หนาวนี้ที่ปาย: ตอนที่ 2
เช้าวันที่ 21 พ.ย. พอตื่นมาก็มองออกไปนอกหน้าต่าง โอ๊ววววววววววววว หมอกหนามาก รีบลุกขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้




^
^
วิวหน้าบ้าน มองไม่เห็นภูเขาเลย...นี่ 8 am กว่า ๆ แล้วนะนี่ (- -')


มุมนี้ถ่ายจากหน้าต่างห้องนอนอีกด้านนึง

พอเห็นหมอกอย่างนี้ก็เลยตัดสินใจเขียนโปสการ์ดถึงทุกคนให้เสร็จ แล้วค่อยออกตะลอนทัวร์ตามโปรแกรมที่วางไว้

((เขียนให้คนอื่น ๆ เสร็จแล้วก็มานั่งตัดสินใจว่าจะเขียนส่งให้พี่อาร์ท พี่ที่ทำงานที่ช่วงหลัง ๆ คุยกันมากขึ้นดีหรือเปล่า (คนละคนกับพี่อาร์ตที่มีลูกแล้วนะคะ hahaha) ก่อนเราจะมา พี่เค้าก็รู้ แล้วก็บอกให้เราถ่ายรูปไปให้ดูเยอะ ๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจเขียน แต่แทนที่จะส่งไปที่ที่ทำงานเหมือนคนอื่น ๆ เราก็โทรกลับมาถามที่อยู่พี่อาร์ทแทน แบบตอนนั้นมัวแต่กลัวว่าถ้าส่งไปที่ทำงานอาจจะเป็น talk of the town เพราะก่อนเราจะมา ก็มีคนพูดแล้วว่าเรากับพี่อาร์ทเป็นคู่รักคู่ใหม่ของที่ทำงาน (- -') แต่ลืมคิดไปว่าการที่เราไม่ส่งโปสการ์ดของพี่อาร์ทไปที่ที่ทำงานเหมือนคนอื่น อาจจะทำให้พี่อาร์ทรู้ว่าเราเห็นเค้าเป็นคนพิเศษ แหะ แหะ))


เกือบ 11 am หมอกถึงจะจาง

พอแดดออก ฟ้าใส เราก็ได้ฤกษ์ออกตะลอนทัวร์ วันนี้วางแผนจะขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนไปทางเชียงใหม่ (จะได้หาหมวกกันน็อคที่ทำหล่นด้วย) เที่ยวโป่งน้ำร้อนท่าปาย พระธาตุแม่เย็น น้ำตกแม่เย็น แล้วก็เที่ยวในตัวเมืองปาย

ก่อนออกเดินทางก็ต้องหาอาหารเข้าท้องซะก่อน นึกที่ทานไม่ออก พอดีจอดรถมอเตอร์ไซค์หน้าร้าน All about Coffee ก็เลยตัดสินใจทาน brunch ที่นี่ซะเลย


หน้าร้าน


มุมกาแฟ


ข้างในร้าน ทำเป็นชั้นครึ่ง


เลือกนั่งชั้นบน เพราะชอบนั่งกับพื้น สบาย ๆ


งานศิลปะที่แขวนอยู่ข้างฝาผนังเค้าขายด้วยนะคะ


เมนู


อยากทานอะไรเบา ๆ ก็เลยสั่งไข่กระทะ


เสิร์ฟพร้อมขนมปังกับเนย


นั่งมองไปทั่ว ๆ ร้าน เห็นเมนูเค้กก็เลยสั่งBanana cakeมาทาน

พอเติมพลังให้ตัวเองเสร็จ ก็แวะเติมน้ำมันให้มอเตอร์ไซค์ด้วย ระหว่างเติมน้ำมัน น้องเด็กปั๊มก็ถามว่า "พี่มาเที่ยวคนเดียวเหรอคะ"

เรา: "ใช่ค่ะ"

น้องเด็กปั๊ม: "โหยยย ไม่เชื่อหรอก สวย ๆ อย่างนี้ต้องมากับแฟนแน่ ๆ เลย"

เรา: "เอ่ออ พี่มาคนเดียวจริง ๆ ค่ะ" ...จะตอกย้ำชั้นไปทำไมเนี่ย >_<

น้องเด็กปั๊ม: "แล้วทำไมพี่ไม่ชวนแฟนมาด้วยล่ะคะ"

เรา: 'ก็เพราะชั้นไม่มีแฟนน่ะสิยะ ' ((คิดในใจอะค่ะ แต่ยิ้มให้น้องเค้า ไม่ได้ตอบอะไร hahaha))


วิวระหว่างทางที่ขี่มอเตอร์ไซค์

ดูจากแผนที่ เรานึกว่าโป่งน้ำร้อนจะไม่ไกล แต่ขี่ไปเกือบ 9 km ก็ยังไม่เห็นสักที กลัวว่าตัวเองจะขี่เลยทางเข้ามาแล้ว ก็เลยตัดสินใจเลี้ยวกลับ แต่พอจอดดูแผนที่ตรงแคนยอน ก็เห็นว่าต้องผ่านสะพานสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อน แล้วที่เราขี่ไปก็ยังไม่เห็นสะพานนั้นเลย ก็เลยขี่กลับไปอีกรอบ คราวนี้ลองขี่ไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็เจอสะพาน เย้ ๆ




^
^
สะพานสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างข้ามแม่น้ำปาย

พอผ่านสะพาน คราวนี้ก็เห็นทางเข้าไปโป่งน้ำร้อนท่าปาย


พอเห็นป้าย ถึงรู้ว่าโป่งน้ำร้อนท่าปายอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง


ถึงแล้ว


ตอนแรกนึกว่ามีแค่นี้ แต่พอถามเจ้าหน้าที่ถึงได้รู้ว่าต้องเดินเข้าไปอีก แหะ แหะ


จ่ายค่าธรรมเนียม 20 บาท ...พี่ตุ้มบอกว่าไม่เคยไป เพราะพอล (แฟนพี่ตุ้ม) ต้องเสียค่าเข้า 400 บาท ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเก็บนักท่องเที่ยวต่างชาติแพงขนาดนี้ด้วยน้า


ตอนแรกเรานึกว่าต้องเดินเข้าไปลึก เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าจะเอารถเข้าไปก็ต้องจ่ายเพิ่ม แต่พอดีเราเห็นว่าอากาศเย็นสบาย เดินเอาดีกว่า ก็เลยจอดรถไว้ที่ทางเข้า เดินจริง ๆ ก็ไม่ไกลเล้ยยยย ถ้าเอารถเข้ามาคงรู้สึกเสียดายตังค์แหง ๆ












^
^
วิวทางเดินเข้าโป่งน้ำร้อน ...ร่มรื่นสมกับเป็นอุทยานแห่งชาติ

ตอนที่เราไปถึง คนยังน้อย เดินเข้าไปคนเดียวก็แอบกลัวเหมือนกัน แต่ความบ้าบิ่นมีมากกว่าก็เลยเดินต่อไป hahaha






^
^
เดินเข้าไปได้ลึกหน่อยเริ่มเห็นไอความร้อนพุ่งขึ้นมาจากน้ำ


ในที่สุดก็ถึงซะที >_<

หลังจากนั้นก็พยายามหาที่ตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเอง แต่ไม่สามารถ T_T จริง ๆ ก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงนั่งทานอาหารกันอยู่บริเวณนั้นอะค่ะ แต่ไม่อยากขัดจังหวะการกินอันน่าอร่อยก็เลยไม่รบกวน




^
^
กำลังคิดว่าน่าจะเอาไข่มาต้ม ก็บังเอิญเดินมาเห็นบ่อและป้ายนี้ (- -')






^
^
วิวตอนเดินกลับ ...คือทางเดินจะมาบรรจบกันตรงสะพานไม้อะ จากนั้นก็กลับสู่เส้นทางเดิม

ตอนเดินออกมาถึงบริเวณที่จอดรถ คนเริ่มมาเที่ยวกันแล้ว มีคุณป้าคนนึงเดินสวนเข้าไป สงสัยจะเห็นเรามีข้าวของเยอะ ...จริง ๆ ก็แค่สะพายเป้ ถือแจ็คเก็ตเองนะ... ก็เลยถามเราว่า "หนูเข้าไปอาบน้ำข้างในมาเหรอคะ" เอ่อออ คุณป้าขา คือ หนูคงไม่กล้าอาบน้ำร้อน 80 องศาหรอกค่ะ (- -') ...อันนี้ได้แต่คิด แต่ตอบไปว่า "เปล่าค่ะ" แหะ แหะ

ออกจากโป่งน้ำร้อนก็ขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปวัดพระธาตุแม่เย็น


ระหว่างทางผ่านปางช้าง ...จริง ๆ มีหลายปางแต่ที่ถ่ายปางนี้ เพราะแวะทานข้าวที่ฝั่งตรงข้ามอะ


ร้านเนี้ย ...แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทานอาหารของเค้า เพราะเจ้าของบอกว่าไม่กล้าทำอาหารให้คนไทยทาน กรรม


ผัดซีอิ๊ว ...สรุปว่าคนทำเป็นแม่ครัวของปางช้างที่อยู่ฝั่งตรงข้าม (- -')

พอเติมพลังเสร็จ ก็เดินทางต่อ


ตอนที่ถ่ายรูปนี้ สงสัยกับตัวเองว่าน่าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวิวที่ถ่ายจากถนนเมื่อเช้า เพราะเราขี่มอเตอร์ไซค์เป็นวงกลมอยู่




^
^
ในที่สุดก็มาถึงทางเข้า ...ต้องขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปอีกอะค่ะ


วัดพระธาตุแม่เย็น

เนื่องจากอยู่บนเขา พอจอดมอเตอร์ไซค์ก็ได้ยินเสียง sms ปรากฏว่ามีคนพยายามโทรหาเราในช่วงที่เรากำลังเที่ยวโป่งน้ำร้อนและขี่มอเตอร์ไซค์ แต่เนื่องจากไม่มีสัญญาณก็เลยติดต่อเราไม่ได้ คนแรกคือต้อม น้องที่ทำงาน ส่วนอีกคนคือพี่ตุ้ม

ต้อมนี่โทรมาถามข่าวคราว ส่วนพี่ตุ้ม โทรมาชวนไปเที่ยวถ้ำน้ำลอด แต่พอเราบอกว่าเราอยู่พระธาตุแม่เย็น พี่ตุ้มก็เลยบอกว่างั้นไว้ไปพรุ่งนี้เช้า เพราะเราคงกลับไปไม่ทัน แหะ แหะ


พระประธาน


มีอุโบสถอีกหลังอยู่ด้านหลังด้วย แต่ปิดไม่ให้เข้าไปอะ


พระธาตุแม่เย็น


หอระฆัง จะเห็นว่ายังมีการก่อสร้างอยู่บางส่วน


มองลงไปเห็นมีบ้านคนอยู่กระจัดกระจาย เป็นเมืองในหุบเขา

ออกจากวัดพระธาตุแม่เย็น ก็กะว่าจะไปน้ำตกแม่เย็น แต่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามแผนที่ก็ไม่ถึงซักที


วิวระหว่างที่ขี่ลึกเข้าไปในเส้นทางน้ำตก

พอขี่ไปนาน ๆ เข้า ก็เลยตัดสินใจจอดรถถามชาวไร่ที่กำลังทำงานอยู่ เค้าบอกว่า "โหยย จะเข้าไปคนเดียวเหรอ อย่าเลย มันไกล ต้องเดินเข้าไปอีกใช้เวลาเป็นวันนะ" ...แป่ว... ก็เลยเลี้ยวรถกลับ

ขากลับ ไม่รู้จะไปไหนต่อก็เลยตัดสินใจเที่ยวในเมืองเอา อีกอย่างก็บ่ายกว่าแล้ว 4 pm จะได้กลับไปอาบน้ำ




^
^
แม่น้ำปาย ...อีกด้านนึงของเมือง






^
^
วัดกลาง ...อยู่ในตัวเมืองเลย






^
^
วัดป่าขาม ...อยู่ใกล้ ๆ กับวัดกลาง

หลังจากนั้นก็ไม่ไหวแล้ว ร้อนนนน เลยขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านมาอาบน้ำ นอนเล่นที่บ้าน

พอกลับถึงบ้าน เจอพี่ตุ้มกับพอล พี่ตุ้มบอกว่าเดี๋ยวจะออกไปขายของในตลาด เราก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวเย็น ๆ ออกไปหาอะไรทานแล้วจะแวะไปหา


วิวหน้าบ้าน ...วันนี้ไม่ค่อยมีเมฆ

ใช้เวลาเออระเหย นอนอ่านหนังสือ ฟังเพลงได้สักพัก ก็ได้เวลาอาบน้ำ จากนั้นก็ออกมาโทรหาเพื่อน ๆ ที่ทำงาน ปรากฏว่าทุกคนกำลังทานส้มตำหน้าปั๊มเลี้ยงส่งพี่นุอย่างสนุกสนาน ชิร์ ๆ ไอ้เราก็นึกอยากทานบ้าง แต่ไม่รู้จะหาทานได้ที่ไหน สุดท้ายก็เลยทานหมูทอดแทน T_T

เข้ามาทานที่ร้านในตลาดอะค่ะ จากนั้นก็เดินชมตลาดไปเรื่อย ๆ จนมาถึงร้านพี่ตุ้ม


สินค้าที่ขายนี่พี่ตุ้มไปซื้อแล้วมาปักลายเองค่ะ ส่วนสร้อยข้อมือ สร้อยข้อเท้า พี่ตุ้มถักเอง เราเลยอุดหนุนมา 2-3 เส้น แล้วก็ซื้อกระเป๋าใส่เศษสตางค์มาเป็นของฝาก


ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามร้านเช่าหนังสือค่ะ ...เราเดินเข้าไปเห็นมีแต่หนังสือภาษาอังกฤษ คือถึงเราจะชอบอ่าน แต่พอเจออย่างนี้เข้าไปก็ไม่ไหวเหมือนกัน ปายจะว่าไปก็เหมือนเมืองของฝรั่งไปแล้วอะ (- -')

ขากลับพี่ตุ้มโทรบอกพอลให้มารับ เราก็เลยขี่มอเตอร์ไซค์ตามพอลกลับไป อากาศคืนนี้หนาวกว่าเมื่อคืนเยอะเลยค่อย ๆ ขี่ พอลก็เลยหายลับไปก่อน พอใกล้ถึงทางเข้าบ้าน ดีนะที่จำได้เลา ๆ ไม่งั้นได้ขี่เลยแน่ ๆ เพราะไฟดับ

และเพราะเนื่องจากไฟดับ ทำให้เราเดินไปบ้านตัวเองไม่ถูก สุดท้ายก็เลยนั่งดื่มสปายอยู่บนเรือนใหญ่กับพี่ตุ้มและพอล 3 คนนั่งดูดาวกันเงียบ ๆ มีเพลงจากเครื่อง mp3 คลอเบา ๆ เฮ้ออออ ชอบบรรยากาศตอนนั้นมาก ๆ ปกติเป็นคนชอบดูดาวอยู่แล้วด้วย >_<

หลังจากไฟมา ก็กลับบ้าน มานั่งดูดาวต่อหน้าบ้านตัวเอง จากนั้นก็โทรกลับไปหาเติ้ล ซึ่งบังเอิ๊ญ เติ้ลก็กำลังจะโทรหาเราเหมือนกัน พอเติ้ลรับสายก็บอกว่า "แหมม ใจตรงกันเลย กำลังจะโทรหาอยู่เชียว เพิ่งกลับจากเลี้ยงส่งพี่นุเนี่ย"

เรา: "เหรอ ...เป็นไงบ้างล่ะ"

เติ้ล: "ก็ดีนะ ไปกันเยอะดี แต่พวกผู้ชายไม่ได้เรื่อง ให้ผู้หญิงจัดโต๊ะ เดินไปเอาน้ำแข็ง"

เรา: "นะ"

เติ้ล: "นี่ แล้วรู้มะว่ามีอะไรเกิดขึ้น หลังจากที่พี่โทรมาตอนเย็นน่ะ"

เรา: "หือ มีอะไรเหรอ"

เติ้ล: "ก็พี่อาร์ทน่ะสิ หลังจากที่พี่วางสายไปแป๊บนึง พี่อาร์ทก็ถามเติ้ล เติ้ล ๆ ไอ้นุ่นมันไปไหนน่ะ"

เรา: 'อ๊าววว ถามทำไมฟะ ก็ตอนรถทัวร์จะออกจากกรุงเทพฯ ชั้นก็โทรคุยกับแกอยู่' ...คิดในใจนะคะ แต่พูดกับเติ้ลว่า "เหรอออ"

เติ้ล: "ก็ใช่สิพี่ พอพี่อาร์ทถามอย่างนี้ปั๊บ ทั้งโต๊ะนี่เงียบกันหมดเลย เติ้ลก็คิดว่าเอาแล้ว"

เรา: "แล้วไง"

เติ้ล: "เติ้ลก็บอกว่าไปปาย พี่อาร์ทก็ถามต่อว่ามันไปคนเดียวเหรอ แล้วก็ว่าเติ้ลว่าทำไมไม่ไปด้วย อยากตอบว่าถ้าห่วงนักก็ตามไปเองสิ แต่ไม่กล้า เพราะไม่ได้สนิทกัน"

เรา: "เอ่ออออ แล้วไง" ...กำลังงงว่าพี่อาร์ทถามไปทำไม ในเมื่อเราก็บอกทุกอย่างหมดแล้ว (- -')

เติ้ล: "พี่ไม่ต้องคิดแล้วนะว่าทุกคนจะรู้หรือเปล่า เติ้ลว่าเค้ารู้กันหมดแล้วล่ะเรื่องพี่กับพี่อาร์ทน่ะ พี่น้อยก็รู้ เพราะพอพี่อาร์ทถามเสร็จ พี่น้อยก็พูดว่า เค้าห่วง ๆ"

เรา: "นะ" ...พูดไม่ออก คือ ใจนึงก็ดีใจที่พี่อาร์ทถามถึง แต่ไม่เข้าใจตรงที่ไอ้ที่แกถามน่ะ ชั้นบอกแกไปแล้วนี่หว่า -*-

เติ้ล: "พี่ก็โทรหาเค้าหน่อยก็ได้นะ เพราะตอนเย็นที่พี่โทรมาแล้วส่งให้คุยรอบโต๊ะน่ะ พี่อาร์ทก็นั่งติดกับพี่นุนั่นแหละ"

เรา: "อือออ" ...กำลังคิดว่าจะโทรดีไหม เพราะตั้งแต่มาก็โทรหาทุกวันแล้วนะ

แล้วเติ้ลก็พยายามรีบวางเพื่อให้เราโทรหาพี่อาร์ท แต่เราก็ลังเล ๆ ว่าจะโทรดีหรือเปล่า เพราะอย่างที่บอกว่าเราโทรหาทุกวันอยู่แล้ว แถมเมื่อเช้าก็เพิ่งคุยกัน ...คือ เราไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงด้วยมั้ง อีกอย่างก็ไม่เข้าใจว่าพี่อาร์ทจะไปถามเติ้ลอีกทำไม ในเมื่อเราก็บอกไปแล้ว อืม อืม สรุปว่าคืนนั้นหลับไปพร้อมกับความสงสัย hahaha

โปรดติดตามตอนต่อไป






Create Date : 10 ธันวาคม 2549
Last Update : 17 ธันวาคม 2549 1:29:59 น.
Counter : 1836 Pageviews.

7 comments
  


ชอบท่องเที่ยว ตอนนี้ทำงานเรือสำราญ ครับ
ต่างแดน..

อยากไปปาย มากกกกกกกกก
รอมาพักร้อนก่อน...


บ้านน่าอยู่มาก เรือ่งราวและรูปดีสุดคัคบ...


แล้วจะมาแอ่วหาบ่อย ๆ คับ..

สมรัชนะ ลูกเรอืสำราญไทย
โดย: สมรัชนะ คนเขียนหนังสือเสิร์ฟสำราญสวรรค์บนเรือ (sochana9 ) วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:1:16:23 น.
  
ขอเที่ยวด้วยคนนะคะ

อยากได้บ้านสักหลังที่ตื่นขึ้นมาก็เห็นแต่หมอกแบบนี้จังเลยค่ะ
โดย: Picike วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:2:57:23 น.
  
มาแล้ว มาแล้ว ค่ะ

ต้องหาทางไปให้ได้สักวันแน่ แน่ ค่ะ ขนาดเห็นวิว หรือบรรยากาศแบบนี้บ่อย บ่อย แล้วน๊า แต่อาถรรพ์ปายเลยทำให้อยากไปมากขึ้นอ่ะค่ะ
โดย: ZaxZoPhone. วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:10:11:26 น.
  
เคยไปเดินพลาดตกบ่อน้ำร้อนที่โป่งเดือดนี่ล่ะ เท้าเหวอะไปเป็นอาทิตย์เลย

เที่ยวคนเดียวหนุกดีออก ล่าสุดผมไปหลีเป๊ะคนเดียวก็เจอสาวๆ มาคนเดียวเยอะเหมือนกัน ได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกเยอะ

รออ่านต่ออยู่นา
โดย: แฟนสวย IP: 124.121.7.220 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:10:53:56 น.
  
พี่นุ่น สรุปว่าไปปายเพราะอะไรเหรอ อิ อิ
โดย: ต้นเอง IP: 158.108.211.96 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:13:35:50 น.
  
ตอบคุณสมรัชนะ: ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ และขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ

ตอบคุณ Picikie: ยินดีค่ะที่มีคนอยากให้พาเที่ยว

ตอบน้องมิ้ว (Zaxzophone): อาถรรพ์อะไรเหรอ???

ตอบแฟนสวย: ทำไมเราไม่เห็นหนุ่มไปคนเดียวบ้างเลยอะ ...เห็นแต่ไปกับแฟน

ตอบน้องต้น: ไปเพราะอยากให้ใครบางคนคิดถึง ...ล้อเล่นนนนน
โดย: ชาบุ วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:18:12:46 น.
  
มาอีกรอบค่า รออ่านตอน 3 ต่อ อิอิ แสดงว่าเมื่อวาน ทำไม่เสร็จใช่ป่าวค่ะเนี๊ยะ งั้นสงสัยต้องรอปีหน้าแน่เลย (พูดเหมือนไกลเลยเนอะ)

ปล. อาถรรพ์คือ ที่กะว่าจะไปแต่ดันไม่ได้ไปไงค่ะ มันเลยเกิดมานะว่าต้องไปให้ได้ ใครไม่พาตรูไปน่ะ คราวหน้าอย่ามาง้อ ชวนไปไหนก็จะไม่ไป เชิ่ดใส่เลย 5555 จะไปเองเลยคอยดู 5555 ทำเป็นเก่งพูดไป ไปไหนไม่รอดหรอกค่า ทำซ่าส์ได้แค่แถวนี้ ออกที่อื่นหงอเป็นลูกหมีเชื่อง เชื่อง แล้ว 55555 (อุ้ย พูดอะไรออกไป ไม่สมกับเป็นเลดี้มะนาวดองเลย อิอิ)
โดย: ZaxZoPhone. วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:10:04:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
ธันวาคม 2549

 
 
 
 
 
1
2
3
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog