เยือนเมืองอุทัยฯ: ตอนจบ
เช้าวันอาทิตย์ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 6.15 am ค่ะ ...ที่ต้องตื่นเช้าขนาดนี้ก็เพราะสองสาวจะพาเราไปเดินชมตลาดอะค่ะ

หลังจากน้องเติ้ลกับเราอาบน้ำแต่งตัว สูบลมเข้าล้อจักรยานเสร็จเรียบร้อย ก็ได้ฤกษ์ขี่จักรยาน (คนละคัน) ไปรับน้องจอยค่ะ ...ปรากฏว่าเธอเพิ่งตื่นนอน hahaha

สองสาวขี่จักรยานพาเราไปชมตลาด โดยน้องเติ้ลแวะสั่งหมูปิ้งกับข้าวเหนียวไว้ก่อน ก่อนจะพาเราขี่เลาะไปชมวัดอุโบสถาราม


ถ่ายจากอีกฝั่งของแม่น้ำค่ะ

หลังจากตัดสินใจกันอยู่สักครู่ พวกเราก็พากันจูงจักรยานขึ้นสะพาน ข้ามไปอีกฝั่งค่ะ


สะพานสูงใช้ได้ค่ะ จูงจักรยานขึ้นไปก็ต้องออกแรงพอสมควร แถมตอนขาลงอีกฝั่ง เราดันไม่จูงลง กลับขี่ลงซะงั้น ลุ้นแทบแย่ว่าจะคว่ำหรือเปล่า hahaha (น้องเติ้ลบอกว่า "ใครเค้าขี่ลงกัน จูงลงก็พอ เกิดเบรคไม่ได้ทำไง")


วิวตลาด... ถ่ายจากบนสะพานอะค่ะ




^
^
ทิวทัศน์แม่น้ำสองฝั่งของสะพาน


เดินใกล้วัดเข้าไปอีกนิด ...ป้อมริมน้ำดูเก่าแก่อะค่ะ ส่วนอุโบสถเหมือน ๆ กำลังบูรณะอยู่


แพพุทธรักษาที่เรียงเป็นเขตวัดอะค่ะ ...สวยดี

พวกเราไม่ได้แวะเข้าไปชมด้านในวัดฯ ค่ะ ตอนแรกกะว่าจะขี่ไปทะลุถนนอีกเส้นนึง แต่น้องเติ้ลสั่งหมูปิ้งเอาไว้ ต้องกลับไปเอา ก็เลยแวะเข้าไปชม พญาไม้ รีสอร์ท ก่อนจะขี่กลับเส้นทางเดิมค่ะ


สองข้างทางร่มรื่นมากค่ะ ...แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็น่ากลัวเลยนะเนี่ย (- -')


ทางเข้าพญาไม้รีสอร์ท


ท่าน้ำของรีสอร์ท ...เมื่อก่อนมีแพพาแขกที่มาพักข้ามจากอีกฝั่งนึงมาด้วย แต่เนื่องจากมีความยุ่งยากก็เลยยกเลิกไปอะค่ะ แพก็เลยจอดอยู่ที่ท่าน้ำเฉย ๆ

หลังจากชื่นชมบรรยากาศ ...เพราะบรรยากาศสงบมาก ๆ อะค่ะ เหมาะสำหรับให้เราปลีกวิเวก hahaha... และสอบถามราคาที่พักเรียบร้อย พวกเราก็มุ่งมั่นหาลูกสน ((ไม่รู้เค้าเรียกอย่างนี้หรือเปล่า แต่ที่เวลามันร่วงจะหมุน ๆ ดูสวยดีอะค่ะ)) เพื่อเอามาโยนเล่นกัน ...เหมือนเด็ก ๆ เนอะ (- -')


ภาพนี้ถ้าสังเกตน้องจอยจะเห็นว่าเธอกำลังมองหาลูกสนอยู่ค่ะ




^
^
กลับมาถ่ายภาพตลาดเก็บไว้ค่ะ ...ตอนนั้นตลาดเริ่มวายแล้วล่ะ

เนื่องจากทุกเช้า เราต้องดื่มกาแฟเย็น ระหว่างที่น้องเติ้ลไปซื้อโจ้กให้คุณน้องสาว น้องจอยก็พาเราไปซื้อกาแฟเย็นที่ร้านลำไย ตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ ที่มีโรงหนังเก่าอะค่ะ


ร้านนี้แหละค่ะ


โรงหนังเก่า ...ปิดทำการไป เพราะหนุ่ม ๆ สาว ๆ ไปดูหนังที่จังหวัดนครสวรรค์แทนอะค่ะ

หลังจากได้ของรับประทานเป็นอาหารเช้าเรียบร้อย พวกเราก็ขี่จักรยานกลับไปนั่งทานที่บ้านเติ้ลค่ะ พออิ่ม ก็แยกย้ายกันไปเก็บของ โดยนัดกันว่า 11.00 am เราจะไปรับน้องจอยที่บ้าน เพื่อออกเดินทางไปเที่ยววัดถ้ำเขาวง และกลับกรุงเทพฯ โดยใช้ถนนอีกเส้นที่ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีอะค่ะ


จอดรถข้างทางเพื่อถ่ายมุมนี้โดยเฉพาะค่ะ ...เห็นตัวหนังสือ "เมืองพระชนกจักรี" และวัดสังกัสฯ ด้วย


ก่อนออกเดินทางก็แวะเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นกันก่อน ...ไม่ได้ถ่ายรูป เพราะกล้องน้องเติ้ลไม่มีโหมด Food อะค่ะ (กล้องเราแบตฯ หมดไปตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้เลยยืมกล้องน้องเติ้ลถ่ายแทน โดยเราเป็นคนถ่ายเองค่ะ)

หลังจากเติมพลัง พวกเราก็ออกเดินทาง ...ระหว่างทางที่จะไปวัดถ้ำเขาวง มีสถานที่ท่องเที่ยว คือ ต้นไม้ยักษ์ ให้แวะนักท่องเที่ยวแวะไปชมค่ะ ((มีป้ายบอกทางเข้าริมถนนอะค่ะ แต่พอเข้าไปแล้วจะมีทางแยก แต่ไม่มีป้ายบอกว่าให้ไปทางไหน น้องจอยเสนอให้ไปทางขวา เราก็เลยเลี้ยวไปทางขวา ปรากฏว่าผิดค่ะ hahaha ถามชาวบ้านแถวนั้น เค้าบอกว่าต้องไปทางซ้าย แหะ แหะ))


ในที่สุดก็ถึงสักที ...จอดรถไว้ที่หน้าบ้านที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าเลยค่ะ


สองไกด์สาว ตรงบริเวณทางเข้า




^
^
มีธารน้ำไหลขนานไปกับทางเดินค่ะ เห็นป้ายติดตรงต้นไม้ยักษ์ว่ามีน้ำตกด้วย แต่น้องเติ้ลกับน้องจอยไม่กล้าเดินไปน้ำตกอะค่ะ เนื่องจากไปกันแค่ 3 คน แล้วรอบตัวก็ป่าทั้งนั้น


มุ่งมั่นเดินกันมากค่ะ ยิ่งเดินลึกเข้าไป น้องเติ้ลกับน้องจอยก็ยิ่งกลัว โดยเฉพาะน้องเติ้ล ถ้าพวกเราเงียบเสียงลง เธอจะต้องบอกว่า "อย่าเงียบกันไปสิ ส่งเสียงเข้าไว้"

พวกเราเดินเข้าไปลึกเหมือนกันอะค่ะ แต่ก็ยังไม่เห็นต้นไม้ยักษ์สักที บางครั้งผ่านต้นไม้ที่สูงหน่อย น้องจอยก็จะถามว่าใช่ต้นนี้หรือเปล่า แต่น้องเติ้ลที่คุ้น ๆ ว่าเคยมาบอกว่าน่าจะใหญ่กว่านี้ แล้วเธอก็บ่นว่า "เมื่อไหร่จะถึงสักที เดินมาไกลแล้วนะเนี่ย"


หลังจากน้องเติ้ลบ่นไม่นาน พวกเราก็เห็นป้ายนี้ค่ะ hahaha ...แสดงว่ามีหลายคนบ่นอย่างน้องเติ้ลแน่ ๆ




^
^
ถึงแล้ว... เนื่องจากต้นสูงมาก ๆ ค่ะ แล้วพื้นที่ในการถ่ายรูปมีจำกัด เราก็เลยต้องแบ่งเป็นลำต้นส่วนล่างและส่วนบน ตามลำดับ

จากข้อมูลที่มีป้ายติดบอก (เท่าที่เราจำได้) ต้นไม้ยักษ์นี้คือต้นเซียง มีอายุกว่า 500 ปีแล้วค่ะ

ออกจากต้นไม้ยักษ์ พวกเราก็มุ่งหน้าวัดถ้ำเขาวงกันเลย ไม่แวะเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน เพราะกลัวว่าจะถึงกรุงเทพฯ ค่ำอะค่ะ


วัดถ้ำเขาวงค่ะ ...สวยเหมือนรีสอร์ทเลย


ไม่รู้ว่าเป็นอาคารอะไรค่ะ ...แต่สวยดี




^
^
การตกแต่งสวนเหมือนรีสอร์ทเลย


มีที่สำหรับให้ดื่มน้ำ แต่ไม่รู้ว่ามีน้ำให้ดื่มจริง ๆ หรือเปล่าอะค่ะ


คิดว่าอาคารหลังนี้น่าจะเป็นกุฎิพระและเป็นที่สำหรับปฏิบัติธรรมอะค่ะ


สะพานข้ามไปยังอีกฝั่งนึงค่ะ ...ในสระน้ำมีปลาให้เลี้ยงอาหารด้วย แต่น้ำไม่ใสพอจะถ่ายรูปเห็นอะค่ะ


อีกสักรูปก่อนกลับ

พอออกจากวัดถ้ำเขาวง พวกเราก็เห็นป้ายชี้ทางไปวนอุทยานถ้ำเขาวง (ถ้ำพุหวาย) หลังจากเห็นพ้องต้องกันว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว ลองแวะไปดูหน่อยก็ดี เราก็ขับรถมุ่งหน้าไปวนอุทยานกันค่ะ


ถึงแล้ว

เนื่องจากพวกเราไม่มีใครเตรียมตัวมาเดินป่าอะค่ะ เลยคุยกันว่าถ้าทางไปถ้ำลำบาก พวกเราก็จะแค่ถ่ายรูปบรรยากาศข้างล่างแล้วก็กลับ แต่น้องเติ้ลกับน้องจอยไปถามเจ้าหน้าที่ ระหว่างที่เราถ่ายรูป ได้ความว่าทางขึ้นไปถ้ำไม่ชันและระยะทางแค่ 200 เมตร พวกเราก็เลยตัดสินใจเที่ยวถ้ำกันค่ะ ...เสียค่าไฟฉาย 2 เครื่อง รวม 40 บาทค่ะ ((แค่นั้นจริง ๆ))


มีป้ายติดบอกว่า "หลานต้นมะเขือยักษ์" อะค่ะ ...นี่ขนาดต้นหลานนะ ถ้าต้นดั้งเดิมจะขนาดไหน (- -')


อาคารที่ทำการ ...ในรูปจะเห็นน้องเติ้ลกับน้องจอยกำลังสำรวจรูปภาพค่ะว่าน่าเที่ยวหรือเปล่า




^
^
บริเวณทางขึ้นมีป้าย 2 ป้ายตั้งอยู่ ป้ายนึงเป็นป้ายบอกทิศทาง อีกป้ายเป็นป้ายแนะนำการเที่ยวถ้ำให้สนุกและถูกวิธีค่ะ

พอก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก เสียงแรกที่ได้ยินเลยคือเสียงน้องเติ้ลพูดว่า "โหยยยยย พี่ ไหนบอกว่าไม่ชันไง นี่แค่ขั้นแรกยังชันแล้วเลย" ทำเอาเรากับน้องจอยขำก๊ากเลยค่ะ เป็นการทำร้ายเพื่อนมาก ๆ เพราะเราต้องขำไป เดินขึ้นเขาไป เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน (- -') ...ที่สำคัญชันอย่างที่น้องเติ้ลพูดจริง ๆ ค่ะ ไหนพี่คนนำทางบอกว่าไม่ชันไง -*-


น้องจอยรู้คิว หันมาโบกมือทักทายกล้อง แต่น้องเติ้ลกลัวหงายหลังตกเขา เลยตั้งหน้าตั้งตาเดินตามพี่คนนำทางไปติด ๆ


เขตป่าอุดมสมบูรณ์มาก ๆ ค่ะ ...เห็นแล้วสบายตา สบายใจ


พี่คนนำทางบอกว่าเป็นว่านชนิดหนึ่งค่ะ แต่เราจำชื่อไม่ได้ T_T


สองสาวอยู่บนทางเดินที่สูงกว่าเราค่ะ ...เป็นทางที่เป็นมุมเลี้ยวหักศอกอะ


พอเราไปถึงจุดที่สองสาวยืน ก็ถ่ายรูปทางเดินที่พวกเราเดินขึ้นมาไว้ ...เห็นอย่างนี้เหมือนไม่ชัน แต่เดินขึ้นเรื่อย ๆ ก็เหนื่อยพอสมควรค่ะ


ว่านอีกหนึ่งชนิด ...จำชื่อไม่ได้เหมือนกัน แหะ แหะ


ต้นที่ขึ้นมาใบเดี่ยวทางซ้าย ชื่อว่า "บัวสันโดษ" ค่ะ ...เป็นว่านชนิดหนึ่งเหมือนกัน


รูปนี้ทางชันเห็น ๆ (- -')


ต้นข้าวสารอะไรสักอย่าง ...จำชื่อไม่ได้เหมือนกันค่ะ T_T


ในที่สุดก็ถึงปากทางเข้าถ้ำ T_T


หลังจากพักเหนื่อยสักครู่ พวกเราก็พร้อมเข้าถ้ำค่ะ


เรามัวแต่ถ่ายรูปเลยลงไปเป็นคนสุดท้ายค่ะ ทุกคนก็ช่วยกันส่องไฟขึ้นมาให้เรามองเห็นบันได ...จริง ๆ เรามีไฟฉายอยู่ที่เราหนึ่งเครื่องอะค่ะ


จุดแรกที่เห็นเป็นคอกกั้นอะไรสักอย่าง พี่คนนำทางบอกว่าเป็นหินที่กำลังจะเกิดขึ้นอะค่ะ ต้องเอาคอกมากั้นเพื่อกันไม่ให้คนเหยียบ

ต่อไปเป็นจุดที่สามารถถ่ายรูปเห็นชัดอะนะคะ จริง ๆ มีให้ชมมากกว่านี้ แต่บางมุมถ่ายออกมาแล้วมืดก็ไม่เอา


หินรูปปลาโลมา ...ตอนแรกที่พี่คนนำทางให้ทาย เราทายเป็นพะยูนอะค่ะ (- -')


หินรูปนกกระจอกเทศ (ยืนหันหลัง)


หินรูปปะการัง แต่พี่คนนำทางบอกว่านักท่องเที่ยวบางคนบอกว่าดูคล้ายเห็ดมากกว่า


มีหินที่กำลังเกิดอีกแล้ว ...ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นมาคือหินในถ้ำมีอยู่ 2 ชนิดค่ะ คือ หินเป็น ซึ่งเป็นหินที่มีน้ำหยดลงมาเวลามีฝนตก หินชนิดนี้จะงอกใหม่เรื่อย ๆ และหินตาย เป็นหินที่ไม่มีการงอกใหม่แล้วอะค่ะ


ช่องที่ว่างนี้เกิดจากดินยุบตัวลงอะค่ะ ทำให้หินขาดออกจากกัน


ค้างคาวเกาะบนเพดานถ้ำค่ะ ...ถ้ำนี้มีค้างคาว 2 ชนิด อีกชนิดตัวเล็กกว่า ถ่ายรูปมาไม่เห็นอะค่ะ T_T


หินรูปบ่อน้ำ


แมงป่องถ้ำค่ะ ...เป็นสัตว์ที่ตาบอดอะ แต่พอเราเข้าไปใกล้ ๆ กะจะถ่ายรูป กลับวิ่งหนี สงสัยจับคลื่นความร้อนเราได้แหง ๆ


หินรูปดอกกุหลาบ ...เป็นหินที่กำลังงอกอีกเช่นกันค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ละปีหินเหล่านี้จะงอกประมาณ 2-3 มิลลิเมตรเท่านั้นค่ะ เนื่องจากถ้ำนี้ไม่ใช่ถ้ำที่มีน้ำไหลตลอดเวลา ต้องรอฝนตกเท่านั้น


หินรูปฟันปลา ...อยู่ใกล้ทางออกจากถ้ำแล้วค่ะ


คราบที่งูลอกทิ้งไว้ค่ะ ...ยาวมาก ๆ แต่ถ่ายรูปมาไม่เห็นทั้งหมด จริง ๆ ก่อนหน้านี้ตอนอยู่กลางถ้ำ พี่คนนำทางบอกว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวตอนเช้าเห็นเจ้าของถ้ำ พวกเราสามคนก็นึกไปถึงสิ่งลี้ลับทันที เรางี้เสียวหลังวาบ เพราะเดินเป็นคนสุดท้าย ((กลัว ๆ T_T)) แต่พี่คนนำทางถามขึ้นมาก่อนว่ามีใครกลัวงูบ้าง แล้วน้องเติ้ลก็รีบบอกว่ากลัว พี่คนนำทางก็เลยบอกว่างั้นโชคดีที่พวกเราไม่เจอค่ะ


แมลงอะไรสักอย่างอะค่ะ ...จำไม่ได้... ตอนแรกเรานึกว่าแมงป่องถ้ำ แต่พี่คนนำทางบอกว่าไม่ใช่


ในที่สุดก็ได้ออกจากถ้ำ ...เป็นความรู้สึกของน้องเติ้ลและน้องจอยหลังจากเจอคราบงูค่ะ คือว่าเราเฉย ๆ กับงูอะค่ะ


ตรงทางออกมี "ลิ้นถ้ำ" ค่ะ ...เป็นหินรูปเหมือนลิ้นจริง ๆ ด้วย >_<


เพดานเหมือนโดนตัดอะค่ะ แต่จริง ๆ แล้วเกิดโดยธรรมชาติ น่าทึ่งมาก ๆ

ทางออกไม่ใช่ทางเดียวกับที่พวกเราเดินเข้าถ้ำค่ะ พี่คนนำทางบอกว่าเส้นทางที่พวกเราเดินคือเดินวนรอบเขาที่ตั้งถ้ำอะค่ะ ...สู้ตายยยย >_<


กำลังเดินลงอย่างขมักเขม่น


ส่วนนี้เป็นโพรงถ้ำ แต่ไม่ลึกมากค่ะ หลายปีก่อนมีพระธุดงค์มาจำพรรษาที่นี่ แต่เนื่องจากท่านมีลูกศิษย์ศรัทธามาก และให้เลขแม่น ท่านก็เลยโดนยิงและมรณภาพบริเวณด้านล่างของภูเขาค่ะ ...คนที่ยิงท่านนี่ใจร้ายมาก ๆ เลยทีเดียว... หลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว บรรดาลูกศิษย์ก็ได้นำพระมาตั้งเป็นที่สักการะบูชาอะค่ะ


เดินกันต่อไป ...เราอยู่รั้งท้ายพอสมควรเลยนะเนี่ย จะว่าไป (- -')


ว่านอีกหนึ่งชนิดค่ะ


อันนี้ต้นอะไรก็ไม่รู้ เห็นมันขึ้นอยู่ในโพรงก้อนหิน น่ารักดีอะค่ะ


ในที่สุดก็มองลงไปเห็นอาคารที่ทำการ T_T


พอเดินมาถึงข้างล่างแล้วถ่ายขึ้นไป ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมื่อกี้พวกเราจะเดินอยู่ในภูเขาลูกนี้อะ >_<

ออกจากวนอุทยานฯ พวกเราก็มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ กันเลยค่ะ เพราะสมควรแก่เวลาแล้ว ...อ้อ เนื่องจากพี่คนนำทางนำเที่ยวได้น่าประทับใจมาก ๆ เราก็เลยให้สินน้ำใจพี่เค้าไป 100 บาท ตอนแรกพี่เค้าไม่อยากรับ คงเห็นว่าพวกเราเด็กกว่า แต่เราขอให้พี่เค้าช่วยรับไป เพราะพี่เค้าเป็นชาวบ้าน ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เงินจำนวนนี้ถึงจะไม่มากแต่อาจจะพอมีประโยชน์บ้างอะค่ะ

ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ ก็แวะปั๊ม Jet เข้าห้องน้ำและทานลูกชิ้นปิ้งกันเป็นอาหารเย็นค่ะ พอใกล้ถึงกรุงเทพฯ ฝนก็ตก ((จริง ๆ ลงเม็ดมาตั้งแต่ไปถ้ำแล้ว แต่พอออกจากถ้ำฝนก็หายไปอะค่ะ)) ทำให้เห็นรุ้งกินน้ำ เราก็เลยให้น้องเติ้ลถ่ายเก็บไว้ ขณะขับรถอะค่ะ


เห็นไม่เต็มวง แต่ก็ยังสวย

กลับถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 7.00 pm โดยสวัสดิภาพค่ะ
__________________________________________

ป.ล. ในอุทัยฯ วงเวียนเยอะมาก ๆ ขนาดใหญ่ก็มี เช่น



แต่ที่ทำเรางง คือ วงเวียนเล็ก ๆ อย่างนี้


มีเยอะมาก ๆ ค่ะ ตอนแรกที่ขับไปเจอ เราจะเลี้ยวขวาไปเลย น้องเติ้ลก็บอกให้วนวงเวียน เราก็งง "ไหนอะวงเวียน" พอน้องเติ้ลชี้ให้ดู ถึงกับอึ้ง 'ทำไปทำไมฟะ สู้ให้เลี้ยวไปเลยยังจะง่ายกว่า' ((คิดในใจอะค่ะ hahaha))

อีกสิ่งที่ทำให้เรางง ก็คือ แยกนี้อะค่ะ


เห็นสัญญาณไฟแล้วงง ไม่รู้ว่าจะมองอันไหนดี (- -') ...น้องเติ้ลบอกว่ามีแต่คนงงค่ะ แม้แต่คนอุทัยฯเองก็งง ก็เข้าใจว่ามันมีหลายแยกอะนะคะ แต่มันงงอะ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราก็ประทับใจเมืองอุทัยฯ ค่ะ ตอนเดินตลาดเช้ารู้สึกเหมือนตัวเองย้อนเวลากลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนเลย ทั้งบ้านเรือน และการดำเนินชีวิต ดูสงบ ๆ ไม่วุ่นวายเหมือนจังหวัดอื่น ๆ ที่เราเคยไปอะค่ะ



Create Date : 10 มิถุนายน 2550
Last Update : 16 มิถุนายน 2550 14:14:31 น.
Counter : 3353 Pageviews.

14 comments
  
แพพุทธรักษา สวยจังเลยค่ะ วัดถ้ำเขาวงกับสะพานไม้ก็สวยมากเลย อยากถ่ายรูปกับสะพานไม้แบบนั้นมากๆ ส่วนตัวชอบอะไรที่ทำจากไม้อ่ะค่ะ

แต่ถ้ำนี่น่ากลัวเหมือนกันนะคะ อาจจะเพราะมันมืดๆ ชันๆ เป็นเราไม่กล้าถ่ายรูปแล้วตามไปทีหลังแน่เลย กลัวไม่กล้าแตกแถว อิอิ

ปล. เราว่าคนที่เจอรุ้งกินน้ำเดี๋ยวนี้เป็นคนโชคดีนะคะ เห็นใครถ่ายรูปรุ้งกินน้ำทีไร อดอิจฉาไม่ได้ เพราะเราไม่เห็นมานานนนมากกกแล้ว อยากเห็นมั่งจัง
โดย: MaRiMeKKo วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:20:50:02 น.
  
โหเพ่ เดินซะ ลดไปกี่โลเนี่ย แตก็น่าเที่ยวดีอะ (จริง ๆ อยากถีบจักรยานกลางป่ามากกว่า ได้บรรยากาศดี)

ปกติไปแต่วัดท่าซุง คงต้องหาเวลาไปเยี่ยมที่อื่นมั่งซะแร้ว





โดย: มัชชี่ IP: 203.113.34.61 วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:21:31:16 น.
  
โห คุณนุ่นขา .. วันนี้นำเที่ยวแบบนี้แล้วอยากไปจังเลยค่ะ ธรรมชาติสุดๆ เลย ...
วัดถ้ำเขาวงสวยมากค่ะ บรรยากาศดี๊ดี ไปเดินเล่นแบบที่เห็นกับปั่นจักรยานเข้าไป
แล้วสวยมากเลย
โดย: JewNid วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:9:17:44 น.
  
เมืองเงียบสงบน่าพักผ่อนดีเนอะ
โดย: เก๋ IP: 124.121.4.177 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:9:53:54 น.
  
สวัสดีครับ

ภาพสวย ๆ ทั้งน้าน คุ้มจริง ๆ นะครับ

น่าไปเที่ยวจัง
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:10:51:06 น.
  
อยากเที่ยวด้วยจัง ;)
โดย: ไร้นาม วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:8:04:01 น.
  
แพพุทธรักษาสวยจังเลย

มาอ่านบล็อกนุ่นถึงจำได้ว่าเราก็เคยไปถ้ำเขาวงมา
จำได้ว่าวัดอลังการมากๆๆๆๆๆๆ >_<
โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:10:21:16 น.
  
น่าเที่ยวจริงๆ เมืองไทยเรานี่ก็ที่เที่ยวเยอะเนอะ น่าไปๆ
โดย: Ja~ IP: 202.28.169.165 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:11:28:09 น.
  
เมืองเค้าสงบน่าอยู่จัง
โดย: โอ๋ IP: 58.181.145.220 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:13:05:36 น.
  
เจ้...ขยันเที่ยวจิงๆ ช่วงนี้ พาน้องไปบ้างจิ(ถ้าว่างด้วยนะ)
อยากไปบ้างจังเลย ถ่ายภาพสวยดีเนอะ
โดย: neko IP: 124.121.183.42 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:15:13:59 น.
  
เราไปมาแระสวยมากกกก
มีอีกตั้งหลายที่น่ะ
ลองไปกานดู
โดย: btlove IP: 202.183.233.11 วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:13:30:46 น.
  
ยังมีที่เที่ยวที่สวยงามกว่านี้อีดเยอะเลย เช่นหุบป่าตาด ถ้ำพระยาพายเรือ เป็นต้น มาเที่ยวกันเยอะๆนะ
โดย: คนอุทัยฯ IP: 125.24.110.172 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:11:27:58 น.
  
บรรยากาศสวยมากเงียบสงบ ถ่ายรูปมาสวยดี ดูแล้วชื่นตาชื่นใจเห็นแล้วอยากกลับบ้านเลย ที่จริงแล้วบ้านเราเองแหละปลื้มใจจังที่มีคนชื่นชมบ้านเรา
โดย: เด็กอุทัยจร้า IP: 61.19.95.118 วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:19:59:18 น.
  
เราเคยไปกินข้าวต้มอยู่ร้านนึ่งในอุทัยที่ตลาดใกล้กับบขสน่ะอร่อยมากเลย หมูทอดเค้าอร่อยมาก ช่อร้านแม่เพ็ญน่ะลองชิมกันนะ น้ำพริกก็อร่อยสุด ๆ เลย
โดย: ลูกคนขายจร้า IP: 61.19.95.119 วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:20:02:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
มิถุนายน 2550

 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog