพี้ที่อุตรดิตถ์ ใช้ขนอ้อยจากไร่เข้าโรงงาน และใช้มาจนถึงปี ๒๕๒๐ จึงเอาหัวรถจักรมาตั้งเป็นที่ระลึกไว้ที่หน้าโรงงาน

       ร่องรอยของเส้นทางรถไฟสายเจ้าคุณวรพงษ์ฯที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันก็คือ “ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๔๖” และ “ถนนบางกรวย-ไทรน้อย” ซึ่งบางแห่งยังมีตอม่อคอนกรีตของสะพานข้ามคูหลงเหลืออยู่

       ผู้เขียนมีโอกาสได้นั่งรถไฟสายนี้ครั้งหนึ่งในชีวิต ข้ามเรือจ้างจากท่าเทเวศร์ไปท่าวัดลิงขบ แล้วขึ้นรถไฟสายเจ้าคุณวรพงษ์ฯไปลงที่สถานีวัดรวก บางบำหรุ ยังจำบรรยากาศในการเดินทางได้ เหมือนนั่งเรือฝ่าคลื่น ส่ายและกระเทือนไปตลอดทาง แต่บรรยากาศสองข้างทางติดตรึงใจ ผ่านสวนทุเรียนที่มีลูกห้อยระย้าไปตลอด

       นี่ก็เป็นตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ ที่พ่ายแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ถูกรถยนต์ยึดเส้นทางไปใช้ในปัจจุบัน 


เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
สถานีบางจากของสายปากน้ำ


เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
รถไฟสายปากน้ำเมื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้า


เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
เส้นทางวิบากของทางรถไฟสายวัดลิงขบ


เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
สะพานแห่งหนึ่งบนเส้นทางไปบางบัวทอง


เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
รถตู้โดยสารของรถไฟสายเจ้าคุณวรพงศ์ฯ


เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!
รถจักร์ไอน้ำของรถไฟสายบางบัวทองที่หน้าโรงน้ำตาลวังกะพี้เป็นที่ระลึก

ขอบคุณ MGR Online  

คุณโรม บุนนาค 

ภุมวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    




Create Date : 15 มีนาคม 2559
Last Update : 15 มีนาคม 2559 20:38:59 น. 0 comments
Counter : 1181 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.