เฮฮาประสานิติกร ตอนเรื่องผี ผี
ช่วงนี้ชีวิตของเรามีแต่งาน งาน งานค่ะ นอกจากงานประจำแล้วยังมีงานจรเข้ามาเป็นระยะ ๆ เนื่องจากมีหัวหน้าเก่ง (- -') แต่ก็ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่งานเยอะ ทุกคนในสำนักงานเยอะพอ ๆ กัน ทำให้ต้องอยู่ทำงานที่ทำงานจนดึกดื่น

และการอยู่ที่ทำงานดึกดื่นเนี่ย ก็ไม่ได้อยู่กันครบทุกคน บางครั้งก็เหลืออยู่ 3 คนบ้าง 4 คนบ้าง มีช่วงทำงบประมาณปลายปีที่ผ่านมา ที่อยู่กันสิบกว่าคน แต่กระนั้นก็มีคนเจอเรื่องประหลาด ๆ ที่เพิ่งนำมาเล่าสู่กันฟัง หลังจากที่หลายคนในสำนักเริ่มเจอแขกไม่ได้รับเชิญ

เรื่องที่ 1
เป็นเรื่องตอนทำงบประมาณ ช่วงนั้นพวกเราต้องอยู่ที่ office กันดึกดื่นเที่ยงคืน แต่นั่งทำงานรวมกันต้องฝั่งนึงของห้อง มีเพียงที่รักเราเท่านั้นที่ไปนั่งทำงานด้านหลัง ที่รักบอกว่านั่งพิมพ์งานอยู่ดี ๆ กระจกตรงช่องเล็ก ๆ ข้างประตูก็สั่นเหมือนมีคนมาเขย่า ตอนแรกคิดว่าเอก (น้องในกลุ่มงานเรา) มาแกล้ง แต่ก็ไม่กล้าหันไปมอง เพราะข้างนอกมันมืด (- -') เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เลยได้แต่คิดว่า 'ผีก็ผี (วะ) งาน (ตรู) ไม่เสร็จ (ตรู)ไม่กลัว'

อันนี้ต้องเรียกว่าสปิริตเรื่องงานแรงกล้า hahaha
__________________________________________

เรื่องที่ 2
เป็นเรื่องตอนทำงบประมาณเช่นกัน มีน้องในกลุ่มคนนึงจอดรถไว้ที่ชั้น 7 ส่วนเราจอดรถที่ชั้น 8 หลังจากทำงานเสร็จ (แน่นอนว่าต้องประมาณ 10-11 pm) ก็ต้องลงมาเอารถด้วยกัน วันเล่าว่าวันนั้นพอแยกจากเรา เดินลงบันไดไปชั้น 7A ผ่านชั้น 7B ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอไปถึงชั้น 7A ก็ได้ยินเสียงเด็กเล็ก ๆ ร้องไห้ ซึ่งพอวันต่อมาไปเล่าให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ในกลุ่มฟัง พี่คนนึงบอกว่า "โอ๊ยยย ยามเอาลูกมาเลี้ยง"

...เอ่อ คิดได้เนอะ (- -')
__________________________________________

เรื่องที่ 3
ชั้น 8 ที่เราจอดรถประจำจะมีเสื้อสีขาวแขวนอยู่หลังเสาตัวนึง ...ตอนหลังถามพี่เด่น (รปภ.ประจำชั้น) พี่เด่นก็บอกว่าเป็นเสื้อของคนขับรถนาย เค้าเอาไว้เปลี่ยนเวลาล้างรถ... ทุกทีก็ไม่มีปัญหาอะไร (อาจเพราะเราไม่ค่อยกลับดึก ไม่ก็มีเพื่อนลงมาเอารถเยอะ) แต่วันนั้นมีเรากับน้องอ้อมลงมาแค่ 2 คน

คือวันนั้นทำงานอยู่ที่ทำงานจน 10 pm อะค่ะ จริง ๆ อยู่กัน 4 คน แต่พี่อาร์ทกับพี่ต้นลงไปเอามอเตอร์ไซค์พี่ต้นที่ชั้น 4 ปล่อยให้สองสาวเผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง ตอนเรายังไม่ขึ้นรถ เสื้อก็ยังคงสงบนิ่งอยู่ ...รถเราจอดหันหน้าเห็นเสื้อพอดีอะค่ะ... แล้วก็ไม่มีลมเลยสักนิด หน้าร้อนแล้วด้วย แต่พอเราขึ้นรถเรียบร้อย เสื้อก็เริ่มปลิวแรงขึ้น ๆ เหมือนมีลมพัดแรง ๆ มาโดน เราก็เริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ว่าจะมีลมพัดแรง ๆ ได้ไหม ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววของลมเลย พอลองสังเกตสิ่งอื่นที่อาจจะโดนลมพัดอย่างนั้นบ้าง ก็ไม่มี ทุกอย่างยังคงอยู่นิ่ง ๆ 'เอาล่ะเว้ยตรู โดนเข้าแล้ว' ตอนนั้นคิดอย่างนี้อะค่ะ แล้วก็รีบสตาร์ทรถขับลงมา ระหว่างทางขับผ่านบางชั้นที่ไม่ได้เปิดไฟไว้ ก็ไม่กล้ามองไปในรถที่จอดอยู่ กลัวจะเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็นเข้า (- -')

พอวันต่อมาก็เลยถามพี่เด่นเรื่องเสื้อ ก็ได้คำตอบอย่างที่บอกไปตอนต้น เราก็เลยขอให้เอาเสื้อลง พี่เด่นก็ถามว่า "มีอะไรเหรอ" เราก็เลยเล่าเรื่องที่เราประสบมาให้พี่เด่นฟัง พอฟังจบพี่เด่นก็บอกว่า "โอ๊ยยย เป็นไปไม่ได้ มุมนั้นน่ะอับลม เวลาลมแรง ๆ พี่ชอบไปหลบอยู่ตรงนั้น เพราะลมไม่เข้า"

เรา: "เอ่อ...แล้วพี่จะพูดให้หนูยิ่งกลัวทำไมล่ะคะ ถ้ามันเป็นมุมอับ แล้วเมื่อคืนที่เสื้อมันปลิวไสวขนาดนั้นมันเกิดจากอะไรเล่า" T_T
__________________________________________

เรื่องที่ 4
พอพี่เด่นรู้เรื่องที่เราเจอ พี่เด่นก็เลยเล่าเรื่องที่พี่เด่นเคยเจอให้เราฟังบ้าง

มีอยู่วันนึง พี่เด่นต้องเข้าเวรกลางคืน เบื่อ ๆ ก็เลยไปนอนเล่นที่โซฟาที่ชั้น 11 ...ชั้นที่เราทำงานอยู่นั่นแหละ... ก็ปิดไฟ นอนคิดนู่นคิดนี่ ไม่ได้หลับ สักพักก็เห็นประตูมันขยับเหมือนมีคนมาผลักเล่น พี่เด่นก็นึกว่าเพื่อนมาแกล้ง ก็เลยลุกขึ้นมาเปิดไฟ พอเปิดไฟ ประตูก็ปิดกันสนิทดี ไม่มีวี่แววว่าจะขยับ แล้วก็ไม่มีคนมาแกล้งด้วย แต่พอปิดไฟ ประตูก็ขยับเหมือนมีคนมาผลักอีก

พี่เด่นไม่ได้เล่าว่าหลังจากนั้นพี่เด่นทำยังไง แต่ถ้าเป็นเรา เราคงรีบลงไปหาเพื่อนอะค่ะ (- -')
__________________________________________

เรื่องที่ 5
หลังจากที่เราเจอเสื้อปลิวไสวที่ที่จอดรถไม่นาน น้องอุ๋ย พี่อาร์ท ตาเต้ ก็ถึงคราวต้องอยู่ทำงานกันดึก ๆ 3 คนพี่น้อง ซึ่งพี่อาร์ทนั่งใส่หูฟังถอดเทปอยู่ ขณะที่น้องอุ๋ยกับตาเต้ช่วยกันจัดเอกสารสัมมนา ทำ ๆ อยู่ดี ๆ น้องอุ๋ยก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันอยู่ด้านหลังห้อง ...ที่ที่รักเราเคยเจอกระจกสั่นอะค่ะ... แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะงานไม่เสร็จ

สักพักน้องอุ๋ยก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก "อาร์ท" ซึ่งน่าสยองมั่กมาก เพราะอยู่กัน 3 คน เป็นผู้ชาย 2 คน มีผู้หญิงคนเดียวคือน้องอุ๋ย แล้วใครจะมาเรียกพี่อาร์ทอีก คราวนี้น้องอุ๋ยก็มองตากับตาเต้ แต่ตัวพี่อาร์ทที่โดนเรียกนั้นไม่ได้ยิน เพราะใส่หูฟังอยู่

ยังค่ะ 3 ผู้กล้าหาญยังไม่กลับ เพราะงานยังไม่เสร็จ ต้องฝืนใจทำงานต่อ สุดท้ายทั้ง 3 คนได้ยิน (คราวนี้ได้ยินกันทุกคน) เสียงทุบตู้ดังปัง แถว ๆ หลังโต๊ะทำงานพี่ยี่ (หัวหน้าเรา) คราวนี้งานไม่เสร็จก็ไม่สนแล้วค่ะ เก็บของกลับบ้านกันทันที

วันต่อมาน้องอุ๋ยก็เล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง แต่ดันต้องกลับดึกกันอีก เราก็ยังคงจอดรถไว้ที่ชั้น 8 อย่างเดิม คราวนี้ตอนลงมาเอารถเนี้ย ปกติพี่เด่นจะเปิดไฟทิ้งไว้ให้ แต่พอลิฟต์เปิด เราก็เอะใจ 'เอ๊ะ ทำไมมันมืด ๆ' ไฟหน้าลิฟต์ก็ไม่ติด ตอนนั้นมีกันอยู่ 4 คนคือ เรา เติ้ล จอย (ที่รัก) และน้องอุ๋ย แต่คิดว่าแค่ไฟหน้าลิฟต์ไม่ติดอะค่ะ ก็เลยเดินออกมา พอเห็นว่าไฟตรงที่จอดรถไม่ติด ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อีกอย่างยังไง ๆ ก็ต้องเดินไปเอารถอยู่ดี ยิ่งนึกถึงเรื่องที่น้องอุ๋ยเพิ่งเจอหมาด ๆ เราก็ยิ่งสยอง จนต้องชวนทุกคนวิ่งไปตกลงกันตรงบันไดหนีไฟว่าจะเอายังไง ...แล้วทำไมต้องมาไฟดับวันนั้นฟ่ะ

ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ตำแหน่งสวิตไฟนะคะ เรารู้แล้วก็ลองเดินไปเปิดแล้ว แต่มันไม่ติดอะ T_T สุดท้ายเติ้ลก็เลยบอกว่า "ยังไง ๆ ก็ต้องไปเอารถอะ เดินไปด้วยกันนี่แหละ" ส่วนที่รักเราก็บอกให้ทุกคนเอามือถือตัวเองออกมาให้มีแสงไฟพอมองเห็น 4 สาวก็เลยเดินเกาะกลุ่มกันไปเอารถเรา ซึ่งบังเอิญจอดอยู่ในมุมข้างเสาที่แขวนเสื้อซะด้วย (- -')

ในที่สุดก็สามารถเข้ารถกันได้อย่างปลอดภัย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอวนรถลงมาถึงชั้นล่างก็เลยบอกพี่รปภ.ให้ขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไฟชั้น 8 ถึงไม่ติดอยู่ชั้นเดียว เพราะชั้นอื่นก็ติดหมด ก็คุยกันเล่น ๆ ว่าพี่รปภ.ขึ้นไปดู แล้วไฟอาจจะติดตามปกติก็ได้

ตอนเช้าเราก็ถามพี่เด่น (อีกแล้ว) ว่าทำไมไฟไม่ติด พี่เด่นก็บอกว่า "ติดนะ เมื่อคืนพี่เปิดไฟไว้ให้นี่" ...คือวันไหนที่เรากลับดึก พี่เด่นจะเปิดไฟที่จอดรถทิ้งไว้ให้อะค่ะ... เราก็ยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่าไม่ติด แถมเดินไปเปิดสวิตแล้วก็ไม่ติด ดับหมดตั้งแต่หน้าลิฟต์ยันที่จอดรถ เป็นอยู่ชั้นเดียวด้วย

สุดท้ายพี่เด่นก็ปลอบใจว่า "สงสัยสวิตมันจะไม่ดี ไฟมันก็เลยไม่ติด" ...เอ่อ พี่เด่นคะ แล้วสวิตไฟตรงลิฟต์กับที่จอดรถมันสวิตเดียวกันเหรอคะ มันถึงไม่ติดทั้งสองที่อะ T_T

หลังจากนั้น 2-3 วัน พี่อาร์ท พี่วุฒิ และแฟนพี่วุฒิก็มีเหตุต้องอยู่ทำงานกันดึก ๆ อีก และพอใกล้ 10 pm ทั้ง 3 คนก็ได้ยินเสียงของชิ้นใหญ่ ๆ ตกแถวหลังห้อง ก็เลยพร้อมใจกันเก็บของกลับบ้าน
__________________________________________

เรื่องที่ 6
เหตุเกิดวันอาทิตย์ กลางวันแสก ๆ มีเพื่อนในสำนักงานเรามาทำงานคนเดียว ตอนแรกก็มีพี่ยามนั่งอยู่หน้าห้องเป็นเพื่อน เจ้าตัวก็เลยไม่คิดอะไร ก็นั่งทำงานของตัวเองไป สักพักก็เริ่มรู้สึกว่ามันเงียบ ๆ ก็เลยเดินออกมาดูที่หน้าห้อง ปรากฏว่าพี่ยามหายไปแล้ว ...เอาล่ะเว้ยยย...

ที่นี่สำนักเราเนี่ย มันจะมีอีกสำนักนึงอยู่ตรงข้าม แล้วประตูก็เป็นประตูกระจก เพื่อนคนนี้ก็เห็นผู้หญิงคนนึงยืนก้มหน้าอยู่ที่โต๊ะทำงานแถว ๆ หลังห้องในสำนักที่อยู่ตรงข้าม ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเป็นคนในสำนักนั้นมาทำงานเหมือนกัน แต่เพื่อความแน่ใจก็เลยเดินไปดูใกล้ ๆ ปรากฏว่าประตูล็อคอย่างดี และในห้องก็มืด ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนอยู่ เพื่อนก็เลยเดินกลับมาปิดคอมพิวเตอร์ เก็บของ กลับบ้าน ที่สำคัญไม่กล้าลงลิฟต์ แต่ใช้บันไดหนีไฟเดินลงมาเอารถด้วย (- -')

ตอนเพื่อนเล่า เพื่อนบอกว่า "ไม่กลัวเล้ยยยย ไม่กลัว แต่เดินมาปิดคอม เก็บของ ไม่อยู่แล้ว"
__________________________________________

เรื่องที่ 7
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา โอ๋มาทำงานกับศิ โดยคราวนี้สำนักตรงข้ามมีคนมาทำงานด้วย แต่พอ 6 pm ศิก็เก็บของกลับ เหลือโอ๋นั่งทำงานอยู่คนเดียว ...วันบอกว่า "จริง ๆ ก็ไม่ควรอยู่แล้วอะนะ ตอนนั้นน่ะ"... โอ๋นั่งทำงานอยู่สักพัก เครื่อง Fax. ตรงกลุ่มงานเราก็ดัง เหมือนมีคนมาเปิดสวิตใหม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น เพราะก่อนกลับทุกคนก็ดึงปลั๊กออกหมดแล้ว ...เรื่องที่ดึงปลั๊กออกหมดนี่ทุกคนที่ไปป้วนเปี้ยนแถวกลุ่มงานเรายืนยันว่าเค้าดึงออกจริง ๆ... แล้วโอ๋เองก็มาทำงานวันเสาร์ ซึ่งก็นั่งทำงานกันใกล้ ๆ เครื่อง Fax. ตั้งหลายคน ทำไมเครื่อง Fax. ถึงไม่ดัง ดันมาดังตอนที่โอ๋อยู่คนเดียว

เรื่องนี้เติ้ลบอกโอ๋ว่า "อย่าคิดอะไรมาก คิดซะว่าเค้ามาเตือนเราให้ดึงปลั๊กออกก็พอ"
__________________________________________

เรื่องที่ 8
เรื่องเพิ่งรู้หลังจากที่หลายคนเริ่มเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ว่าเคยมีพี่คนนึงนั่งสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ที่ร้านส้มตำหน้าปั๊ม ใกล้ตึกที่ทำงาน พอดีนึกได้ว่าลืมของก็เลยเดินขึ้นมาเอา ก็เปิดไฟเฉพาะในส่วนของกลุ่มงานตัวเอง แต่พอเดินเข้ามาในห้อง ก็เห็นเก้าอี้ที่อยู่หลังห้อง (ตรงที่ที่รักและหลาย ๆ คนเจอเหตุการณ์แปลก ๆ) เลื่อน

และคนในสำนักที่อยู่ตรงข้ามเรา เคยทำงานดึก ๆ แล้วออกมาเข้าห้องน้ำคนเดียว ทุกห้องไม่มีคนเข้า แต่พอเธอเข้าไปในห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงกดชักโครกดัง ตั้งแต่นั้นมาสำนักนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวอีกเลย

และล่าสุด วันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา พวกเราก็อยู่ที่ทำงานกันดึกอีก ก่อนกลับน้องอุ๋ยก็บอกว่า "ใครจะไปเข้าห้องน้ำบอกด้วย จะได้เอาจานไปล้าง" พอดีเราปวดห้องน้ำก็เลยชวนจอยกับเติ้ลไปด้วยกัน

ระหว่างที่อุ๋ยล้างจาน เราก็เข้าห้องน้ำเรียบร้อย พอเราเดินออกมาก็คุยกับจอย เติ้ล รออุ๋ย พออุ๋ยล้างจานเสร็จ อุ๋ยก็บอกว่า "รอแป๊บนะ ขอเข้าห้องน้ำก่อน" พวกเราก็ยืนคุยรอตรงแถวที่ล้างมือ โดยมีเรายืนใกล้สวิตไฟที่สุด ที่ว่าใกล้สุดนี่ก็ห่างพอสมควรนะคะ ไม่มีทางที่หลังเราจะไปโดนได้อะ

น้องอุ๋ยเข้าห้องน้ำไปได้แป๊บเดียว ไฟทั้งห้องน้ำก็ดับพรึ่บลงทั้งห้องน้ำ ยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่าไม่ใช่อาการไฟตกอะค่ะ อยู่ ๆ มันก็ดับพรึ่บเลย หลังจากไฟดับ สมองเราก็เริ่มประมวลเหตุการณ์ว่ามันจะเกิดจากอะไรได้บ้าง ใช้เวลาหลายวินาทีเหมือนกันกว่าจะคิดได้ว่าเราอยู่ใกล้สวิตสุด แล้วก็ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเราที่จะปิดไฟได้ เราก็เลยกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พร้อมกับวิ่งไปอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำโดยมีจอยกับเติ้ลวิ่งมาด้วย ทำให้เห็นว่าห้องน้ำชายไฟไม่ดับ ข้างนอกไฟไม่ดับ มีห้องน้ำหญิงที่พวกเราอยู่เท่านั้นที่ดับ

ไฟดับอยู่นานเลยค่ะ ก่อนจะติดขึ้นมาใหม่เอง พรึ่บ แล้วน้องอุ๋ยถึงออกจากห้องน้ำ พอออกมาน้องอุ๋ยก็บอกว่า "แหมมม แกล้งกันอย่างนี้เลยนะ" พวกเราก็มองหน้ากันแล้วก็สั่นหัวว่า "ไม่ได้แกล้งนะ มันดับเอง" คราวนี้น้องอุ๋ยเริ่มหน้าซีด ถามว่า "แล้วทำไมตั้งนานกว่าพี่นุ่นจะกรี๊ดอะ"

เรา: "ก็สมองกำลังคิดอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนี่ พอคิดได้ก็เลยกรี๊ด"

น้องอุ๋ย: "แล้วก็รักน้องเนอะ วิ่งไปออกันหน้าห้องน้ำเลยเนี่ย"

เอ่อ...นี่รักแล้วนะ ถึงอออยู่หน้าห้องน้ำ ไม่วิ่งหายไปรอในสำนักอะ (- -') ...หลังจากนั้นก็มีการพิสูจน์ที่เกิดเหตุ โดยต้อมลองเปิด-ปิดสวิตไฟดู ปรากฏว่าสวิตแข็งมาก ถ้าปิดจะได้ยินเสียงแป๊ก และไม่สามารถเด้งเปิดเองได้

แล้วก่อนพวกเราจะกลับบ้านก็ขึ้นไปชั้น 12 หาพี่นิ ซึ่งยังนั่งทำงานอยู่อะค่ะ ทักทายพี่นิเสร็จ ก็เดินออกมายืนรอลิฟต์ เราก็ยืนหันหน้าเข้าหาห้องน้ำ (อีกแล้ว) ตอนแรกไฟก็ติดอยู่ทั้งห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชาย สักพักไฟห้องน้ำชายก็ดับพรึ่บลงพร้อมกัน ...จริง ๆ มันมี 3 สวิตไงคะ ถ้ามีคนปิดก็ต้องค่อย ๆ ดับ แต่นี่มันดับพรึ่บเหมือนที่พวกเราเจอในห้องน้ำหญิงชั้น 11 เลย... เราก็ยืนมองว่าจะมีคนเดินออกมาจากห้องน้ำชายหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มี... 'แล้วใครเป็นคนปิดไฟล่ะนี่'

เหตุการณ์ที่ชั้น 12 นี่มีเราคนเดียวที่เห็นค่ะ นอกนั้นยืนหันหลังให้หมด แต่เติ้ลกับจอยเห็นตอนที่ไฟดับไปแล้วก็เลยไม่คิดอะไร T_T
__________________________________________

เป็นไงบ้างคะเรื่องระทึกในที่ทำงานเรา หลังจากที่พวกเราเจอกันบ่อย ๆ ก็เริ่มมีคนสืบว่าตึกก็ยังใหม่ ทำไมมีสิ่งลึกลับเยอะจัง ก็ได้ข่าวจากอดีตแม่บ้านว่าที่พวกเราเจอนั้นยังน้อยไป พวก DSI ที่ทำงานกันอยู่ชั้น 19 เจอยิ่งกว่านี้อีก

ทุกวันนี้ก็เลยไม่มีใครอยากอยู่ทำงานดึก ๆ แต่เมื่องานไม่เสร็จก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องชวนกันอยู่หลาย ๆ คนอะค่ะ



Create Date : 24 มีนาคม 2550
Last Update : 24 มีนาคม 2550 19:07:44 น.
Counter : 691 Pageviews.

11 comments
  
โหะ ๆ เรื่องที่ 7 ยังดีนะที่ไม่มีอะไรไหลออกมาจากเครื่องแฟกซ์ด้วย

ส่วนเรื่องที่ 8 คนที่ชื่ออุ๋ยนี่ยังมีงงด้วยแฮะ ลองไฟดับแบบนั้นเป็นผมไม่รอเสียงกรี๊ดหรอกฮะ วิ่งออกมาก่อนเลยแหละ แล้วค่อยแต่งตัวทีหลัง 555

อ้อ ผมว่าน่าจะมีรูปประกอบนะ จะได้เพิ่มความสยองเข้าไปอีก....
โดย: Smatchee IP: 203.113.34.61 วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:19:26:04 น.
  
น่ากลัวจัง
โดย: Tiwanon48 วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:20:23:27 น.
  
เรื่องผีเยอะจัง
อิอิ

นี่ล่ะน้า
ถึงเวลานอนไม่ยอมกลับบ้านมาหลับมานอน
ไปรบกวนเค้า
เค้าถึงได้แกล้งเอาไงล่ะ

ล้อเล่นนะ

อย่าลืมพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ติดตัวบ้างนะจ๊ะ
โดย: โอ๋ IP: 202.28.9.80 วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:21:31:49 น.
  
โห เยอะจัง ตอนแรกขี้เกียจอ่าน บอกตรง ๆ ฮ่า ๆ

แต่พออ่านไป ๆ รู้สึกว่าระดับความน่ากลัวจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เลยน่าติดตาม อ่านจนจบเลยฮ่ะ

น่ากลัวยิ่ง เหอะ ๆ ระวังเนื้อระวังตัว ใส่พระไปทำงานด้วยนะฮะ
โดย: chal2t วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:21:56:57 น.
  

เอาคลิบ THE LING มาให้เรยยย น่ากัวววว

โดย: Yoawarat วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:23:41:00 น.
  
โห คุณนุ่น .. แต่ละเรื่องเล่นเอาใจเต้นตุ๊บๆ ตั๊บๆ ไปเลยล่ะคะ เพราะคิดว่าถ้า
เจอคนเดียวนี่ทำไงดี สงสัยผมตั้งแบบไม่ต้องใช้เจลเลยนะค่ะเนี่ย

// แต่เรื่องผีๆ นี่โชคดีนะค่ะว่ายังไม่มี ปสก. ไม่อย่างนั้นกลัวไปเลยล่ะคะ
ถึงจะรู้ว่าคงไม่มีอะไร แต่ว่าบางทีด้วยความคิดตัวเองก็หลอนๆ เหมือนกันนะค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:1:48:11 น.
  
ระทึกดีวุ้ย

ที่ทำงานผมพวกเด็กๆ ก็คุยกันว่าเจอผีบ้าง แต่ผมว่าคิดไปเองทั้งนั้นล่ะ ผี่ไม่มีร๊อก มีแต่เจ้าที่ hahaha

ผมเคยนอนหลับที่ห้องทำงาน แล้วฝันว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาหา แนะนำตัวว่าอยู่มาก่อน แล้วยื่นเงินให้ผมปึกนึงด้วย...เห็นมะ เจ้าที่ผมน่าร๊ากกกก
โดย: K+ IP: 124.121.5.96 วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:11:55:18 น.
  
เออ เราก้อว่าเราเจอไอ้พวกนี้บ่อยนะ ไปนอน รร ตจว แล้วกระจกหน้าต่างสั่น หรือมีเสียงทั้งๆที่มันไม่มีระเบียงและมันสูงตั้งเป็นสิบชั้น

หรือประตูห้องมีเสียง ข้างนอกมีเสียงลากอะไรแถวๆนั้นอ่ะ

แต่แปลกเฟ้ย ไม่เคยสนใจเลยอ่ะ

ดีๆ
โดย: ขวัญ IP: 58.136.206.12 วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:14:34:25 น.
  
แงๆ กลัวๆ นั่งอ่านอยู่คนเดียวในห้องด้วย อย่ามีเสียงอะไรแปลกๆ มาเชียวนะ
โดย: Ja~ IP: 202.28.169.165 วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:10:22:23 น.
  
หนุกดี...หนุกดี แต่ให้เจอบ้างเนี่ย ขอคิดดูก่อนน้า
โดย: Rainny (BOOTH_FON ) วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:9:25:38 น.
  
เออ เออ เรื่องแบบนี้ ขอไม่เจอะไม่เจอดีกว่าอ่ะค่ะ มิ้วกลัวปี๋ ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าเนอะ แหะ แหะ

ปอและลอ อัพบล็อคแล้วน่ะค่ะ ยังไงว่าง ว่าง พี่นุ่นไปเที่ยวที่บล็อคมิ้วได้น่ะค่ะ
โดย: ZaxZoPhone. วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:11:37:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
มีนาคม 2550

 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog