สำหรับลูกรักวัยเบบี๋ การนอนถือเป็นการพักผ่อนที่มีคุณค่ามหาศาล ในทางกลับกันเชื่อว่าคุณแม่หลายๆท่านคงจะเห็นด้วยว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะให้ลูกรักนอนหลับได้เต็มที่โดยเฉพาะในวัยขวบปีแรก ซึ่งปัญหาการนอนยาก นอนไม่เพียงพอ ตื่นบ่อย หลับไม่สนิท ฯลฯ ล้วนเป็นการนอนที่ส่งผลระยะยาว ทั้งต่อสมอง อารมณ์ พัฒนาการและการเจริญเติบโต

ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพ APPSA (Asia Pacific Pediatric Alliance) ซึ่งประกอบไปด้วยกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับของเด็กจากประเทศต่างๆ ได้จัดการประชุมร่วมกับแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ทำการศึกษาและวิจัยพบว่า ในปัจจุบันนี้มีเด็กเล็กจำนวนมาก ที่มีปัญหาการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่และผู้ดูแลต้องร่วมกันแก้ไข

ข้อมูลจากประเทศแถบตะวันได้ยืนยันว่า 1 ใน 4 ของเด็กมีปัญหาการนอนหลับ เช่น นอนยาก การตื่นในยามดึก อาการหายใจติดขัดขณะนอนหลับ และอาการผลอยหลับโดยไม่ตัว มาดูในส่วนของเด็กเอเชียก็พบว่า ทารกถึง 1 ใน 3 ยังมีปัญหาไม่สามารถหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืน ซึ่งมีการรายงานทางสถิติที่สูงถึง 65.9% !

มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับในเด็กแถบภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ไม่ใกล้ไม่ไกลบ้านเรา คือประเทศ จีน ที่พบว่าเด็กวัยเรียนชาวจีน มีชั่วโมงการนอนหลับน้อยกว่าชาติอื่นๆ เพราะนอนดึกและตื่นเช้า นอกจากนี้ศึกษาเปรียบเทียบเด็กชาวจีนกับอเมริกัน พบว่า เด็กชาวจีนนอนหลับน้อยกว่า และมีปัญหาในการนอนมากกว่า เช่น มีภาวะง่วงหงาวหาวนอนในเวลากลางวันมากกว่าเด็กทั่วไป ละเมอพูดขณะหลับ กัดฟันระหว่างนอน แถมยังมีภาวะอื่นๆแทรกซ้อนขึ้นมาด้วย

ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่า ปัญหาด้านการนอนหลับของเด็กทารก มักจะไม่ได้มีการตระหนักกันอย่างจริงจัง ทั้งยังมีการวินิจฉัยที่ผิดพลาดบ่อยครั้งว่า เป็นโรคเจ็บคอ เยื่อจมูกอักเสบเรื้อรัง หรือแม้กระทั่งติดเชื้อทางระบบหายใจ เห็นได้ชัดว่ายังไม่มีใครเข้าใจถึงปัญหาการนอนหลับของเด็กเล็กได้อย่างลึกซึ้ง

การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาท โดยก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น กระสับกระส่าย งอแง ร้องไห้มากเกินไป มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมในทางที่ไม่ดี เลี้ยงยาก หุนหันพลันแล่น ตีโพยตีพาย เหม่อลอย สมาธิสั้น ความจำบกพร่อง

กระบวนการสร้างฮอร์โมนที่มีผลต่อการเจริญเติบโตจะหยุดชะงัก ระบบต่อมไร้ท่อและระบบเผาผลาญอาหารทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เด็กโตช้า พัฒนาการช้ากว่าคนอื่น ภูมิต้านทานน้อย มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้ง่าย สุขภาพไม่ดี

ข้อมูลยังไม่หมดแค่นี้นะคะ เพราะผู้เชี่ยวชาญยังพบว่า ปัญหาการนอนหลับในเด็กเป็นปัญหาที่ส่งผลทั้งครอบครัว เมื่อสำรวจก็พบว่า 1 ใน 4 ของเด็กที่มีปัญหาการนอนหลับ ในช่วงอายุระหว่าง 6 เดือน - 4 ปี สร้างความตึงเครียดให้แก่พ่อแม่และผู้ดูแลที่ส่งต่อและกลายเป็นปัญหาการนอนหลับของผู้ใหญ่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ พฤติกรรม ความเมื่อยล้า และผลอันไม่พึงประสงค์ที่ตามมาของพ่อแม่และเด็กอีกด้วย

...จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นผู้ใหญ่ที่อดหลับอดนอนมีสุขภาพที่เสื่อมโทรม ไม่แข็งแรงสดใส ยากที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมและนิทราเวชศาสตร์ท่านหนึ่ง เคยกล่าวไว้ว่า ปัญหาเรื่องการนอนเกิดได้กับคนทุกวัย ซึ่งปัจจุบันพ่อแม่พาลูกมาหาหมอ เพราะลูกนอนกรน ดื้อผิดปกติ เป็นเด็กไฮเปอร์แอ็กทีฟ ไม่อยู่สุขและซนมาก นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการทางร่างกายพัฒนาไม่เต็มที่ อ้าปากหายใจเวลานอน และเป็นหูน้ำหนวกบ่อย ซึ่งคุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำถึงการนอนที่มีค่าแก่เราว่า

ฉะนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกนอนหลับดีตื่นดีมีความสุขจำเป็นต้องเข้าใจ และตระหนักถึงการทำให้ลูกรักได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่...ด้วยการนอนที่มีคุณภาพ

นอนแบบไหน? ถึงจะได้คุณภาพ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจ ธรรมชาติการนอนหลับของลูกรักวัยทารกว่ามีช่วงเวลาหลับๆตื่นๆเป็นอย่างไร แล้วจึงมาเรียนรู้ร่วมกันว่า ลูกรักควรจะนอนวันละเท่าไหร่ นอนแบบไหน จึงได้คุณภาพ

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเรื่องการนอนหลับในเด็ก โดยความร่วมมือขององค์กรสุขภาพด้านการนอนหลับ (The National Sleep Foundation) ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำกัด ทำการศึกษาเรื่องการนอนหลับสนิทสำหรับลูกน้อย มาเผยแพร่แก่คุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกค้องและสามารถทำให้ลูกรักหลับสนิทได้นานๆ อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเสนอความรู้ที่เป็นประโยชน์ เรื่องรูปแบบการนอนของลูกรักในแต่ละช่วงวัยไว้ดังนี้

Create Date : 08 มีนาคม 2551
Last Update : 17 มีนาคม 2551 21:23:08 น.		0 comments
Counter : 2896 Pageviews.
Share Tweet