เยือนเมืองอุทัยฯ: ตอนที่ 1
เนื่องจากน้องเติ้ล ...น้องที่เราสนิทในที่ทำงาน... เป็นสาวชาวอุทัย ((ไม่ใช่อาทิตย์อุทัยนะคะ แค่อุทัยเฉย ๆ)) เธอเคยเกริ่นหลายรอบว่าอยากพาเราไปเที่ยวบ้านเธอ เพราะอุทัยเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจจะแค่ได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยไป ((อย่างเราเป็นต้น))

แล้วบังเอิ๊ญญญญ น้องจอย ...น้องในที่ทำงานที่เราสนิทอีกคน... ก็เคยไปร่ำเรียนที่อุทัยตั้งแต่เด็ก ๆ จนจบ ปวส. แถมตอนนี้เธอยังมีแฟนเป็นคนอุทัยอีกตะหาก

ด้วยเหตุนี้ พอใกล้เวลาที่พวกเราจะถูกกักขัง ...เอ๊ยยย ไม่ใช่... จะต้องทำงานเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี ฯ สองสาวก็เลยชวนเราไปเที่ยวอุทัยฯค่ะ ((เรานี่เที่ยวเก็บไว้เผื่อเวลา 2 เดือนที่จะถูกกักขังจริง ๆ นะเนี่ย hahaha))

และแล้ววันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม เวลาประมาณ 9.00 am พวกเราก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเราขับรถวิ่งไปทางเส้นทางหลวงสายเอเชีย ผ่านจังหวัดอยุธยาค่ะ

ขับรถไปเรื่อย ๆ แวะปั๊ม Jet เพื่อเข้าห้องน้ำและซื้ออาหารเช้าทานระหว่างทาง พอ 11.30 am พวกเราก็ถึงอุทัยฯ ...ใช้เวลาเท่า ๆ กับที่เราไปบ้านยายเลยค่ะ แต่เส้นทางไม่เหมือนกัน เพราะไปอุทัยนี่วิ่งทางเรียบตลอด แต่ถ้าไปบ้านยายจะต้องขึ้นเขา

หลังจากแวะเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บไว้ที่บ้านแต่ละคน น้องเติ้ลและน้องจอยก็พาเราไปทานอาหารกลางวันที่เกาะเทโพ โดยน้องเติ้ลนำเสนอส้มตำเกาะเทโพว่าอร่อย ใช้ได้ทีเดียว


ถึงแล้วค่ะ ...ร้านนี้น้องเติ้ลบอกว่าเคยมาทานสมัยทำงานอยู่ที่สำนักงานสถิติอะค่ะ


มีที่นั่งริมน้ำด้วย ...แต่คนเต็ม T_T


บรรยากาศริมน้ำค่ะ ...ลมเย็น ๆ ชื่นใจมาก ๆ เลย


ป้ายชื่อร้าน

หลังจากช่วยกันสั่งอาหารแล้วก็นั่งรอ จานแรกที่ยกมาคือไก่ย่างค่ะ


หน้าตาน่าทานมาก ๆ


ขนมจีนและผักสำหรับแกล้มค่ะ


ต้มแซ่บหมูสับ (ไม่ใส่เครื่องใน)


ตับหวาน ...จานนี้พอเราสั่ง น้องเติ้ลหันมาถามว่า "พี่นุ่นแพ้ท้องเหรอ" hahaha ทั้งนี้ เพราะปกติเราไม่ชอบทานตับอะค่ะ ยิ่งเครื่องในอย่างอื่นนี่เรายิ่งไม่ทานเลย


ส้มตำไทย (ไม่ใส่ถั่วฝักยาว)


ซุปหน่อไม้ (ไม่ใส่ปลาร้า)


ยำมะม่วง

3 จานสุดท้ายนี่รสชาติไม่แซ่บเลยค่ะ ทุกคนผิดหวังไปตาม ๆ กัน น้องเติ้ลบ่นว่า "สงสัยแม่ค้าเห็นพวกเราหน้าจืด ๆ ก็เลยทำแบบจืด ๆ มาให้ กลัวไม่ทานเผ็ด" ...จริง ๆ พวกเราเป็นพวกชอบทานรสจัดอะค่ะ T_T

ตอนจ่ายเงิน น้องเติ้ลไปต่อว่าแม่ค้า แม่ค้าก็บอกว่าสงสัยเธอมองใบรายการอาหารผิดโต๊ะอะค่ะ เลยเข้าใจผิดว่าไม่ทานเผ็ด ...เซ็งเลย -*-

ตกลงว่าพวกเราทานอาหารไม่หมดค่ะ สองสาวกลัวเราจะไม่อิ่ม ประกอบกับน้องเติ้ลกลัวเสียหน้า เพราะโม้กับเราไว้เยอะว่าอาหารที่อุทัยอร่อยทุกอย่าง ก็เลยพาเราไปทานก๋วยเตี๋ยวต่อ


ชื่อร้าน "เจ๊ปุ้ยเจ้าเก่า" ค่ะ ...ก่อนเข้าร้านน้องเติ้ลกำชับเราว่า "พี่นุ่น ๆ ห้ามเรื่องมากกับแม่ค้านะ เพราะแม่ค้าร้านนี้ดุมาก อย่าไปบอกว่าไม่เอานู่น ไม่เอานี่ เหมือนที่ชอบทำล่ะ" ((คือเราจะเรื่องมากเวลาสั่งอาหารอะค่ะ ไอ้นู่นก็ไม่ทาน ไอ้นี่ก็ไม่ทาน แหะ แหะ))


ก๋วยเตี๋ยวของเค้าเผ็ดมาก ๆ ค่ะ ...นี่เราไม่ได้ปรุงเลยนะคะ... แต่ก็อร่อยมาก ๆ

น้องเติ้ลเคยมาสั่งก๋วยเตี๋ยวร้านนี้แล้วบอกแม่ค้าเอาแบบไม่เผ็ดมาก แม่ค้าหันมาบอกน้องเติ้ลว่า "ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มีแต่เผ็ด ๆ" ...แป่ววว

หลังจากเติมพลังกันแล้ว สองสาวก็พาเราไปวัดท่าซุง ...เนื่องจากวิหารแก้วยังไม่เปิดให้เข้าชม เพราะเป็นช่วงเวลาปฏิบัติกรรมฐานกันอยู่ สองสาวก็เลยพาเราไปชมวิหารทองคำก่อนค่ะ


บริเวณรอบ ๆ วัดจะมีพระพุทธรูปตั้งเรียงรายค่ะ


วิหารทองคำ ...พระพุทธรูปบนวิหารทำมาจากทองแท้ ๆ ค่ะ


ใครที่ไม่ได้ไปรถส่วนตัว ทางวัดก็มีรถเครื่องรับจ้างไว้บริการค่ะ แต่คนละกี่บาท เราไม่รู้อะ (- -')


เทพที่พิทักษ์ประตูค่ะ ...ฝีมือช่างสุดยอดมาก ๆ แต่บางองค์สีทองตรงด้ามดาบลอก เพราะเด็กชอบไปเล่นอะค่ะ จนทางวัดต้องติดป้ายห้ามเด็กไปจับด้ามดาบเอาไว้


ภายในวิหารค่ะ ...ปัจจุบันก็ยังสร้างไม่เสร็จนะคะ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมบางส่วนเท่านั้น


ยังไม่ได้ติดหลอดไฟ ทำให้ภายในวิหารอาศัยแสงจากข้างนอกอย่างเดียวเลยค่ะ






^
^
งานฝีมือภายในวิหารค่ะ ...ละเอียดสุดยอดมาก ๆ


ถ้ามองทะลุออกประตูนี้ไปจะมีพระพุทธรูปตั้งตรงประตูพอดีค่ะ ...เสียดายแสงข้างนอกสว่างเกินไปทำให้มองไม่เห็นอะ T_T


งานฝีมืออีกชิ้นตรงประตู ...ตอนเข้าไปเราไม่ได้แหงนหน้าขึ้นไปมองอะค่ะ




^
^
2 ภาพนี้เกิดจากน้องเติ้ลเปรยว่าพวกเรายังไม่ได้ถ่ายรูปกันเลย เราก็เลยปิ๊ง idea นี้อะค่ะ ((น้องเติ้ลบอกว่าขนาดในวัดยังไม่เว้น hahaha))


ภาพมุมเงยของวิหาร


นาคที่ประจำทางซ้ายของวิหารค่ะ


ใกล้ ๆ กับวิหารทองคำมีสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งจะมีนักปฏิบัติธรรมมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากในช่วงเข้าพรรษาอะค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)


รอยระดับน้ำตอนที่น้ำท่วมหนัก ๆ ปีที่แล้วตรงเสาสถานปฏิบัติธรรมอะค่ะ ...สูงมาก ๆ นะนั่น เพราะเราก็สูงเกือบ 170 cm แล้วอะ (- -')

พอได้เวลาใกล้ 2.00 pm พวกเราก็เคลื่อนขบวนไปวิหารแก้วค่ะ แต่ระหว่างทางมีสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ให้เราแวะลงไปถ่ายรูปบ้าง ...สองสาวขอตัวรออยู่บนรถอะค่ะ เพราะแดดร้อนมาก ๆ




^
^
2 ภาพนี้อยู่ในบริเวณรั้วเดียวกันค่ะ แต่เราจำไม่ได้แล้วว่าคืออาคารอะไร (- -')


มณฑปที่อยู่ตรงข้ามกับวิหารสมเด็จองค์ปฐมค่ะ ...ชอบรูปนี้เพราะมีสีส้มของดอกหางนกยูงมาตัดกับสีฟ้า


วิหารสมเด็จองค์ปฐม


บริเวณทางเข้ามีการจัดเป็นสวนขนาดเล็กไว้ด้วยค่ะ




^
^
พระบรมรูปรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ด้านหน้าวิหารแก้วค่ะ


มีป้ายผ้าแขวนโชว์รูปตอนน้ำท่วมไว้ด้วย ...ระดับน้ำสูงมาก ๆ เลยค่ะ >_<




^
^
มณฑปทางซ้ายและขวาของวิหารแก้วค่ะ


วิหารแก้ว




^
^
ด้านในสวยมาก ๆ เดินเข้าไปแล้วตะลึงเลยค่ะ ...เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชจำลอง และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อยค่ะ




^
^
ถ่ายภาพหน้าพระพุทธชินราชจำลอง ...แต่ละคนหน้าโทรมกันทั้งนั้น (- -')

ออกจากวิหารแก้ว สองสาวก็พาเราไปเลี้ยงอาหารปลาที่ท่าน้ำของวัด ...ต้องขับรถออกไปเข้าอีกประตูอะค่ะ


มณฑปแก้ว ...ใกล้ ๆ กับท่าน้ำค่ะ


ท่าน้ำสำหรับเลี้ยงอาหารปลา ...มีบริการเรือนำเที่ยวด้วยค่ะ คนละ 40 บาท


ริมน้ำมีเรือโบราณตั้งอยู่ 3 ลำ ไล่ลำดับตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ค่ะ


พอลงไปถึงท่าน้ำก็เห็นปลาสวายเยอะแยะไปหมด มีช่องไหนให้มันโผล่มากินอาหาร มันก็โผล่อะค่ะ (- -')


น้องเติ้ลกำลังให้อาหารปลาโดยให้มันมากินจากมืออะค่ะ


ปลาเยอะมาก ๆ ค่ะ เห็นแล้วน่ากลัวอะ >_<

ระหว่างให้อาหารปลา เราก็เปรย ๆ ขึ้นมาว่า "น่าจะลองจับเด็กสักคนโยนลงไปเนอะ อยากรู้ว่าปลาจะทำยังไง"

น้องเติ้ลหันมาค้อนเราทีนึงแล้วก็บอกว่า "ปลามันคงรุมตอดอะ เพราะนึกว่าเป็นอาหาร" แล้วเธอก็แนะนำว่า "ลองถีบหมาตกลงไปสักตัวสิ จะได้รู้ว่าจะเป็นยังไง"

เรา: ...หันไปค้อน... "ที่ชั้นให้ลองใช้เด็ก เพราะถ้าเด็กตกลงไป คนคงจะรีบเข้าไปช่วย แต่เธอให้ใช้หมาเลยเนี่ยนะ มันก็ตายพอดีสิ"

พอน้องจอยเดินมา น้องเติ้ลก็เลยฟ้องว่าเราคิดยังไง เราก็เลยฟ้องกลับบ้าง น้องจอยเลยสรุปว่า " (ความคิดแต่ละคน) พอกันแหละ" อะค่ะ (- -')

ระหว่างที่เราให้อาหารปลา น้องเติ้ลกับน้องจอยก็ไปติดต่อเรือนำเที่ยวอะค่ะ เพราะไหน ๆ ก็มาแล้วก็ควรจะเที่ยวให้หมด อีกอย่างสองสาวก็ไม่เคยนั่งเรือนำเที่ยวของจังหวัดที่ตัวเองอยู่และเรียนเลยด้วย

ตอนแรกสองสาวผิดหวังกลับมา เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจใช้บริการเรือนำเที่ยวเลย ...คือถ้านักท่องเที่ยวไม่ถึง 10 คน เรือจะไม่ออกจากท่าอะค่ะ เพราะวิ่งไปก็ไม่คุ้ม... แต่พอเราให้อาหารปลาหมด ก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนึงลงมาที่ท่าน้ำแล้วสนใจนั่งเรือนำเที่ยว คนเก็บเงินก็เลยประกาศให้พวกเราได้ยินอะค่ะ ...เย้ ๆ ในที่สุดก็ได้ล่องเรือแล้วววว


เรือใหม่ใช้ได้เลยนะคะ


ด้านในเรือ ...เพราะพวกเราลงเรือกลุ่มสุดท้าย เลยได้ที่นั่งท้ายเรือเลยค่ะ


คุณคนขับเป็นไกด์นำเที่ยวในตัว






^
^
ทิวทัศน์ระหว่างที่เรือแล่นผ่านค่ะ


เรืออีกลำที่ให้บริการวิ่งกลับไปที่ท่าน้ำค่ะ


บ้านที่อยู่ริมน้ำส่วนใหญ่เลี้ยงปลาในกระชังอะค่ะ


มีต้นไผ่ชนิดนึงเยอะมาก ๆ ค่ะ ...จำชื่อไม่ได้แล้วอะว่าไผ่อะไร (- -')

และแล้วเรือก็วิ่งจากแม่น้ำสะแกกรังมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ


ถ้าน้ำลด บริเวณที่เห็นจะเป็นลานให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อะค่ะ แต่นี่น้ำขึ้นแล้วอะ


มีป้ายชี้ทางเข้าแม่น้ำสะแกกรังด้วย


แพขนานยนต์ นำรถจากฝั่งอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ข้ามมาจังหวัดอุทัยฯ ค่ะ


อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท


ท้ายเกาะกลางน้ำที่เป็นที่ตั้งของบ้านกลางเกาะค่ะ

บ้านกลางเกาะ คือ บ้านประมาณ 20-30 หลังคาเรือน ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำอะค่ะ ...มีบ้านหลังนึงทำเป็นร้านขายของที่ระลึกบนเกาะ ให้เรือนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวไปแวะชมเกาะอะค่ะ


กำลังเดินลงจากเรือไปเที่ยวบนเกาะค่ะ


บนเกาะมีถนนทางเดินดีพอสมควรค่ะ

เราไม่ได้เดินชมรอบ ๆ เกาะเลยค่ะ ขึ้นไปที่บ้านที่จัดให้ชม ก็อยู่แต่ตรงนั้นอะ แหะ แหะ


เค้าปลูกดอกดาวเรืองขายอะค่ะ


มีผักกาดหอมด้วย ...สวยมาก ๆ เติ้ลบอกว่า "เหมือนจับมาวางเลย"


มองออกไปตรงท่าน้ำ ส่วนที่เห็นต้นดาวเรืองตายนั่น เพราะก่อนหน้านี้น้ำขึ้นมาถึงบริเวณนั้นอะค่ะ




^
^
ดอกกล้วยไม้ 2 ชนิดที่เค้าปลูกไว้อะค่ะ


ลักษณะเหมือนดอกดาวกระจาย เลยคิดว่าเป็นดอกดาวกระจายอะค่ะ ...ใช่หรือเปล่าไม่รู้ (- -')


ตอนอยู่บนเกาะ ฟ้าก็เริ่มครึ้มอะค่ะ น้องจอยแซวว่า "ฝนไม่ตกที่อุทัยมาตั้งนาน พอพี่นุ่นมา ฝนตกเลย สงสัยพี่นุ่นจะมากับฝน" ...ทั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ เรากลับมาจากหลีเป๊ะ กรุงเทพฯ ฝนก็ตก หลังจากหยุดตกไปหลายวันอะค่ะ


ใกล้เย็นแล้ว ชาวบ้านบนเกาะก็ออกเรือ เอาของไปขายที่ตลาดค่ะ

ขากลับฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พวกเราติดฝนอยู่ที่ท่าน้ำวัดท่าซุงเกือบครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ตัวเมืองอุทัยฯ ไม่มีฝนตกเลย

พอกลับเข้าเมือง น้องจอยก็ไปงานศพคุณพ่อเพื่อน ส่วนเรากับเติ้ลกลับบ้านไปพักอะค่ะ ...แต่ก็ไม่ได้พัก เพราะช่วยต้อง (น้องสาวเติ้ล) ทำงานให้คุณแม่อะค่ะ

เมื่อแดดร่มลมตก เติ้ลก็ชวนเราซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปวัดสังกัสรัตนคีรี


ภาพมณฑปพระพุทธบาท บนเขาสะแกกรัง ระหว่างที่เราซ้อนมอเตอร์ไซค์ค่ะ


ทางเข้าวัดค่ะ


วิหารพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ...พระพุทธรูปประจำจังหวัดอุทัยฯ ค่ะ

เติ้ลบอกว่าเติ้ลมาขอให้ได้ทำงานที่วัดนี้ ส่วนคุณแม่เติ้ลก็มาขอเติ้ลที่วัดนี้ พร้อมกับให้เราเสี่ยงเซียมซี เพราะแม่น เราก็เลยเสี่ยง ปรากฏว่าออกมาดีค่ะ


ทางขึ้นมณฑปพระพุทธบาทค่ะ ...บันไดมี 449 ขั้น... เราเคยเห็นแต่ภาพตอนที่เค้าตักบาตรเทโวในวันออกพรรษาอะค่ะ

แน่นอนว่าพวกเราไม่มีทางเดินขึ้นอยู่แล้ว hahaha น้องเติ้ลก็เลยพาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์อ้อมไปขึ้นด้านหลังอะค่ะ ต้องขึ้นเขาไปประมาณ 2 km.


ข้างบนเขาสะแกกรังเป็นที่ตั้งของพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระชนกาธิบดี รัชกาลที่ 1 ด้วยค่ะ


มองลงไปก็เห็นวิวเมืองอุทัยฯ ดูเล็ก ๆ สงบ ๆ ดีค่ะ


วิวนี้ถ่ายหลังเขา ...น้องเติ้ลบอกว่า "เห็นภาพชัดเลยที่ว่าเป็นพวกหลังเขาน่ะเป็นยังไง" (เพราะหน้าเขาเป็นเมืองอะค่ะ)


พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วค่ะ

ใกล้มืดแล้ว เรากับน้องเติ้ลก็เลยรีบเดินชมบริเวณด้านบนให้หมดอะค่ะ




วิหารเจ้าแม่กวนอิม ...อาม่าแฟนน้องจอยเป็นผู้ดูแลค่ะ เสียดายที่ตอนเราขึ้นไป เค้าปิดแล้วอะ


พระสังกจายองค์ที่เห็น ถ้าใครโยนเหรียญลงตรงสะดือท่าน คำอธิษฐานจะเป็นจริงค่ะ ...แต่เราไม่ได้โยนอะค่ะ แหะ แหะ


อาคารนี้ เราไม่รู้ว่าเป็นอาคารอะไรค่ะ แต่คาดว่าน่าจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอะไรสักอย่าง


มองลงไปเห็นวิหารพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ลิบ ๆ


มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทค่ะ ...ด้านหน้ามีระฆัง 100 ปี และธรรมจักรตั้งอยู่

ขากลับเห็นฟ้าสีสวยมาก ๆ คือด้านบนสีหม่น ๆ แต่มีสีแดงอยู่ด้านล่าง ...ดูเหมือนภาพวาดก็เลยถ่ายเก็บไว้อะค่ะ



พอลงจากเขาสะแกกรัง พวกเราก็แวะไปหาน้องจอยที่บ้าน เพื่อชวนไปทานข้าวเย็นด้วยกันอะค่ะ

มื้อเย็น คุณพ่อ คุณแม่ของเติ้ลพาไปทานอาหารที่ร้านอาหารริมน้ำ ...เราจำชื่อไม่ได้แล้วอะ... เสียดายที่แบตฯ กล้องดันหมดอะค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา ((เติ้ลบ่นว่า "ทีตอนพามากินหรู ๆ ดันไม่ถ่ายรูปเก็บไว้" hahaha)) ...ขอบคุณที่เลี้ยงค่ะ

พอทานข้าวเสร็จ สองสาวก็พาเราไปตระเวนราตรีเมืองอุทัยฯ ค่ะ แต่สุดท้ายเราก็เลือกไปนั่งดื่มนมใกล้ ๆ บ้านเติ้ลและบ้านแฟนน้องจอยนั่นแหละ ...นั่งเม้าท์กันจนสมควรแก่เวลา ก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปพักผ่อน โดยนัดกับน้องจอยว่าให้ตื่นเช้า ๆ เพื่อขี่จักรยานไปตลาดกันอะค่ะ

โปรดติดตามตอนต่อไป




Create Date : 09 มิถุนายน 2550
Last Update : 9 มิถุนายน 2550 17:09:35 น.
Counter : 2592 Pageviews.

14 comments
  
ได้เที่ยววันแรกก็เกือบครบรสเลยคุณนุ่น ... แต่เสียดายเน๊อะว่าไปกินส้มตำแล้วไม่แซ่บเหมือนที่ชอบเลยค่ะ ...
โดย: JewNid วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:20:06:00 น.
  
ไม่น่าเชื่อว่าอุท้ยธานีมีที่เที่ยวเยอะขนาดนี้ อาหารก็น่ากิน วัดท่าซุงก็น่าสนใจ แถมมีเรือนำเที่ยวอีก น่าไปมากๆเลย
โดย: la-la-bell วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:21:53:43 น.
  
อะแฮ่ม สมัยวิหารร้อยเมตรกับวิหารทองคำอยู่ในช่วงก่อนสร้าง ผมก็มีส่วนร่วมช่วยบริจาคเงิน+แหวนทอง (ของแม่) ด้วยนา 555

เห็นแล้วคิดถึงครับ หลังจากหลวงพ่อฤาษีมรณะภาพก็แทบไม่ได้ไปอีกเลย ต้องหาโอกาสไปซะแล้ว

เอพิโสด 2 มาเมื่อไหร่ เรียกด้วยเน่อ จะรอชม อิอิ

ป.ล. เห็นวิญญาณโผล่หลังเสาในวัดด้วยฮะพี่ หน้าคุ้น ๆ ทั้งนั้นเลย
โดย: สมัชชี่ IP: 203.113.35.7 วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:22:44:00 น.
  
ได้ดูนุ่นโพสต์แล้วคิดถึงความหลัง สมัยไปเยี่ยมเพื่อนสนิทที่เป็นตำรวจ คนอุทัยธานี ตอนกลับไปเยี่ยมเมืองไทย มันพาเดินเที่ยวหมดเลยค่ะที่ที่นุ่นเที่ยวมานี่ แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวก็กินร้านเดียวกัน แล้วก็พากันไปเยี่ยมค่ายนอ้ง ๆ นอนเล่นที่ห้วยขาแข้งกันอีก 2 คืน แต่ตอนนี้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตได้ 2 ปีแล้ว คนเราเอาแน่เอานอนกะชีวิตไม่ได้เลย
โดย: ป้าเก๋สวย IP: 84.102.201.9 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:1:14:59 น.
  
วัดท่าซุงสวยดีนะ
วัดนี้ใช่ป่าวที่หมอประกิตเผ่า คนดังไปนั่งสมาธิอ่ะ
โดย: โอ๋ IP: 58.181.145.220 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:9:15:47 น.
  
เปิดมาเจอน้องไก่กระแทกตาอย่างแรง อย่างแรง อยากกินส้มตำ ไก่ย่างงงงงงงงงงงงงง จังเลย อิอิ

โดย: มิ้วคับติ้ว IP: 203.154.48.14 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:9:27:13 น.
  
เป็นอีกที่ที่เคยผ่านแต่ไม่เคยไปเที่ยวจริงๆ ซะที หาเรื่องไปเดินป่าห้วยขาแข้งแล้วไปนอนอุทัยสักคืนดีกว่า

เห็นปลาสวายเยอะขนาดนั้น คิดอยากดำ scuba บ้างมั้ยจ๊ะ hahaha
โดย: คุณเก๋ IP: 124.121.6.76 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:9:44:34 น.
  
วิหารแก้วเนี่ย เป็นหนึ่งใน unseen Thailand ใช่ป่ะ
เรานะได้แต่อ่านจากหนังสือ ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสของจริงกับเขาซักที อิจฉานุ่นชะมัด
วิธีถ่ายรูปจากภายในตัวอาคาร ออกไปด้านนอก ถ้าต้องการจะให้เห็นรายละเอียดภายนอก ต้องปรับรูปแบบการวัดแสงของกล้องเป็นวัดแสงเป็นจุด แล้วโฟกัสตรงจุดที่เราต้องการจะให้เห็นรายละเอียดก่อน แล้วค่อยจัดองค์ประกอบของภาพ (เวลามองในช่องมองภาพ ให้จุดเขียวๆ อยู่ตรงจุดที่ต้องการให้ชัด กดชัตเตอร์ครึ่งหนึ่ง เพื่อให้กล้องจับโฟกัสได้ แล้วค้างไว้ และขยับกล้องเพื่อให้ได้ส่วนประกอบในรูปตามต้องการ แล้วจึงค่อยกดชัตเตอร์ลงไปให้สุด)
แต่ถ้ากล้องไม่สามารถปรับระบบวัดแสงได้ ให้ตั้งถ่าย Under (คือถ่ายติดลบนะ) สังเกตุถ้าใช้โปรแกรม P จะมีขีดๆ ที่เป็น -2..-1..0..+1..+2 ให้เลือก ไปอยู่ส่วนที่เป็นลบนะ ส่วนที่ว่าเท่าไหร่ถึงจะพอดี อันนี้บอกไม่ได้ต้องทดลองเองนะจ๊ะ
อ้อ! แต่อย่าลืมสัจธรรมที่ว่า ได้อย่างเสียอย่างนะจ๊ะ ข้างในพอดี ข้างนอกก็สว่าง แต่ถ้าข้างนอกสว่าง ข้างในก็มืดจ้า
แล้วไปเที่ยวไหนก็อย่าลืมส่งมาให้เราดูอีกนะ ถึงจะอิจฉา แต่ก็ยังอยากดู
โดย: เต๋า IP: 58.10.170.245 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:9:53:02 น.
  
ดีจังเลย ขี่จักรยานไปตลาด จะรอตอนต่อไปนะคะ

ปล. รอยระดับน้ำที่วัดสูงมิดหัวเลยนะนั่น น่ากลัวมั่กๆ
ต้มแซ่บหมู ตับหวาน กับก๋วยเตี๋ยวน่ากินจังเลย
โดย: MaRiMeKKo วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:10:04:11 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยอีกคนจ้า.. เคยไปอุทัยครั้งนึง เมื่อนานมากๆๆๆๆๆๆ มาแล้ว แต่ไม่ได้เที่ยวทั่วอย่างงี้เลย ถ้าจะไปอีก อย่าลืมชวนๆกันมั่งน้า.. จาได้ไปให้เติ้ล สั่งสอนซะหน่อย อิอิ
โดย: Ja~ IP: 202.28.169.165 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:11:34:01 น.
  
ตามมาเที่ยวอุทัยค่ะคุณนุ่น
โบว์ยังไม่เคยไปเลยอ่ะ
เคยแต่ผ่าน^^






...
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:10:28:06 น.
  
เพิ่งรู้ว่า อุทัยก็มีไรมากกว่าที่คิดนิ
โดย: นางมารร้าย วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:15:48:46 น.
  
ส้มตำกะก๋วยเตี๋ยวนี่หน้าตาต่างกันมากเลยนุ่น 555
รู้สึกว่าตอนไปอุทัย เราก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ (รึป่าว) นะ

จำได้ว่าไปอุทัย... เราไปห้วยขาแข้งก่อน
แล้วขากลับค่อยมาแวะวัดท่าซุง
เป็นวัดที่สวยมากๆ เลยเนอะ
โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:11:01:18 น.
  
อยากจะแนะนำร้านกล้วยแขกเมืองอุทัยจิงๆ ของเค้าอร่อยมาก ถ้ามาอีกครั่งอย่าลืมแวะมาชิมให้ได้นะ ร้านอยูบริเวณท่ารถ บขส.อุทัยธานี ช้าหมดอดกินด้วยไม่รู้นะ ขายตั้งแต่เช้าเลย ไปตอนบ่ายบางครั่งก็ไม่เจอแล้วหมดก่อนทุกที
โดย: กล้วยแขก IP: 180.183.57.77 วันที่: 17 มิถุนายน 2554 เวลา:19:07:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
มิถุนายน 2550

 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog